หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1383 สงครามใหญ่กำลังจะปะทุ

ภูเขามหึมาตั้งตระหง่านระหว่างชั้นฟ้าชั้นดิน

ช่างดูยิ่งใหญ่เหลือเชื่อ เชื่อมโยงผืนดินกับผืนเมฆบนฟ้าเข้าด้วยกัน เมื่อมองจากด้านบนก็ราวกับเป็นจุดสูงสุดในโลก

นี่คือภูเขาเซิ่งหลงอันศักดิ์สิทธิ์ แต่ตอนนี้กลับถูกย้อมจนแดงฉาน กลิ่นเลือดกระจายออกไปทำให้แม้แต่ท้องฟ้าก็ยังเป็นสีแดง

กระทั่งสายน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขาก็เป็นสีแดงเหมือนเลือดสด ทำให้สถานที่ทั้งหมดดูราวกับสถานที่เพาะบ่มปีศาจ

ในบางครั้งจะเห็นแสงสีแดงเข้มระยิบระยับมาจากภูเขา

ขณะนี้รัศมีสีแดงเข้มแผ่ซ่านไปในส่วนลึกของภูเขา ร่างเงาสามร่างยืนอยู่เบื้องหน้าเหวโดยมีรัศมีสีแดงเข้มผันผวนรอบตัว ทำให้มิติโดยรอบแปรปรวน

ในบรรดาทั้งสามคน หนึ่งในนั้นมีใบหน้าซีดขาวพร้อมสัญลักษณ์สีแดงเข้มอยู่บนหน้าผาก ซึ่งปลดปล่อยความผันผวนที่น่าสยดสยอง

ทั้งสองคนที่เยื้องไปข้างหลังก็สาดสายตาน่ากลัวราวกับหมาป่าดุร้ายพร้อมกับความเกรี้ยวกราดไร้ขอบเขตวูบไหวในดวงตา

คนที่มีสัญลักษณ์บนหน้าผากหันกลับมาพูดอย่างไม่แยแส “ตอนนี้แทบจะยืนยันได้แล้วว่ามีบางคนกำลังเคลื่อนไหวต่อต้านเผ่าเสี่ยเสียของเรา และพวกมันจับผู้บัญชาการทั้งสามไป”

ขณะที่พูด ใบหน้าของผู้บัญชาการปีศาจโลหิตอีกสองคนก็อดเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แม้พวกเขาจะคาดไว้ก่อนมาแล้ว แต่เมื่อได้รับการยืนยันก็ยังรู้สึกตกตะลึงไม่ได้

เพราะพวกเขาอยู่ยงคงกระพันในโลกนี้มานานแล้ว จอมยุทธ์ที่นี่ไม่มีค่าในสายตาของพวกเขาเลย แต่ตอนนี้ทำไมถึงมีศัตรูทรงพลังปรากฏตัวขึ้น?

“น่าจะเป็นคนจากมหาพันภพ” ผู้บัญชาการปีศาจโลหิตที่มีสัญลักษณ์บนหน้าผากกล่าวอย่างเย็นชา

“บ้าเอ๊ย!” ใบหน้าของอีกสองคนสั่นสะท้านขณะที่สาปส่ง ถ้าเป็นจอมยุทธ์จากมหาพันภพจริงๆ สถานการณ์ก็จะลำบากแล้ว พวกเขารู้ว่าประชากรที่อาศัยในโลกนี้ไม่มีใครเทียบได้กับมหาพันภพ ความแข็งแกร่งที่นั่นเป็นอะไรที่ไม่อาจมองข้ามได้

“แต่จากการคาดการณ์ของข้ามันน่าจะยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่ระดับเทียนจื้อจุน อย่างมากก็มีพลังพอๆ กับเรา” ผู้บัญชาการปีศาจโลหิตที่มีสัญลักษณ์บนหน้าผากหรี่ตาขณะที่พูดต่อ “จากสถานการณ์ที่ข้าคำนวณไว้ อีกสามคนน่าจะถูกจัดการไปทีละคนแล้ว ถ้าคนผู้นั้นเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุน จะทำให้ลำบากแบบนี้ทำไม”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น อีกสองคนก็รู้สึกโล่งใจ ตราบใดที่ไม่ใช่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนก็ไม่มีอะไรที่พวกเขาต้องกลัว ถ้าพวกเขาสามคนรวมพลังกัน แม้แต่จอมยุทธ์ลึกลับจากมหาพันภพก็ยังต้องหวาดกลัว

“ถ้างั้นเราจะทำยังไงกันดี?” อีกสองคนมองไปที่ชายที่มีสัญลักษณ์บนหน้าผาก

สัญลักษณ์บนหน้าผากเต้นยุบยับก่อนเขาจะพูดว่า “ออกคำสั่งเรียกระดมพลเผ่าเสี่ยเสียกลับมายังภูเขาเสี่ยหมัวทั้งหมด”

อีกสองคนตกใจก่อนที่จะพูดว่า “พี่ใหญ่แล้วเมืองที่ปกครองล่ะ?”

ผู้บัญชาการที่มีสัญลักษณ์บนหน้าผากเอ่ยเสียงแผ่วเบา “ดูเหมือนพวกเจ้ายังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน ถ้าเราล้มเหลวเมืองเหล่านั้นจะมีประโยชน์อะไรอีก?”

“เจ้านั้นแข็งแกร่งขนาดนั้นเชียวหรือ?” ผู้บัญชาการปีศาจโลหิตทั้งสองตกใจไป

“ไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหน เราก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด พวกเจ้าต้องจำไว้ เป้าหมายสุดท้ายของเราคืออะไร…” ผู้บัญชาการที่มีสัญลักษณ์บนหน้าผากก้มลงมองไปที่หุบเหว ที่นั่นเป็นมหาสมุทรสีแดงเข้มที่ส่งกลิ่นเหม็นคาวเลือด

ในมหาสมุทรเลือดมีไข่โลหิตมหึมาลอยคว้างอยู่ซึ่งสลักด้วยลวดลายน่ากลัวทุกรูปแบบ ขณะเดียวกันก็ยังเปล่งรัศมีดุร้ายราวกับว่ากำลังหล่อเลี้ยงบางสิ่งอยู่

ผู้บัญชาการปีศาจโลหิตทั้งสามมองไปที่ไข่โลหิตด้วยดวงตาลุกโชน

“เราใช้ความพยายามทุกหยาดหยดเพื่อครอบครองพิภพเขตล่างนี้อย่างลับๆ ไม่ได้แจ้งให้เผ่าอื่นทราบ เพื่อใช้เลือดของสิ่งมีชีวิตที่นี่เลี้ยงดูผู้นำของเรา เมื่อเขาถือกำเนิดขึ้นเผ่าเสี่ยเสียก็จะมีจอมปีศาจสักที!”

“ในเวลานั้นเผ่าเสี่ยเสียก็จะมีตำแหน่งที่ยืนในจักรวรรดิปีศาจ ไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนซากสัตว์!

“แผนของเรามาถึงช่วงสำคัญแล้ว ดังนั้นจะต้องไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น!”

ขณะที่พูดดวงตาก็เปล่งประกายเย็นชา ก่อนที่เขาจะหันไปหาพรรคพวกอีกสองคน “แต่พวกเจ้าไม่ต้องกังวลมากเกินไป ข้าแค่เตรียมการสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดเท่านั้น สำหรับผู้บุกรุกในเมื่อมันโจมตีผู้บัญชาการปีศาจโลหิตคนอื่นๆ แบบลอบกัด นั่นก็หมายความว่าพลังของมันน่าจะเหนือกว่าพวกเขาเล็กน้อย ดังนั้นมันไม่กล้ามาที่ภูเขาปีศาจเสี่ยหมัวแน่”

ผู้บัญชาการปีศาจโลหิตทั้งสองพยักหน้า ตอนนี้ทั้งสามประจำการอยู่ที่ภูเขาเสี่ยหมัว ไม่มีทางแยกออกจากกันแน่ ตราบใดที่จอมยุทธ์จากมหาพันภพไม่ได้อยู่ในระดับเทียนจื้อจุน การเข้ามาที่นี่ก็เท่ากับเดินเข้าสู่ความตาย

ตอนนี้พวกเขาปล่อยให้ชายคนนั้นลิงโลดไปก่อน ตราบใดที่จอมปีศาจของพวกเขาถือกำเนิดขึ้นแล้ว พวกเขาจะคืนทุกอย่างให้เป็นร้อยเท่า…

 

ที่ราบรกร้าง

มู่เฉินและไป๋ซู่ซู่ยืนอยู่บนยอดเขาโดดเดี่ยว มู่เฉินมองไปที่เมืองห่างไกลด้วยดวงตาหรี่ลง “สมาชิกเผ่าเสี่ยเสียเคลื่อนพลออกจากเมืองตลอดเวลา…”

“พวกมันกำลังไปรวมพลที่ภูเขาเสี่ยหมัว” ใบหน้าของไป๋ซู่ซู่เคร่งเครียดลงหลายส่วนขณะที่พูดต่อ “ดูเหมือนว่าผู้บัญชาการปีศาจโลหิตทั้งสามจะจับสังเกตได้แล้ว”

มู่เฉินพยักหน้า แต่ก็ไม่ได้แปลกใจอะไร นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยที่เกิดการขาดการติดต่อของผู้บัญชาการปีศาจโลหิตสามคนในเวลาเดียวกัน ดังนั้นไม่ว่าอีกสามคนจะโง่แค่ไหนก็ต้องระแวงบ้าง

“พวกมันรู้สึกถึงอันตราย ดังนั้นจึงเริ่มเรียกระดมพล” ไป๋ซู่ซู่ขมวดคิ้วก่อนจะหันไปหามู่เฉิน “ท่านเทพ เราจะทำยังไงดี?”

ผู้บัญชาการปีศาจโลหิตทั้งสามกำลังรอการมาถึงของมู่เฉินอย่างชัดเจน ถ้าเขาไปถึงก็จะเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ขึ้น

มู่เฉินยิ้ม “ทำยังไงได้ล่ะ? ก็ลุยขึ้นเขากันเลย”

เขาพูดเป็นกันเองราวกับว่าไม่ได้มุ่งหน้าสู่ดินแดนอันตราย แต่ไปเพื่อกินลมชมวิว

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา กระทั่งสตรีอย่างไป๋ซู่ซู่ก็อดไม่ได้ที่เลือดจะเดือดพล่าน นางเม้มริมฝีปาก “ในเมื่อท่านเทพมั่นใจขนาดนี้ งั้นครั้งนี้พวกเราขอติดตามท่านไปด้วย”

มู่เฉินยิ้มขณะที่จะพูดเขาก็มองไปในระยะไกลด้วยความประหลาดใจ รัศมีนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นที่นั่นราวกับคลื่นยักษ์ถั่งโถมเข้ามายังทิศทางของเขา

มู่เฉินอึ้งเมื่อเห็นฉากนี้ คนเหล่านี้ไม่ได้มาจากเผ่าเสี่ยเสียแต่เป็นผู้คนที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ เมื่อพิจารณาจากขนาดแล้วน่าจะเป็นทุกคนที่พุ่งตรงมา

เขาหันไปมองไป๋ซู่ซู่

เมื่อนางเห็นสายตานั่นก็เม้มริมฝีปาก “ท่านเทพ สงครามครั้งนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นตายของเรา เป้าหมายของท่านคือผู้บัญชาการปีศาจโลหิตทั้งสาม คนที่เหลือปล่อยให้เราจัดการ ท่านเทพจะได้ไม่ต้องเสียพลังเปล่าประโยชน์”

“พวกข้าจะไม่ให้ท่านได้รับการรบกวนเด็ดขาด”

มู่เฉินขมวดคิ้ว “พวกเจ้าช่างกล้าบ้าบิ่น!”

แม้ว่าประชาชนที่นี่จะมีจำนวนมาก แต่ถ้าพวกเขาต้องต่อสู้กับเผ่าเสี่ยเสีย พวกเขาก็ต้องสู้ถวายชีวิตเลยทีเดียว

ไป๋ซู่ซู่ยิ้ม แม้ว่าน้ำเสียงจะแผ่วเบาแต่ก็ตั้งมั่น “ท่านเทพคงไม่สามารถจินตนาการได้ถึงความเกลียดชังของเราที่มีต่อเผ่าเสี่ยเสียได้หรอก แม้ว่าทุกคนจะต้องตาย แต่ก็ไม่เสียใจที่จะทำ”

“ดังนั้นได้โปรดให้เราสู้ศึกครั้งนี้ด้วย”

ไป๋ซู่ซู่พูดขณะที่คุกเข่าให้มู่เฉิน

ในเวลาเดียวกันคลื่นมหาชนขนาดใหญ่ที่รวมตัวกันก็คุกเข่าพร้อมกับเสียงดังก้องไปทั่วขอบฟ้า “ท่านเทพให้พวกเราติดตามไปด้วยเถอะ!”

มู่เฉินตกอยู่ในความเงียบกับภาพนี้ เขามองเห็นความเกลียดชังในดวงตาแต่ละคู่ ชัดว่าคนส่วนใหญ่เตรียมพร้อมที่จะสู้ด้วยชีวิต

ในเวลานี้แม้เขาจะพูดให้หยุด แต่คนที่นี่ก็คงจะตามไปด้วยแน่นอน

มู่เฉินถอนหายใจเบาๆ “ถ้าอีกฝ่ายไม่เคลื่อนไหว พวกเจ้าก็ห้ามเคลื่อนไหว ตราบใดที่ข้าสามารถจัดการผู้บัญชาการปีศาจโลหิตทั้งสามได้ เผ่าเสี่ยเสียก็ถึงคราวล่มสลายแน่”

เขาไม่รู้ว่าถ้าจอมยุทธ์มังกรขาวที่ถูกอัญเชิญมาต้องเห็นลูกหลานตายตกตามไปทั้งหมด ในเวลานั้นจอมยุทธ์มังกรขาวจะยังคงรักษาสัญญาอยู่หรือไม่ ดังนั้นเขาจึงต้องพยายามปกป้องคนให้ได้มากที่สุด

“เราจะทำตามคำสั่งของท่านเทพ!”

เสียงสะท้อนก้องออกมา สายตาที่มองมู่เฉินอัดแน่นด้วยความเคารพศรัทธา

มู่เฉินไม่ได้พูดอะไรอีก พยักหน้าไปทางไป๋ซู่ซู่ก่อนที่ร่างจะขยับกลายเป็นริ้วแสงทะยานออกไปพร้อมกับคลื่นยักษ์ตามหลังมา

ไม่กี่วันจากนั้นความเร็วของคลื่นยักษ์ก็ค่อยๆ ช้าลง…

มู่เฉินยืนเอามือไพล่หลังบนท้องฟ้า สายตามองไปที่ภูเขาใหญ่ในระยะไกล

ภูเขาลูกนั้นสูงจนสัมผัสกับก้อนเมฆราวกับว่ากำลังมองโลกใบนี้

ไป๋ซู่ซู่ยืนอยู่ข้างๆ มองไปที่ภูเขาเซิ่งหลงที่ตอนนี้แปดเปื้อนด้วยเลือด ดวงตานางแดงก่ำ เส้นเลือดปูดโปนขึ้นบนเรียวแขน

มู่เฉินมองไปที่ภูเขาใหญ่ก็เห็นร่างเงานับไม่ถ้วนที่มีรัศมีโลหิตอยู่รอบตัว

ขณะที่มู่เฉินมองไป ร่างเงาสีแดงเข้มสามร่างก็พุ่งออกมาพร้อมกับกลิ่นคาวเลือดลอยฟุ้งในอากาศ ขณะเดียวกันเสียงเยือกเย็นก็ดังก้องไปทั่วสวรรค์และโลก

“ไอ้งั่ง ตอนแรกพวกข้าก็ว่าจะให้แกมีชีวิตนานขึ้นอีกหน่อย ไม่คิดว่าเจ้าจะกล้ามาที่ภูเขาเสี่ยหมัว สวรรค์มีทางไม่ไป นรกไร้ประตูดันแส่เข้ามา”

“ในเมื่อแกรนหาที่ตาย พวกข้าจะทำให้ความปรารถนาเป็นจริงเอง!”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset