หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1257 เผชิญหน้าแบบสุดยอด

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1257 เผชิญหน้าแบบสุดยอด

บนท้องฟ้าของป่ากว้างใหญ่

หลิงจั้นจื่อยืนตระหง่านพร้อมกับคลื่นหลิงทรงพลังพัดอยู่รอบตัวราวกับพายุ ลวดลายจั้นเหวินวูบวาบบนแขน ทำให้เขาดูราวกับเทพสงครามในขณะนี้ ช่างเต็มไปด้วยการขู่ขวัญนัก

หลิงจั้นจื่อมองอย่างไม่แยแสไปที่วิญญาณสงครามเต่าสีดำที่กระเด็นออกไป รวมถึงค่ายกลที่ถูกทำลาย รอยยิ้มเย้ยหยันเผยบนใบหน้าของเขา “ถ้านั่นเป็นทั้งหมดของเจ้า ข้าผิดหวังนัก”

ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ บนใบหน้าของมู่เฉิน แต่แววตากลับเคร่งขรึมลง หลิงจั้นจื่อเป็นจอมยุทธ์ที่มีอำนาจมากที่สุดที่เขาเคยพบในหมู่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายอย่างไม่ต้องสงสัย

ตามการประเมินของเขา หลิงจั้นจื่อน่าจะอยู่ที่ระดับตี้จื้อจุนขั้นปลายระยะปลายสุด ซึ่งห่างจากขั้นเต็มอีกก้าวเดียวเท่านั้น

“สมกับเป็นศิษย์เอกของจักรพรรดิสัปประยุทธ์…”

มู่เฉินพึมพำจากนั้นก็เงยหน้าขึ้น ไม่มีความกลัวใดๆ ในสายตา เขาคลี่ยิ้ม “ในเมื่อเจ้าอยากรู้ก็เข้ามาลองเลย ข้าเชื่อว่าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง”

แม้ว่าหลิงจั้นจื่อจะทรงพลัง มู่เฉินก็ไม่ใช่คนธรรมดา ผู้ชนะในวันนี้ยังไม่ถูกตัดสิน

“จริงเหรอ? หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น ไม่งั้นก็น่าเบื่อเกินไปแล้ว”

ตู้ม!

พูดจบหลิงจั้นจื่อก็ร่างเปลี่ยนเป็นภาพมายาพุ่งออกมา

เขาพยักหน้าเบาๆ ก็มาปรากฏตัวตรงหน้ามู่เฉินในพริบตา หมัดแย็บออกพร้อมกับแสงแวววาวระเบิดจากลวดลายจั้นเหวินบนแขนของเขา ทำให้มิติแตกเป็นเสี่ยงๆ จากกำปั้นนี้

กำปั้นของหลิงจั้นจื่อขยายใหญ่ขึ้นในดวงตาของมู่เฉิน แต่เขาก็ไม่ได้หลบหลีก นั่นเพราะเขาต้องการจะรู้ว่าคลื่นหลิงของจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายระยะปลายสุดทรงพลังเพียงใด

เจดีย์ผลึกแก้วใสส่องประกายในส่วนลึกของดวงตา แปลงคลื่นหลิงในร่างให้กลายเป็นผลึก ก่อนที่เขาจะกำมือแน่นแล้วเหวี่ยงกำปั้นออกไป

กำปั้นนี้แล่นแปลบปลาบด้วยประกายแสงอัญมณี คลื่นหลิงในร่างกายก็พวยพุ่งออกมาโดยไม่มีการยับยั้งใดๆ กลั่นตัวเข้าไปในแขนฉาบด้วยผลึกใสรอบกำปั้น

ตู้ม!

เมื่อหมัดทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง ความผันผวนที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็กระเพื่อมเป็นระลอก ต้นไม้ที่อยู่ภายในรัศมีหมื่นจั้งของป่าเบื้องล่างทั้งสองถูกบดขยี้กลายเป็นเถ้าถ่าน…

ขณะที่เศษไม้ปลิวว่อนร่างของมู่เฉินก็สั่นไหว เขากระเด็นออกไปเกิดร่องลึกยาวหลายพันจั้งบนพื้น…

เมื่อมู่เฉินทรงตัวได้มั่นคง ใบหน้าก็แดงขึ้นในเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะสงบลง เขารู้สึกเจ็บที่หมัดขณะจ้องมองหลิงจั้นจื่อด้วยสายตาลุกโชน “คลื่นหลิงทรงพลังอะไรอย่างนี้ นี่คือพลังของระดับตี้จื้อจุนขั้นปลายระยะปลายสุดสินะ”

หลิงจั้นจื่อก็ถอยออกไปหลายสิบก้าว แต่เมื่อเทียบกับมู่เฉินเขาอยู่ในสภาพที่ดีกว่ามาก ทว่าสายตาของเขากลับมืดครึ้มลงเล็กน้อย

แม้ว่ามู่เฉินจะโดนกำปั้นสอยออกไปหลายพันจั้ง แต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

หลิงจั้นจื่อก้มศีรษะลงมองกำปั้นก็เห็นชั้นผลึกแวววาว นี่เป็นเศษคลื่นหลิงของมู่เฉิน ตอนที่กำปั้นของเขาปะทะกับกำปั้นของมู่เฉิน ผลึกคลื่นหลิงของมู่เฉินก็รุกเข้ามาในแขนของเขา

ที่ทำให้หลิงจั้นจื่อตกใจก็คือเขาตรวจพบว่าคลื่นหลิงจั้นที่อยู่ในเส้นทางของผลึกคลื่นหลิงถูกผนึกเอาไว้

แต่โชคดีที่เขาหมุนเวียนพลังงานอย่างรวดเร็วเพื่อระงับและขับไล่ผลึกพลังงาน แต่เพราะเหตุนี้ก็ทำให้พลังหมัดได้รับผลกระทบไปหลายส่วนเลยทีเดียว

ดังนั้นหมัดที่เขาตั้งใจจะเอาชีวิตของมู่เฉิน กลับได้ผลเพียงส่งให้อีกฝ่ายถอยออกไป

“คลื่นหลิงของเจ้านั่นแปลกขนาดนี้เชียว แม้แต่คลื่นหลิงจั้นของข้าก็ได้รับผลกระทบด้วย” หลิงจั้นจื่อขมวดคิ้วเบาๆ คลื่นหลิงจั้นของเขาอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับคลื่นหลิงสามัญ แต่ก็ยังได้รับผลกระทบจากคลื่นหลิงของมู่เฉิน แบบนี้ไม่ได้หมายความว่าผลึกคลื่นหลิงที่มู่เฉินเพาะบ่มนั้นยอดเยี่ยมกว่าคลื่นหลิงจั้นรึ?

“หึ ถึงแกจะมีกลยุทธ์ในแขนเสื้ออยู่บ้าง แต่เพียงสิ่งนี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์!”

หลิงจั้นจื่อจ้องเขม็งไปที่มู่เฉินอย่างเย็นชา แม้ว่าผลึกคลื่นหลิงของมู่เฉินจะผิดแผก แต่มู่เฉินก็เป็นเพียงจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นเท่านั้น

“น่าสนใจ ข้าอยากเห็นว่าคลื่นหลิงของแกจะช่วยได้สักกี่น้ำ”

หลิงจั้นจื่อกล่าวเสียงเย็นชาก่อนที่จะหายใจเข้าลึก ลวดลายจั้นเหวินมากขึ้นปรากฏบนแขน รัศมีอันตรายเล็ดลอดออกมาจากร่างกาย

เมื่อมู่เฉินสัมผัสได้ถึงอันตราย สายตาก็แข็งเกร็ง ดูเหมือนว่าหลิงจั้นจื่อตัดสินใจที่จะปะทะแบบจริงจังแล้ว

ฟู่ ฟู่!

หลิงจั้นจื่อยืนอยู่บนท้องฟ้า เมื่อลวดลายจั้นเหวินปรากฏมากขึ้นบนแขน พายุป่าเถื่อนก็ระเบิดขึ้นไปทั่ว เมื่อปั่นป่วนถึงขีดจำกัด ประกายแสงก็ส่องแวววับในดวงตาของเขา

เขาค่อยๆ ยกฝ่ามือขึ้น จากนั้นก็เริ่มขยายขนาดใหญ่ขึ้นในเวลาไม่กี่ลมหายใจ

มือมหึมาปกคลุมไปด้วยลวดลายจั้นเหวินนับไม่ถ้วน รัศมีจั้นยี่เชี่ยวกรากมารวมตัวกัน เวลานี้มือดูราวกับเป็นหัตถ์เทพสงครามที่กดลงมาจากท้องฟ้า

ทันใดนั้นก็ส่งผลให้คลื่นหลิงทั่วบริเวณเดือดปุด

“วิทยายุทธระดับเสินทงขั้นเต็ม ล้านหัตถ์โอบสวรรค์!”

หลิงจั้นจื่อมองไปที่มู่เฉินอย่างไม่แยแส ก่อนที่จะกระแทกฝ่ามือ เสียงเย็นยะเยือกแฝงไอสังหารสะท้อนทั่วบริเวณนี้

ขณะที่ฝ่ามือบีบกดลงมาความโกลาหลก็ดังขึ้นในหมู่ผู้ชม

“วิทยายุทธระดับเสินทงขั้นเต็มรึ?!”

“หลิงจั้นจื่อโหดเหี้ยมมาก เขาตั้งใจจะฆ่าแล้ว!”

“ตอนนี้มู่เฉินอยู่ในจุดอันตรายซะแล้ว”

จอมยุทธ์นับไม่ถ้วนจ้องมองไปที่หน้าจอแสงด้วยความตกใจ การโจมตีของหลิงจั้นจื่อเป็นสิ่งที่จะทำให้แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายยังรู้สึกหนังหัวด้านชาไปหมด

หลิ่วซิงเฉินที่อยู่ในจัตุรัส ความเข็ดขยาดก็โหมกระพือในดวงตาเมื่อเห็นมือใหญ่นั่น

เพราะในการปะทะกับหลิงจั้นจื่อ เขาเสียเปรียบในกระบวนท่านี้

ในมือใหญ่นี้เหมือนมีลวดลายจั้นเหวินนับล้านลายบวกกับคลื่นหลิงที่มี ช่างดุร้ายเกินคณนาแม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายก็อาจพังพาบได้หากประมาท

หลิ่วซิงเฉินมองดูเงาเล็กใต้มือนั่นพูดพึมพำว่า “มู่เฉิน… เจ้าจะรับได้ไหม…”

มู่เฉินมองมือใหญ่โตนิ่ง

เขาไม่คิดว่าหลิงจั้นจื่อจะสามารถใช้วิทยายุทธระดับเสินทงขั้นเต็มได้ด้วย

“สมกับเป็นศิษย์เอกจักรพรรดิสัประยุทธ์ ไพ่ลับช่างเยอะนัก” มู่เฉินอดไม่ได้ที่จะอุทาน

ดวงตาของหลิงจั้นจื่อเปล่งประกายเย็นชาพร้อมด้วยสีหน้าไม่แยแสโดยไม่มีคำพูดใดๆ ก่อนที่มือจะบีบกดลงมาในทิศทางของมู่เฉิน

ตู้ม!

เมื่อฝ่ามือบีบกดลงมา พื้นดินก็พังทลายลงเป็นหลุมขนาดใหญ่

เงาขนาดใหญ่คลี่ออก มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองไปก่อนจะหายใจออกแรงๆ มือประสานเข้าด้วยกัน

ฮึ่ม!

คลื่นหลิงทรงพลังระเบิดออกจากร่าง อึดใจร่างเงาขนาดใหญ่ก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นด้านหลังมู่เฉิน

เงาสีทองยืนตระหง่านเบื้องหลังมู่เฉินพร้อมกับแสงสีม่วงทองเปล่งประกายทำให้ดูลึกลับนัก

เห็นได้ชัดว่าเมื่อเผชิญหน้ากับหลิงจั้นจื่อ มู่เฉินก็ไม่กล้าที่จะออมมือ นำร่างเทพสุริยะนิรันดร์ออกมาทันที

ซ่า!

เมื่อร่างเทพสุริยะนิรันดร์ปรากฏขึ้นคลื่นหลิงก็ก่อตัวขึ้นเป็นแม่น้ำ แม่น้ำสีม่วงทองพร่างพราวแวววาวด้วยประกายสีทอง ก่อนที่จะก่อตัวขึ้นเป็นลวดลายลึกลับสิบสองลายอย่างรวดเร็ว…

กระบวนท่าของมู่เฉินเปลี่ยนไป ลวดลายสิบสองลายก็พวยพุ่งสูงขึ้น ก่อนที่จะมารวมกันเป็นร่มสีม่วงทองขนาดมหึมา

“รหัสเทพอมตะ แปรเปลี่ยน!”

“ร่มม่วงทอง!”

มู่เฉินสะบัดแขนเสื้อร่มขนาดใหญ่ก็ปะทะกับมืออันใหญ่โต

ครืน!

เมื่อปะทะกัน เสียงครางกระหึ่มก็ดังขึ้นระหว่างสวรรค์และโลก ร่มโค้งงอลงราวกับกำลังจะหัก

แต่เมื่อทุกคนคิดว่าร่มกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ลวดลายสีม่วงทองก็เปล่งประกายแวววาว แสงสีม่วงทองลึกลับกวาดไปทั่วขอบฟ้า

ปัง!

ร่มที่โค้งลงราวกับลวดสปริง ดีดกลับอย่างแรงพร้อมกับแรงน่าสะพรึงกลัวเทลงบนมือ

ครืนๆๆๆ!

เสียงดังก้องขึ้น จากนั้นทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าลวดลายจั้นเหวินบนมือใหญ่เริ่มแตกสลาย

ปัง ปัง ปัง!

ในเวลาไม่กี่ลมหายใจมือก็กระเด็นกลับไป หดลงจนมีขนาดเท่าปกติ

ใบหน้าของหลิงจั้นจื่อเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม มือของเขาสั่นเทิ้มปรากฏริ้วเลือด เห็นได้ชัดว่ามือนี้ได้รับบาดเจ็บจากแรงสะท้อนกลับ

“น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ…” สายตาของหลิงจั้นจื่อจ้องมองร่างเทพสุริยะนิรันดร์ใต้ฝ่าเท้าของมู่เฉิน นี่คือร่างเทห์สวรรค์ที่มู่เฉินฝึกฝน ซึ่งเป็นร่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ดังนั้นไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน!

มู่เฉินยืนอยู่บนไหล่ร่างเทพสุริยะนิรันดร์จ้องมองหลิงจั้นจื่อพูดช้าๆ ว่า “นำร่างเวทสวรรค์ของเจ้าออกมา มิฉะนั้นก็อย่าหวังว่าจะทำอะไรข้าได้”

เมื่อได้ยินคำพูดของมู่เฉิน หลิงจั้นจื่อก็ไม่ได้เยาะเย้ย เนื่องจากกระบวนท่าเมื่อสักครู่ทำให้เขารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะจัดการมู่เฉิน ตราบใดที่มู่เฉินมีร่างสีม่วงทองยิ่งใหญ่นี่

ต้องใช้ร่างเทห์สวรรค์เผชิญหน้ากันเท่านั้น

หลิงจั้นจื่อจ้องไปที่มู่เฉินอย่างเย็นชาพูดว่า “มู่เฉิน วันนี้ต่อให้แกแพ้ก็จงภูมิใจที่บังคับให้ข้านำร่างเวทสวรรค์ออกมาได้!”

ตู้ม!

เมื่อพูดจบ แสงพร่างพราวก็ปะทุขึ้นที่ด้านหลังเขาพร้อมกับเสียงคำรามสะเทือนสวรรค์และโลก

ร่างมหึมาค่อยๆ ก่อตัวขึ้นด้านหลังหลิงจั้นจื่อ แรงกดดันทรงพลังค่อยๆ รวมตัวทั่วภูมิภาคในเวลานี้

ขณะที่ความกดดันแผ่ขยายออกไป เสียงลึกซึ้งของหลิงจั้นจื่อก็ดังทั่วฟ้าดิน

“ร่างต้นจักรพรรดิสัประยุทธ์…ปรากฏ!”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset