หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1224 เทพจักรพรรดิอัคคีปรากฏตัว

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1224 เทพจักรพรรดิอัคคีปรากฏตัว

“เทพจักรพรรดิอัคคี—เซียวเหยียน?!”

เมื่อเสียงตกตะลึงของจักรพรรดิสัประยุทธ์ดังก้อง ในดวงตาทุกคนก็เผยความหวาดผวาขณะมองชายที่ยืนอยู่เบื้องหน้ามู่เฉินด้วยความไม่เชื่อสายตา

นั่นเป็นเพราะทุกคนในมหาพันภพรู้จักชื่อนี้เป็นอย่างดี

นี่คือตำนานมีชีวิตที่แท้จริง

ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งหรือความสามารถในสร้างแคว้นหวู่จิ้งฮั่วในเวลาเพียงไม่กี่ร้อยปีด้วยรากฐานที่เหนือกว่าเผ่าโบราณบางเผ่า แคว้นหวู่จิ้งฮั่วกลายเป็นหนึ่งในขั้วอำนาจสูงสุดของมหาพันภพที่แม้แต่ชนเผ่าโบราณก็ไม่กล้าดูถูก

แม้ว่าจักรพรรดิสัประยุทธ์จะมีชื่อเสียง แต่ทุกคนก็รู้ว่ามีช่องว่างระหว่างเขากับเทพจักรพรรดิอัคคีผู้นี้

ก็คล้ายกับยอดยุทธ์และตำนานในหมู่ยอดยุทธ์สุดยอด

บุคคลเช่นนี้ไม่ใช่สามารถพบเจอได้บ่อยครั้ง แต่ตอนนี้…มู่เฉินกลับเชิญเทพจักรพรรดิอัคคีในตำนานมาได้

ทันใดนั้นสายตาทุกคู่ที่จ้องมู่เฉินก็เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นความหวาดกลัวรุนแรงยิ่งกว่าเมื่อมองมั่นถัวหลัว

เสี่ยหลิงจื่อที่ก่อนหน้ากำลังดีอกดีใจกับสถานการณ์นี้ก็มีใบหน้าพิลึกจนน่าตลก ไม่เพียงแต่เขา แม้แต่จอมยุทธ์ตระกูลเสี่ยเสินก็มีใบหน้าซีดเผือด เหงื่อกาฬแตกพลั่ก

พวกเขาตัวสั่นขณะที่มองมู่เฉินด้วยความกลัว

เสี่ยหลิงจื่อเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก ขณะที่รู้สึกวิงเวียนกับอารมณ์กลับตาลปัตรในใจ เขาไม่คิดว่าแม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนก็ไม่สามารถจัดการกับมู่เฉินได้ ไอ้หนูปีศาจนี่เชิญตำนานของมหาพันภพมาเลยทีเดียว

“มู่เฉิน…ภูมิหลังเขาเป็นมายังไงกันแน่?!”

เสี่ยหลิงจื่อคำรามในใจ หากเขารู้ว่ามู่เฉินจะเชิญเทพจักรพรรดิอัคคีมา เขาก็ไม่กล้าหยิ่งผยองแม้ว่าจะเก่งกาจกว่านี้ถึงร้อยเท่า

แต่ตามความเป็นจริงก็เป็นไปไม่ได้ที่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นจะเชิญจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนมา แม้ว่าจะใช้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดก็ตาม!

ก็เหมือนกับว่ามดไม่สามารถเรียกช้างได้!

ขณะที่เสี่ยหลิงจื่อและคนอื่นๆ สั่นไหวด้วยความตกใจ สายตาของสมาชิกตระกูลลั่วเสินก็จรัสแสง

พวกเขามองมู่เฉินด้วยสายตานับถือ หากก่อนหน้านี้พวกเขารู้สึกอิจฉาความสัมพันธ์ของมู่เฉินกับลั่วหลี ตอนนี้พวกเขาเชื่อมั่นอย่างเปี่ยมล้นแล้ว

มู่เฉินไม่เพียงแต่โดดเด่นเท่านั้น เขายังมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นที่สามารถเชิญจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนมาได้

บางทีต้องผู้ชายคนแบบนี้ถึงคู่ควรกับจักรพรรดินีของพวกเขา

เซียวเหยียนยืนเอามือไพล่หลัง ไม่มีรัศมีครอบงำใดที่แผ่ออกมาจากร่าง แต่ทุกคนก็รู้สึกว่าแรงกดดันที่มาจากจักรพรรดิสัประยุทธ์สลายไปอย่างรวดเร็วจากการดำรงอยู่ของเขา

ในเวลาไม่กี่อึดใจทุกคนก็รู้สึกว่าแรงกดดันที่น่ากลัวหายไปหมดสิ้น

เซียวเหยียนที่ปรากฏตัวไม่ได้สนใจกับสายตาตกตะลึงที่พุ่งเข้าใส่ เขามองไปรอบๆ เมืองลั่วเสินด้วยรอยยิ้มรำลึกถึง “ไม่คิดว่าจะกลับมาที่เมืองลั่วเสินหลังจากผ่านมาหลายปี”

“ผู้อาวุโสเซียวเคยมาที่ตระกูลลั่วเสินในอดีตด้วยหรือขอรับ?” มู่เฉินอึ้งไปก่อนที่จะถามด้วยความประหลาดใจ

“ฮ่าๆ ข้ามีความสัมพันธ์เก่าแก่กับตระกูลลั่วเสินน่ะ” เซียวเหยียนหัวเราะก่อนที่จะมองไปที่ลั่วเทียนเสินด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสลั่วไม่เจอกันนานหลายปีแล้วนะขอรับ”

ลั่วเทียนเสินตกตะลึงขณะที่มองดูเซียวเหยียน เขาถอนหายใจด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนพลางยิ้มอย่างขมขื่น “เจ้าไม่ใช่เด็กหลงทางอีกต่อไปแล้ว”

นานมาแล้วตอนที่เซียวเหยียนเพิ่งเข้ามาในมหาพันภพ เขามาอยู่ในตระกูลลั่วเสิน ช่วงเวลานั้นเซียวเหยียนเพาะบ่มขุมพลังโดยใช้คลื่นโต้วชี่ที่ยังไม่ได้หลอมรวมเป็นคลื่นหลิง ดังนั้นเขาจึงอ่อนแอมาก ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาไม่คุ้นเคยกับมหาพันโลก เขาจึงได้แต่หลงทางอยู่ในเมืองลั่วเสินแห่งนี้

ตอนนั้นลั่วเทียนเสินเป็นประมุขตระกูลลั่วเสิน ด้วยความบังเอิญเขาได้พบกับเซียวเหยียน กระทั่งให้ความช่วยเหลือ แต่เซียวเหยียนก็ต้องจากไปอย่างรวดเร็ว เพราะต้องตามหาฮูหยินและสหาย

หลังจากนั้นลั่วเทียนเสินก็ได้ยินข่าวบางอย่างเกี่ยวกับเซียวเหยียน รู้ว่าเขาได้สถาปนาแคว้นหวู่จิ้งฮั่ว บรรลุระดับเทียนจื้อจุนของมหาพันภพ

เขาเคยมีความคิดที่จะขอความช่วยเหลือจากแคว้นหวู่จิ้งฮั่ว แต่ก็ละความคิดนั้นไป เพราะเขาไม่แน่ใจว่าจะสามารถเชิญเซียวเหยียนได้จากบุญคุณเล็กน้อยนั่นไหม

เพราะตอนนี้เซียวเหยียนเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในมหาพันภพแล้ว

ในระดับความสูงนั้น บางทีเซียวเหยียนอาจลืมตระกูลลั่วเสินไปนานแล้ว นอกจากนี้ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือตอนนั้นลั่วเทียนเสินก็แค่ช่วยเหลือนิดๆ หน่อยๆ ตามความสามารถที่มี ซึ่งเป็นเรื่องเพ้อฝันที่คิดจะเชิญจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนจากเรื่องเล็กน้อยนั่น

ท้ายที่สุดจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนก็อยู่ห่างไกลจากพวกเขาเหลือเกิน

ทว่าเมื่อเซียวเหยียนได้ยินคำพูดก็มาปรากฏตัวตรงหน้าด้วยใบหน้าที่จริงจัง เขายื่นมาคว้าฝ่ามือของลั่วเทียนเสินไว้พลางเอ่ยเสียงขรึม “คำพูดของผู้อาวุโสลั่วกำลังจะทำให้ข้าเซียวเหยียนเนรคุณนะ ตอนนั้นถ้าไม่ใช่ท่านที่ช่วยให้ข้าเปลี่ยนคลื่นโต้วชี่กลายเป็นคลื่นหลิง ใครจะรู้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ หากเป็นเช่นนั้นเมื่อถึงคราวตามหาฮูหยินและสหายข้าคงต้องทนทุกข์มหาศาล”

จากที่เซียวเหยียนพูดก็รู้ได้ว่าตอนนั้นฮูหยินและสหายของเขาคงจะตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายแน่ หากเขาไปไม่ทันเวลาผลที่ตามมาก็คงไม่ใช่ภาพที่น่าเห็น

ลั่วเทียนเสินไม่คิดว่าความช่วยเหลือที่เคยให้ต่อเซียวเหยียนจะยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้จึงอึ้งไปทันที จากนั้นรอยยิ้มปลื้มใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า เขาลังเลสั้นๆ ก่อนที่จะถอนหายใจตบมือเซียวเหยียนเบาๆ

“ผู้อาวุโสลั่วบาดเจ็บรึ?” เซียวเหยียนสังเกตเห็นใบหน้าหมองคล้ำของลั่วเทียนเสินก็รู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกายอีกฝ่ายทันที

ลั่วเทียนเสินยิ้ม “ก็แค่พิษโลหิตปีศาจ”

พิษนี่เกิดจากเสี่ยหลิงจื่อ ตอนที่พวกเขาสู้กันในอดีต ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายเขาอ่อนกำลังลง หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเขาคงจะถูกพิษเข้าแทรกเส้นลมปราณธาตุไฟแตกตายแน่นอน

แต่พิษนี้ก็ครอบงำมาก บวกกับสะสมอยู่ในร่างกายของเขาเป็นเวลานาน ดังนั้นแม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มก็ยังต้องใช้เวลามากที่จะกำจัดพิษให้เขา

เซี่วเหยียนยิ้ม “ไม่ใช่ปัญหา”

เขาตบแขนลั่วเทียนเสินเบาๆ เกลียวไฟหลายสายก็ถูกฝังเข้าไปในร่างของอีกฝ่าย อึดใจใบหน้าของลั่วเทียนเสินก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เลือดเหม็นคาวหยดออกมาจากรูขุมขนและระเหยออกไป

ไม่กี่อึดใจใบหน้าของลั่วเทียนเสินก็เปลี่ยนกลับมาน่าดู คลื่นหลิงก็สะอาดหมดจด นี่ทำให้มุมปากของเขาอดไม่ได้ที่จะกระตุก เขาไม่คิดว่าพิษโลหิตปีศาจที่รบกวนเขามาเป็นเวลานานจะถูกกำจัดออกไปอย่างง่ายดายขนาดนี้

ขณะที่เซียวเหยียนกำจัดพิษให้ลั่วเทียนเสิน เสี่ยหลิงจื่อก็เหงื่อแตกพลั่กใบหน้าซีดเซียวลง เขาไม่คิดว่าไม่เพียงมู่เฉินจะสามารถเชิญเทพจักรพรรดิอัคคีมาได้ แต่จอมยุทธ์ในตำนานผู้นี้ยังมีความสัมพันธ์อันดีกับลั่วเทียนเสินด้วย!

สถานการณ์ที่พัฒนาไปอย่างฉับพลันนี้ ทำให้แขนขาของเขาสั่นพั่บๆ หากเขารู้ว่าตระกูลลั่วเสินมีความสัมพันธ์กับเทพจักรพรรดิอัคคี เขาจะกล้ามาแหย่เสือหลับได้อย่างไร?

“ผู้อาวุโสลั่วเกิดอะไรขึ้นกับตระกูลลั่วเสินรึ?” หลังจากกำจัดพิษให้ลั่วเทียนเสินแล้ว เซียวเหยียนก็มองเห็นถึงสถานการณ์ เขาถามด้วยรอยยิ้มพร้อมกับดวงตาหรี่แคบลง

ลั่วเทียนเสินลังเลในเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะอธิบายรายละเอียด

“แค่ไม่คิดว่ามู่เฉินจะเชิญเจ้ามาที่นี่…” ลั่วเทียนเสินยิ้มอย่างขมขื่น

เซียวเหยียนพยักหน้าขณะที่หันไปหามู่เฉินและยิ้มให้ “โชคดีที่มู่เฉินเชิญข้ามา มิเช่นนั้นข้าคงจะเป็นคนอกตัญญูแล้ว”

มู่เฉินเกาหัว ตัวเขาอยู่ในสถานการณ์จนตรอก ดังนั้นจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากเซียวเหยียน แต่ไม่คิดว่าจะได้รับการขอบคุณจากเซียวเหยียนในเรื่องนี้

“ปล่อยเรื่องนี้ให้ข้าจัดการเอง”

เซียวเหยียนยิ้มให้ลั่วเทียนเสิน ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองไปที่จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่กำลังปลดปล่อยแรงกดดันน่าสยดสยองอยู่บนท้องฟ้าด้วยรอยยิ้ม “ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงของจักรพรรดิสัประยุทธ์แห่งตำหนักซีเทียนมานานแล้ว ไม่คิดว่าจะได้พบเจ้าที่นี่วันนี้”

จักรพรรดิสัประยุทธ์มองไปที่เซียวเหยียนอย่างเคร่งขรึมก่อนจะพูดช้าๆ “ข้าก็เคยได้ยินชื่อเสียงของเจ้ามาเช่นกัน”

“เดิมทีข้าไม่ควรแทรกแซงเรื่องในทวีปซีเทียน แต่ตระกูลลั่วเสินมีความสัมพันธ์อันดีกับข้า ดังนั้นจะสะดวกไหมถ้าข้าขอความอนุเคราะห์เจ้าที่จะไม่ทำให้เรื่องนี้ต้องยุ่งยากสำหรับตระกูลลั่วเสินและมู่เฉิน” เซียวเหยียนยิ้มบาง

จักรพรรดิสัประยุทธ์ยิ้มด้วยดวงตาที่หรี่แคบลง ชื่อเสียงของเทพจักรพรรดิอัคคีเลื่องลือไปทั่วมหาพันภพ มิหนำซ้ำแคว้นหวู่จิ้งฮั่วก็ไม่ใช่ที่จะยั่วยุได้ แต่ในฐานะจักรพรรดิสัประยุทธ์ที่รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งตั้งแต่เมื่อใดที่เขากลัวผู้อื่น?

ตระกูลลั่วเสินเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ แต่ถ้าข่าวลือกระจายไปว่าเขาจักรพรรดิสัประยุทธ์กลัวเทพจักรพรรดิอัคคี ชื่อเสียงของเขาจะต้องเสียหายใหญ่หลวง

ดังนั้นจักรพรรดิสัประยุทธ์จึงเม้มปาก ลังเลครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมา ทว่าคำพูดกลับทำให้ผู้คนใจสั่นเลยทีเดียว

“ถ้าข้าบอกว่า…ไม่อยากให้ความสะดวกกับเรื่องนี้ล่ะ?”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset