หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1305 เผยไพ่ตาย

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1305 เผยไพ่ตาย

ในถ้ำขนาดใหญ่

ทันทีที่ทั้งสองกลุ่มประจันหน้ากัน ดวงตาแต่ละคู่ก็กลายเป็นสีแดงก่ำ อึดใจรังสีสังหารก็เริ่มระเบิดออกมาทำให้อุณหภูมิในถ้ำลดลง

รังสีสังหารกวาดตัวขึ้นราวกับพายุในถ้ำ

“ฮ่าๆ เส้นทางของศัตรูช่างแคบจริง ไอ้เวร แกยังกล้าที่จะยืนขวางหน้าข้าอีกเรอะ?” ต่งซันก้าวออกมา ขณะที่จ้องไปที่มู่เฉิน เวินชิงเฉวียนและคนอื่นๆ เสียงหัวเราะน่ากลัวก็แผดออก

“บางคนวิ่งหางจุกตูดเป็นหมาจรจัด ยังกล้าทำหยิ่งผยองตอนนี้ด้วยเหรอ?” เวินชิงเฉวียนหัวเราะเยาะเย้ยตอบ

“แก!”

ต่งซันเบิกตากว้างขณะจ้องเวินชิงเฉวียน รังสีสังหารในดวงตาดูเหมือนจะกลั่นออกมาได้

ทว่าเผชิญหน้ากับรังสีสังหารนี้ คนอย่างเวินชิงเฉวียนก็ไม่สน นางเลื่อนสายตาเย็นชาจับจ้องคนที่ด้านข้างต่งซันที่มีผมสีแดงเพลิง

“หวู่ทง การกระทำของตระกูลหวู่สกปรกเหมือนเคย ตอนนั้นพวกแกก็ขโมยข้อมูลเกี่ยวกับมรดกจากตระกูลเวิน ตอนนี้แกยังขายพวกข้าให้กับคนอื่นอีก” เวินชิงเฉวียนเค้นเสียงเย็นขึ้นจมูก

หวู่ทงที่มีเรือนผมสีแดงเพลิงยิ้มกว้าง “สงครามไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ตระกูลเวินไม่สามารถปกป้องข้อมูลได้เอง ก็อย่าโทษคนอื่นที่ขโมยมาได้สิ”

“นอกจากนี้ในเมื่อเป็นคู่แข่งกันอยู่แล้ว การใช้กลก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ?”

พูดถึงตรงนี้เขาก็มองไปที่กลุ่มมู่เฉินด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “เจ้าเองก็หาผู้ช่วยเหลือมาไม่ใช่เหรอ? แม้สุดท้ายเจ้าจะรู้ว่าสิ่งนี้ช่างไร้ประโยชน์…”

“สามหาว!”

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูถูกมู่เฉิน ดวงตาของหลงเซี่ยงก็เปล่งประกายด้วยความโกรธ ขณะที่เขาต้องการจะสวนกลับก็ต้องหยุดปากลงโดยมู่เฉิน สายตาของมู่เฉินมองไปที่หวู่ทง รู้สึกถึงมหาสมุทรคลื่นหลิงของอีกฝ่ายปลดปล่อยความกดดันทรงพลังซึ่งทำใหมิติสั่นสะเทือนเลยทีเดียว

เห็นได้ชัดว่าหวู่ทงนี้เป็นจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มของแท้

พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับแนวร่วมซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มมือสังหารปีศาจและกลุ่มตระกูลหวู่ มองจากภายนอกอีกฝ่ายมีจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มถึงสองคน

ส่วนด้านพวกเขามีหลิงซีที่เป็นหลิงเจิ้นจงซือขั้นเทียนบวกกับหลงเซี่ยงและเวินซื่อหวู่ซึ่งเป็นจอมยุทธ์เกือบจะบรรลุระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็มสองคน

ดังนั้นเมื่อดูจากภายนอก ชัดว่าการรวมตัวของอีกฝ่ายทรงพลังมากกว่าพวกเขา

เวินชิงเฉวียนก็ตระหนักเรื่องนี้เช่นกัน แต่นางไม่กลัว เห็นชัดว่านางเตรียมไพ่ตายเอาไว้แล้ว…

เวินชิงเฉวียนสาดท่าทางเย็นชาไม่คิดจะพูดกับหวู่ทงให้เปลืองน้ำลาย นางมองไปที่ส่วนลึกของถ้ำก็เห็นหม้อกลั่นทองแดงที่ดูงดงามราวกับผีเสื้อบนแท่นประหนึ่งมีไฟลุกโชนอยู่ข้างใน

“มู่เฉินหม้อกลั่นนั้นถูกทิ้งไว้โดยภูตผีเสื้อโอสถ ภายในมีมรดกอยู่ หากเราได้รับก็จะสามารถสืบทอดทักษะการเล่นแร่แปรธาตุของนางได้”

“โอ้?”

มู่เฉินมองไปที่หม้อกลั่นทองแดงด้วยความประหลาดใจ แต่เขาไม่ได้ถูกล่อลวงมากนักเนื่องจากตัวเขาไม่ได้สนใจการกลั่นยาพวกนี้ นอกจากนี้เขาก็ไม่มีพลังพอจะไปมุ่งเน้นกับเส้นทางอื่นอีกแล้ว

“ข้าต้องการได้รับมรดกของภูตผีเสื้อโอสถ” เวินชิงเฉวียนตอบอย่างจริงจัง

หัวใจของมู่เฉินกระตุกพลางหันขวับไปมองหญิงสาว “เจ้าได้ฝึกวิธีการเล่นแร่แปรธาตุงั้นเหรอ?”

“ฮ่าๆ ชิงเฉวียนเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลเวินตอนนี้ หากนางสามารถได้รับมรดกของภูตผีเสื้อโอสถ ความสำเร็จในอนาคตของนางอาจเปรียบเทียบได้กับเทพจักรพรรดิอัคคีแห่งแคว้นหวู่จิ้งฮั่วเลย” เวินจื่อหยู่ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ

มู่เฉินประหลาดใจไป เวินชิงเฉวียนไม่มีท่าทางจะเข้าสู่เส้นทางนี้ในอดีตเลย แต่ไม่คิดว่านางจะประสบความสำเร็จลึกซึ้งบนเส้นทางหนึ่ง เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง

แต่เขาก็ประหลาดใจไปเพียงช่วงสั้นๆ เพราะแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังเลือกฝึกฝนในศาสตร์จั้นเจิ้นซือเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เวินชิงเฉวียนจะกลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ

“ถ้าเจ้าต้องการก็ได้ตามนั้น” มู่เฉินยิ้มอ่อนพลางพยักหน้าให้ ไม่มีใครในที่นี้ที่รู้จักการเล่นแร่แปรธาตุ ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์แม้ว่าพวกเขาจะได้รับไปก็ตาม

เมื่อเห็นว่ามู่เฉินตกลงจะมอบมรดกล้ำค่าให้โดยไม่ลังเล สายตาของเวินชิงเฉวียนก็กระเพื่อมไหว แม้แต่เวินจื่อหยู่และจอมยุทธ์คนอื่นๆ ของตระกูลเวินก็มองมาด้วยความขอบคุณ เพราะถ้าเป็นกลุ่มอื่นที่มาร่วมอาจตีกันเพราะเรื่องแบ่งมรดกไม่เท่ากันแล้ว

“ขอบใจนะ”

เวินชิงเฉวียนกล่าวขอบคุณก่อนจะพูดต่อ “แต่ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าขาดทุนเด็ดขาด เราจะแบ่งเม็ดยากันแปดต่อสอง เจ้าจะได้แปดส่วน พวกข้าจะเอาแค่สองส่วนเท่านั้น”

ก่อนหน้าพวกเขาตกลงแบ่งกันครั้งต่อครึ่ง แต่เวินชิงเฉวียนเพิ่มให้อีกสามส่วนเพื่อชดเชยให้กลุ่มมู่เฉิน

มู่เฉินพยักหน้าไม่ได้ปฏิเสธ ตัวเขารู้นิสัยภาคภูมิใจของเวินชิงเฉวียนดี หากปฏิเสธก็คงทำให้นางรู้สึกไม่พอใจ

“โอ้โห ถึงกับแบ่งการเก็บเกี่ยวต่อหน้าข้า เวินชิงเฉวียน เจ้าไม่ร้อนใจไปหน่อยหรือ?” เสียงล้อเลียนของหวู่ทงดังขึ้นขณะที่มองเวินชิงเฉวียนด้วยรอยยิ้มจางๆ

“ฝั่งเจ้ามีหลิงเจิ้นจงซือขั้นเทียนหนึ่งคนและจอมยุทธ์ขุมพลังเกือบจะบรรลุระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็มสองคน แค่อยู่รอดในวันนี้ได้ก็โชคดีแล้ว ยังคิดจะแตะสมบัติอีกเรอะ?” ต่งซันพูดขึ้นอย่างร้ายกาจ

“รีบไม่รีบ เดี๋ยวได้รู้กันเมื่อสู้!”

เวินชิงเฉวียนพูดอย่างเย็นชา มือประสานเข้าด้วยกัน พริบตาแสงสีแดงเข้มก็พวยพุ่งขึ้นจากร่างกายของนาง

“ทักษะสายเลือด ขยายสายเลือด!”

เวินชิงเฉวียนกัดปลายลิ้น พ่นเลือดกลั่นออกมาเต็มปาก อึดใจลำแสงสีแดงเข้มหลายสายก็แทงเข้าไปในลำคอของจอมยุทธ์ตระกูลเวิน

ตู้ม!

ทันใดนั้นดวงตาของเวินจื่อหยู่ก็พร่างพราวด้วยแสง ขณะที่คลื่นหลิงผันผวนในร่างกายเพิ่มขึ้น ในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจ เขาก็ทะลุผ่านเข้าสู่ระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็มแล้ว

นอกจากนี้จอมยุทธ์คนอื่นๆ ของตระกูลเวินก็มีพลังเพิ่มขึ้นเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเข้าถึงระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็มได้อย่างเวินจื่อหยู่ แต่พลังของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นเกือบห้าส่วนเลยทีเดียว

วิธีการของเวินชิงเฉวียนเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับจอมยุทธ์ตระกูลเวินอีกขั้น!

เผชิญหน้ากับฉากนี้ ใบหน้าของหวู่ทงและต่งซันก็เปลี่ยนไป แม้แต่พวกมู่เฉินก็จ้องมองไปที่เวินชิงเฉวียนด้วยความตกใจ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คิดว่านางจะมีไพ่ตายแบบนี้ซ่อนอยู่…

“ทักษะสายเลือด?”

ลั่วหลีอดอุทานขึ้นมาไม่ได้ ความสามารถพิเศษนี้เกิดจากสายเลือดของคนคนหนึ่ง แม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่มีความสามารถในการโจมตี แต่ก็มีประโยชน์ในแง่ของการสนับสนุน

แต่โอกาสของทักษะสายเลือดที่จะปรากฏนั้นหายากมาก ยิ่งกว่านั้นก็ใช้งานได้เฉพาะกับกลุ่มที่มีสายเลือดเดียวกัน ดังนั้นนี่จึงหายากมากในมหาพันภพ

“ไม่น่าแปลกใจที่เวินชิงเฉวียนมีฐานะสูงส่งในตระกูลเวิน แม้ว่านางจะมีขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้น กระทั่งเวินจื่อหยู่ก็ยังต้องฟังคำสั่งของนาง” มู่เฉินเข้าใจความจริงข้อนี้ทันที

ช่วงเวลานี้เขาก็ตระหนักได้ว่าทำไมเวินชิงเฉวียนจึงไม่กลัวพวกหวู่ทง ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพผ่านทักษะในตัวนาง ทำให้กลุ่มของนางแข็งแกร่งขึ้นอีกระดับ

อย่างน้อยด้วยวิธีนี้เวินจื่อหยู่ก็มีพลังในการเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มแล้ว

หลังจากเผยทักษะสายเลือดออกมา ใบหน้าของเวินชิงเฉวียนก็ดูซีดเซียวลง ชัดว่าการใช้ทักษะดังกล่าวทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายของนางด้วย

“มิน่าพวกผู้อาวุโสในตระกูลถึงพูดว่าตราบใดที่ตระกูลเวินมีเวินชิงเฉวียน พวกเขาจะสร้างชื่อเสียงเลื่องลือในหมู่ขั้วอำนาจสูงสุดในมหาพันภพ เพราะเจ้ามีทักษะสายเลือดติดตัวนี่เอง…” ยามนี้สายตาของหวู่ทงเย็นเยือกลงด้วยความตั้งใจฆ่าวูบไหวในดวงตา แม้ว่าทักษะสายเลือดจะไม่ให้ประโยชน์อะไรกับนางมากนัก แต่สามารถช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มตัวเองได้

และในการต่อสู้ใหญ่ การเพิ่มขึ้นเช่นนี้จะทำให้ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น

“แต่น่าเสียดาย… วันนี้หงส์ฟ้าตระกูลเวินจะต้องถูกเด็ดปีกฝังอยู่ในสุสานนี้!”

พูดจบ คนสวมชุดสีเทาสองคนที่อยู่ข้างๆ หวู่ทงก็ก้าวออกมา เสื้อผ้าของพวกเขาฉีกออกเป็นชิ้นๆ ทำให้เห็นร่างกายที่ปกคลุมไปด้วยอักขระโบราณ ซึ่งดูราวกับโซ่ร้อยเข้าไปในเนื้อและกระดูกของทั้งสอง

ดวงตาของทั้งสองเปลี่ยนเป็นแดงฉานโดยไม่มีริ้วอารมณ์ใดๆ พวกเขาราวกับสัตว์อสูรกำลังคำรามเสียงก้องลำคอ อักขระบนพื้นผิวร่างกายก็เปล่งประกายเงาสีแดงเข้ม

แกร็ก

ร่างกายของพวกเขาเริ่มขยายขนาดด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ จากนั้นไม่กี่ลมหายใจก็ราวกับยักษ์สองตัวยืนจังก้าในถ้ำ ความผันผวนของพลังงานรุนแรงกำจายจากร่างกาย

เมื่อพิจารณาจากคลื่นพลัง พวกเขาก็มาถึงระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็มแล้ว!

“เพื่อขุมทรัพย์นี้ ข้าได้นำองครักษ์เงาชั้นแนวหน้ามาด้วย แม้ว่าพวกเขาจะหมดสมรรถภาพหลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ ก็คุ้มค่ากับมรดกที่จะได้รับ”

มองไปที่เวินชิงเฉวียน หวู่ทงก็คลี่ยิ้มร้ายกาจ “นอกจากนี้ยังมีหงส์ฟ้าของตระกูลเวินที่จะถูกฝังไว้กับพวกเขาด้วย”

ใบหน้าของเวินชิงเฉวียนและเวินจื่อหยู่เปลี่ยนไป คู่ต่อสู้ของพวกเขาแข็งแกร่งไป มองมุมนี้อีกฝ่ายมีจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มถึงสี่คนเลยทีเดียว!

ดูท่าตระกูลหวู่จะยอมจ่ายราคาแพงระยับสำหรับมรดกนี้จริงๆ

“สถานการณ์ไม่สู้ดี พวกเราถอยก่อน” เวินชิงเฉวียนสูดหายใจเข้าลึกๆ หันไปพูดกับพวกมู่เฉิน แม้ว่ามรดกจะมีค่า แต่ชีวิตก็สำคัญกว่า

มู่เฉินยิ้มเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว สายตามององครักษ์เงาที่เปล่งคลื่นรุนแรง ก่อนจะกำมืออย่างช้าๆเปล่งเสียงออกมา

ทว่าคำพูดของเขาทำให้พวกเวินชิงเฉวียนตกใจไปเลยทีเดียว

“ปล่อยองครักษ์เงาสองคนนั่นให้ข้า ชิงเฉวียน เจ้ามองหาโอกาสคว้ามรดกมาซะ”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset