หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1492 ร่างลึกลับสีทอง

วาบ!

ร่างเงาสีทองเข้มพาดผ่านขอบฟ้าพุ่งเข้าใส่มู่เฉิน เยี่ยฉิงและทัวป๋าชางด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ มิติใกล้เคียงถึงกับพังทลายลง…

ขณะมองไปที่ร่างสีทองเข้ม สีหน้าของทั้งสามก็เปลี่ยนไป พวกเขารีบถอยออกมาทันที ร่างสีทองเข้มนี้แผกประหลาดเกินไป พวกเขาสามารถบอกได้ถึงพลังของมันเนื่องจากแม้แต่หมัวเฮอโยวก็ยังเจ็บหนักเมื่อถูกโจมตี

แต่ไม่ว่าความเร็วของพวกเขาจะเป็นอย่างไร ร่างสีทองเข้มก็เร็วยิ่งกว่า

เมื่อมิติสั่นไหว ร่างสีทองเข้มก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าทัวป๋าชางแล้วค่อยๆ ตบมือออกไป

เมื่อทัวป๋าชางเห็นว่าสถานการณ์นี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็แผดเสียงคำราม รัศมีสีทองไร้ขอบเขตแผ่ซ่านออกมาจากร่างกาย เขาเรียกร่างเทพสุริยะนิรันดร์ออกมา รหัสเทพอมตะนับไม่ถ้วนรวมตัวกันก่อร่างเป็นดอกบัวห่อหุ้มตัวเองไว้

“ดอกบัวอมตะ!”

นั่นคือกระบวนท่าการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของร่างเทพสุริยะนิรันดร์ เผชิญหน้ากับร่างสีทองเข้ม แม้แต่ทัวป๋าชางก็ยังไม่กล้าที่จะประมาท

แปะ!

มือตบลงไปที่ดอกบัว เกิดการแข็งตัวช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะมีรอยแตกกระจายออกมาแล้วระเบิด

อ็อก

ดอกบัวระเบิดออก ทัวป๋าชางก็ถลาออกไปพร้อมกับความหวาดผวาบนใบหน้า การป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาคือสิ่งที่แม้แต่หมัวเฮอโยวก็ไม่สามารถทำลายได้ด้วยกระบวนท่าเดียว แต่กลับเปราะบางต่อหน้าร่างสีทองเข้ม

หลังจากส่งทัวป๋าชางออกไปด้วยตบเดียว ร่างเงาสีทองเข้มก็พุ่งเข้าไปหาเยี่ยฉิง

“ขอบเขตอสุรา!”

เยี่ยฉิงมองไปที่ร่างสีทองเข้มแล้วขบฟัน ก่อนที่หอกสีแดงเข้มในมือเขาจะสั่นสะท้าน ทันใดนั้นรัศมีสังหารรุนแรงก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เขาออกกระบวนท่าโจมตีแทนการป้องกัน หอกกลายเป็นลำแสงฉีกผ่านขอบฟ้าพร้อมกับภาพซ้อนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่ร่างสีทองเข้ม

การโจมตีของเยี่ยฉิงเป็นกระบวนท่าสังหารเลยทีเดียว

ภาพซ้อนหลายล้านภาพกระจายออกไป นี่เป็นกระบวนท่าที่แม้แต่หมัวเฮอโยวก็ไม่กล้ารับ แต่ร่างสีทองเข้มไม่ได้ใส่ใจเลย เมื่อหอกปะทะบนร่างกายก็เกิดประกายไฟแล่นเปรียะ แต่ก็ไม่สามารถขัดขวางร่างสีทองเข้มเอาไว้ได้…

ร่างสีทองเข้มกำหมัดเหวี่ยงออกไป มิติพังทลายลงจากวงรัศมี ขณะที่ซัดลงบนหอกสีแดงเข้ม

เคร้ง!

เสียงโลหะปะทะกันดังก้อง เยี่ยฉิงตัวสั่นสะท้านรุนแรงก่อนที่จะปลิวไป เส้นเลือดบนแขนของเขาระเบิดพร้อมกับเลือดไหลลงมา แม้แต่หอกสีแดงเข้มในมือเขาหรุบหรู่ ดูเหมือนจะได้รับความเสียหายอย่างหนักเช่นกัน

เมื่อมู่เฉินเห็นร่างสีทองเข้มที่เอาชนะทัวป๋าชางและเยี่ยฉิงได้ด้วยกระบวนท่าเดียว ใบหน้าของเขาก็อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนไป ร่างกายเกร็งเครียดขึ้น เขาสัมผัสได้ว่าหลังจากเอาชนะทั้งสองแล้ว สายตาไม่แยแสของร่างสีทองเข้มก็พุ่งตรงมาที่เขา

วาบ!

แค่จ้องตากันก็ทำให้มู่เฉินหดดวงตา เพราะเขาเห็นแสงสีทองที่เบื้องหน้าครรลองสายตา จังหวะนั้นร่างสีทองเข้มก็พุ่งเข้าหาคว้าลำคอของเขาด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ

มวลลมคมกริบกวนตัว ร่างของมู่เฉินกระตุก ปีกหงส์ฟ้าพร่างพราวกางออกที่แผ่นหลังขณะกระพือปีกวูบไหวก็ทิ้งภาพเงาเอาไว้ ร่างหลักปรากฏตัวห่างออกไปหมื่นจั้ง

ซี้ด!

มือสีทองที่บดขยี้ลงหยุดชะงักชั่วครู่ ราวกับตกใจที่การโจมตีพลาดเป้า…

มู่เฉินรู้สึกถึงเหงื่อเย็นไหลชุ่มบนแผ่นหลัง ถ้าเขาช้ากว่านั้นอีกก้าวเดียวละก็ เขาคงได้รับบาดเจ็บหนักจากร่างสีทองเข้มไปแล้ว แต่โชคดีที่เขาใช้ประโยชน์จากปีกหงส์ฟ้าแท้จริง ทำให้ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุดและความเร็วเขาก็สูงกว่าทั้งสี่คน เขาจึงสามารถหนีออกมาได้ทันท่วงที

ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหัน เมื่อทุกคนเห็นมู่เฉินหลบการโจมตีของร่างสีทองเข้มได้ถึงฟื้นคืนสติ ทันใดนั้นพวกเขาก็ร้องอุทานตอบสนอง ฉากนี้เหนือคาดยิ่งนัก

‘ร่างมหาเทพนิรันดร์จะเลือกผู้ครอบครองไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงเริ่มสังหารหมู่ราวกับว่าต้องการฆ่าทั้งสี่คนให้ได้?

“ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?!” ใบหน้าของชิงเหยี่ยนจิ้งเปลี่ยนไป นางจะบอกไม่ได้อย่างไรว่าร่างสีทองเข้มนั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง จอมยุทธ์ทั้งสี่คนไม่ได้อยู่ในสายตามันเลย

“หมัวเฮอเทียน เผ่าเจ้าแอบทำอะไร?!” ชิงเหยี่ยนจิ้งมองไปที่หมัวเฮอเทียนพลางตะโกนถามเสียงเข้ม

ขณะนี้ใบหน้าของหมัวเฮอเทียนก็บิดเบี้ยวจนไม่น่าดู เขาเหลือบมองชิงเหยี่ยนจิ้ง “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ในอดีตร่างสีทองเข้มนั้นไม่เคยปรากฏตัวเลย!”

เขาก็โมโหเช่นกัน เขาไม่รู้ว่ามีร่างสีทองเข้มอยู่ในเจดีย์วั้นกู่ ดูจากรูปลักษณ์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใช่ร่างมหาเทพนิรันดร์ในตำนานหรือไม่

“หรือว่าร่างมหาเทพนิรันดร์ใช้วิธีนี้เพื่อเลือกเจ้านาย?” ผู้อาวุโสที่ด้านหลังหมัวเฮอเทียนคาดเดา

“ร่างสีทองเข้มนั้นเต็มไปด้วยจิตสังหารไม่ได้มีการผ่อนปรน แม้แต่หมัวเฮอโยวก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ นี่ไม่ใช่การเลือกเจ้านาย มันต้องการสังหารเท่านั้น” หมัวเฮอเทียนขมวดคิ้วเข้าหากัน

ผู้อาวุโสทุกคนแลกเปลี่ยนสายตาไม่รู้ต้องทำอย่างไรต่อ เพราะในช่วงเวลาที่เจดีย์วั้นกู่ปิดลงแม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งก็ไม่สามารถเข้าไปได้ ตอนนี้พวกเขาทำได้แค่มองดูเท่านั้น

ขณะที่ด้านนอกของเจดีย์กำลังโกลาหล หมัวเฮอโยวก็เริ่มฟื้นตัวจากบาดแผล เขาลอยขึ้นบนท้องฟ้าด้วยสีหน้าเขียวคล้ำ เมื่อมองไปที่ร่างสีทองเข้มก็มีร่องรอยของความกลัวอยู่ในดวงตา ถ้าเมื่อครู่เขาไม่ตอบสนองเร็วพอละก็ เขาคงถูกฆ่าด้วยร่างสีทองเข้มนั่นไปแล้ว

“ให้ตายสิ นี่มันอะไรกันแน่!”

หมัวเฮอโยวร้อนรนในหัวใจ เขาเข้าสู่ชั้นสุดท้ายด้วยความยากลำบาก ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆ สิ่งนี้จะโผล่มาและเริ่มฆ่าโดยไม่มีคำพูดใดๆ ราวกับว่าต้องการสังหารพวกมันทั้งหมดที่นี่

ขณะนี้ร่างสีทองเข้มก็กวาดสายตาไปรอบๆ รัศมีสีทองเข้มเปล่งบนร่างกาย มันคิดจะเคลื่อนไหวอีกครั้งแล้ว

เมื่อเห็นภาพนี้เปลือกตาของหมัวเฮอโยวก็กระตุกขณะที่ตะโกนลั่น “พวกเจ้า ไอ้ตัวนี้พิลึกกึกกือมากและพวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน ข้าว่าเราทุกคนร่วมมือกันดีกว่า!”

เยี่ยฉิงและทัวป๋าชางลังเลก่อนที่จะพยักหน้า นั่นเป็นเพราะการแลกกระบวนท่าสั้นๆ เมื่อครู่ พลังของร่างสีทองเข้มนั้นน่ากลัวเกินไป

ไม่มีใครสักคนที่จะต่อกรได้ด้วยตัวคนเดียว

มู่เฉินเม้มริมฝีปาก เขารู้สึกว่าแม้พวกเขาจะผนึกกำลังกัน แต่ก็ไม่สามารถเผชิญหน้ากับมันได้ แต่ไม่มีทางเลือกใดที่ดีกว่าในตอนนี้ พวกเขาคงต้องลองดูก่อน ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าเห็นด้วย

ฟิ้ว!

ขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน ร่างเงานั่นก็พุ่งเข้ามาหา

“มหาภัยพิบัติไร้ขอบเขต!”

ใบหน้าของหมัวเฮอโยวเคร่งขรึม เขาเร้าวิชาโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาโดยไม่ลังเลใดๆ ทันใดนั้นพายุทอร์นาโดดำขาวก็ปรากฏขึ้น

“วิชาเจดีย์แปดองค์!”

มู่เฉินก็ไม่กล้าที่จะออมมือ

“อสุราสวรรค์!”

“เพลงดาบขอบเขต!”

ทัวป๋าชางและเยี่ยฉิงต่างก็ออกกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุด เมื่อพวกเขาทั้งสี่ใช้กระบวนท่าสูงสุดที่มี ทั้งมิติก็มืดลง การโจมตีที่น่ากลัวทั้งสี่กวาดเข้าหาร่างสีทองเข้ม

ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม!

เผชิญหน้ากับการโจมตีสี่สาย ร่างสีทองเข้มก็ไม่มีวี่แววว่าจะหลบ กลับเหวี่ยงชุดหมัดสี่ครั้งที่แฝงด้วยมีรัศมีอมตะ

หมัดทั้งสี่พุ่งออกไป ราวกับเป็นดวงอาทิตย์สีทองเข้มสี่ดวง ปะทะกับการโจมตีที่น่ากลัวทั้งสี่

ปัง ปัง ปัง ปัง!

เสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้ง ทุกคนที่อยู่นอกเจดีย์ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าร่างสีทองเข้มทำลายการโจมตีของพวกมู่เฉินได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าพายุทอร์นาโดขาวดำหรือแสงเจดีย์มรณะ ทุกอย่างล้วนแตกเป็นเสี่ยงๆ ภายใต้การกระทบของดวงอาทิตย์สีทองเข้ม…

ทุกคนที่อยู่ด้านนอกเงียบลงด้วยความตกใจ พลังจากพวกเขาทั้งสี่นั้นเกินจินตนาการ แต่ก็ยังถูกทำลายได้อย่างง่ายดายด้วยร่างสีทองเข้ม…

ทั้งสองฝ่ายไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย!

อาจมีเพียงจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งแท้จริงเท่านั้นที่สามารถยับยั้งร่างสีทองเข้มนั้นได้

เมื่อทั้งสี่เห็นภาพนี้ พวกเขาก็มีสีหน้าไม่น่าดู แม้แต่การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาก็ไม่เกิดผลใดๆ ดังนั้นบอกได้เลยว่าร่างสีทองเข้มทรงพลังเพียงใด

“ระยำ!”

หมัวเฮอโยวสาปแช่ง แม้แต่การโจมตีขั้นสุดยอดสี่วิชาก็ไม่สามารถหยุดร่างสีทองเข้มได้ พวกเขาจะสู้ได้ยังไง?

มู่เฉินขมวดคิ้ว ร่างสีทองเข้มทรงพลังเกินไป หรือว่าต้องเอาชนะมันเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากร่างมหาเทพนิรันดร์?

แต่หากไม่มีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งปรากฏตัว ก็ไม่มีใครสามารถเอาชนะมันได้

โฮก!

ทันใดนั้นร่างสีทองเข้มก็เปล่งเสียงคำรามออกมา มือทั้งสองคว้าไปที่อากาศ มิติฉีกออกจากกัน

ภายในมิติเหมือนจะเห็นจุดแสงสีม่วงทองนับไม่ถ้วน

ร่างสีทองเข้มอ้าปาก ระเบิดแรงดูดเพื่อดึงจุดแสงม่วงทองออกมา ทว่าจุดแสงก็ต่อต้านชั่วครู่ก่อนที่จะถูกลากไปเขมือบ

เมื่อมองไปที่จุดแสงสีม่วงมู่เฉินก็หดดวงตา เขารู้สึกได้ถึงความผันผวนที่คุ้นเคย นั่นคือคือแก่นอมตะ!

‘แก่นอมตะนั้นน่าจะถูกรวบรวมไว้โดยเจดีย์วั้นกู่ แต่ทำไมร่างสีทองเข้มถึงต้องใช้วิธีแย่งแบบนี้ในการกลืนกิน?’

มู่เฉินเกิดความสงสัยในใจ หากร่างสีทองเข้มเป็นร่างมหาเทพนิรันดร์ในตำนาน เจดีย์ก็ควรส่งแก่นอมตะไปหาและไม่ต่อต้าน

‘หรือว่าร่างสีทองเข้มนี้ไม่ใช่ร่างมหาเทพนิรันดร์?’

‘แต่ถ้านี่ไม่ใช่ร่างมหาเทพนิรันดร์แล้วคือตัวอะไร?’ จากร่างสีทองเข้มมู่เฉินรู้สึกได้ถึงรัศมีอมตะที่หนาแน่น เพียงแค่ไม่ค่อยบริสุทธ์เท่านั้น

ขณะที่มู่เฉินสงสัย หลังจากที่ร่างสีทองเข้มกลืนกินรัศมี แสงบนร่างสีทองเข้มก็ดูหนาแน่นขึ้น ความกดดันที่แผ่ออกมาก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน

ร่างสีทองเข้มเงยหน้าขึ้นมองไปที่ทั้งสี่ พวกเขาสัมผัสได้ถึงความโลภในดวงตาของมันพร้อมกับความคิดพร่ามัวกระจายออกมา

“ข้า…จะกินพวกเจ้าทั้งหมด…”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset