หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1312 เสริมทัพ

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1312 เสริมทัพ

ตู้ม!

เสียงแผ่นดินพิโรธดังก้องไปทั่วขอบฟ้า กรงเล็บขนาดใหญ่ก็ปะทะกับห่ากระบี่จังใหญ่

ทันทีที่เกิดการปะทะ มิติก็ยุบตัวกลายเป็นหลุมดำ

กรงเล็บมังกรมหึมากำจายคลื่นการทำลายล้าง ทำให้กระบี่เหล่านั้นแตกสลายอย่างน่าสยอดสยอง

แกร็ก แกร็ก แกร็ก!

กระบี่แตกออกอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นแสงระยิบระยับบินว่อนบนท้องฟ้า

เปลือกตาของหวู่ทงกระตุกกับฉากนี้ เขาไม่คิดว่ากระบวนท่านี้ของมู่เฉินจะทรงพลังมากขนาดนี้

“หึ ข้าไม่เชื่อว่าแกจะทำลายเงากระบี่หมื่นเล่มนี้ได้!” หวู่ทงกัดฟัน จากนั้นก็ควบคุมกระบี่ทั้งหมดเล็งไปที่กรงเล็บมังกร

ปัง ปัง!

กรงเล็บมังกรปะทะกับห่ากระบี่อย่างไม่รู้จบ แต่ภายใต้ผลกระทบนี้ความเร็วของกรงเล็บมังกรก็ลดลง แม้แต่ลวดลายจั้นเหวินก็หม่นลง

มองฉากนี้ แววเยาะเย้ยก็ปรากฏบนใบหน้าของหวู่ทง แต่ก็เพียงชั่วอึดใจก่อนที่ท่าทางของเขาจะแข็งค้างอีกครั้ง

เนื่องจากเขาเห็นว่าแม้ว่ากระบี่จะทำให้กรงเล็บมังกรช้าลง แต่มันก็ยังคงเคลื่อนที่อย่างช้าๆ มาที่ทิศทางของเขา

“เจ้านั่นกลั่นรัศมีจั้นยี่ออกมาหนาแน่นเช่นนี้ได้ยังไง?!”

ม่านตาหวู่ทงหดลง ในแง่ของลวดลายจั้นเหวินเขาควรจะได้เปรียบบ้าง แต่เห็นได้ชัดว่ารัศมีจั้นยี่ของมู่เฉินทนทานและแข็งแกร่งกว่าเขา!

จากมุมหนึ่ง นี่ไม่ได้หมายความว่ามู่เฉินเหนือกว่าเขาในแง่ของคุณภาพเมื่อควบคุมรัศมีจั้นยี่ของกองทัพมังกรดำรึ?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ใบหน้าของหวู่ทงก็เขียวคล้ำลงหลายส่วน นี่เป็นสิ่งที่เขายอมรับไม่ได้

แม่ทัพมังกรดำก็เงยหน้ามองมู่เฉินด้วยความประหลาดใจ ในฐานะแม่ทัพ เขาเข้าใจรัศมีของกองทัพเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงสามารถบอกได้ว่ามู่เฉินสามารถควบคุมรัศมีจั้นยี่ได้คล่องตัวกว่าหวู่ทง

ด้วยปริมาณที่ใกล้เคียงกันของลวดลายจั้นเหวิน รัศมีจั้นยี่ที่มู่เฉินรวบรวมแข็งแกร่งและประณีตกว่าหวู่ทง

บนท้องฟ้ามู่เฉินมองกรงเล็บมังกรที่เคลื่อนเข้าใกล้หวู่ทงภายใต้การกีดขวางของกระบี่ เขาก็สูดหายใจเข้าลึก ดวงตาคมชัดขึ้น

ตู้ม!

ทันใดนั้นกรงเล็บมังกรก็กำกลายเป็นกำปั้นพร้อมกับรัศมีจั้นยี่ไร้ขอบเขตทะยานขึ้น ดูราวกับไม่มีที่สิ้นสุดและปลดปล่อยความรุนแรงที่อธิบายไม่ได้

“แตก!”

มู่เฉินตะเบ็งเสียง หมัดมังกรก็ชกออกไป กระบี่นับไม่ถ้วนพังทลายลงในทันที

ชี่ ชี่!

หมัดมังกรกระแทกลงบนกระบี่เหล่านั้นอย่างรุนแรง แม้ว่าหมัดจะปกคลุมด้วยรอยร้าว แต่ก็ยังคงพุ่งไปหาหวู่ทงด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว

เมื่อเงาแผ่ปกคลุมลงมาจากท้องฟ้า ท่าทางของหวู่ทงก็เปลี่ยนไป เขาขบฟันแน่น กระบวนท่าในมือเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ฮึ่ม ฮึ่ม!

มหาสมุทรรัศมีจั้นยี่ที่ไร้ขอบเขตกวาดออกก่อตัวเป็นชั้นม่านขัดขวางหมัดมังกร

ปัง ปัง!

หมัดมังกรปะทะกับชั้นม่านเหล่านั้น พวกมันเริ่มแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่เมื่อม่านพังทลายลง ลวดลายจั้นเหวินบนหมัดมังกรก็มืดลงเนื่องจากอ่อนกำลัง

ในเวลาไม่กี่ลมหายใจม่านพลังหลายร้อยชั้นที่หวู่ทงสร้างขึ้นก็ถูกทำลายโดยหมัดมังกร แต่เมื่อชั้นสุดท้ายพังลงมา กำปั้นมังกรก็มาถึงขีดจำกัด พังตัวลงขณะที่อยู่ห่างจากหวู่ทงไม่กี่สิบจั้ง

หึ

แรงกระแทกจากการแตกสลายของหมัดมังกรส่งผลกระทบต่อหวู่ทง ผมเขากระจายออก เสื้อผ้าก็ขาดวิ่น สภาพดูน่าสังเวชนัก

“สุดท้ายก็ถูกสกัดได้งั้นเหรอ?” ดวงตาของมู่เฉินหดลงกับฉากนี้ การโจมตีนี้รุนแรงที่สุดที่เขาสามารถใช้ได้ แต่ไม่คิดว่าหวู่ทงจะสามารถต้านทานได้

ความยากในการจัดการของชายคนนี้ ชัดว่าเกินความคาดหมายของมู่เฉินไป

เมื่อหวู่ทงเห็นว่าตนอยู่ในสภาพน่าสมเพชเนื่องจากถูกบีบโดยมู่เฉิน ใบหน้าของเขาก็มืดมนอย่างน่ากลัว เขามองไปที่มู่เฉินจากระยะไกล สายตาราวกับว่าต้องการขบหัวอีกฝ่ายให้ขาด

ตอนแรกเขาคิดว่าน่าจะง่ายสำหรับตนเองที่จะจัดการกับมู่เฉิน แต่หลังจากที่พวกเขาต่อสู้ เขาก็ตระหนักว่าคู่ต่อสู้คนนี้ที่เขาไม่เคยสนใจจะจัดการยากเพียงนี้

เขาเริ่มรู้สึกเสียใจ หากเขารู้เรื่องนี้ก่อนละก็ เขาจะจ่ายทุกอย่างที่มีเพื่อไม่ให้มู่เฉินตามเข้ามาในมิตินี้

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าต้องได้รับกองทัพมังกรดำ!” หวู่ทงจ้องมองอย่างเย็นชา ดูเหมือนวิธีการปกติจะไม่สามารถจัดการกับมู่เฉินได้แล้ว

“ในเมื่อแกรนหาที่ตาย ข้าจะเติมเต็มความปรารถนาให้เอง!”

ใบหน้าของหวู่ทงโหดเหี้ยมขึ้น จากนั้นเขาขบฟันเม็ดยาเล็กๆ ซึ่งซ่อนอยู่ในซอกฟันก็หลุดเข้าไปในลำคอ

ตู้ม!

เมื่อเม็ดยาเข้าไปในท้อง ร่างกายของเขาก็สั่นไหว พลังงานทรงประสิทธิภาพหลั่งออกมาจากร่างกาย แม้แต่คลื่นจิตก็เริ่มพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรง

เม็ดยาที่เขากินเข้าไปนั้นเรียกว่ายาจั้นยี่ ชื่อก็บอกโดยนัยอยู่แล้วว่าสามารถเพิ่มรัศมีจั้นยี่ในร่างกายได้ แม้ว่าฤทธิ์ทางยาจะมีประสิทธิภาพ แต่ก็มีผลสะท้อนกลับเช่นกัน ถ้าเขาประมาท คลื่นจิตก็จะเกิดการคลอนแคลน สุดท้ายแม้แต่จิตใจก็จะพังทลาย

ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ พยายามต่อต้านอาการวิงเวียนรุนแรงในห้วงแห่งจิต จากนั้นเขาก็ประสานมือ ในช่วงเวลาต่อมาคลื่นจิตที่ทรงพลังก็ระเบิดออกห่อหุ้มกองทัพมังกรดำเบื้องล่างไว้

เขาคิดจะเพิ่มจำนวนนักรบ!

ฟิ้ว ฟิ้ว!

ภายใต้ความตั้งใจ ร่างเงามากมายก็ทะยานขึ้นไปบนฟ้า ในไม่ช้านักรบอีกหนึ่งพันคนก็เข้าร่วมที่ด้านหลังของเขา

“หืม?”

เมื่อแม่ทัพเห็นสิ่งนี้ คิ้วก็ขมวดเข้าหากันทันที เขาสามารถสัมผัสได้ถึงคลื่นจิตที่พวยพุ่งฉับพลันของหวู่ทง แต่จากการประเมินความสามารถของหวู่ทงและมู่เฉินในการควบคุมกองทัพมังกรดำอยู่ที่จำนวนนักรบประมาณหนึ่งพันคนเท่านั้น

“เป็นไปได้ยังไง?!” ม่านตาของมู่เฉินหดลงกับภาพดังกล่าว ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาปะทะกับอีกฝ่าย เขาก็รู้ถึงความสามารถที่หวู่ทงมี ด้วยความสามารถนั้นเป็นไปไม่ได้ที่หวู่ทงจะควบคุมนักรบมังกรดำถึงสองพันคน!

หากเขาฝืนทางของตนเอง รัศมีจั้นยี่ทรงพลังจะทำลายสติสัมปชัญญะของเขาทางเดียว

มู่เฉินขมวดคิ้วมองไปที่หวู่ทง เมื่อเห็นดวงตาสีแดงของอีกฝ่าย เขาก็คาดเดาได้ว่าหวู่ทงจะต้องใช้ทักษะลับในการเพิ่มรัศมีจั้นยี่แน่นอน ไม่เช่นนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะรวบรวมนักรบอีกพันคน

“ไอ้เวร ข้าจะดูสิว่าแกจะสู้กับข้าตอนนี้ยังไง!”

นักรบมังกรดำสองพันคนปลดปล่อยรัศมีจั้นยี่ขึ้นสู่ท้องฟ้า อันที่จริงถึงขนาดทำให้ท้องฟ้าบิดเบี้ยวเนื่องจากพลังของรัศมีจั้นยี่ที่อยู่เบื้องหลังหวู่ทงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัว

หวู่ทงแสยะยิ้มให้มู่เฉินขณะยกมือขึ้นแตะบนท้องฟ้า

ตู้ม!

ท้องฟ้าสั่นสะเทือน ลำแสงรัศมีจั้นยี่ขนาดหมื่นจั้งยิงออกมาจากมหาสมุทรรัศมีจั้นยี่เบื้องหลังหวู่ทงทันที เจาะทะลุมิติแล้วยิงเข้าใส่มู่เฉินไม่มียั้ง

เมื่อมู่เฉินเห็นภาพนี้ เขาก็วาดตราประทับเร็วจี๋ รัศมีจั้นยี่ไร้ขอบเขตรวมตัวกันเป็นกรงเล็บมังกรอีกครั้ง พุ่งเข้าใส่ลำแสงรัศมีจั้นยี่

ปัง!

พลังงานทั้งสองปะทะกัน แต่ครั้งนี้เป็นกรงเล็บมังกรที่พังทลายลง

สายตาของมู่เฉินมืดครึ้ม รัศมีจั้นยี่ของหวู่ทงเหนือชั้นกว่าเขาอย่างสมบูรณ์ในขณะนี้

“ฮ่าๆ แกโอหังนักไม่ใช่หรือ?!” เมื่อเห็นว่ามู่เฉินถูกระงับไว้เต็มที่ หวู่ทงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะร่วน เขาสะบัดแขนเสื้อ รัศมีจั้นยี่ก็ยิงออกมา ขอบฟ้าโยกคลอนไปหมดเมื่อมันพุ่งเข้าใส่มู่เฉิน

ภายใต้การโจมตีของหวู่ทง แม้ว่ามู่เฉินจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปกป้อง แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ กลุ่มเมฆรัศมีจั้นยี่ที่อยู่เบื้องหลังลดขนาดลงเช่นกัน

ตอนนี้ชัดว่าเขาเริ่มแสดงสัญญาณพ่ายแพ้แล้ว

เมื่อแม่ทัพมังกรดำเห็นมู่เฉินที่ต้องถอยอย่างต่อเนื่อง เขาก็ขมวดคิ้วเพราะตัวเขาก็รู้สึกว่าหวู่ทงต้องใช้ทักษะลับบางอย่างแน่ ทว่าก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้ตั้งกฎไว้ชัดเจน มีเพียงชัยชนะเท่านั้นที่เป็นตัวตัดสิน

โลกนี้เต็มไปด้วยความอยุติธรรม บางครั้งผลลัพธ์สำคัญที่สุด

นักรบมังกรดำถอนหายใจด้วยความสงสาร เนื่องจากเลือดมังกรที่พวกเขาครอบครอง ทำให้พวกเขาโน้มเอียงไปทางมู่เฉินมากกว่า แต่พวกเขาคือนักรบดังนั้นพวกเขาจะเลือกผู้ที่ชนะเท่านั้น

หากมู่เฉินไม่สามารถเอาชนะได้ นั่นก็หมายความว่าพวกเขาไม่ได้มีชะตาต่อกัน ในเมื่อเป็นกรณีนี้พวกเขาก็ไม่สามารถบังคับอะไรได้

ตู้ม ตู้ม!

ขณะที่รัศมีจั้นยี่ทะลุผ่านขอบฟ้าก็ทำลายการป้องกันของมู่เฉินเป็นเสี่ยงๆ จนสุดท้ายกลุ่มเมฆรัศมีจั้นยี่ก็เบาบางลงและกำลังจะแตกสลาย

ทว่าไม่มีใครสังเกตเห็นว่าถึงแม้ว่ามู่เฉินจะถอยร่นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่มีริ้วความหวาดกลัวบนใบหน้าเลย ตรงกันข้ามกลับมีแสงเย็นค่อยๆ ควบแน่นในดวงตา

มือในแขนเสื้อวาดตราประทับไว้เรียบร้อย ราวกับกำลังรออะไรบางอย่างอยู่

“เอางี้ ถ้าแกคุกเข่าต่อหน้าข้าตอนนี้ ข้าอาจจะไว้ชีวิตแกก็ได้!” หวู่ทงยืนขึ้นหัวเราะร่าด้วยสีหน้าน่ากลัว เวลานี้ชัยชนะอยู่ในกำมือเขาแล้ว

นักรบมังกรดำสองพันคนที่รัศมีจั้นยี่รวมเข้าด้วยกัน ไม่ใช่สิ่งที่มู่เฉินจะเผชิญหน้าได้

ทว่ามู่เฉินกลับยิ้มอ่อนตอบ

“งั้นก็ตายซะ!”

หวู่ทงแสยะยิ้มน่ากลัว ไม่มีความลังเลอีกต่อไป มือของเขาประสานกัน รัศมีจั้นยี่ที่ไร้ขอบเขตก็กลายเป็นหอกขนาดหลายแสนจั้ง ซึ่งปกคลุมไปด้วยลวดลายจั้นเหวินถึงแปดล้านห้าแสนลาย!

จำนวนนี้เป็นบางสิ่งที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มยังต้องหลบหนีเมื่อเผชิญหน้ากัน!

จ้องมองไปที่หอก นิ้วของมู่เฉินก็สั่นไหว ก่อนที่รอยยิ้มโล่งอกจะปรากฏบนใบหน้า

“ในที่สุดก็เรียบร้อยแล้วสินะ”

มู่เฉินเงยหน้าขึ้นยิ้มให้กับหวู่ทง “ข้าจะสอนบทเรียนให้แกในวันนี้…เมื่อต่อสู้ก็อย่าพล่ามไร้สาระ ไม่เช่นนั้นจะต้องเสียใจ”

เมื่อพูดจบตราประทับที่วาดในแขนเสื้อก็เปลี่ยนไป

“วิชาสามพิสุทธิ์!”

ปุ ปุ!

ตราประทับเปลี่ยนแปลงวูบไหว มิติก็บิดเบี้ยวรอบตัว เงาร่างมู่เฉินชุดดำและชุดขาวก็ปรากฏขึ้น!

เมื่อพวกเขาปรากฏตัวก็นั่งลงทันที คลื่นจิตอันทรงพลังก็กวาดออกไปก่อนที่จะตะโกนก้องฟ้า

“รวมพล!”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset