หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1259 ร่างเทพสุริยะนิรันดร์ปะทะร่างต้นจักรพรรดิสัประยุทธ์

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1259 ร่างเทพสุริยะนิรันดร์ปะทะร่างต้นจักรพรรดิสัประยุทธ์

ฮึ่ม ฮึ่ม!

ที่เบื้องหลังร่างต้นจักรพรรดิสัประยุทธ์ลูกทรงกลมแสงทั้งสามระเบิดริ้วแสงนับไม่ถ้วน ทำเอามู่เฉินตกตะลึงไปเมื่อได้เห็นร่างเงาในลูกทรงกลมนั่น…

“นั่นคืออะไร?!”

ม่านตาของมู่เฉินหดแคบลงขณะที่เขาจ้องมองไปที่รูปทรงกลมสามลูก คลื่นหลิงรวมตัวกันในดวงตา ก่อนจะเพิ่มวิสัยทัศน์ในการมอง

ซี้ด!

หลังจากเห็นชัดเจน มู่เฉินก็หายใจลึก เนื่องจากพบว่าลูกทรงกลมทั้งสามเต็มไปด้วยร่างเงาในชุดเกราะหนัก พวกเขานั่งอยู่ภายในรัศมีจั้นยี่ไร้ขอบเขตอันพลุ่งพล่าน

นี่เป็นกองทัพขนาดใหญ่!

“รูปทรงกลมนี้ก่อตัวเป็นมิติขนาดเล็กที่สามารถเก็บกองทัพทหารจำนวนมากไว้รึ?” ใบหน้ามู่เฉินเปลี่ยนไปเมื่อสังเกตเห็นว่าร่างเหล่านั้นมีพลังชีวิตเล็ดลอดออกมา ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาไม่ใช่หุ่นเงา!

“ที่แท้นี่ก็คือความลึกซึ้งของร่างต้นจักรพรรดิสัประยุทธ์!”

“โดยการเก็บกองทัพไว้ในลูกทรงกลมเหล่านั้น กองทัพก็จะจัดเตรียมรัศมีจั้นยี่เพื่อหลอมรวมเข้ากับคลื่นหลิงของผู้ใช้ ผลิตคลื่นหลิงจั้นที่ไม่มีวันสิ้นสุด!”

ตอนนี้มู่เฉินเข้าใจแล้วว่าทำไมหลิงจั้นจื่อถึงสามารถครอบครองรัศมีจั้นยี่ทรงพลังได้ แม้ว่าจะไม่ได้บัญชากองทัพ ที่แท้เขาก็ซ่อนกองทัพไว้ในลูกทรงกลมเหล่านั้นนี่เอง!

“ร่างต้นจักรพรรดิสัประยุทธ์สมคำร่ำลือจริงๆ” มู่เฉินถอนหายใจในใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นร่างเทห์สวรรค์ที่อัศจรรย์ใจเช่นนี้

หลิงจั้นจื่อยืนอยู่บนหัวของร่างต้นจักรพรรดิสัประยุทธ์ เขารู้ว่ามู่เฉินมองเห็นความลึกซึ้งของร่างเวทสวรรค์ของเขา เมื่อเห็นมู่เฉินจ้องมองไปที่ลูกทรงกลมเขม็ง

“ตาแหลมดี”

น้ำเสียงไม่แยแสดังก้องกังวานโดยไม่มีเจตนาที่จะซ่อน เขากระทืบเท้าริ้วแสงที่ซ่อนกองทัพก็ค่อยๆ หายไป เผยด้านในให้เห็น

“ในมิตินี้ ข้ามีทหารจำนวนหนึ่งล้านคนที่จะให้รัศมีจั้นยี่ไม่มีที่สิ้นสุด…” หลิงจั้นจื่อตอบเบาๆ

แม้ว่าคุณภาพหนึ่งล้านนี่จะไม่อาจเทียบกับกองทัพสังหารวิญญาณและกองทัพดับปีศาจของมู่เฉิน แต่ก็มากด้วยปริมาณ นอกจากนี้พวกเขายังเพาะบ่มพลังในมิติร่างต้นจักรพรรดิสัประยุทธ์เป็นประจำ ดังนั้นรัศมีจั้นยี่จึงเข้ากันได้กับหลิงจั้นจื่อมาก อำนาจนี้สามารถทำให้จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายยังรู้สึกหวาดกลัว

“ในปัจจุบันมีไม่กี่คนหรอกที่สามารถบังคับให้ข้าเปิดเผยความลึกซึ้งของร่างต้นจักรพรรดิสัประยุทธ์ได้…” หลิงจั้นจื่อจ้องมองมู่เฉิน ไม่มีระลอกคลื่นใดในสายตา ทว่าไอสังหารกลับเข้มข้นขึ้น

“แต่ทุกคนที่เห็นสุดท้ายก็ใช้หัวเป็นรางวัลของข้าและแกก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น!”

เมื่อสิ้นเสียงหลิงจั้นจื่อ กองทัพทหารล้านคนก็ระเบิดด้วยเสียงคำรามทำเอาแผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่น ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง ดวงตาเต็มไปด้วยความต้องการสู้ รัศมีจั้นยี่ทรงพลังพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

รัศมีจั้นยี่ของพวกเขาเทเข้าไปในร่างต้นจักรพรรดิสัประยุทธ์ เมื่อเกิดการผสมผสานของรัศมีจั้นยี่แล้ว ร่างต้นก็เริ่มปกคลุมไปด้วยลวดลายจั้นเหวิน แรงกดดันสุดพรรณนาครอบครองไปทั่วบริเวณนี้

มู่เฉินหดตาลงกะทันหันเมื่อรู้สึกได้ว่าร่างต้นจักรพรรดิสัประยุทธ์แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

ก่อนหน้าหลิงจั้นจื่อยังไม่เต็มใจที่จะเผยให้เห็นการดำรงอยู่ของทหารเหล่านี้ แต่ขณะนี้เขาไม่ใส่ใจอะไรแล้ว ดังนั้นภายใต้การควบคุมอย่างเต็มที่ เขาจึงเร้ากำลังเต็มของกองทัพออกมาเลยทีเดียว

ความกดดันน่าสะพรึงกลัวปกคลุมดินแดนนี้ พื้นดินเบื้องล่างเริ่มพังทลาย ต้นไม้ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ แล้วสลายกลายเป็นกองขี้เถ้า

แรงกดดันน่าตกตะลึง กระทั่งสี่คนที่กำลังต่อสู้อยู่ห่างออกไปก็ได้รับผลกระทบ สายตาของพวกเขากวาดมองมายังทิศทางนี้ด้วยความตกใจ

เมื่อหลิงเจี้ยนจื่อและหลิงหลงจื่อเห็นสถานการณ์ของหลิงจั้นจื่อ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ พวกเขาประหลาดใจที่หลิงจั้นจื่อถูกบังคับให้เปิดเผยความลับทั้งที่แค่ต่อกรกับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นเท่านั้น

ในฐานะศิษย์เอกของจักรพรรดิสัประยุทธ์แห่งตำหนักซีเทียน พวกเขารู้ดีว่าร่างต้นจักรพรรดิสัประยุทธ์ทรงพลังเพียงใด ทว่าพวกเขาทั้งสองคนไม่ประสบผลในการฝึก ในบรรดาศิษย์ทั้งสี่คนมีเพียงหลิงจั้นจื่อที่ประสบความสำเร็จไปได้

ในอดีตจอมยุทธ์ที่บังคับให้หลิงจั้นจื่อมาไกลถึงขนาดนี้ล้วนอยู่ในระดับตี้จื้อจุนเข้าใกล้ขั้นเต็ม แต่ครั้งนี้ศัตรูเป็นเพียงจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้น…

“มู่เฉินเป็นเสือที่แกล้งเป็นเหยื่อจริงๆ!” ดวงตาของหลิงเจี้ยนจื่อและหลิงหลงจื่อวูบไหว จากนั้นก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ถ้ามู่เฉินไม่ได้จัดการยาก ไม่มีทางที่หลิงจั้นจื่อจะเปิดเผยความลับของร่างต้นจักรพรรดิสัประยุทธ์

เมื่อเปรียบเทียบกับความตกใจของพวกเขา แม้ว่าซูมู่และฉู่เหมินจะตกตะลึงกับความแข็งแกร่งที่มู่เฉินเปิดเผย แต่พวกเขาก็รู้สึกโล่งใจในใจ ก่อนหน้านี้พวกเขากังวลว่ามู่เฉินอาจจะพ่ายแพ้แบบนกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำ เวลานั้นหลิงจั้นจื่อจะเข้ามายุ่งในการปะทะของพวกเขาเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ ไล่พวกเขาทั้งสองออกจากสนามรบไป

แต่ดูเหมือนว่ามู่เฉินจะจัดการกับหลิงจั้นจื่อจนอยู่หมัด

“ต้องใช้เวลานี้รีบตัดสินผลแพ้ชนะ” ความคิดเดียวกันปรากฏขึ้นในใจของซูมู่และฉู่เหมิน ในเมื่อมู่เฉินช่วยพวกเขาซื้อเวลาได้ พวกเขาก็ต้องจัดการคู่ต่อสู้ของตนแบบเบ็ดเสร็จ จากนั้นก็จะสามารถไปช่วยเหลือมู่เฉินได้

เห็นได้ชัดว่าพวกเขายังไม่คิดว่ามู่เฉินสามารถเอาชนะหลิงจั้นจื่อได้

ด้วยความคิดนี้ซูมู่และฉู่เหมินก็ปลดปล่อยคลื่นหลิงออกมาเต็มพิกัด การโจมตีของพวกเขาคมชัดขึ้นในขณะนี้

“ฮ่าๆ คิดจะจัดการให้เร็วเพื่อไปช่วยไอ้เด็กเหลือขอนั่นเหรอ?” หลิงเจี้ยนจื่อและหลิงหลงจื่อเข้าใจความตั้งใจนี้ทันที พวกเขาจึงเอ่ยล้อเลียน

“ดูเหมือนว่าการอุ่นเครื่องของพวกข้า ทำให้แกคิดว่าพวกข้าเป็นคนอ่อนแอ ในเมื่อเป็นเช่นนี้พวกข้าก็จะแสดงให้เห็นว่าความจริงที่โหดร้ายนั้นเป็นอย่างไร!”

เผชิญหน้ากับการโจมตีรุนแรงของซูมู่และฉู่เหมิน หลิงเจี้ยนจื่อและหลิงหลงจื่อก็หัวเราะร่วน ขณะที่พวกเขาเริ่มการตอบโต้แรงขึ้น คลื่นหลิงบ้าคลั่งครอบคลุมทั่วบริเวณ ร่างทั้งสี่ปะทะกันอย่างดุเดือด

มู่เฉินไม่ได้ใส่ใจกับความผันผวนภายนอก

ความสนใจของเขามุ่งเน้นไปที่หลิงจั้นจื่อและร่างต้นจักรพรรดิสัประยุทธ์ หลังจากที่หลิงจั้นจื่อควบคุมกองทัพล้านคนและหลอมรวมรัศมีจั้นยี่เชื่อมกับคลื่นหลิง ก็ทำให้ร่างต้นจักรพรรดิสัประยุทธ์เกิดการเปลี่ยนน่าสะพรึงกลัวมากขึ้นจนถึงจุดที่มู่เฉินรู้สึกว่าเป็นอันตรายร้ายแรง

แม้แต่มู่เฉินก็ต้องยอมรับว่าหลิงจั้นจื่อเป็นคู่ต่อสู้ที่ต่อกรยาก

ฮา

มู่เฉินสูดหายใจเข้าลึกนั่งลงบนไหล่ของร่างเทพสุริยะนิรันดร์ จากนั้นก็วาดกระบวนท่า เผชิญหน้ากับหลิงจั้นจื่อที่ดุดัน เขาก็ต้องสู้เต็มที่แล้ว

หลิงจั้นจื่อมองมู่เฉินอย่างเฉยเมย เมื่อพลังของร่างต้นจักรพรรดิสัประยุทธ์พุ่งสูงขึ้นจนถึงขีดสุด ในที่สุดเขาก็เริ่มเคลื่อนไหว

เขาสะบัดแขนเสื้อ ร่างต้นจักรพรรดิก็ระเบิดออกมาด้วยแสงแวววาวนับไม่ถ้วน ก่อนที่จะเปิดปาก รัศมีจั้นยี่ไม่รู้จบก่อร่างเป็นเสาแสงขนาดใหญ่พุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า

ในเวลาเดียวกันลวดลายจั้นเหวินบนร่างกายมันก็แยกตัว ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าพุ่งเข้าใส่เสาขนาดใหญ่

เหมือนจะมีคลื่นทำลายล้างเล็ดลอดออกมาเลือนราง

ผู้ชมในจัตุรัสตกใจเมื่อเห็นเสาแสง แม้ว่าจะมองผ่านหน้าจอ พวกเขาก็ยังรู้สึกถึงความผันผวนที่น่ากลัว

ใบหน้าของหลิ่วซิงเฉินเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดกับฉากนี้ ตอนที่เขาพ่ายแพ้ หลิงจั้นจื่อยังไม่ได้ใช้กระบวนท่านี้ เห็นชัดที่มันไม่คิดว่าเขาหลิ่วซิงเฉินมีคุณสมบัติที่จะใช้

แต่นั่นหมายความว่ามู่เฉินจะตกอยู่ในอันตราย เนื่องจากหลิ่วซิงเฉินไม่คิดว่ามู่เฉินจะมีโอกาสเผชิญหน้ากับการโจมตีของหลิงจั้นจื่อ

สายตาประหลาดใจจ้องมองมาจากข้างนอก แต่หลิงจั้นจื่อกลับมองมู่เฉินอย่างไม่แยแส ก่อนที่ฝ่ามือจะเริ่มวาดตราประทับช้าๆ

ฮึ่ม!

เมื่อสร้างตราประทับเสร็จ เสาสูงตระหง่านก็เปลี่ยนเป็นดัชนีขนาดมหึมากำจายด้วยรัศมีโบราณ

ดัชนีนี้ดูสมจริงอย่างไม่น่าเชื่อ ครอบคลุมไปด้วยลวดลายจั้นเหวินนับไม่ถ้วน รัศมีจั้นยี่ที่เชี่ยวกรากกวาดไปทั่วสวรรค์และโลก แม้แต่ท้องฟ้าก็มืดและสั่นสะเทือนจากแรงกดดัน

สายตามืดครึ้มมองไปที่มู่เฉิน รอยยิ้มน่าขนพองสยองเกล้าผุดขึ้นตรงมุมปากของหลิงจั้นจื่อ อึดใจต่อมาเสียงของเขาก็ดังกึกก้องไปทั่วฟ้าดิน

“ทักษะเทห์สวรรค์ ดัชนีจักรพรรดิฉีกฟ้า!”

“มู่เฉิน วันนี้เป็นวันตายของแก!”

ตู้ม!

เมื่อเสียงของเขาดังก้อง ชั้นเมฆก็ยุบตัวลงท้องฟ้าถูกฉีกขาด หลุมดำก่อตัวขึ้นพร้อมด้วยสะเก็ดมิติ ราวกับว่าดัชนีนี้สามารถทำลายทุกสรรพสิ่ง

บริเวณที่มู่เฉินยืนอยู่ก็ทรุดตัวลงเช่นกัน เขาเงยหน้าขึ้นมองไปทางดัชนีขนาดใหญ่ด้วยสีหน้าท่าทางเคร่งเครียดลงหลายส่วน จากนั้นเขาก็หายใจลึกๆ ตราประทับในมือเปลี่ยนไปเร็วรี่

ฮึ่ม ฮึ่ม!

พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของตราประทับ ริ้วแสงสีม่วงทองก็รวมตัวกันในร่างเทพสุริยะนิรันดร์ ก่อตัวเป็นรหัสสิบห้าลายในไม่กี่อึดใจ

เมื่อมองไปที่รหัสเทพ มู่เฉินก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เพราะเขารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะต่อต้านกระบวนท่าของหลิงจั้นจื่อ ด้วยรหัสเทพอมตะสิบห้าลายเหล่านี้

ผลึกแสงวาววับในดวงตาของมู่เฉิน ก่อนที่เจดีย์ผลึกแก้วใสจะสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจากภายในร่างกาย ดึงคลื่นหลิงของเขาออกมาเพื่อแปลงและทำให้แข็งแกร่งขึ้น

การดึงคลื่นหลิงอย่างบ้าคลั่ง ทำให้แม้แต่มู่เฉินยังรู้สึกเจ็บปวดจากกล้ามเนื้อ

แต่ภายใต้การสกัดที่รุนแรงนี้ แสงสีม่วงทองก็ระเบิดออกมาจากร่างเทพสุริยะนิรันดร์พร้อมกับการก่อร่างของรหัสอมตะ

สิบหก…สิบแปด…ยี่สิบ…ยี่สิบสาม!

เมื่อก่อร่างรหัสเทพได้ยี่สิบสามลาย ดวงตาของมู่เฉินก็เริ่มมืดดำ ชัดว่าเขามาถึงขีดจำกัดแล้ว

“แต่…ก็น่าจะพอแล้ว”

มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองดัชนี รหัสเทพอมตะยี่สิบสามลายเป็นกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของร่างเทพสุริยะนิรันดร์ในตอนนี้แล้ว

“มาดูกันว่าทักษะเทห์สวรรค์ของร่างต้นจักรพรรดิสัประยุทธ์ของเจ้ากับร่างเทพสุริยะนิรันดร์ของข้า ใครจะยืนหัวเราะเป็นคนสุดท้าย!”

มู่เฉินพึมพำ จากนั้นด้วยเจตจำนง รหัสเทพยี่สิบสามลายก็พวยพุ่งออกมา ริ้วแสงสีม่วงทองทำให้เกิดประกายระยิบระยับไปทั่วขอบฟ้า ยามนี้รหัสเทพทั้งยี่สิบสามลายก่อตัวเป็นดัชนีเช่นกัน

“รหัสเทพอมตะ ดัชนีอมตะแปรเปลี่ยน!”

ขณะที่เสียงคำรามดังกึกก้องจากในหัวใจของมู่เฉิน ดัชนีก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยรัศมีลึกลับอันเป็นอมตะ จากนั้นก็ปะทะกับดัชนีขนาดใหญ่ที่กดลงมา ภายใต้สายตาหวาดผวานับไม่ถ้วน

ในเวลานี้แม้แต่เวลาก็เหมือนถูกแช่แข็ง

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset