หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1431 ฝูถูเฉวียนออกโรง

เมื่อเสียงเย็นชาของมู่เฉินดังก้องทุกคนก็เงียบไป

พวกเขาตกใจกับวิธีที่มู่เฉินปราบผู้อาวุโสตระกูลเฉวียนและมั่วด้วยตัวคนเดียว

พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิงจะสามารถบังคับให้เผ่าฝูถูมาถึงจุดนี้ได้ ทุกคนรู้ว่าหลังจากวันนี้ชื่อเสียงของมู่เฉินจะดังสะท้อนไปทั่วมหาพันภพ…

สายตาทั้งหมดพุ่งตรงไปยังฝูถูเฉวียน พวกเขาเห็นบาตรแก้วแล่นแปลบปลาบด้วยแสง พลังงานหลายประเภทถูกปลดปล่อยออกมาอย่างไร้ขอบเขต

ใบหน้าแก่ชราของฝูถูเฉวียนที่กำลังนั่งอยู่เย็นชาลง เขามองไปที่มู่เฉินโดยปลดปล่อยความกดดันน่ากลัวออกมา

แม้จะนั่งอยู่ที่นั่น ความกดดันที่เกิดขึ้นจากจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งก็ยังทำให้จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนธรรมดารู้สึกบีบคั้น

“ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิงแบบเจ้าจะประสบความสำเร็จเช่นนี้ สมกับเป็นบุตรชายชิงเหยี่ยนจิ้งจริงๆ” ฝูถูเฉวียนเอ่ยเสียงต่ำ

“แต่ข้าบอกเจ้าไปนานแล้วว่ากฎก็คือกฎและจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ตราบใดที่ข้าเป็นผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่าฝูถู ก็ไม่มีวันปล่อยแม่เจ้าไป!

“และเจ้าจะถูกตราหน้าว่าเป็นตัวกาลกิณีของเผ่าตลอดกาล!”

แสงน่ากลัววูบไหวในดวงตาของฝูถูเฉวียน เขาลุกขึ้นยืนช้าๆ ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนภูเขากำลังกดทับ รัศมีน่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายออกไปทั่วบริเวณ

“ตอนแรกข้าไม่ต้องการทำให้เรื่องยุ่งยากเพราะเห็นแก่ชิงเหยี่ยนจิ้ง แต่ในเมื่อเจ้ากล้ามาที่เผ่าฝูถูเพื่อสร้างปัญหา วันนี้ข้าก็จะขอสอนเจ้าสักหน่อย!”

ครืน!

เมื่อสิ้นเสียงของฝูถูเฉวียน ก็ทำให้เมฆบนท้องฟ้าม้วนตัวพร้อมกับเสียงฟ้าร้อง ราวกับว่าวันพิพากษาโลกมาถึงแล้ว

ความโกรธเกรี้ยวของจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งทำลายสวรรค์และโลกได้เลยทีเดียว

ขณะที่ผู้ชมรู้สึกกดดันก็แสดงความเคารพบนใบหน้าไปด้วย จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งอยู่บนยอดพีระมิดของมหาพันภพ เห็นได้ชัดว่าพลังของยอดยุทธ์น่าสะพรึงกลัวนัก

คราวนี้แม้แต่เย่าเฉินและหลินเตียวก็ยังฉายสีหน้าเคร่งเครียด แม้ว่าพลังของฝูถูเฉวียนจะด้อยกว่าเซียวเหยียนและหลินต้ง แต่ถึงยังไงก็เป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งที่แท้จริง ดังนั้นจึงไม่สามารถมองข้ามไปได้

ฮึ่ม!

ทันใดนั้นบาตรแก้วก็เริ่มสั่น องค์ประกอบที่อยู่บนนั้นส่งเสียงหวีดหวิวก่อนที่จะกลายเป็นมังกรแปดตัวคำรามใส่ฝูถูเฉวียน

“เขากำลังจะเคลื่อนไหว!” ดวงตาของเย่าเฉินและหลินเตียวหดลง ก่อนที่ทั้งสองจะเทพลังงานลงในบาตรแก้วทันที

“หึ ถ้าเป็นเทพจักรพรรดิสงครามอยู่ที่นี่เอง ข้าคงไม่สามารถหลุดพ้นได้ แต่เจ้าสองคนเป็นแค่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนระยะปลายสุด แล้วจะนำพลังที่แท้จริงของอาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมชั้นเซิ่งออกมาได้อย่างไร?”

เสียงสั่นพร่าของฝูถูเฉวียนสะท้อนก้องในบาตร เสื้อผ้าเริ่มกระพือขึ้นลงพร้อมกับรัศมียิ่งใหญ่กลั่นตัวอยู่บนฝ่ามือ

ตู้ม!

พริบตาต่อมาความสว่างไร้ขอบเขตก็พรั่งพรูออกมาจากฝ่ามือเขา กลายเป็นกงล้อสีดำขาวขนาดใหญ่โดยมีสองสีไขว้พันกัน ปลดปล่อยความผันผวนของการทำลายล้างออกมา

ฝูถูเฉวียนคำราม กงล้อก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้ากระแทกกับบาตรจังใหญ่

“โฮก!”

มังกรทั้งแปดธาตุก็รู้สึกว่าถูกคุกคาม ปล่อยลมปราณรุนแรงขององค์ประกอบต่างๆ มิติบิดเบือนปะทะกับกงล้อ

ตู้ม ตู้ม ตู้ม!

เมื่อพลังสองสายปะทะกัน พื้นดินก็สั่นสะเทือน มิติยุบลงกลายเป็นกระแสน้ำวนอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ก้อนหินก็กลิ้งลงมาจากภูเขาจากแรงสั่นสะเทือน

แต่ไม่ว่ามังกรทั้งแปดจะพยายามโจมตีอย่างไร ก็แตกสลายทันทีเมื่อสัมผัสกับกงล้อดำขาว

“ลอยขึ้น!”

ฝูถูเฉวียนเปล่งเสียงตะโกน กงล้อก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าจากนั้นก็ชนกับบาตร

เคร้ง!

เสียงดังสนั่น ผู้ชมที่มีขุมพลังอ่อนด้อยก็กระอักเลือดออกมากบปาก ร่างร่วงนอนพังพาบลงบนพื้น มีเพียงคนที่แข็งแกร่งเพียงพอเท่านั้นที่สามารถลบล้างพลังของคลื่นเสียงได้

ทุกคนจับจ้องไปที่บาตร ก็เห็นอาการสั่นรุนแรงราวกับมีพลังมหาศาลสอดแทรก จากนั้นมันก็กระเด็นกลับไปพร้อมกับระเบิด

เมื่อบาตรเคลื่อนหลุด ฝูถูเฉวียนก็กลายเป็นลำแสงทะยานออกมา

หลินเตียวและเย่าเฉินขมวดคิ้วกับฉากนี้ จากนั้นก็เตรียมควบคุมบาตรแปดเทวลิขิตอีกครั้ง

“ผู้อาวุโสไม่ต้องลงมือแล้ว ให้ข้าจัดการส่วนที่เหลือเองเถอะ” ทันใดนั้นเสียงของมู่เฉินก็ดังขึ้นทำให้ทั้งสองคนหยุดชะงัก

เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน แม้ว่าหลินเตียวและเย่าเฉินจะใช้บาตรแก้ว แต่พวกเขาก็ไม่สามารถต่อกรกับฝูถูเฉวียนได้ หากฝืนสู้พวกเขาอาจได้รับบาดเจ็บแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่มู่เฉินไม่เต็มใจที่จะเห็น

เย่าเฉินและหลินเตียวสบตากัน พวกเขาเข้าใจความคิดของมู่เฉินแต่ละคนผงกหัวหลังจากครุ่นคิดชั่วครู่

“มู่เฉิน หากสถานการณ์ไม่ดีก็ถอยเลย ถ้าพวกเขาคิดจะข่มเจ้าด้วยความอาวุโส ลูกศิษย์ข้าคงจะมาขอคำชี้แนะเอง” เย่าเฉินตอบอย่างไม่เร่งรีบ

“แคว้นหวูก็เหมือนกัน” หลินเตียวกล่าวอย่างเย็นชา

คำพูดของพวกเขาทำให้ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที พวกเขาหดดวงตาแม้แต่สมาชิกเผ่าฝูถูด้วย ถ้าเทพจักรพรรดิอัคคีและเทพจักรพรรดิสงครามมาที่นี่จริงๆ ละก็ วันนี้คงจะหนักหน่วงอย่างมากแม้กระทั่งเผ่าฝูถูก็ตาม

บนท้องฟ้าแม้ว่าฝูถูเฉวียนจะยังคงเฉยเมย แต่ม่านตาก็กระเพื่อมเล็กน้อย ไม่ช้าก็สงบลง เขาจะไม่ได้ยินคำเตือนในคำพูดของเย่าเฉินและหลินเตียวได้อย่างไร? แต่ในฐานะคนยอมหักไม่ยอมงอ ไม่เพียงแต่เขาไม่ขวางยังเค้นเสียงใส่ด้วย “ข้าได้ยินมานานเกี่ยวกับชื่อเสียงของเทพจักรพรรดิอัคคีและเทพจักรพรรดิสงคราม แต่ยังไงก็ตามไม่มีใครสามารถขัดขวางเผ่าฝูถูในการจัดการกับไอ้หนูนี่!”

เมื่อพูดจบ สายตาคมของเขาก็พุ่งตรงไปที่มู่เฉิน “ถ้าเจ้าคิดว่าจะสู้กับข้าได้หลังจากควบคุมค่ายกลพิทักษ์ ก็ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!”

ทว่ามู่เฉินไม่ได้สนใจคำพูดของฝูถูเฉวียน กลับสร้างตราประทับขึ้นอย่างรวดเร็ว ค่ายกลขนาดใหญ่บนท้องฟ้าก็เริ่มหมุน รังสีไร้ขอบเขตพุ่งไปที่ฝูถูเฉวียน

“ดูเหมือนว่าเจ้าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ในเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าจะมอบความปรารถนาให้เอง!”

ฝูถูเฉวียนทะยานออกมาด้วยความโกรธพลางสะบัดมือ กงล้อสีดำขาวอีกวงก็ถูกสร้างขึ้น พุ่งไปบนท้องฟ้าปะทะกับรังสีเหล่านั้น สลายการโจมตีทันที

เมื่อมู่เฉินเห็นภาพนี้ก็หดตาลง จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งน่าเกรงขามอย่างแท้จริง ด้วยค่ายกลนี้เขาสามารถเอาชนะเฉวียนกวางและมั่วถงได้อย่างง่ายดาย แต่ไม่สามารถทำอะไรกับฝูถูเฉวียนได้เลย

ฟิ้ว!

เมื่อกงล้อสีดำขาวทำลายรังสีได้ก็บินเข้าหามู่เฉินด้วยแรงเคลื่อนที่น่ากลัว ราวกับว่าสามารถบดทำลายทุกสิ่งในโลกได้

มู่เฉินสายตาสั่นไหว ไม่คิดจะปะทะกับกงล้อสีดำขาวซึ่งหน้า วูบเดียวเขาก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าซ่อนตัวอยู่ในค่ายกลขนาดใหญ่ จากนั้นก็ควบคุมค่ายกลโจมตีกงล้อสีดำขาวอย่างต่อเนื่อง

ครืนๆ!

ทันใดนั้นชุดเสียงสั่นสะเทือนก็สะท้อนออกมาพร้อมกับผลกระทบที่น่ากลัว ทำให้ภูเขาสูงยุบลง…ยุบลงไปบนพื้นต่อเนื่อง…

ทว่าทุกคนบอกได้ว่าค่ายกลพิทักษ์กำลังค่อยๆ อ่อนแอลงเนื่องจากกงล้อสีดำขาวเข้าใกล้มาทุกที

“สุดท้ายมู่เฉินก็เป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิงเท่านั้น แม้จะมีค่ายกลพิทักษ์ก็ไม่มีทางที่จะต่อสู้กับฝูถูเฉวียนได้” ผู้เชี่ยวชาญหลายคนถอนหายใจอย่างเสียดายเมื่อเห็นฉากนี้

“ค่ายกลพิทักษ์พิเศษมาก แต่น่าเสียดายที่มู่เฉินไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด มิฉะนั้นฝูถูเฉวียนก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้”

“ดูเหมือนว่าเขาจะยืนหยัดได้อีกไม่นานแล้ว…”

“…”

เสียงกระซิบดังก้อง ทุกคนเห็นแนวโน้มพ่ายแพ้ของมู่เฉิน

มู่เฉินยังคงแสดงออกอย่างสงบ ขณะที่ซ่อนตัวอยู่ในค่ายกลขนาดใหญ่พร้อมกับสายตาวูบไหว จากนั้นเขาก็หลับตาลง

ตั้งแต่เริ่มต้นเขารู้ว่าตนเองไม่สามารถต่อกรกับฝูถูเฉวียนด้วยค่ายกลได้ ท้ายที่สุดแล้วความแข็งแกร่งของจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งก็เหนือจินตนาการ ไม่ใช่สิ่งที่จะสู้ได้ด้วยพลังภายนอก

ดังนั้นเหตุผลที่เขาควบคุมค่ายกลพิทักษ์ไม่ใช่เพื่อเผชิญหน้ากับฝูถูเฉวียนแต่ด้วยเหตุผลอื่น

ฮา

เขาพ่นลมหายใจสีขาวขุ่นออกมา ประสาทสัมผัสก็แพร่กระจายไปทั่วค่ายกลทันที ครอบคลุมมิติฝูถูทั้งหมด

บางส่วนของค่ายกลทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยและใกล้ชิด เขารู้ว่านั่นคือจุดที่แม่ของเขาเสริมเข้ามา ตราบเท่าที่เขาติดตามไปก็จะสามารถพบสถานที่ที่เขากำลังมองหา

ครืนๆๆๆ!

เขาตัดสิ่งรบกวนจากภายนอกออกไปมุ่งเน้นที่การรับรู้ในทุกๆ ตารางนิ้วของเผ่าฝูถู ท้ายที่สุดเขาก็รู้สึกถึงความผันผวนที่คุ้นเคย

ดังนั้นเมื่อกระแสจิตของเขาทะลุผ่านมิติ เขาก็เห็นเจดีย์โบราณตรงหน้า เจดีย์นี้เขาเคยเห็นมาก่อน เป็นสถานที่ที่เขามาเพื่อปรับแต่งเจดีย์พุทธะนั่นเอง

เมื่อกระแสจิตเข้าใกล้เจดีย์ก็ไม่ได้ถูกขัดขวาง เนื่องจากถูกถ่ายทอดจากค่ายกลทำให้เขาสามารถผ่านไปได้…

ไม่ช้ากระแสจิตก็หยุดลงในสถานที่หนึ่ง ร่างกายของเขาเริ่มสั่นสะท้านเพราะสัมผัสได้ถึงการเชื่อมโยงของสายเลือด

ดังนั้นกระแสจิตจึงเริ่มพึมพำเสียงสะท้อน

“ท่านแม่…ข้ามารับท่านกลับบ้านแล้ว”

ในพื้นที่แห่งนั้น จู่ๆ สตรีในชุดขาวก็เงยหน้าขึ้น มองไปที่มุมหนึ่งพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

นางเช็ดน้ำตาบนแก้มเบาๆ แล้วยิ้ม จากนั้นรัศมีอ่อนโยนรอบตัวนางก็ค่อยๆ หดกลับแทนที่ด้วยรัศทีที่เยือกเย็นและดุร้าย

ร่างกายของนางสั่นสะท้าน ก่อนที่จะค่อยๆ หายไป ทิ้งเสียงที่ดังก้องไว้เบื้องหลังความว่างเปล่า

“ลูกรัก จากวันนี้ไปจะไม่มีใครมารังแกเจ้าได้อีก…”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset