หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1409 เฉวียนเทียนอึ้งกับเส้นหลิงขั้นเสิน

วังสวรรค์บรรพกาล

เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นที่นี่เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆ ก่อนที่จะค่อยๆ สลายหายไป…

พร้อมกับการสั่นสะเทือนหายไป รัศมีแสงศักดิ์สิทธิ์ก็แผ่บนยอดเขาและมีร่างเงาค่อยๆ ยืนขึ้น

เมื่อเขาลุกขึ้นยืนทั้งสวรรค์และโลกก็สั่นสะเทือน แรงกดดันที่ไม่สามารถอธิบายครอบงำลงมา ทำให้ทุกคนรอบทะเลสาบสวรรค์สั่นสะท้านจากแรงนี้

เหมือนรู้สึกได้ว่าแรงกดดันทรงพลังเกิน ร่างเงานั้นจึงโบกมือ รัศมีแสงถอนกลับเข้าร่าง แรงกดดันก็สลายหายตามกันไป

เมื่อรัศมีแสงหายไป ร่างของมู่เฉินก็เผยให้เห็น ม่านตาสีดำของเขาดูลึกล้ำและไม่อาจหยั่งรู้ได้ยิ่งกว่าแต่ก่อน

เฉวียนเทียนมองไปที่มู่เฉินด้วยแววตาซับซ้อนและตกตะลึง ซึ่งกินเวลานานก่อนที่เขาจะถอนหายใจ “ไม่คิดว่าประมุขจะมีเส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพจรในตำนาน ไม่แปลกใจที่เจ้าสามารถก้าวเข้าระดับเทียนจื้อจุนได้ตั้งแต่อายุเพียงนี้”

น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความอิจฉา เขารู้ว่าเส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพจรเป็นตัวแทนของอะไร…

มู่เฉินยิ้มมองไปที่เฉวียนเทียน “ข้าหวังว่าผู้อาวุโสเฉวียนเทียนจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับนะ”

เนื่องจากเฉวียนเทียนมีความสัมพันธ์กับบางคนในตระกูลฝูถู ถ้าเรื่องนี้รั่วไหลนั่นหมายความว่ามู่เฉินจะสูญเสียไพ่ตาย

เฉวียนเทียนตอบเสียงขรึม “ประมุขวางใจเถอะ ตอนนี้ข้าเป็นผู้อาวุโสของตำหนักมู่ ข้าจะไม่ทำสิ่งใดที่ประทุษร้ายต่อประมุขอย่างแน่นอน”

มู่เฉินรู้สึกประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงของเฉวียนเทียน แม้ว่าเขาจะเอาชนะและบีบให้อีกฝ่ายรับตำแหน่งผู้อาวุโสของตำหนักมู่ แต่เฉวียนเทียนก็ไม่เต็มใจ ดังนั้นความเคารพจึงไม่ออกมาจากใจจริง แต่ตอนนี้แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง อีกฝ่ายแสดงท่าทางที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้อาวุโสของตำหนักมู่แล้ว

เฉวียนเทียนยิ้มเก้อ ก่อนหน้านี้แม้ว่าเขาจะกลัวมู่เฉินแต่ก็ไม่มีความเคารพให้ ทว่านับตั้งแต่ที่มู่เฉินได้เผยเส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพจรออกมา เฉวียนเทียนก็รู้สึกถูกข่มขู่แล้วจริงๆ

ด้วยเส้นหลิงขั้นสูงสุด มีโอกาสสูงที่ชายหนุ่มจะบรรลุระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งและนี่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายที่เฉวียนเทียนจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของจอมยุทธ์ในระดับนั้น

“ฮ่าๆ ไม่รู้ว่าทักษะหลิงไม่เสินทงที่ประมุขได้พัฒนาคืออะไร?” เฉวียนเทียนมองไปที่มู่เฉินด้วยความอยากรู้

มู่เฉินยิ้มพลางเหยียดนิ้วออกมาแตะลงไปเบาๆ

เปลวไฟสีม่วงพุ่งออกมาจากปลายนิ้วของมู่เฉิน ลอยไปหาเฉวียนเทียน

พอเฉวียนเทียนเห็นแบบนี้ก็ไม่กล้าประมาท เขาสัมผัสได้ถึงการคุกคามจากเปลวไฟสีม่วง ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน รีบสร้างม่านพลังหลิงทรงพลังรอบตัวทันที

ม่านพลังแสดงให้เห็นถึงการป้องกันที่น่าตกใจ ซึ่งสามารถต้านทานการโจมตีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิงได้เลยทีเดียว

ฟู่ ฟู่!

เปลวไฟสีม่วงลอยเข้ามา เมื่อสัมผัสกับม่านพลังก็คล้ายกับไฟต้องกับน้ำมัน ทันใดนั้นเปลวไฟก็ลุกโชนปกคลุมม่านพลังทั้งหมดเอาไว้

การป้องกันที่น่ากลัวถูกเปลวไฟสีม่วงสลายไปอย่างรวดเร็ว เปลวไฟราวกับหนอน เคลื่อนห่อหุ้มไปทางเฉวียนเทียนที่ไม่ทันตั้งตัว

ฉากนี้ทำให้ใบหน้าเฉวียนเทียนไร้สี เขาไม่คิดว่าการป้องกันของตนเองจะทำให้เปลวไฟสีม่วงเติบโตขึ้นแทนที่จะปิดกั้นไว้

ฮา

เมื่อเห็นเปลวไฟสีม่วงกวาดไปทั่ว เฉวียนเทียนก็เปิดปากกระแสคลื่นหลิงจำนวนมหาศาลพุ่งออกมา ทุกหยดคือเป็นคลื่นหลิงที่กลั่นอย่างเข้มข้นซึ่งมีความหนาแน่นมาก หนักราวหมื่นชั่ง เมื่อกวาดออกมาแม้แต่เทือกเขาก็จะเรียบเป็นหน้ากลอง

เมื่อกระแสคลื่นปะทะกับเปลวไฟสีม่วงเสียงฉ่าก็ดังขึ้น เฉวียนเทียนต้องตกใจเมื่อเห็นเปลวไฟสีม่วงเติบโตกลายเป็นคลื่นเพลิงโหมกระหน่ำ

“นี่คือไฟอะไร? ครอบงำอะไรเช่นนี้!”

ใบหน้าเฉวียนเทียนเคร่งเครียดลงหลายส่วนพร้อมกับแววตาหวาดผวา เขารู้สึกได้ว่าการโจมตีของตนไม่เพียงแต่ไร้ประโยชน์ ซ้ำยังไปเสริมสร้างเปลวไฟแทนอีกด้วย

เห็นได้ชัดว่าเปลวไฟสีม่วงมีความสามารถในการกลืนกินคลื่นหลิงเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง

เปลวไฟนี้แปลกประหลาดยิ่งนัก เมื่อเผชิญหน้าในการต่อสู้ ใครจะรู้ว่าต้องใช้เวลามากแค่ไหนในการแก้ไขปัญหา

เมื่อเปลวไฟสีม่วงกำลังจะห่อหุ้มร่างเฉวียนเทียน มู่เฉินก็เปิดปากเรียกเปลวไฟกลับมากลืนเข้าไปสถิตในร่าง

“หืม?”

เมื่อเปลวไฟสีม่วงกลับเข้าที่ ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไป เขาตระหนักได้ว่าขณะที่เปลวไฟสีม่วงสลายในร่างกายก็เกิดการไหลเวียนของพลังงานบริสุทธิ์หลอมรวมอยู่ในอณูต่างๆ ของเขา

“ไม่คิดว่าเปลวไฟสีม่วงจะสามารถกลืนกินคลื่นพลังเข้ามาเติมเต็มให้ข้าด้วย” มู่เฉินยิ้ม เปลวไฟสีม่วงมีความพิเศษอย่างแท้จริง สมกับการเป็นทักษะหลิงไม่เสินทงที่พัฒนาโดยเส้นหลิงขั้นเสินแปดชีพจร

“ประมุขเปลวไฟพวกนั้นมาจากไหน?” เฉวียนเทียนได้สติก็ร้องอุทาน

“นี่คือทักษะหลิงไม่เสินทงของข้า ซึ่งข้าเรียกว่าเพลิงม่วงกลืนวิญญาณ” มู่เฉินยิ้ม

“เพลิงม่วงกลืนวิญญาณ? ความหมายตามชื่อเลยจริงๆ” เฉวียนเทียนพยักหน้าด้วยความกลัวในดวงตา ถ้ามู่เฉินไม่ได้เรียกกลับคืนไปก่อนหน้า วันนี้เขาคงต้องทุกข์ทรมานกับเพลิงม่วงนี้แล้ว

“สมกับเป็นเส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพจร ไม่ธรรมดาจริงๆ”

มู่เฉินยิ้มเมื่อได้ยิน แต่เขาไม่คิดเผยอะไรเพิ่มเติม เพลิงม่วงกลืนวิญญาณคือทักษะหลิงไม่เสินทงที่พัฒนามาจากเส้นหลิงขั้นเสินแปดชีพจร และเขายังไม่เปิดเผยเส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพจรออกมาเลย

แต่เฉวียนเทียนเพิ่งติดตามเขา ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเปิดเผยไพ่ตายทั้งหมดให้รู้

วาบ!

ในขณะที่มู่เฉินและเฉวียนเทียนกำลังสนทนากันอยู่นั้น ร่างแสงก็ทะยานเข้ามา ซึ่งก็คือมั่นถัวหลัว หลิงซีและจอมยุทธ์ชั้นสูงของตำหนักมู่

เมื่อทั้งหมดเห็นมู่เฉินปลอดภัยดีก็รู้สึกโล่งใจ ชัดว่าช่วงนี้พวกเขาต่างให้ความสนใจกับความปั่นป่วนที่นี่

มู่เฉินยิ้มเมื่อเห็นการมาถึงของพวกเขาพร้อมกับชี้ไปเฉวียนเทียน “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเขาคือผู้อาวุโสอันดับหนึ่งของตำหนักมู่ เมื่อข้าไม่อยู่ ตำหนักมู่จะอยู่ภายใต้การคุ้มครองของเขา ความขุ่นเคืองทั้งหมดที่มีก่อนหน้าให้ลบทิ้งออกไปซะ”

ตลอดเดือนที่มู่เฉินฝึกฝน มั่นถัวหลัว หลิงซีและคนอื่นๆ ก็สังเกตเห็นเฉวียนเทียนคอยคุ้มกัน ดังนั้นทุกคนจึงพร้อมรับเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ละคนพยักหน้าให้อีกฝ่าย

แม้ว่าก่อนหน้าจะมีข้อพิพาทกันบ้าง แต่ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับความปลอดภัยของตำหนักมู่ที่จะมีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนเพิ่มเติม

“ข้าขอโทษสำหรับเรื่องที่ทำไป หวังว่าทุกคนจะไม่ถือสาอะไร” เฉวียนเทียนยิ้มเซื่อง เขาลดทิฐิลง ปราศจากความเย่อหยิ่งของจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนโดยสิ้นเชิง

พวกมั่นถัวหลัวอึ้งไปกับคำขอโทษของเขา เนื่องจากพวกเขารู้ถึงช่องว่างที่มี เหตุผลที่เขาจะกลายเป็นผู้อาวุโสของตำหนักมู่ก็เป็นเพราะมู่เฉิน สำหรับพวกเขาอีกฝ่ายก็คงไม่มองในสายตา

เฉวียนเทียนถอนหายใจอย่างขมขื่นกับอาการประหลาดใจของพวกเขา ถ้าไม่ใช่เพราะมู่เฉินมีเส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพจร เขาคงไม่แสดงเจตนาดีต่อสมาชิกตำหนักมู่ขนาดนี้ แต่ตอนนี้มู่เฉินมีอนาคตที่ไม่อาจจินตนาการได้และอาจบรรลุระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่ง การดำรงอยู่เช่นนี้ไม่สามารถรุกรานได้…

พวกตำแหน่งสูงในตำหนักมู่ต่างรู้สึกอึ้งไปจากทัศนคติของเฉวียนเทียน เพราะปกติจอมยุทธ์เทียนจื้อจุนจะพูดกับพวกเขาในลักษณะนี้ซะที่ไหน? ดังนั้นบรรยากาศอึมครึมจึงละลายอย่างรวดเร็ว

มู่เฉินยิ้ม เขารู้ว่าเฉวียนเทียนกำลังประจบประแจง ทว่าเขาก็พอใจกับสิ่งนี้

ในขณะที่บรรยากาศกำลังชื่นมื่น หลิงซีก็เดินเข้ามาหา “ข้าได้ข่าวว่าขั้วอำนาจสูงสุดบางส่วนได้รับคำเชิญจากเผ่าฝูถู ถ้าเดาไม่ผิดงานชุมนุมสายเลือดน่าจะเริ่มเร็วๆ นี้…”

“งานชุมนุมสายเลือด?” ใบหน้าของมู่เฉินเปลี่ยนไป เขาบอกให้หลิงซีเพิ่มความสนใจกับข่าวสารของเผ่าฝูถู ก่อนที่เขาจะเข้าสู่สมาธิฝึกฝน

“งานของเผ่าฝูถูที่จัดขึ้นในสิบปีครั้ง เป็นเหตุการณ์สำคัญมาก โดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะเชิญขั้วอำนาจสูงสุดมาร่วมสังเกตการณ์”

มู่เฉินพยักหน้ากับคำอธิบาย ภารกิจของเขาต่อเผ่าฝูถูคือการช่วยเหลือมารดา เมื่อมีเหตุการณ์ใหญ่ๆ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อเขามากขึ้น

ท้ายที่สุดแม้จะบรรลุระดับเทียนจื้อจุนแล้ว เขาก็ยังต้องเตรียมตัวและวางแผนก่อนที่จะเผชิญหน้ากับเผ่าโบราณ

มู่เฉินเงยหน้ามองไปในกลุ่มเมฆพลางหลับตาลงช้าๆ

“เผ่าฝูถู พวกเจ้าตามหาข้ามาหลายปี ครั้งนี้ถึงเวลาเปิดศึกแล้ว…”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset