หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1333 กราบศพเทพสามครั้ง

หวือ หวือ!

พายุสีเหลืองคำรามลั่นในเจดีย์ ขณะที่พัดเข้าหามหาสมุทรรัศมีศพ สีหน้าของซือเทียนโยวที่ยืนอยู่ในมหาสมุทรซากศพก็เคร่งเครียดลงหลายส่วน ราวกับว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ

ชี่ ชี่!

ทันใดนั้นเมื่อพายุสีเหลืองสัมผัสกับรัศมีศพ รัศมีที่หนาแน่นก็สลายไปอย่างรวดเร็ว

ความรู้สึกนั้นราวกับหิมะต้องลาวา

ดวงตาของมู่เฉินสว่างวาบกับภาพเบื้องหน้า พายุหลอมวิญญาณไม่เพียงแต่ละลายคลื่นหลิง แต่ยังมีผลเช่นเดียวกันกับรัศมีศพด้วย

จากการแลกกระบวนท่าเมื่อครู่ มู่เฉินได้ลิ้มรสความแข็งแกร่งของรัศมีศพแล้ว สิ่งนี้เต็มไปด้วยความสามารถในการกัดกร่อนและยังกลืนกินพลังชีวิตอีกด้วย หากไม่ใช่เพราะคลื่นหลิงเขาถูกขยายผ่านเจดีย์พุทธะเพิ่มพลังผนึกเข้าไปละก็ เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานในสิ่งนี้อย่างแน่นอน

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับพายุหลอมวิญญาณ รัศมีศพของซือเทียนโยวก็สลายหายไปอย่างรวดเร็ว

ภายใต้แนวปกป้องของรัศมีศพ สีหน้าของซือเทียนโยวก็ดูน่าเกลียดมาก พายุหลอมวิญญาณนี้ทำให้เขาตั้งตัวไม่ทัน

ชี่!

พายุสีเหลืองกวาดออกอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ผลกระทบของการละลายจากพายุหลอมวิญญาณ รัศมีศพรอบร่างซือเทียนโยวก็สลายลงไปเรื่อยๆ

ไม่ว่าซือเทียนโยวจะพยายามเสริมรัศมีศพอย่างไร ก็ไม่สามารถขัดขวางการสลายตัวนี้ได้

ดังนั้นไม่กี่นาทีต่อมารัศมีศพรอบตัวก็หมดลงอย่างสมบูรณ์ เผยให้เห็นร่างของซือเทียนโยว

“ไป”

มู่เฉินชี้นิ้วด้วยสายตาเย็นชา พายุหลอมวิญญาณก็ส่งเสียงหวีดหวิวพุ่งเข้าไป ก่อนหน้านี้เพียงแค่จัดการแนวป้องกันของซือเทียนโยว ลำดับต่อไปต้องทำให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัส

พายุสีเหลืองล้อมรอบร่างซือเทียนโยวที่พยายามหลบหนี ทันใดนั้นเสื้อผ้าของเขาก็ขาดวิ่นเผยให้เห็นร่างซีดแห้งเหี่ยว แม้จะดูผอมราวกับโครงกระดูก แต่ก็มีแสงสีดำกะพริบอยู่บนพื้นผิวทำให้ดูเหมือนเหล็กกล้าที่ทนทาน

แต่นี่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับพายุหลอมวิญญาณ

เส้นใยพายุสีเหลืองกวาดผ่านร่างซือเทียนโยว ผิวซีดของเขาก็ฉีกออกจากกัน บาดแผลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแสดงสัญญาณว่ากำลังสลายกลายเป็นฝุ่น

ซือเทียนโยวพยายามหลบหนี แต่พายุหลอมวิญญาณก็ตามติดไปอย่างใกล้ชิด

การไล่ล่าครั้งนี้กินเวลาไม่กี่นาที ร่างซือเทียนโยวก็กลายเป็นสภาพน่าสมเพช ทั่วร่างเต็มไปด้วยบาดแผล แม้แต่รัศมีศพที่ปกคลุมก็เบาบางลง

เผชิญหน้ากับพายุหลอมวิญญาณที่ไม่สามารถป้องกันได้ แม้แต่ซือเทียนโยวก็ทำอะไรไม่ถูก

“ฉิบหาย!”

ซือเทียนโยวคำราม ถ้าเป็นการปะทะซึ่งหน้า เขาก็ไม่กลัวแม้แต่น้อย แต่พายุสีเหลืองที่ผิดปกตินี้ กลับทำให้เขารู้สึกที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“เป็นแบบนี้ต่อไม่ได้!” ซือเทียนโยวคำรามในใจ หากเขายังคงวิ่งหนีพายุหลอมวิญญาณที่ควบคุมโดยมู่เฉินไปเรื่อยๆ แบบนี้ ไม่นานรัศมีศพของเขาก็จะหมดลงอย่างสมบูรณ์ ตอนนั้นเขาคงนอนเป็นปลาบนเขียงให้มู่เฉินแล่เนื้อเถือหนังตามใจชอบ

สายตาของซือเทียนโยววูบไหว ในเวลาต่อมาก็กัดฟันกรอดราวกับว่าได้ตัดสินใจแล้ว

อึดใจต่อมามือเขาก็ประสานกันรัศมีศพหนาแน่นหลั่งไหลออกมาจากรูขุมขน ก่อนที่จะกลายเป็นรังไหมห่อหุ้มเขาไว้

“โล่กำเนิดศพ!”

เมื่อรังไหมห่อหุ้มตัวเอาไว้ เสียงของซือเทียนโยวก็ดังออกมาเบาๆ

ทว่าพายุหลอมวิญญาณก็สลายรังไหมไปอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อถูกสลายไปก็มองเห็นแต่โครงกระดูกแห้ง ร่างของซือเทียนโยวอันตรธานหายไป

ม่านตามู่เฉินหดลงกับภาพที่เห็น ก่อนที่จะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง ใบหน้าเขาเปลี่ยนไป “เขาหนีออกจากเจดีย์ไปแล้วเหรอเนี่ย?”

เขาสัมผัสได้ถึงรัศมีศพที่เป็นของซือเทียนโยวที่ด้านนอกเจดีย์

“ทักษะทดแทนเรอะ? แปลกประหลาดเหลือเกิน” ใบหน้าของมู่เฉินเคร่งเครียดลง เนื่องจากกระบวนท่าของซือเทียนโยวครั้งนี้พิเศษอย่างมาก โครงกระดูกนี้แลกชีวิตแทน ส่วนตัวเขาหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย

ในขณะที่มู่เฉินตื่นตะลึงกับวิธีดังกล่าว เขาก็รู้สึกโชคดีที่สามารถบีบให้ซื้อเทียนโยวใช้วิธีนี้กับพายุหลอมวิญญาณ หากอีกฝ่ายใช้ในช่วงเวลาสำคัญก็จะสามารถหลอกตาได้อย่างสมบูรณ์และใช้โอกาสนี้ในการโจมตี เพื่อพลิกสถานการณ์

“แต่กระบวนท่านี้ต้องมีขอบเขตจำกัด ดังนั้นซือเทียนโยวคงไม่สามารถใช้ได้อีก”

มู่เฉินครุ่นคิดสั้นๆ ก่อนที่จะมองพายุหลอมวิญญาณในเจดีย์ด้วยรอยยิ้ม ที่จริงซือเทียนโยวผวาพายุนี้มาก หลังจากที่ตกไปในสภาพน่าสมเพช หากเขาสงบสติอารมณ์และสังเกตดีๆ ก็จะตระหนักว่าแม้ว่าพายุหลอมวิญญาณจะทรงพลัง แต่เป็นสิ่งที่มีจำกัด เป็นเพียงเรื่องเวลาที่มันจะหมดไป

นั่นเป็นเพราะตอนนี้พายุหลอมวิญญาณเริ่มเบาบางลงเมื่อเวลาผ่านไป

แต่โชคดีที่มู่เฉินบรรลุเป้าหมายเสียก่อน

เขาสะบัดแขนเสื้อ เจดีย์ก็หดตัวลงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะพุ่งเข้ามาสถิตในนัยน์ตา ตัวเขาก็ปรากฏบนแท่นบูชาอีกครั้งพลางมองไปที่ซือเทียนโยวด้วยสายตาเยาะเย้ย

ตอนนี้ซือเทียนโยวดูน่าอนาถมาก ร่างกายซูบซีดปกคลุมไปด้วยบาดแผล เนื้อเต้นยุบยับพยายามที่จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากความเสียหาย

โห่

ทุกคนรอบแท่นบูชาพุ่งความสนใจมายังการเผชิญหน้ากันของทั้งสองพร้อมกับแววตาตกตะลึง พวกเขาไม่คิดมาก่อนว่าในเวลาเพียงสิบนาทีหลังจากที่มู่เฉินดึงซือเทียนโยวเข้าไปในเจดีย์ อีกฝ่ายจะกลับออกมาด้วยสภาพเช่นนี้

เกิดอะไรขึ้นในเจดีย์กันถึงทำให้ซือเทียนโยวดูน่าสมเพชขนาดนี้?

ผู้คนแลกเปลี่ยนสายตากันด้วยความสงสัยพล่านในหัวใจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่ามู่เฉินช่างลึกล้ำและไม่อาจหยั่งรู้ได้

มั่วซินและเฉวียนหลัวที่กำลังต่อสู้ก็รู้สึกตกใจ จากนั้นความรู้สึกหวาดผวาหนักจากวิธีของมู่เฉินก็ผุดขึ้นในใจ

ขณะที่เนื้อสีซีดเต้นยุบยับ ซือเทียนโยวก็เขม่นมองมู่เฉินด้วยสายตาน่ากลัวยิ่งขึ้น ตอนนี้เขาราวกับหมาป่าดุร้ายที่กำลังวางแผนการตอบโต้ ขณะที่เลียบาดแผลของตัวเองไปด้วย

“ไม่คิดว่าจะมีวันที่ข้าซือเทียนโยวตกอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชเช่นนี้” เสียงของซือเทียนโยวฟังราวกับสะท้อนมาจากนรก จิตสังหารเข้มข้นทำเอาหัวใจของผู้คนต้องตัวแข็งทื่อ

เมื่อเห็นสายตาของซือเทียนโยว ม่านตามู่เฉินก็หดลงก่อนที่ร่างกายจะค่อยๆ เกร็งเครียดขึ้น ยามนี้ซือเทียนโยวราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจะคลั่ง

ทันใดนั้นดวงตาของซือเทียนโยวก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว ไม่กี่ลมหายใจต่อมาทั้งนัยน์ตาก็ขาวโพลนพร้อมกับรูม่านตาหายไป

ดวงตาสีขาวคู่นั้นประหนึ่งดวงตาเทพแห่งความตาย เปล่งรัศมีความตายที่น่ากลัวออกมา

เมื่อมองไปที่ดวงตาคู่นั้น คลื่นหลิงก็พวยพุ่งออกมาจากร่างของมู่เฉินทันที กลายเป็นร่างสีม่วงทองที่เบื้องหลัง เขาเร้าร่างเทพสุริยะนิรันดร์ออกมาทันที

นั่นเป็นเพราะเขาสัมผัสได้ถึงอันตรายที่ไม่อาจอธิบายได้จากดวงตาคู่นั้น ทำให้เขาเรียกร่างเทพสุริยะนิรันดร์ออกมาโดยสัญชาตญาณเพื่อได้รับการป้องกันที่ทรงพลังที่สุด

ร่างของซือเทียนโยวค่อยๆ ลอยขึ้นก่อนที่จะคุกเข่าบนท้องฟ้าพร้อมกับร่างแห้งเหี่ยวยิ่งเหี่ยวเฉาลงเรื่อยๆ ราวกับว่าพลังทั้งหมดในเนื้อหนังถูกบีบออก

ร่องรอยสีซีดเล็ดลอดออกมาจากเนื้อหนัง ก่อนที่จะหลอมรวมกับรัศมีศพข้างหลัง ค่อยๆ ก่อร่างเป็นยักษ์สีซีดที่มีความสูงพันจั้ง

ร่างยักษ์พร่าเลือนดูเหมือนจะสวมมงกุฎสีดำถือเคียวสีขาวพร้อมปลดปล่อยรัศมีความตายดุเดือดรุนแรง มองคล้ายเทพแห่งความตายยาตราขึ้นมาบนโลกมนุษย์

รัศมีความตายไม่มีที่สิ้นสุดกระจายไปทั่วสวรรค์และโลก ทำให้การต่อสู้บริเวณโดยรอบหยุดชะงักลง คนทั้งหมดพุ่งมองไปที่แท่นบูชาด้วยสายตาหวาดผวา

“นั่นมันอะไร?”

เมื่อมั่วซินและเฉวียนหลัวเห็นเงายักษ์นั้น สายตาก็ปรากฏความตกตะลึง ชัดว่ารู้สึกถึงกลิ่นอายอันตรายหนาแน่นจากบนนั้น

เมื่อจอมยุทธ์เผ่าเหยียนหมัวและเผ่าเตาหมัวเห็นภาพนี้ ความกลัวก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า ก่อนที่พวกเขาจะแลกสายตาอุทานขึ้นว่า “ซือเทียนโหยวเรียนรู้ทักษะเทพของเผ่าซือหมัวได้สำเร็จหรือเนี่ย!”

พวกเขาอดไม่ได้ที่จะฉายแววตกตะลึงมองไปที่มู่เฉิน การที่จะบังคับซือเทียนโยวมาถึงจุดนี้ได้ ชายหนุ่มคนนั้นจะต้องมีพลังน่าเหลือเชื่อ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ทัพเผ่าเหยียนหมัว เขารู้สึกโชคดีที่ตอนต่อสู้กับมู่เฉิน อีกฝ่ายไม่ได้จริงจัง ไม่เช่นนั้นเขาไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าจะหลบหนีออกมาได้

กระทั่งจอมยุทธ์ที่ทรงพลังอย่างซือเทียนโยวยังถูกบังคับให้ต้องใช้ทักษะนี้ ดังนั้นสามารถจินตนาการได้ว่ามู่เฉินร้ายกาจแค่ไหน

ท่ามกลางสายตาตกตะลึงมากมาย ม่านตามู่เฉินก็หดเกร็งลง รังสีอันตรายนั้นทำให้หัวใจเขาเต้นไม่เป็นส่ำ จากนั้นเขาก็หายใจเข้าลึก รหัสเทพอมตะหลายสิบลวดลายเริ่มรวมตัวเป็นหอกยาวซัดใส่ซือเทียนโยว

เขาต้องหยุดไม่ให้อีกฝ่ายทำสำเร็จ

ปัง!

แต่หอกกลับแตกออกเมื่ออยู่ห่างจากซือเทียนโยวอีกหลายสิบจั้ง ก่อนที่สลายเป็นอากาศธาตุ

ซือเทียนโยวไม่ได้สนใจกับการรบกวนของมู่เฉิน ดวงตาสีขาวขุ่นจ้องมองมู่เฉินโดยไม่มีริ้วอารมณ์ใดๆ จากนั้นเขาก็คุกเข่าลงไปในทิศทางของมู่เฉิน

ขณะเดียวกันร่างยักษ์ที่อยู่ข้างหลังก็ทำเช่นกัน

เสียงที่อัดแน่นด้วยเจตนาฆ่าไร้ขอบเขตสะท้อนออกมา

“กราบศพเทพสามครั้ง!”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset