หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1444 ฉิงเป่ยเฉวียน

เสียงคำรามดังก้องทั่วขอบฟ้าสร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคน

แรงกดดันพลังงานหลิงจากฉิงเป่ยเฉวียนไม่ได้ดุร้ายเท่าหลิ่วไป่ฮวา แต่คล้ายกับคลื่นใต้น้ำของมหาสมุทรที่ทำให้เกิดความหวาดกลัวอย่างเงียบๆ

ทุกสายตาพากันหวาดกลัวเมื่อมองไปที่ภาพเงาบนท้องฟ้า ผู้มาใหม่มีร่างกำยำสวมชุดสีฟ้าอมเขียว คลื่นหลิงในดวงตาก็ถูกปกปิดไว้ หากไม่ใช่เพราะความกดดันที่น่ากลัว ทุกคนคงคิดว่าเขาเป็นชายวัยกลางคนธรรมดาคนหนึ่ง

ทว่าทุกคนที่นี่รู้ดีว่าคนผู้นี้มีสถานะอย่างไร…

เขาคือประมุขตำหนักปลายเหนือและยังเป็นเจ้าทวีปทั้งสี่ที่มีทวีปไป่หลิงเป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งมีขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนระยะต้นพร้อมกับชื่อเสียงเกรียงไกรไปทั่วทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาพันภพ

แม้แต่ในมหาพันภพ จอมยุทธ์ผู้นี้ก็เป็นเจ้าเหนือหัว

“ท่านพ่อ!”

ราชันไป่หลิงรู้สึกยินดีในทันที

“เป่ยเฉวียนอย่าปล่อยให้ไอ้เวรนั่นหลุดไป!” หลิ่วไป่ฮวาฟื้นจากอาการตกใจก็กัดฟันกรอด

นางโกรธมาก ตอนแรกนางคิดว่าอย่างมากมู่เฉินก็อยู่ในระดับเดียวกัน แต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะถูกปราบได้หลังจากการแลกเปลี่ยนเพียงสองกระบวนท่าเท่านั้น

ความสามารถในการต่อสู้ของมู่เฉินน่ากลัวนักทำให้นางหวาดกลัว ดังนั้นนางต้องการให้ฉิงเป่ยเฉวียน จัดการฆ่ามู่เฉินที่นี่ซะ

กลุ่มพันธมิตรเป่ยหลิงเพิ่งรู้สึกโล่งใจที่มู่เฉินเอาชนะหลิ่วไป่ฮวาได้อย่างง่ายดาย พริบตาหัวใจพวกเขาก็เหมือนถูกควักพร้อมกับใบหน้าซีดเผือด แม้พวกเขาจะอยู่ไกลจากระดับเทียนจื้อจุน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่รู้ช่องว่างระหว่างระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซียนและขั้นหลิง

ตำหนักปลายเหนือมีอิทธิพลมากในฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของมหาพันภพ มิฉะนั้นพวกเขาคงไม่สามารถครอบครองสี่ทวีปได้ สำหรับเหตุผลที่พวกเขาประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่มาจากขุมพลังของฉิงเป่ยเฉวียนที่อยู่ในระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซียน

แม้ว่ามู่เฉินจะสามารถเอาชนะหลิ่วไป่ฮวาได้อย่างง่ายดาย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะถือไพ่เหนือกว่าฉิงเป่ยเฉวียนได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าฉิงเป่ยเฉวียนยังนำผู้ช่วยสามคนมาในครั้งนี้ด้วย

ดังนั้นเท่ากับว่าอีกฝ่ายมีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนห้าคน นี่เป็นการรวมตัวที่น่าทึ่ง ซึ่งทำให้ผู้คนหนังหัวชาหนึบได้เลยทีเดียว

ทว่ามู่เฉินกลับไม่มีการแสดงออกบนใบหน้า เขามองไปที่ฉิงเป่ยเฉวียนอย่างใจเย็น “เจ้าเป็นประมุขตำหนักปลายเหนือ— ฉิงเป่ยเฉวียนเรอะ?”

“ข้าเอง” ฉิงเป่ยเฉวียนตอบเบาๆ

“แล้วเจ้ารู้สถานการณ์เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ในวันนี้หรือไม่?”

ท่าทางของฉิงเป่ยเฉวียนไม่แยแส เขาได้รับข้อมูลจากผู้อาวุโสหลู่ที่ไปหาแล้ว “ลูกชายข้าเป็นฝ่ายผิดก็จริง แต่เจ้าตัดแขนของเขาสองข้างไม่เกินไปเรอะ”

“ทำไมล่ะ?” มู่เฉินยิ้มขณะตั้งคำถาม “ถ้าข้ามาช้าอีกก้าวเดียว บิดาข้าคงไม่ใช่แค่บาดเจ็บแล้ว สหายข้าก็อาจต้องอับอาย เจ้าคิดว่าลูกชายตัวเองสูงส่งกว่าบิดาและสหายของข้ารึไง?”

ถึงแม้จะมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า แต่เสียงของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา

“ไอ้เวร ลูกชายข้าเกิดมาพร้อมเกียรติยศศักดิ์ศรี เขาสูงส่งกว่าพวกแกโดยธรรมชาติ!” หลิ่วไป่ฮวาหัวเราะเยาะ ในเมื่อฉิงเป่ยเฉวียนอยู่ที่นี่แล้วความมั่นใจของนางก็เพิ่มขึ้นคับฟ้า

เมื่อมู่เฉินได้ฟังสายตาก็วูบไหว “หยุดสาระแน! แกคิดว่าสิ่งนี้สามารถปกป้องตัวเองได้จริงๆ หรือ?”

ขณะที่พูดเขาก็โบกมือ ทันใดนั้นเพลิงม่วงบนกระดองเต่าฟ้าก็ระเบิดขึ้น เปลวไฟพุ่งเข้าใส่กระดองเต่าอีกครั้ง

ตู้ม!

ด้วยพลังเต็มพิกัดของเพลิงม่วง อุณหภูมิที่น่าสะพรึงก็แผ่ออก ทำให้พื้นโดยรอบละลายพร้อมกับเกิดเสียงร้องโหยหวน

เห็นได้ชัดว่าเต่าฟ้าตัวนั้นเป็นอาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมชั้นหลิง แต่ก็ยังไม่สามารถทนต่อเพลิงม่วงที่ครอบงำได้ ใต้กองไฟกระดองเต่าก็มีร่องรอยของการหลอมละลาย

ตึง!

เพลิงม่วงทำให้ความสามารถในการป้องกันของกระดองเต่าลดลงพร้อมกับพลังมหาศาลทุบกระดองเต่าลงกับพื้น ก่อนที่ฉิงเป่ยเฉวียนจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง

หลุมอุกกาบาตขนาดหมื่นจั้งปรากฏภายในเมือง ร่างหลิ่วไป่ฮวาไหม้เป็นตอตะโก แม้แต่เรือนผมก็ถูกไฟไหม้จนหมด กระดองเต่าสีฟ้าอมเขียวก็สลัวลง หากไม่ใช่เพราะกระดองเต่ารับแรงส่วนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังกำปั้น คงจะทำให้กายาหลิงเทียนจุนของหลิ่วไป่ฮวาป่นปี้ไปหมดแล้ว

แต่กระนั้นนางก็ได้รับบาดเจ็บหนัก ความไม่เชื่อกระจายบนใบหน้า นางไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามู่เฉินจะ กล้าทำร้ายนางต่อหน้าฉิงเป่ยเฉวียน

“อ๊ายๆๆๆ!”

หลิ่วไป่ฮวาแผดร้องด้วยความโกรธก่อนที่จะตะโกนลั่น “เป่ยเฉวียน เร็ว ฆ่ามัน!”

แม้แต่ใบหน้าของฉิงเป่ยเฉวียนก็ดูน่าเกลียดไปในตอนนี้ การกระทำของมู่เฉินไม่มองเขาอยู่ในสายตาเลย สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกโกรธ เสียงแผดดังก้อง “ในเมื่อแกกล้ามาก ข้าก็จะจับแกมาจัดการในวันนี้!”

พูดจบกระดองเต่าสีฟ้าที่ปกป้องหลิ่วไป่ฮวาก็เริ่มขยายขนาดขึ้นจนมีขนาดหลายหมื่นจั้ง

เต่าสีฟ้าโผล่ออกมาด้วยท่าทางน่ากลัว ขณะที่อ้าปากพ่นสายธารสีฟ้าที่ทุกหยดหนาแน่นราวกับภูเขา ห่อหุ้มร่างมู่เฉินเอาไว้ภายใน

“ฮ่าๆ ตอนนี้เต่าทะเลเหนือของพี่ฉิงทรงพลังมาก ภายใต้สายธารไม่มีจอมยุทธ์คนใดที่อยู่ภายใต้ระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซียนสามารถต้านได้” หนึ่งในสามจอมยุทธ์ที่มาพร้อมกับฉิงเป่ยเฉวียนพูดด้วยรอยยิ้ม

อีกสองคนก็พยักหน้า พวกเขารู้เกี่ยวกับสายธารสีฟ้าเช่นกัน เส้นทางตอนที่ฉิงเป่ยเฉวียนก่อตั้งตำหนักปลายเหนือ เต่าทะเลเหนือตัวนี้ก็ติดตามฉิงเป่ยเฉวียนเอาชนะจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนไม่รู้กี่คน

เมื่อมองจากความผันผวนของคลื่นหลิงชายหนุ่มก็น่าจะอยู่ในระดับเทียนจื้อจุนขั้นหลิงระยะกลาง ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะต่อกรกับฉิงเป่ยเฉวียน

“เต่าทะเลเหนือเรอะ…”

มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองเต่า เต่าทะเลเหนือตัวนี้เป็นหนึ่งในเทพอสูรที่มีพลังเทียบเท่าจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนได้เมื่อโตเต็มที่ ฉิงเป่ยเฉวียนคงได้รับแก่นโลหิตและนำไปกลั่นเป็นอาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมชั้นหลิง

โดยปกติแล้วจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนระยะต้นบวกกับอาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมชั้นหลิง จะสามารถจัดการจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิงได้ แต่น่าเสียดายที่มู่เฉินไม่ได้ธรรมดาแบบนั้น

“ดูเหมือนการพูดด้วยเหตุผลกับครอบครัวแกจะไร้ประโยชน์ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็คุยด้วยหมัดละกัน”

มู่เฉินส่ายหัวด้วยสีหน้าไม่แยแส จากนั้นก็วาดตราประทับด้วยมือเดียว ทันใดนั้นลวดลายแพรวพราวทั้งเก้าก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขา

ในเวลาเดียวกันแสงยุ่งเหยิงก็เกิดขึ้นด้านหลังมู่เฉินซึ่งดูลึกซึ้งไม่น่าเชื่อ นี่เป็นสิ่งที่ลึกซึ้งยิ่งกว่ามิติและเวลา

“แสงเทพปฐมกาล”

มู่เฉินเปล่งเสียงเย็นชาในใจ ลำแสงก็พุ่งผ่านสายธารสีฟ้าไป

วาบ!

เมื่อลำแสงส่องเข้ามาสายธารสีฟ้าก็หายไปทันที เพิ่มร่องรอยสีฟ้าในกลุ่มแสงที่อยู่เบื้องหลังศีรษะของมู่เฉิน

ทว่ามู่เฉินไม่ได้หยุดเพียงแค่นี้ กลุ่มแสงยุ่งเหยิงยิงออกมาอีกครั้ง ทะลุผ่านมิติบินไปหาเต่าสีฟ้า

วาบ!

เมื่อลำแสงพุ่งไป เต่าสีฟ้าก็หายไปก่อนที่เต่าสีฟ้าขนาดเท่าฝ่ามือจะปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางกลุ่มแสงที่อยู่เบื้องหลังศีรษะมู่เฉิน

ราวกับว่ากลุ่มแสงยุ่งเหยิงนี้สามารถยับยั้งทุกสรรพสิ่งได้…

“อะไรน่ะ?!” ภาพนี้ทำให้ม่านตาของฉิงเป่ยเฉวียนหดลง จอมยุทธ์ทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาก็เปลี่ยนสีหน้าด้วยความไม่เชื่อ

พวกเขาไม่คิดมาก่อนว่าเต่าทะเลเหนือของฉิงเป่ยเฉวียนจะเปราะบางขนาดนี้ในมือของชายหนุ่ม

“วิชาเทพที่อยู่เบื้องหลังเจ้าเด็กนั่นคืออะไรกัน? ทำไมถึงครอบงำนัก?!” จอมยุทธ์คนหนึ่งพูดด้วยความตกตะลึง

ทุกคนในโถงใบหน้าแข็งค้าง ฉากนี้เกินจินตนาการของพวกเขาไปไกลแล้ว

ยามนี้กลุ่มพันธมิตรเป่ยหลิงก็ตกใจจนไม่รู้จะแสดงสีหน้าอะไรดี

ใบหน้าของฉิงเป่ยเฉวียนก็เคร่งเครียดอย่างแท้จริง เขามองไปที่กลุ่มแสงยุ่งเหยิงที่อยู่เบื้องหลังมู่เฉินด้วยความกลัว ก่อนที่เขาจะหันกลับและประสานมือ “สหาย ข้าเกรงว่าต้องขอความช่วยเหลือจากทุกคนในครั้งนี้แล้ว”

ตอนนี้ฉิงเป่ยเฉวียนไม่คิดกับมู่เฉินเหมือนเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิงธรรมดาอีกต่อไป ความสามารถในการต่อสู้ที่น่าตกใจของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจชื่อเสียงที่มีและขอความช่วยเหลือจากสหายเพราะกลัวว่าตนเองจะพ่ายแพ้

เมื่อได้ยินคำพูดของฉิงเป่ยเฉวียน จอมยุทธ์สองคนก็ลังเลชั่วครู่ก่อนที่จะพยักหน้า แม้ว่ามู่เฉินจะน่ากลัว แต่พวกเขาก็มีข้อได้เปรียบในเรื่องจำนวนคน มู่เฉินไม่สามารถสู้กับคนทั้งหมดได้หรอก

ฉิงเป่ยเฉวียนมองไปที่จอมยุทธ์คนสุดท้าย เพราะชายคนนี้เป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนระยะต้น หากเขายอมช่วย มู่เฉินคงถึงคราวแม้ว่าจะมีทักษะมากมายก็ตาม

ทว่าเขาก็ต้องประหลาดใจที่เพื่อนสนิทคนนี้ไม่ได้ให้คำมั่น ตรงกันข้ามอีกฝ่ายขมวดคิ้วมองไปที่กลุ่มแสงยุ่งเหยิงที่อยู่เบื้องหลังมู่เฉินราวกับว่ากำลังครุ่นคิดบางอย่าง

“พี่หลู่?”

ฉิงเป่ยเฉวียนมองไปด้วยสายตางุนงง เขามีสายสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสหายคนนี้และพวกเขามักจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เหตุใดอีกฝ่ายจึงลังเลเพียงแค่จะเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิง?

อีกฝ่ายไม่ตอบสนองฉิงเป่ยเฉวียน แต่มองไปที่มู่เฉินพักใหญ่ก่อนที่จะคิดอะไรบางอย่างออก ทันใดนั้นท่าทางเขาก็เปลี่ยนไป เขาไม่สนสายตาของสหายทั้งสาม ประสานมือให้มู่เฉินด้วยความระมัดระวัง “ข้าขอถามหน่อยได้ไหมว่าเจ้าคือประมุขมู่เฉินแห่งทวีปเทียนหลัวใช่หรือไม่”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset