หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1503 เผ่าเฮยเทียน

“กายาเซิ่ง?!”

เสียงจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งสะท้อนก้องก็ทำให้เกิดความปั่นป่วนระหว่างฟ้าดิน ทุกคนถึงกับผงะไป พวกเขารู้สึกตกตะลึงเมื่อมองไปที่ร่างสูงโปร่งนั่น

ในมหาพันภพ จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งเทียบเท่ากับจักรพรรดิที่สามารถมองข้ามสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนได้

ทว่าแม้จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งจะหายาก แต่ทุกคนก็รู้ว่ากายาเซิ่งนั้นหายากกว่า!

เพราะเส้นทางการฝึกฝนพลังกายนั้นยากลำบากมาก ต้องมีโอกาสmujน่าขนลุกในการฝึกฝนให้ถึงขั้นเซิ่ง ในมหาพันภพผู้ที่มีกายาเซิ่งสามารถนับได้ในมือเดียว

อย่างน้อยตอนนี้ในบรรดาจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งห้าคนที่อยู่ที่นี่ แม้แต่หมัวเฮอเทียนก็ไม่มีกายาเซิ่ง

เป็นเพราะความหายาก ทุกคนจึงตกตะลึงด้วยความไม่เชื่อเมื่อเห็นว่ามู่เฉินทำสำเร็จ

“ขะ…เขามีกายาเซิ่งด้วย?”

เฉวียนกวางและมั่วถงฉายความตะลึงใจบนใบหน้าพร้อมกับปากอ้าค้าง ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความอิจฉา เพราะนี่เป็นสิ่งที่พวกเขาได้แต่ฝันถึงเท่านั้น!

ยามนี้พวกเขาดับความคิดที่สับสนในใจลงหมดสิ้น การที่มู่เฉินได้ครอบครองกายาเซิ่งนั่นก็หมายความว่าเขามีคุณสมบัติพอที่จะต่อสู้กับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่ง ในแง่ของความแข็งแกร่งเขาล้ำหน้าพวกเขาสองคนไปไกลแล้ว

ตอนนี้มู่เฉินมีคุณสมบัติอย่างยิ่งในการดำรงตำแหน่งประขุมเผ่าฝูถู

เรื่องนี้ทำให้พวกเขารู้สึกซับซ้อนในใจ เพราะครั้งก่อนที่ปะทะกันมู่เฉินต้องใช้ค่ายกลในการถล่มพวกเขา แต่ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถฝ่าแนวป้องกันของมู่เฉินได้ ต่อให้อีกฝ่ายจะยืนนิ่งอยู่ที่นั่นและปล่อยให้พวกเขาโจมตี

ที่สุดแล้วกายาเซิ่งไม่ใช่เรื่องตลกเลย

“ไม่เลว ไม่เลว…”

ฝูถูเฉวียนลูบเคราเบาๆ แม้แต่คนหัวรั้นอย่างเขายังอดยิ้มไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าเขาตกใจกับความเป็นจริงที่เบื้องหน้าเช่นกัน

“ดูเหมือนเฉินเอ๋อจะได้รับการฝึกฝนกายาเซิ่งโดยใช้โอกาสที่ร่างมหาเทพนิรันดร์มอบให้” ชิงเหยี่ยนจิ้งยิ้มเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

“ความคิดของเจ้าหนูถือว่าใช้ได้ เขารู้วิธีที่จะถ่อมตัวไม่เย่อหยิ่งเพราะได้รับร่างมหาเทพนิรันดร์ เขารู้จักซ่อนตัวในเจดีย์เพื่อเพิ่มศักยภาพของตนเองก่อนที่จะปรากฏตัว” ฝูถูเฉวียนกล่าวชื่นชม หากเป็นคนอื่นได้รับร่างมหาเทพนิรันดร์ พวกเขาคงเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง แต่เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ไม่ไกลจากหายนะแล้ว

เมื่อได้ยินคำชื่นชมจากฝูถูเฉวียน ชิงเหยี่ยนจิ้งก็ยิ้มพยักหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

ขณะที่ฝั่งเผ่าฝูถูกล่าวชื่นชมกัน ฝั่งเผ่าหมัวเฮอก็เงียบกริบไป ผู้อาวุโสเผ่าหมัวเฮอมีสีหน้าเขียวคล้ำ พวกเขาไม่คิดมาก่อนว่ามู่เฉินที่ไม่สามารถจัดการกับหมัวเฮอโยวได้เมื่อครึ่งปีก่อนจะมีกายาเซิ่ง

นั่นหมายความว่าตอนนี้ความแข็งแกร่งของมู่เฉินเติบโตขึ้นทะลุฟ้าพร้อมคุณสมบัติที่จะต่อสู้กับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งแล้ว

ทางด้านหมัวเฮอโยวดวงตาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เขาอยากจะแล่เนื้อเถือหนังมู่เฉินนัก นั่นเพราะโอกาสนี้ควรเป็นของเขา ถ้าไม่ใช่การปรากฏตัวขึ้นของมู่เฉิน เขาจะเป็นคนเดียวในเผ่าหมัวเฮอที่มีกายาเซิ่ง เมื่อไรที่ขุมพลังหลิงของเขาไปถึงขั้นเซิ่งละก็ ความสามารถในการต่อสู้ของเขาก็จะก้าวนำหมัวเฮอเทียน กลายเป็นจอมยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่า

ถ้าเขารู้เรื่องนี้ ย้อนกลับไปตอนที่ทวีปเทียนหลัว เขาก็จะฆ่ามู่เฉินโดยไม่ลังเลเพื่อไม่ให้มันเข้าร่วมงาน

ทว่าในโลกนี้ไม่มียาแก้อดีตที่น่าเสียดาย ดังนั้นเมื่อต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของมู่เฉิน ความตรอมตรมใจในใจของหมัวเฮอโยวก็เกือบจะทำให้ตนเองเป็นบ้า

ดวงตาของหมัวเฮอเทียนมืดครึ้มลง ทว่าเขาก็รักษาความสงบและหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับอารมณ์ในใจ “ไม่คิดว่าเจ้าจะมีกายาเซิ่ง มิน่าล่ะถึงจองหองพองขน ปฏิเสธความปรารถนาดีของเผ่าหมัวเฮอของข้า”

“ความปรารถนาดี?”

มู่เฉินยิ้มอ่อน “ช่างเป็นความปรารถนาดีที่ไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ”

ในฐานะประมุข หมัวเฮอเทียนไม่เพียงแต่มีพลังที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่เขายังหน้าหนามาก สามารถพูดคำที่ไร้ยางอายได้อย่างเปิดเผย

สีหน้าหมัวเฮอเทียนไม่เปลี่ยนแปลงขณะตอบอย่างเฉยเมย “ตอนแรกข้าอยากคุยกับเจ้าดีๆ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าจะหยิ่งเพราะมีกายาเซิ่ง งั้นข้าก็ขอประกาศวันนี้ไม่ว่าเจ้าจะคิดยังไงร่างมหาเทพนิรันดร์ต้องอยู่ที่นี่!”

“ฮ่าๆ วาจาใหญ่โตจริง วันนี้ข้าขอดูหน่อยว่าเผ่าหมัวเฮอจะทำยังไงให้ลูกชายข้าวางร่างมหาเทพนิรันดร์ไว้ที่นี่!” เสียงเยือกเย็นของชิงเหยี่ยนจิ้งดังสะท้อน

แววตาของหมัวเฮอเทียนมืดครึ้มพร้อมกับไอสังหารเย็นชาไหลเวียนในดวงตาขณะที่เขาหันไปหาชิงเหยี่ยนจิ้ง “พูดแบบนี้ก็หมายความว่าเผ่าฝูถูของเจ้าตัดสินใจประกาศสงครามกับเผ่าหมัวเฮอใช่ไหม?”

“ถ้าไม่ใช่เพราะเผ่าหมัวเฮอเอาแต่ใจ พวกข้าก็ไม่คิดจะเปิดศึกหรอก” ฝูถูเฉวียนตอบ

หมัวเฮอเทียนถอนหายใจ “ข้าก็คาดไว้แล้วว่าพวกเจ้าจะไม่ยอม ดังนั้นวันนี้ข้าคงต้องใช้บุญคุณที่คนอื่นติดไว้สักหน่อยแล้ว…”

เมื่อพูดจบหมัวเฮอเทียนก็มองไปที่มิติตรงหน้าพูดว่า “พี่เฮยเธียนออกมาเถอะ”

เมื่อหมัวเฮอเทียนพูดจบ ท้องฟ้าก็กลายเป็นมืดมิด ความมืดแผ่ซ่านกลืนกินแสงสว่างทั้งหมด

ความมืดปกคลุมไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ถอยร่นรวดเร็วเช่นกัน เมื่อความสว่างกลับคืน ทุกคนก็เห็นร่างสองร่างปรากฏข้างกายหมัวเฮอเทียน

ทั้งสองร่างสวมเสื้อสีดำ ดวงตาพวกเขาพิเศษมาก ไม่มีส่วนตาขาว ความมืดหมุนคว้างราวกับหลุมดำ ทำให้คนมองใจสั่นสะท้าน

เมื่อมองไปที่ทั้งสองมู่เฉินก็หดดวงตา เขาสัมผัสได้ถึงความผันผวนที่น่ากลัว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่ง!

“เผ่าเฮยเทียน…เฮยเธียน เฮยตี้ พวกเจ้าสองคนคิดจะมาสอดเกี่ยวกับเรื่องนี้เรอะ?” ใบหน้าของชิ้งเหยี่ยนจิ้งและฝูถูเฉวียนเปลี่ยนไปกับการปรากฏตัวของจอมยุทธ์ทั้งสอง

“เผ่าเฮยเทียน?”

หัวใจของมู่เฉินสั่นไหว ตอนนี้ทราบถึงตัวตนของผู้มาใหม่ทั้งสองคนแล้ว ที่แท้พวกเขาเป็นหนึ่งในห้าเผ่าโบราณนี่เอง?!

ความปั่นป่วนระเบิดนอกเมือง ไม่มีใครคาดคิดว่าเผ่าหมัวเฮอจะเชิญจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งสองคนจากเผ่าเฮยเทียนมาได้

ต้องรู้ว่าโดยทั่วไปแล้วแค่สมาชิกเผ่าเฮยเทียนยังมักไม่ปรากฏต่อหน้าผู้คน ไม่ต้องพูดถึงจอมยุทธ์ระดับนี้ของเผ่าเลย

เมื่อได้ยินคำพูดของชิงเหยี่ยนจิ้ง หนึ่งในนั้นก็เงยหน้าขึ้น สีหน้าของเขาขาวซีดดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงแสงแดดมาเป็นเวลานาน เขาถอนหายใจ “เผ่าเฮยเทียนเป็นหนี้บุญคุณเผ่าหมัวเฮอ ดังนั้นพวกข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเคลื่อนไหว หวังว่าผู้อาวุโสใหญ่ชิงเหยี่ยนจิ้งจะเข้าใจความยากลำบากใจนี้นะ”

สีหน้าของชิงเหยี่ยนจิ้งและฝูถูเฉวียนไม่น่าดู สถานการณ์นี้เกินความคาดหมายแล้ว ไม่คิดว่าเผ่าหมัวเฮอจะสามารถเชิญเผ่าเฮยเทียนเข้าร่วมได้

ด้วยจอมยุทธ์เผ่าเฮยเทียนจะสร้างความแตกต่างอย่างมากระหว่างสองขุมกำลัง พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งถึงห้าคน แม้แต่เผ่าฝูถูก็รู้สึกกดดันไม่น้อย

ที่ด้านหลังชิงเหยี่ยนจิ้ง จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนของเผ่าฝูถูก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน

ดูเหมือนว่าเผ่าหมัวเฮอจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อแย่งร่างมหาเทพนิรันดร์…

หมัวเฮอเทียนประสานมือคำนับเฮยเธียนและเฮยตี้ก่อนจะมองไปที่มู่เฉิน “อย่างที่ข้าบอกไป ไม่ว่ายังไงเจ้าก็ไม่สามารถนำร่างมหาเทพนิรันดร์ไปด้วยได้”

มู่เฉินหรี่ตาลงตอบกลับอย่างใจเย็น “ได้-ไม่ได้ก็ต้องลองดูก่อน”

แม้ว่าการปรากฏตัวของเผ่าเฮยเทียนจะเกินความคาดหมาย แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนอย่างเขาจะทิ้งร่างมหาเทพนิรันดร์ไว้ที่นี่

“ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา แกมีเพียงกายาเซิ่งคิดว่าตัวเองอยู่ยงคงกระพันจริงหรือ?” ดวงตาของหมัวเฮอเทียนจมลงก่อนที่จะหันไปหาเฮยเธียนและเฮยตี้ “ข้าต้องรบกวนพวกเจ้าสองคนขัดขวางเผ่าฝูถูด้วย”

“ส่วนร่างมหาเทพนิรันดร์เป็นหน้าที่ของเผ่าหมัวเฮอที่จะแย่งชิงมาเอง”

เฮยเธียนและเฮยตี้พยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ จริงๆ แล้วพวกเขาไม่ต้องการมีส่วนร่วมในความขัดแย้งนี้ แต่พวกเขาทำอะไรไม่ได้เพราะเป็นหนี้บุญคุณอีกฝ่ายอยู่…

ที่ด้านหลังของหมัวเฮอเทียน หมัวเฮอโยวมองไปที่มู่เฉินด้วยสายตาที่โหดเหี้ยมและเย็นชา ‘แกมีกายาเซิ่งแล้วยังไง? ต่อหน้าเผ่าหมัวเฮอของข้า แกก็ต้องถูกจับ’

“บังอาจ!”

ใบหน้าของชิงเหยี่ยนจิ้งเย็นเยือกลง ขณะที่มิติเบื้องหลังแปรปรวน ค่ายกลขนาดใหญ่บีบลงมาซึ่งเต็มไปด้วยแรงกดดันที่น่ากลัว

แสงสีดำวูบไหวบนท้องฟ้า เฮยเธียนและเฮยตี้เข้ามาขัดขวางการเคลื่อนไหวของนาง ความมืดแผ่ออกมาจากเบื้องหลังพวกเขา ราวกับเป็นโลกแห่งความมืด

ในเวลาเดียวกันหมัวเฮอเทียนก็พยักหน้าให้ชายชราสองคนที่อยู่ข้างหลัง ทั้งสองทะยานออกไปหามู่เฉิน

เมื่อมองสองคนที่พุ่งเข้ามา ดวงตาของมู่เฉินก็เย็นชาลงพลางกำหมัดแน่น รัศมีสีทองกระจายไปทั่วร่าง

ฮึ่ม!

แต่เมื่อเขากำลังจะออกกระบวนท่า ม่านคลื่นหลิงโบราณก็พลิ้วลงมาจากท้องฟ้าขวางทางจอมยุทธ์อาวุโสของเผ่าหมัวเฮอไว้

พร้อมกับม่านคลื่นหลิงเคลื่อนลงมา เสียงโบราณก็ดังก้อง

“ฮ่าๆ ครึกครืนดีจริง แต่ว่าท่านธิดาเทพประกาศไว้แล้วว่าเผ่าไท่หลิงต้องปกป้องมู่เฉิน…”

เสียงที่ดังขึ้นกะทันหันทำให้หัวใจของมู่เฉินสั่นไหว เขาเงยหน้าขึ้นทันที ก็เห็นเสาแสงพุ่งลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับภาพที่สลักลึกอยู่ในหัวใจเขาปรากฏขึ้น

ร่างนั้นมองลงมาตอบกับมู่เฉินด้วยแววตาเปี่ยมล้น รอยยิ้มผุดผาดเผยบนริมฝีปากบาง ทำให้หัวใจของมู่เฉินอ่อนระทวย

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset