หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1460 รอดักหลังอีกที

ขณะที่เม็ดยาลอยอยู่เบื้องหน้า

รัศมีสายเลือดที่น่าสะพรึงก็เปล่งออกมา เพียงแค่ดมกลิ่นก็ทำให้เลือดในร่างกายเดือดพล่านได้

เมื่อมองไปที่เม็ดกลมสีดำนี้ไม่เพียงแต่สายตาของมู่เฉินที่ลุกเป็นไฟ แต่พวกข่งหลิงเอ๋อก็ด้วยเช่นกัน ร่างกายของพวกเขาสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น

อารมณ์ตีกวนเป็นเวลานานก่อนที่ทุกคนจะค่อยๆ ฟื้นตัว มู่เฉินยิ้ม “เราแบ่งตามสิ่งที่ตกลงกันไว้เลยเถอะ มีข้อขัดข้องไหม?”

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา พวกข่งหลิงเอ๋อก็รู้สึกปวดใจ เพราะนั่นคือสี่ส่วนเลยทีเดียว รัศมีสายเลือดที่มีอยู่ภายในสามารถทำให้พวกเขาบรรลุระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซียนได้เลย

แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกปวดใจแต่ก็ไม่กล้าผิดข้อตกลง หลังจากได้เห็นความแข็งแกร่งที่น่ากลัวของมู่เฉิน แต่ละคนพยักหน้ารับ

เมื่อเห็นการตอบสนองของพวกเขา มู่เฉินก็ไม่ไว้มารยาท มือของเขาวาดตราประทับ วังวนคลื่นหลิงถูกสร้างขึ้น ทำให้เม็ดยากลมเกลี้ยงสั่นสะเทือนก่อนที่กระแสขนาดใหญ่จะไหลเข้าสู่วังวน

พวกข่งหลิงเอ๋อก็เคลื่อนไหวเพื่อสกัดรัศมีสายเลือดเช่นกัน

กระบวนการนี้กินเวลาไปหนึ่งก้านธูป ก่อนที่พวกเขาจะค่อยๆ หยุดมองไปที่เม็ดยากลมตรงหน้าของตน

เพียงแต่ว่าเม็ดกลมของมู่เฉินแข็งแกร่งกว่าทั้งสาม

“สมกับเป็นแก่นโลหิตระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่ง รัศมีอยู่เหนือความคาดหมายมาก” มู่เฉินมองไปที่เม็ดยากลมนี้ก็ถอนหายใจ ด้วยจำนวนสี่ส่วนของแก่นโลหิตชั้นยอดนี้ เขาสามารถรับประกันการวิวัฒนาการของจิ่วโยวได้

“ฮ่าๆ พี่มู่ ในเมื่อเป้าหมายสำเร็จแล้ว เราก็ขอลาไปก่อนนะ”

ข่งหลิงเอ๋อโบกมือเก็บเม็ดยาไว้ นางยิ้มให้กับมู่เฉิน ไม่ได้พูดเยอะ ร่างกลายเป็นสายแสงทะยานออกไป

หลินชางกับเซียวเทียนมองไปที่มู่เฉินด้วยสายตาที่สั่นไหวก่อนที่จะตามหลังข่งหลิงเอ๋อไปทันที

เมื่อเห็นทั้งสามจากไปอย่างรวดเร็ว จิ่วโยวก็หันไปหามู่เฉิน “ข้าว่าสามคนนั่นเจตนาไม่ดีแน่ พวกเราไปตอนนี้ด้วยเลยดีไหม?”

รอยยิ้มคลี่บนใบหน้า มู่เฉินมองทิศทางที่ทั้งสามออกไปตอบว่า “ไม่จำเป็น เราจะรอที่นี่”

“รอ?” จิ่วโยวอึ้งไป

 

ขณะที่หลินชางและเซียวเทียนตามหลังข่งหลิงเอ๋อไปอย่างใกล้ชิด

พวกเขาก็เหลือบไปทางด้านหลังและส่งเสียงพูด “เราจะปล่อยให้พวกมันได้สี่ส่วนนั่นไปจริงๆ หรือ?

ข่งหลิงเอ๋อตอบด้วยสีหน้าสงบว่า “พวกเจ้าลองมือได้เลย ถ้ามั่นใจที่จะจัดการกับเขาได้”

หลินชางและเซียวเทียนเงียบไป พวกเขาตกใจกับความสามารถของมู่เฉินมาก พวกเขาไม่มีความมั่นใจที่จะแย่งอาหารจากปากเขาหรอก

ทว่าพวกเขาก็ไม่เต็มใจที่จะให้ส่วนแบ่งใหญ่กว่ากับมู่เฉิน

“เจ้าสองคนทั้งโง่และโลภมากเกินไป ไม่ช้าก็เร็วจะล้มลงเพราะความโลภของตัวเอง”

ข่งหลิงเอ๋อเค้นเสียงก่อนสายตาจะวูบไหว “เราจะออกจากที่นี่ก่อนแล้วข้าจะทำลายค่ายกลมิติ เมื่อถึงเวลานั้นหวงเฉวียนจือก็จะถูกปล่อยตัว เขาจะรู้สึกถึงของในมือมู่เฉินอย่างแน่นอน พวกเขาสองคนจะต่อสู้กันอย่างดุเดือด เราก็รอให้ทั้งสองคนบาดเจ็บก่อนที่จะเอาคว้าของดีมา”

หลินชางและเซียวเทียนรู้สึกลิงโลด พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าข่งหลิงเอ๋อจะมีกลอุบายเช่นนี้อยู่ในใจ

“นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด ให้มู่เฉินและหวงเฉวียนจือสู้กันเอง ก่อนที่เราจะเคลื่อนไหวจัดการบอกให้พวกมันรู้ว่าใครกันที่หัวเราะเป็นคนสุดท้าย!” พวกเขาสองคนหัวเราะเสียงดัง

ข่งหลิงเอ๋อยิ้มอย่างพอใจ ‘ถึงมู่เฉินและหวงเฉวียนจือจะอัจฉริยะแท้จริงแล้วไง? พวกมันก็ต้องยังตกอยู่ในกำมือข้าอยู่ดี ‘

“แปะ แปะ!”

แต่ขณะที่นางกำลังยิ้มพราย เสียงปรบมือก็ดังขึ้นเบื้องหน้า ทั้งสามตกใจเงยหน้าขึ้นก็เห็นพื้นที่บิดเบี้ยว ก่อนที่จะมีภาพเงาปรากฏขึ้น นี่ก็คือหวงเฉวียนจือที่ติดอยู่ในค่ายกล!

“แผนยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้” หวงเฉวียนจือยืนเอามือไพล่หลังมองดูทั้งสาม

“หวงเฉวียนจือ! แกหนีออกมาได้ยังไง?!” ข่งหลิงเอ๋อพูดด้วยความไม่เชื่อพลางฉายสีหน้าเขียวคล้ำ

“ข้าไม่ได้หนีออกมา ค่ายกลค่อนข้างลำบากจริงๆ ถ้าข้าตกอยู่ในนั้น” หวงเฉวียนจือยิ้มขณะพูดต่อ “แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้ติดกับ นั่นเป็นเพียงร่างพิมพ์วิญญาณของข้าเท่านั้น”

“อะไรนะ?!” พวกข่งหลิงเอ๋อดวงตาหดลง คนที่พวกเขาใช้กำลังมากในการจับเป็นเพียงร่างพิมพ์วิญญาณของหวงเฉวียนจือเรอะ!

“ร่างพิมพ์วิญญาณไม่ง่ายอย่างที่พวกแกคิดหรอก มันถูกสร้างขึ้นด้วยเลือดกลั่นและขนนกของข้า ดังนั้นจึงมีพลังครึ่งหนึ่งของข้าเลยทีเดียว” หวงเฉวียนจือยิ้ม สายตาที่กวาดมองอย่างไม่แยแสทำเอาพวกข่งหลิงเอ๋อสะท้านจับจิต

ทั้งสามคนหน้าซีดเผือด ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจช่องว่างระหว่างตนเองกับหวงเฉวียนจือ ทันใดนั้นพวกเขาก็ระเบิดพลังงาน ต้องการออกจากสระยกเทพให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ตราบใดที่พวกเขาออกจากที่นี่ หวงเฉวียนจือก็ไม่สามารถจัดการพวกเขาได้อีกต่อไป

“ฮ่าๆ ข้ารอมาตั้งนาน จะปล่อยให้พวกแกหนีไปได้ยังไง?” หวงเฉวียนจือยิ้ม พริบตาแสงสีทองก็ระเบิดขึ้น หงส์ฟ้าสีทองขนาดใหญ่โผทะยานออกไป พุ่งเข้าหาพวกข่งหลิงเอ๋อ

 

ลึกลงไปในมหาสมุทรมรกต

คลื่นหลิงก่อร่างเป็นม่านล้อมรอบมู่เฉิน ปิดกั้นน้ำในมหาสมุทร เขานั่งอยู่ที่ก้นมหาสมุทรโยนเม็ดยาสีดำเล่นในมือ ขณะมองไปยังระยะไกลด้วยดวงตาวูบไหว

“เราทำอะไรที่นี่” จิ่วโยวออกจะหงอยๆ เนื่องจากมู่เฉินไม่ให้เม็ดยาแก่นาง แค่นั่งนิ่งอยู่ที่นี่เท่านั้น

“รอหวงเฉวียนจือ” มู่เฉินยืดเอว

“อ้า?” จิ่วโยวตกใจมากก่อนที่จะถามทันควัน “เขาถูกค่ายกลดักจับไว้ไม่ใช่หรือ?”

มู่เฉินยิ้ม “นั่นน่าจะเป็นร่างเสมือนของเขา เจ้านั่นเจ้าเล่ห์เกินไป เขาทำเช่นนี้เพื่อให้พวกข่งหลิงเอ๋อเสริมความแข็งแกร่งให้กับแก่นโลหิต ด้วยวิธีนี้เขาจึงไม่ต้องลงมือและทำเพียงรอ”

จิ่วโยวขมวดคิ้ว นั่นหมายความว่าพวกนางตกหลุมพรางของหวงเฉวียนจือไม่ใช่เหรอ?

“ถ้าข้าเดาถูก เขาน่าจะจัดการกับพวกข่งหลิงเอ๋ออยู่น่ะ” มู่เฉินยิ้ม

“ถ้างั้นเราไม่ควรไปตอนนี้หรือ?” จิ่วโยวถาม

“ทำไมต้องไป?” มู่เฉินยิ้มขณะที่โยนเม็ดยาไปทางจิ่วโยว “เจ้าเม็ดนี้ช่วยเจ้าวิวัฒนาการได้เท่านั้น สำหรับข้าเล็งอีกหกส่วนที่เหลือ”

“หวงเฉวียนจืออยากเก็บผลกำไร ดังนั้นข้าจะคิดแบบเดียวกันไม่ได้รึไง? หลังจากที่เขาได้รับหกส่วนนั่นแล้ว เขาก็จะมาตามหาข้า”

จิ่วโยวอ้าปากกว้าง มีแต่คนคิดซ่อนตัวจากหวงเฉวียนจือ ทว่าเจ้าน้องบ้าคนนี้กลับตั้งใจให้หวงเฉวียนจือไปช่วยแย่งหกส่วนนั้น ก่อนที่เขาจะเคลื่อนไหว…

ทว่านางต้องยอมรับว่ามู่เฉินที่สามารถรักษาความสงบต่อให้ต้องเผชิญกับการคุกคามของหวงเฉวียนจือช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน

ในที่สุดนางก็เข้าใจแล้วว่ามู่เฉินไม่ได้อ่อนแอเหมือนเด็กน้อยในอดีต เขาสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองไปทั่วมหาพันภพเทียบได้กับยอดอัจฉริยะเหล่านั้น

“เอาล่ะขึ้นอยู่กับเจ้าว่าเราสามารถเก็บเกี่ยวหรือสูญเสียครั้งใหญ่กัน!” ริมฝีปากของจิ่วโยวโค้งขึ้น

หากพวกนางได้รับการเก็บเกี่ยวที่ดีก็จะสามารถได้รับเม็ดยาที่สมบูรณ์ ถ้าแพ้ก็ต้องส่งอีกสี่ส่วนที่เหลือและสายเลือดวิหคอมตะก็จะตกอยู่ในอันตรายด้วย

มู่เฉินยิ้มก่อนที่จะหลับตาลงราวกับว่าหลับไป

จิ่วโยวไม่ได้รบกวนเขา นางนั่งลงข้างๆ มองไปที่เม็ดยาในมือ

ความเงียบดำเนินไปหนึ่งก้านธูป ก่อนที่มู่เฉินจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองไปข้างหน้า “มาแล้ว”

เมื่อจิ่วโยวได้ยินคำพูดนั่น ร่างกายก็เกร็งขึ้น

พร้อมกับเสียงของมู่เฉิน ผืนน้ำเบื้องหน้าก็แปรปรวน เงาปรากฏขึ้นก่อนที่จะโยนร่างสามร่างออกมา

ทั้งสามคนก็คือพวกข่งหลิงเอ๋อ ทว่าใบหน้าแต่ละคนดูไม่จืด ท่าทางจะได้รับบาดเจ็บหนัก

ขว้างทั้งสามออกไปราวกับขยะ สายตาหวงเฉวียนจือก็จ้องมองไปที่มู่เฉินและยิ้ม “อย่างที่ข้าคาดไว้ เจ้าไม่ได้วิ่งหนี”

“ทำไมข้าต้องวิ่งในเมื่อมีคนเอาของกำนัลมาให้ที่นี่” มู่เฉินยืดเอว

“น่าสนใจ…” หวงเฉวียนจือหัวเราะ แต่ม่านตาสีทองไม่มีรอยยิ้มสักริ้ว “แกทำกับข้าเหมือนพวกคนส่งของงั้นเรอะ? น่าสนใจจริงๆ”

“ถ้าแกส่งไอ้เม็ดที่เหลือและให้ข้าดึงสายเลือดวิหคอมตะของนาง ข้าจะยอมให้แกออกไปโดยดี” หวงเฉวียนจือพูดขณะมองไปที่มู่เฉิน “ไม่เช่นนั้นชื่อเสียงที่แกสั่งสมมาจะกลายเป็นหินรองเท้าให้ข้าเท่านั้น”

มู่เฉินยืนขึ้นยิ้มให้หวงเฉวียนจือ “พล่ามบ้าไร ข้ากลัวว่าแกไม่มีคุณสมบัติพอที่จะสกัดสายเลือดของจิ่วโยวต่อหน้าข้าหรอก”

หวงเฉวียนจือพยักหน้า สีหน้าเปลี่ยนไปเป็นไม่แยแส แสงสีทองกะพริบในดวงตา ปีกทั้งสองกระพือ รัศมีสังหารกวาดออกทำให้เกิดคลื่นน้ำไม่ถ้วน

“ช่างน่าเสียดายจริงๆ ในเมื่อเป็นเช่นนี้… ข้าจะอัดแกให้ง่อยไปเลย”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset