หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1297 เข้าสู่แดนเซิ่งยวนโบราณ

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1297 เข้าสู่แดนเซิ่งยวนโบราณ

ฟิ้ว!

แสงสีแดงเข้มฉวัดเฉวียนราวกับอุกกาบาตในท้องฟ้ามืดมิด พร้อมกันนั้นสายฟ้าสีดำที่ราวกับอสรพิษเกรี้ยวกราดก็ฟาดลงมาจากชั้นฟ้าเป็นระยะ เมื่อสายฟ้าทำลายล้างพุ่งเข้ามาในรัศมีหนึ่งร้อยจั้งของแสงสีแดงเข้ม อุณหภูมิที่น่ากลัวก็กำจายออกมา ลบสายฟ้าเหล่านั้นออกไป

เมื่อมองผ่านแสงสีแดงเข้มไปจะมองเห็นเป็นน้ำเต้าสีแดง พวกมู่เฉินนั่งอยู่ข้างบนพร้อมกับชื่อเหยียนอยู่เบื้องหน้า

“ในส่วนลึกของทวีปเซิ่งยวนสภาพแวดล้อมเลวร้ายแท้จริง”

มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองดูสายฟ้าป่าเถื่อนแล่นแปลบปลาบด้วยความเคร่งเครียด ในสถานที่เช่นนี้แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายก็ยังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายหากประมาท

ต้องขอบคุณที่มีชื่อเหยียนเป็นผู้นำ ไม่เช่นนั้นหากมีเพียงพวกเขาจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบกว่าวันเพื่อผ่าพายุมิติกาลเวลาไป

“นี่ยังน้อย สภาพแวดล้อมในแดนเซิ่งยวนโบราณแย่กว่านี้อีก” เมื่อเห็นสีหน้ามู่เฉินเคร่งเครียด ชื่อเหยียนก็แสยะยิ้ม

เปลือกตาของมู่เฉินกระตุกเมื่อได้ยิน แดนเซิ่งยวนโบราณอันตรายขนาดนั้นเชียวเหรอ?

“มีจอมยุทธ์สุดยอดจำนวนมากสิ้นชีพในแดนเซิ่งยวน แม้พวกเขาจะสิ้นชีพแต่พลังงานหลิงของพวกเขาไม่ได้กระจายไปไหน เนื่องจากพลังงานทรงพลังมากเกินไปจึงก่อตัวเป็นปรากฏการณ์ประเภทต่างๆ”

ชื่อเหยียนยิ้มขณะที่พูดต่อว่า “ดังนั้นสภาพแวดล้อมและปรากฏการณ์ที่รุนแรงอาจเกิดจากการละสังขารของจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุน แล้วจะไม่น่าสะพรึงกลัวได้ยังไง?”

ในขณะที่เขาพูด ทั้งสี่ก็สูดอากาศเย็นลึกสุดปอด ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนที่ละสังขารเหรอ? มิน่าล่ะชื่อเหยียนถึงบอกว่าที่เห็นอยู่นี่ไม่มีอะไรเลย

“นอกจากสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายในแดนเซิ่งยวนโบราณที่พวกเจ้าต้องระวัง ยังต้องระวังกลุ่มอื่นๆ ด้วย จากข้อมูลที่รู้มาพบว่าครั้งนี้มีกลุ่มจำนวนมากขึ้นกว่าครั้งก่อน มากจนแม้แต่เหล่ามือสังหารปีศาจก็มุ่งหน้าไปด้วยเช่นกันๆ ไม่มีใครที่จัดการได้ง่ายๆ” ชื่อเหยียนเตือนทั้งสี่ด้วยท่าทางเคร่งเครียดหลายส่วน

มู่เฉินอดไม่ได้ที่จะหดตาลง เนื่องจากมือสังหารปีศาจเหล่านั้นไม่ใช่คนธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมือสังหารปีศาจขั้นสูง จอมยุทธ์เหล่านั้นเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม แม้กระทั่งกับประมุขน้อยของเผ่าฝูถูอย่างเฉวียนหลัวและมั่วซิน

ทว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนเพื่อผ่านพายุมิติกาลเวลาหรือ? เหล่ามือสังหารมีความสามารถนั้นเหรอ?

“ฮ่าๆ มือสังหารปีศาจถือเป็นสมาชิกวังมหาพันภพ ตราบใดที่พวกเขามีคะแนนสังหารเพียงพอ พวกเขาก็จะสามารถเชิญจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนของวังส่งพวกเขาไปสู่แดนเซิ่งยวนโบราณได้” ชื่อเหยียนอธิบายกับความสงสัยของมู่เฉิน

“คะแนนสังหารปีศาจเป็นของดีทีเดียว”

มู่เฉินยิ้ม ไม่คิดว่าคะแนนสังหารจะสามารถเชิญจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนมาได้ด้วย

“ถ้าเจ้ามีคะแนนมากพอ ไม่ต้องพูดถึงระดับเทียนจื้อจุนธรรมดาเลย แต่เจ้าสามารถเชิญได้กระทั่งราชันสังหารปีศาจฉิงเทียนได้ ฮ่าๆ นั่นระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งเชียวนะ แต่เหตุผลของเจ้าต้องชอบธรรม เพราะราชันสังหารปีศาจไม่ช่วยเจ้าไปทำอะไรที่ขัดต่อศีลธรรมหรอก”

มู่เฉินกับลั่วหลีมองหน้ากัน นี่เป็นเรื่องมากเกินไปแล้วจริงๆ ต้องรู้ว่าจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งเป็นการดำรงอยู่สุดยอดในมหาพันภพ

เช่นเดียวกับเทพจักรพรรดิอัคคีและเทพจักรพรรดิสงครามการพบพวกเขายากยิ่งกว่ายาก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเชิญ ใครจะรู้ว่าความโปรดปรานต้องยิ่งใหญ่เพียงใดถึงจะประสบความสำเร็จเป้าหมายได้

ทว่าที่วังมหาพันภพกลับสามารถเชิญได้กระทั่งจอมยุทธ์ระดับนั้น ดูท่าทางวังคงจะจัดเต็มสำหรับคะแนนสังหารปีศาจแล้ว

ขณะที่พวกเขาถอนหายใจ น้ำเต้าสีแดงก็เดินทางผ่านมิติด้วยความเร็วแทบจะคอหักตาย แม้แต่กลุ่มของมู่เฉินยังอดอุทานไม่ได้ เนื่องจากวิธีการของจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนไม่ได้เป็นสิ่งที่คนธรรมดาสามารถเข้าใจได้

ภายใต้ความเร็วในการเดินทางของชื่อเหยียน อีกสองชั่วโมงก็ผ่านไป กลุ่มของมู่เฉินรู้สึกว่าความผันผวนของที่นี่ดูเหมือนจะหนาแน่นขึ้น

พวกเขาเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจก็เห็นรอยแตกในมิติพร้อมกับแรงกดดันที่น่ากลัวซึ่งห่อหุ้มหัวใจ ทำให้รู้สึกหายใจไม่ออกเลยทีเดียว

ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่ชื่อเหยียนยังแสดงสีหน้าเคร่งเครียด เริ่มชะลอความเร็วลง

เมื่อเห็นท่าทางนั้นหัวใจของมู่เฉินและคนอื่นๆ ก็สั่นไหว พวกเขาเข้าใจว่ากำลังจะเข้าถึงส่วนลึกของทวีปเซิ่งยวนแล้ว

“นั่นคือพายุมิติกาลเวลา”

ทันใดนั้นเสียงเตือนภัยของชื่อเหยียนก็ดังกึกก้อง ขณะที่ความคิดนี้แล่นพล่านในใจทุกคน

พวกเขามองไปในระยะไกลก็เห็นชั้นฟ้าและชั้นดินในสภาพที่แตกเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกับพายุสีขาวเงินก่อหายนะระหว่างฟ้าดิน มันยิ่งใหญ่มากจนมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด ไม่มีวัตถุใดในพายุราวกับว่าเป็นดินแดนว่างเปล่า

เบื้องหน้าพายุทอร์นาโดมหึมาเช่นนี้ กลุ่มมู่เฉินตัวเล็กราวกับเศษธุลี พวกเขารู้สึกว่าถ้าเข้าไปก็อาจจะถูกทำลายเป็นอากาศธาตุในทันที

เผชิญกับความผันผวนทำลายล้าง แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนก็ยังครั่นคราม

ชื่อเหยียนควบคุมน้ำเต้าสีแดงเข้มค่อยๆ ชะลอตัวลงเมื่ออยู่ห่างจากพายุหลายหมื่นจั้ง ในระยะนี้พวกมู่เฉินก็เห็นพื้นที่รอบๆ น้ำเต้าสีแดงเริ่มบิดเบือน

ต้องรู้ว่าก่อนหน้านี้ไม่มีสายฟ้าสักสายที่สามารถลดแสงรอบน้ำเต้านี้ลงได้ แต่เมื่อพวกเขามาที่นี่เพียงแค่เข้าใกล้ก็ทำให้แสงสว่างรอบน้ำเต้าบิดเบือนไปหมดแล้ว

ดังนั้นสามารถบอกถึงความสามารถการทำลายล้างที่มีอยู่ในพายุมิติกาลเวลาได้

“อีกหนึ่งก้านธูปจะเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าสู่พายุ” ชื่อเหยียนมองพายุอย่างเคร่งเครียดแล้วพูดขึ้น

มู่เฉินและคนอื่นๆ พยักหน้า ร่างกายเริ่มตึงเครียด

ขณะที่กำลังรอคอย ลั่วหลีก็เขยิบเข้าหามู่เฉินพูดว่า “เมื่อเราเข้าไปในแดนเซิ่งยวนโบราณแล้วก็รีบติดต่อชิงเฉวียนก่อนนะ ข้าได้ยินมาว่าพวกนางมีข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับสุสานของจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนคนหนึ่ง”

“หืม?”

มู่เฉินรู้สึกประหลาดใจ เนื่องจากเขาไม่คิดว่าเวินชิงเฉวียนจะหาข่าวกรองได้เร็วเช่นนี้ ก่อนที่จะเข้าสู่สุดแดนเซิ่งยวนโบราณก็ตั้งเป้าหมายไว้เรียบร้อยแล้ว

“แต่ดูไม่ค่อยเหมาะสมนะที่เราจะเข้าร่วมในเมื่อพวกนางได้ข้อมูลมา?” อึดใจเขาก็ขมวดคิ้วแน่น

ข้อมูลมีค่าอย่างยิ่ง เพราะหากฝ่ายหนึ่งเคลื่อนไหวก่อนพวกเขาอาจได้รับมรดก แล้วพวกเขาจะปล่อยให้คนอื่นมาแบ่งปันไปได้อย่างไร?

ลั่วหลียิ้มบาง “นี่เป็นสิ่งที่ชิงเฉวียนบอกมา เพราะพวกนางไม่ใช่กลุ่มเดียวที่รู้เรื่องนี้ ดังนั้นอาจมีการแข่งขันรุนแรง ชัดว่าเราเป็นตัวเลือกของผู้ร่วมมือที่ดี”

มู่เฉินเข้าใจพลางพยักหน้า หากเป็นเช่นนั้นพวกเขาก็ลองดูว่าจะได้รับเบาะแสอะไรเกี่ยวกับวิชาเจดีย์แปดองค์บ้างไหม

“ถ้างั้นเราก็เป็นหนี้บุญคุณนางแล้ว”

มู่เฉินยิ้ม ด้วยมีกลุ่มมากมายในแดนเซิ่งยวน มีหลายกลุ่มที่ดูแข็งแกร่งกว่าพวกเขา และถ้าดูจากภายนอกก็มีหลายกลุ่มที่พวกนางสามารถเลือกร่วมมือได้ แต่เหตุผลที่เวินชิงเฉวียนเลือกพวกเขานั้นเป็นเพราะความสัมพันธ์ฉันมิตรที่มีมานาน

ลั่วหลียิ้มก่อนที่จะพูดอย่างหลักแหลม “บางทีในภายหลังพวกเขาถึงได้รู้ว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องก็ได้”

แม้ในกลุ่มพวกเขาดูเหมือนคนที่ทรงพลังที่สุดก็คือหลิงซีที่เป็นหลิงเจิ้นจงซือขั้นเทียน บางทีหลายคนอาจมองข้ามมู่เฉินซึ่งเป็นเพียงจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลาย แต่ลั่วหลีรู้ดีว่าใครกันที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มนาง

“เฮ้ ครั้งนี้คนมาเยอะจริงๆ” ขณะที่ทั้งสองพูดคุยกัน ชื่อเหยียนก็พูดโพล่งออกมาขณะมองไปในระยะไกล

สายตาของกลุ่มมู่เฉินติดตามไปแต่ไม่เห็นเงาร่างใดๆ ทว่าจากการรับรู้ถึงคลื่นพลังงาน พวกเขาสามารถรู้สึกถึงแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวที่เกิดจากพื้นที่เหล่านั้น

การที่สามารถปลดปล่อยความกดดันทรงพลังเช่นนี้ในพายุ จะไม่มีใครได้นอกจากเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุน

มู่เฉินสัมผัสคร่าวๆ ก็พบว่ามีแรงกดดันที่น่ากลัวไม่น้อยกว่าสิบสาย นั่นหมายความว่าตามจำนวนการรับรู้ของเขาเพียงอย่างเดียว ก็มีจำนวนจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนเกินที่นับได้ด้วยสองมือ

นี่ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เนื่องจากจอมยุทธ์ระดับนี้แทบจะไม่เคยเห็นตามปกติกลับมารวมตัวกันที่นี่เพื่อสิ่งเย้ายวนในแดนเซิ่งยวน

ครืน!

ขณะที่มู่เฉินถอนหายใจ เสียงฟ้าคำรนก็ดังกึกก้องสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งฟ้าดิน

เสียงคำรามยิ่งใหญ่สั่นสะท้าน พายุมิติกาลเวลาป่าเถื่อนก็ชะลอตัวลง เปลี่ยนอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย

เมื่อเห็นฉากนี้มู่เฉินและคนอื่นๆ ก็รู้ว่าเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าสู่แดนเซิ่งยวนโบราณมาถึงแล้ว!

“ไป!”

สายตาของชื่อเหยียนวูบไหวก่อนที่จะกระทืบเท้า หินหนืดพุ่งทะลักออกมาจากช่องเปิดของน้ำเต้า

“จำไว้ถ้าต้องการออกจากแดนเซิ่งยวนโบราณให้ทำลายเครื่องรางที่ข้าให้ เจ้าจะกลับออกมาที่ทวีปเซิ่งยวนทันที!”

กลุ่มมู่เฉินพยักหน้าจากนั้นก็ทะยานออกไป เกลียวแสงสีแดงเข้มจากน้ำเต้าฉีกออกแล้วห่อหุ้มพวกเขาไว้

ตู้ม!

ลาวานี้ราวกับมังกร เมื่อส่งคำรามก็พาทั้งสี่คนเข้าไปสู่พายุสีเงินและหายไป

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset