หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1256 พลังอำนาจของหลิงจั้นจื่อ

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1256 พลังอำนาจของหลิงจั้นจื่อ

เงาจอมยุทธ์ทั้งหกยืนประจันหน้ากันในฟ้าดินกว้างใหญ่

พายุทรงพลังกวาดไปทุกทิศทาง ทำให้ท้องฟ้าถึงกับส่งเสียงครวญครางเบาบาง

แรงกดดันอันทรงพลังปกคลุมสวรรค์และโลก ทำให้บรรยากาศตึงเครียดจนถึงจุดที่แม้แต่เสียงโห่ร้องในจัตุรัสยังเงียบลงทันที

ทุกคนพุ่งมองไปที่หน้าจออย่างตื่นเต้น เนื่องจากพวกเขารู้ว่าหลังจากผ่านการคัดออกไปหลายครั้ง สนามรบระดับตี้จื้อจุนขั้นปลายก็มาถึงเวลาตัดสิน หนึ่งในหกคนนี้จะได้รับฉายานักรบแห่งทวีปไป

แต่เห็นได้ชัดว่าคนส่วนใหญ่โอนเอียงไปทางเทพจอมยุทธ์ทั้งสาม เพราะไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงหรือความสำเร็จ พวกเขาก็เหนือกว่าพวกมู่เฉิน

สำหรับมู่เฉินที่แทนตำแหน่งหลิ่วซิงเฉิน พวกเขาแค่คิดสั้นๆ และรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่มู่เฉินจะเผชิญหน้ากับหลิงจั้นจื่อแม้ว่าจะมีไพ่ตายไม่น้อย เพราะขนาดหลิ่วซิงเฉินยังแพ้ให้หลิงจั้นจื่อเลย

ดูเหมือนว่าแค่ตัดสินจากการรวมตัว เทพจอมยุทธ์ทั้งสามคนก็ชนะขาดแล้ว

“เฮ้อ… ดูเหมือนว่าพวกเขาสามคนจะกลับมามือเปล่าแล้ว” บางคนถอนหายใจ เทพจอมยุทธ์ตำหนักซีเทียนทรงพลังเกินไปและหาที่เปรียบไม่ได้ท่ามกลางจอมยุทธ์ขุมพลังเดียวกัน

“สรรพสิ่งในโลกล้วนไม่แน่นอน ใครจะรู้ว่าอาจมีเรื่องคาดไม่ถึงเกิดขึ้นก็ได้… มีเรื่องเหนือคาดมากมายเกิดในสนามรบระดับตี้จื้อจุนขั้นปลายแห่งนี้แล้ว” แต่ก็มีคนที่มีมุมมองอื่นและไม่คิดว่าเทพจอมยุทธ์จะเป็นฝ่ายชนะแน่นอน เพราะต่อให้เทพจอมยุทธ์จะทรงพลัง แต่พวกมู่เฉินก็ไม่ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายๆ

“แต่ไม่ว่าอย่างไรการต่อสู้ครั้งนี้คงจะต้องเข้มข้นถึงใจ… แค่ไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนสุดท้ายที่ยืนหยัด”

ประโยคนี้ทำให้เหล่าผู้ชมสะท้อนไปด้วย เพียงแค่ความจริงที่ทั้งหกคนสามารถอยู่จนถึงวินาทีนี้ก็พิสูจน์ได้ว่าพวกเขาโดดเด่นขนาดไหน

บนท้องฟ้า

สายตาหกคู่จ้องมองกันพร้อมกับรัศมีเย็นเยือกเจาะกระดูกกำจายออกมา

“ฮ่าๆ ลูกหนูสามตัวมารวมกันที่นี่แล้วสินะ?”

หลิงเจี้ยนจื่อเอ่ยทำลายความเงียบขณะมองศัตรูคล้ายกับนักล่ามองเหยื่อ

“อย่าคิดว่าตัวเองเป็นนักล่าเสมอไป นอกจากนี้แม้แต่นักล่าก็ยังมีโอกาสถูกเหยื่อกัดตาย” ซูมู่ยกเปลือกตาขึ้นมองหลิงเจี้ยนจื่อเอ่ยด้วยรอยยิ้มเย็นชา

“โอ้? จริงเหรอ?”

หลิงเจี้ยนจื่อยักไหล่ ยิงฟันแสยะยิ้ม “ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็หักแขนขาของเหยื่อซะให้กุด เพื่อที่พวกมันจะไม่มีแรงตอบโต้”

ขณะที่หลิงเจี้ยนจื่อกกับซูมู่เชือดเฉือนวาจาใส่กัน ไอสังหารก็พวยพุ่งในดวงตา เห็นชัดว่าทั้งสองคนเป็นศัตรูคู่แค้นกันอยู่แล้ว

เมื่อหลิงเจี้ยนจื่อและซูมู่เผชิญหน้ากัน หลิงจั้นจื่อก็มองอย่างเฉยเมยมาที่มู่เฉินก่อนจะยิ้ม “ป้ายสัประยุทธ์ของหลิ่วซิงเฉินคงอยู่ในมือเจ้าใช่ไหม”

มู่เฉินพยักหน้าตอบรับอย่างนิ่งเรียบ

“เอามาให้ข้าแล้วไสหัวไป เจ้าเป็นคนที่เทพจักรพรรดิอัคคีเลือก ข้าไม่อยากให้เจ้าสร้างความอับอายขายหน้ากับตัวเองและเขา” หลิงจั้นจื่อแบมือออกแล้วยิ้มให้มู่เฉิน ทว่าไม่มีความอบอุ่นในรอยยิ้มมีแต่ความไม่แยแส

เผชิญหน้ากับสายตาไม่แยแส รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของมู่เฉินจากนั้นส่ายหัว “ไม่”

“ฮ่าๆๆๆ!”

คำตอบง่ายๆ ของมู่เฉินทำเอาฉู่เหมินระเบิดเสียงหัวเราะสาแก่ใจ แม้ว่าคำพูดของหลิงจั้นจื่อจะฟังดูอ่อนโยน แต่การดูถูกเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ต้องโกรธ ทว่าการตอบกลับอย่างจริงจังของมู่เฉินได้เปลี่ยนการพูดจาครอบงำของหลิงจั้นจื่อเป็นมุกตลกไป

หลิงจั้นจื่อจ้องมองมู่เฉินพลางพยักหน้า “งั้นก็ห้ามโทษข้าที่ไม่ให้หน้าท่านเทพจักรพรรดิอัคคีซะล่ะ”

“การให้หน้าเทพจักรพรรดิอัคคี… บางทีจักรพรรดิสัประยุทธ์อาจมีคุณสมบัติที่จะพูดคำเหล่านั้น สำหรับเจ้า…แม้ว่าจะเป็นศิษย์ที่ได้รับการดูแลจากจักรพรรดิสัประยุทธ์ก็เหมือนฝุ่นเมื่อเทียบกับเขา” มู่เฉินถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

มู่เฉินไม่ชอบน้ำเสียงเสแสร้งของหลิงจั้นจื่อ ดังนั้นเขาจึงหักหน้าไม่ยั้งโดยไม่คิดจะไว้หน้าอีกฝ่ายแต่อย่างใด

สำหรับหลิงจั้นจื่อการโต้แย้งของมู่เฉินปีนเกลียวน่าดู ดังนั้นเขาจึงจ้องเขม็งไปที่มู่เฉินครู่หนึ่งก่อนที่จะนวดหว่างคิ้วตัวเอง “ท่าทางแกรนหาที่ตายนะ”

เสียงของเขาสงบ แต่ใครๆ ก็สัมผัสได้ถึงไอสังหารในคำพูดนี้

หลิงเจี้ยนจื่อและหลิงหลงจื่อก็สัมผัสได้ถึงอารมณ์ของหลิงจั้นจื่อ จากนั้นพวกเขาก็มองมู่เฉินด้วยความสงสาร นั่นเป็นเพราะพวกเขาเข้าใจในตัวหลิงจั้นจื่อเป็นอย่างดี เมื่อใดที่หลิงจั้นจื่อคิดจะสังหาร เขาก็จะนวดหว่างคิ้วตัวเอง และผลลัพธ์สุดท้ายของศัตรูเหล่านั้นก็น่าอนาถอย่างยิ่ง

อีกครู่มู่เฉินก็จะรู้ราคามหาศาลที่ต้องจ่ายสำหรับการท้าทายหลิงจั้นจื่อ

“เลือกคนเถอะ”

หลิงจั้นจื่อมองไปที่หลิงเจี้ยนจื่อและหลิงหลงจื่อก็พูดขึ้น

หลิงเจี้ยนจื่อหัวเราะก่อนจะทะยานไปยังภูเขาที่ห่างไกล รัศมีกระบี่คมกริบพุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับเสียงหัวเราะ “ซูมู่มาดูกันสิว่าเจ้าสามารถรักษาชื่อของตัวเองในฐานะกระบี่เทพไว้ได้ไหมหลังจากวันนี้!”

“คิดว่าข้ากลัวเรอะ?!”

ซูมู่เค้นเสียงก่อนที่ทะยานออกไปราวกับกระเรียนยักษ์ รัศมีกระบี่ที่ไร้ขอบเขตพุ่งตรงไปยังเทือกเขา

เมื่อเห็นว่าหลิงเจี้ยนจื่อปะทะซูมู่แล้ว สายตาของหลิงหลงจื่อก็กวาดไปที่ฉู่เหมินที่มีรูปร่างกำยำพลางยิ้ม “เราไปเล่นมั่งไหม?”

“ตามขอ!”

ฉู่เหมินทะยานออกไปพร้อมกับคลื่นหลิงรุนแรงอัดแน่นทั่วบริเวณ

หลิงหลงจื่อก็คำรามแล้วไล่ตามไป

ทั้งสี่หายไป ในป่ากว้างใหญ่ก็เงียบสงบเหลือเพียงมู่เฉินกับหลิงจั้นจื่อยืนเผชิญหน้ากัน ไอสังหารเริ่มก่อตัวในสายตาของพวกเขา

โฮก!

มู่เฉินสะบัดแขนเสื้อโดยไม่มีการแสดงออกใดๆ นำกองทัพสังหารวิญญาณและกองทัพดับปีศาจออกมา จากนั้นก็กลั่นรัศมีจั้นยี่ก่อตัวเป็นวิญญาณสงครามเต่าดำ ควบคุมให้พุ่งเข้าใส่หลิงจั้นจื่อ

เผชิญหน้ากับวิญญาณสงครามเต่าดำที่ทำให้จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายธรรมดาหวาดกลัว หลิงจั้นจื่อกลับไม่มีระลอกคลื่นใดๆ ในสายตา เขายื่นมือออกมาพลางกระทืบฝ่าเท้าพื้นดิน เงาร่างทะยานออกไป

ตู้ม!

อึดใจเดียวเขาก็ไปปรากฏเบื้องหน้าวิญญาณสงครามเต่าดำ ฝ่ามือทั้งสองยื่นปะทะเข้าไปจังใหญ่

ปัง ปัง!

คลื่นกระแทกรุนแรงที่เกิดจากการเผชิญหน้าของพลังสองสายผันผวนไปทั่วบริเวณ

ดวงตาของมู่เฉินหดลง เนื่องจากเขาเห็นว่าหลิงจั้นจื่อราวกับหินผา ไม่ว่าวิญญาณสงครามเต่าดำจะปล่อยพลังรุนแรงยังไงก็ไม่สามารถผลักอีกฝ่ายกลับไปได้

แคว๊ก!

แขนเสื้อของหลิงจั้นจื่อฉีกขาดจากคลื่นกระแทกเผยให้เห็นรอยลึกนับไม่ถ้วนที่ปกคลุมแขน

เมื่อมองที่ร่องรอยเหล่านั้นหัวใจของมู่เฉินก็สั่นไหว เนื่องจากเขาพบว่านั่นคือลวดลายจั้นเหวินทั้งหมด!

ทว่าลวดลายจั้นเหวินที่ควรปรากฏในวิญญาณสงครามกลับเผยขึ้นบนร่างกายของหลิงจั้นจื่อ!

“เป็นเพราะคลื่นหลิงจั้นของจักรพรรดิสัประยุทธ์เรอะ?” ดวงตามู่เฉินกะพริบวูบไหว ว่ากันว่าจักรพรรดิสัประยุทธ์สามารถหลอมรวมคลื่นหลิงของตนเองและรัศมีจั้นยี่ให้กลายเป็นคลื่นหลิงที่ไม่เหมือนใครหรือที่รู้จักในชื่อคลื่นหลิงจั้น!

ร่างของหลิงจั้นจื่อเล็กมากเมื่อเทียบกับวิญญาณสงครามเต่าดำขณะที่ทั้งสองปะทะกัน ลวดลายจั้นเหวินนับไม่ถ้วนแล่นแปลบปลาบบนแขนเขา จากนั้นเสียงคำรามก็ดังก้อง

“ไสหัวไป!”

ขณะที่เขาแผดเสียง แสงก็ระเบิดออก วิญญาณสงครามเต่าสีดำกระเด็นกลับมาสร้างรอยไถลหลายหมื่นจั้งบนพื้น

หลิงจั้นจื่อยืนบนอากาศพร้อมกับคลื่นหลิงที่น่าเกรงขามและดุร้ายซึ่งระเบิดออกจากร่างเขา ยามนี้เขาราวกับเทพสงครามก็มิปาน

สายตาของเขาวูบไหวขณะมองมู่เฉินพูดด้วยเสียงเย็น “เจ้ายังอ่อนไปที่คิดจะใช้รัศมีจั้นยี่กับข้า!”

พูดจบเขาก็ก้าวไปข้างหน้า ร่างกลายเป็นภาพมายาโจนตัวเข้าใส่มู่เฉิน

แต่เมื่อเขาอยู่ห่างจากมู่เฉินหนึ่งพันจั้ง คลื่นหลิงก็คำรามทั่วบริเวณ ค่ายกลขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้น มังกรเก้าตัวทะยานออกมา

ทว่าเผชิญหน้ากับค่ายกลเก้าเทพมังกรประหาร หลิงจั้นจื่อก็ไม่แสดงสัญญาณถอยกลับ เขาซัดหมัดลงไปบนมังกรทุกตัวที่ปรากฏเบื้องหน้า

ตู้ม ตู้ม ตู้ม!

เสียงระเบิดดังก้อง ทุกเพลงหมัดของเขาทรงพลังน่าสะพรึงกลัว ทำให้มิติแตกสลาย มังกรถูกทำลาย

เมื่อหมัดที่เก้าแย็บออกไป ค่ายกลเก้าเทพมังกรประหารก็ถูกทำลาย

ขณะนี้หลิงจั้นจื่อไร้เทียมทานยิ่งนัก!

ใบหน้าของมู่เฉินเคร่งเครียดไปกับภาพตรงหน้า แม้ว่าเขาจะไม่ชอบหลิงจั้นจื่อ แต่ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายถือได้ว่าเป็นจอมยุทธ์ที่มีพลังอำนาจมากที่สุดในบรรดาระดับตี้จื้อจุนขั้นปลายที่มู่เฉินเคยพบเจอ

เมื่อผู้ชมที่ภายนอกเห็นฉากนี้ พวกเขาก็ตะลึงงัน ชัดว่าตกใจกับการเคลื่อนไหวของหลิงจั้นจื่อที่ซัดวิญญาณสงครามเต่าดำถลาออกไป หลังจากนั้นก็เหวี่ยงหมัดจัดการมังกรอีกเก้าตัวเพื่อทำลายค่ายกล

ขณะนี้ในที่สุดพวกเขาก็รู้ว่าผู้นำในหมู่เทพจอมยุธ์ตำหนักซีทรงพลังเพียงใด!

แม้แต่ใบหน้าของลั่วเทียนเสินยังเต็มไปด้วยความกลัวและความกังวลในสายตา เขารู้ว่าการเผชิญหน้ากับหลิงจั้นจื่อ แม้แต่มู่เฉินก็ตกอยู่ในอันตราย

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset