หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1418 แม่ข้าชื่อชิงเหยี่ยนจิ้ง

ทั่วบริเวณเงียบงันเมื่อผลลัพธ์ปรากฏชัดเจน

ขณะที่ขั้วอำนาจอื่นๆ ที่เฝ้าดูฉากนี้ก็พากันทอดถอนหายใจ ตอนนี้จะมีเพียงสองสายเลือดใหญ่ในเผ่าฝูถูเท่านั้นแล้ว

เฉวียนกวางและมั่วถงยังคงสงบนิ่งโดยไม่มีริ้วกระเพื่อมใดๆ ในสายตาราวกับว่าฉากนี้ไม่สามารถทำให้การแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไป

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นไปตามความคาดหมายของพวกเขา

พวกเขาเพียงแค่มองไปที่ชิงเทียนที่กำลังโศกเศร้าพร้อมกับแววตาเยาะเย้ยไหวระริก ตระกูลชิงคงเสียใจที่พวกเขาไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องชิงเหยี่ยนจิ้ง มิฉะนั้นตระกูลชิงจะตกต่ำถึงขั้นนี้ได้อย่างไร?

“ข้าช่างไร้ประโยชน์”

ชิงเทียนถอนหายใจอย่างขมขื่นภายใต้สายตาเห็นอกเห็นใจและเย้ยหยัน ใบหน้าแก่ชราของเขาดูเหี่ยวย่นลงไปอีกหลายส่วน

เมื่อพวกเขาพ่ายแพ้ในการประลอง ก็เท่ากับตระกูลชิงจะเหลือตำแหน่งเพียงสองที่ในสภาผู้อาวุโส ซึ่งตามกฎมีเพียงตระกูลที่มีสามตำแหน่งเท่านั้นที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นสายเลือดหลัก

นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตระกูลชิงจะถูกลดลงเป็นตระกูลย่อย พวกเขาจะสูญเสียทรัพยากรและอำนาจไป หากพวกเขาต้องการกลับมาเป็นสายเลือดหลักอีกครั้ง ใครจะรู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน?

ชิงเซวียนกัดฟันแน่นสีหน้าดูไม่ได้ นางทำได้เพียงส่ายหน้าอย่างขมขื่น สถานการณ์ปัจจุบันถูกกำหนดไว้แล้ว นางไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีก

“ตอนนี้ได้แต่หวังว่ามู่เฉินจะคิดหาวิธีได้ มิฉะนั้นตระกูลชิงคงจบสิ้นแน่”

เมื่อมั่วซินและเฉวียนหลัวเห็นสิ่งนี้ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ พวกเขารู้ว่าแผนการสำเร็จลงแล้วในที่สุด

“มู่เฉินมีเวลาหายใจไม่มากแล้ว”

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเฉวียนหลัว ตราบใดที่ตระกูลชิงถูกลดระดับเป็นตระกูลย่อย ก็จะไม่มีอะไรหยุดพวกเขาที่จะส่งคนไปเด็ดหัวมู่เฉิน

พวกเขาไม่สนใจว่านี่จะทำให้เกิดการตอบโต้ของชิงเหยี่ยนจิ้งหรือไม่ พวกเขารู้สึกมาโดยตลอดว่าผู้อาวุโสใหญ่อดกลั้นกับนางมากเกินไป เมื่อไม่มีตระกูลชิง สองตระกูลจะเข้ากุมอำนาจสภาผู้อาวุโส ต่อให้เป็นผู้อาวุโสใหญ่ก็ต้องให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของพวกเขา

เมฆมืดมนปกคลุมบนภูเขาที่ตระกูลชิงอยู่ พวกเขาทั้งหมดรู้สึกวิปโยคเหลือแสน ไม่สามารถละความละอายที่รู้สึกได้ ความกลัวฉายบนใบหน้าแต่ละดวง เนื่องจากพวกเขารู้ว่าเมื่อตระกูลชิงสูญเสียตำแหน่งพวกเขาจะต้องประสบกับทุกข์แสนสาหัสเพียงใด

เฉวียนกวางมองไปรอบๆ ก่อนที่จะยิ้มและหันไปมองผู้อาวุโสใหญ่ด้วยความเคารพ “ผู้อาวุโสใหญ่ผลการตัดสินได้ถูกกำหนดไว้แล้ว โปรดประกาศ”

ผู้อาวุโสใหญ่ลืมตาขึ้นมองไปที่ชิงเทียนที่เศร้าโศกอย่างเรียบเฉยจากนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่เสียงของเขาจะสะท้อนออกมา

“ตระกูลชิงแพ้การประลอง ดังนั้นจะเสียที่ตำแหน่งอีกหนึ่งตำแหน่ง”

เสียงของผู้อาวุโสใหญ่เหมือนกับค้อนดับความหวังสุดท้ายของตระกูลชิง

ใบหน้าของชิงซวงหม่นหมองกับภาพนี้พร้อมกับดวงตาหมองคล้ำไปหมด

“จบแล้ว…”

นางพึมพำด้วยความเศร้าใจ หลังจากวันนี้ไม่รู้ว่าตระกูลชิงจะต้องพบเจอความยากลำบากอะไร แต่นางรู้ว่าฐานะที่มีจะลดฮวบลง

มู่เฉินหายใจเข้าลึกๆ พลางเดินออกไป

“มู่เฉิน? เจ้าจะทำอะไรน่ะ?” เมื่อมองมู่เฉินที่ก้าวไปข้างหน้า ชิงซวงก็ตกใจพลางร้องออกมาด้วยกลัวว่ามู่เฉินจะดึงดูดความสนใจถ้าปรากฏตัวตอนนี้

“ในเมื่อข้าได้รับผลประโยชน์จากตระกูลชิง ข้าก็ต้องทำบางอย่างเป็นการตอบแทน” มู่เฉินเอี้ยวหน้าไปและยิ้ม

ชิงซวงอึ้งไปขณะมองแผ่นหลังโปร่งบางนั่น ไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรกัน…

มู่เฉินไม่ได้สนใจนาง เขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ยอดเขาหลักพร้อมกับแววลึกซึ้งวูบไหวในนัยน์ตา

‘เผ่าฝูถูตามหาข้ามาหลายปี วันนี้ให้ข้าดูว่าเจ้าทำอะไรกับข้าได้บ้าง’

ขณะนี้เสียงของผู้อาวุโสใหญ่ยังคงก้องไปทั่วขอบฟ้า “เนื่องจากพ่ายแพ้ในการประลอง ตระกูลชิงจะเหลือสองที่นั่งในสภาเท่านั้น ตามกฎของเผ่า พวกเขาจะถูกปลดออกจากการเป็นสายเลือดหลัก…”

“ช้าก่อน!”

ทันใดนั้นเสียงคมชัดก็ดังขึ้น ขัดจังหวะเสียงของผู้อาวุโสใหญ่

ทุกคนตกตะลึงกับเหตุการณ์นี้ชั่วครู่ ก่อนที่พวกเขาจะมองไปยังที่มาของเสียงนั้นทันที

บนยอดเขาแห่งหนึ่งชายหนุ่มรูปงามยืนอยู่กลางอากาศเอามือไพล่หลัง

“เขาคือใคร? กล้ามากที่ขัดคำพูดของฝูถูเฉวียน” ขั้วอำนาจต่างๆ ตกตะลึงเมื่อมองไปที่มู่เฉิน

บนภูเขาอีกลูกเย่าเฉินและหลินเตียวสบตากันก่อนที่จะยิ้ม “ในที่สุดงานหลักก็มาถึงสักที”

เซียวเซียวมองภาพเงาของมู่เฉินจากด้านข้างพลางพยักหน้า “เขายังคงกล้าหาญเหมือนเดิม”

หลินจิ้งหัวเราะเบาๆ “พี่ใหญ่เซียวเซียว ตอนนี้มู่เฉินมีคุณสมบัติที่จะกล้าหาญแล้ว”

ตอนนี้ไม่เพียงแต่มู่เฉินบรรลุขุมพลังเทียนจื้อจุนเท่านั้น แต่ยังได้รับความช่วยเหลือจากแคว้นหวู่จิ้งฮั่วและแคว้นหวู บวกกับตำหนักมู่และตำแหน่งราชันสังหารปีศาจของวังมหาพันภพ เมื่อพูดถึงระดับหนึ่งมู่เฉินก็ไม่จำเป็นต้องกลัวเผ่าฝูถูอีกต่อไป

เซียวเซียวยิ้ม แม้แต่คนดื้อแบบนางก็ยังรู้สึกชื่นชมมู่เฉิน เนื่องจากเขามาถึงระดับตำนานของมหาพันภพได้ด้วยตัวเอง ไม่แปลกใจเลยว่าแม้แต่บิดาของนางยังให้ความสำคัญกับเขาขนาดนี้

“มาดูกันว่าเขาจะตบพวกเผ่าโบราณคร่ำคร่านี้ได้อย่างไร”

ขณะที่เกิดการพูดคุย เสียงของฝูถูเฉวียนก็ชะงัก สายตากวาดไปที่มู่เฉิน

เมื่อเขาเห็นมู่เฉินดวงตาก็หรี่ลง จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนที่อายุน้อยเช่นนี้หายากนัก เมื่อเทียบกับเขาแล้วทั้งเฉวียนหลัวและมั่วซินก็ยังด้อยกว่าหลายส่วน

นอกจากนี้เขาไม่รู้ว่าทำไมรู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้ดูค่อนข้างคุ้นหน้านัก

“เจ้าเป็นใคร? ทำไมถึงเข้ามายุ่งกับเรื่องของเผ่าฝูถูของข้า” เสียงของฝูถูเฉวียนดังก้องราวกับฟ้าคำรนสะท้อนไปทั่วขอบฟ้าพร้อมกับแรงกดดันของจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งกำจายออกมา ทำให้ผู้คนถึงกับตัวสั่นสะท้าน

ทางฝั่งเฉวียนหลัวและมั่วซินก็อ้าปากตาค้าง พวกเขาชี้ไปที่มู่เฉินแบบพูดไม่ออก ชัดเจนที่ไม่เคยคิดว่าอีกฝ่ายจะมาปรากฏที่นี่

สมาชิกทั้งสองตระกูลมองไปที่ทั้งสองด้วยสายตาแปลกๆ เนื่องจากพวกเขาไม่รู้ว่าทำไมทั้งสองถึงมีปฏิกิริยาเช่นนี้

เมื่อเฮยกวางบนแท่นหยกเห็นมู่เฉินก็อุทานด้วยเสียงแผ่วเบา “มู่เฉิน? ไอ้ตัวกาลกิณีแกกล้ามาที่นี่ได้ยังไง?!”

เขาเชิญจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนไปจัดการกับมู่เฉินแล้ว แล้วอีกฝ่ายยังมาที่นี่ได้อย่างไร?

แม้ว่าเสียงของเขาจะแผ่วเบา แต่เฉวียนกวางและมั่วถงก็ได้ยิน ร่างกายของพวกเขาสั่นเทิ้มทันที

“มู่เฉิน? ไอ้ตัวกาลกิณีรึ?!”

มู่เฉินไม่ใส่ใจกับสายตาเหล่านั้น เขาเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมองไปที่ฝูถูเฉวียนโดยไม่เกรงกลัว

จากนั้นไม่นานเสียงหัวเราะของเขาก็ดังก้องไปทั่วฟ้าดิน

“ข้าชื่อคือมู่เฉิน”

“บางทีผู้อาวุโสใหญ่อาจจะไม่คุ้นชื่อนัก แต่ท่านน่าจะรู้จักมารดาของข้าดี”

“หืม?” สายตาของฝูถูเฉวียนกะพริบวูบไหว

มู่เฉินยิ้มขณะไอเย็นเยือกค่อยๆ รวมตัวกันบนใบหน้า เขามองไปที่ฝูถูเฉวียนพูดแบบเน้นย้ำทีละคำ “ท่านแม่ข้าชื่อ…ชิง-เหยี่ยน-จิ้ง”

เมื่อเขาประกาศออกไปก็ก่อให้เกิดความโกลาหลระหว่างสวรรค์และโลก สมาชิกเผ่าฝูถูนับไม่ถ้วนผุดลุกขึ้นจากที่นั่งด้วยความตกใจเมื่อมองไปที่เขา

ชายหนุ่มคนนี้คือตัวกาลกิณีที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับเผ่าฝูถูหรือ!

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset