หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – 903 สมรภูมิหยุ่นลั้วที่จลาจล

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 903 สมรภูมิหยุ่นลั้วที่จลาจล

บนเทือกเขาห่างไกล

เกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ขึ้น ที่มาของแรงสั่นสะเทือนก็คือมือขนาดใหญ่พันจั้งที่สร้างจากรัศมีจั้นยี่บนท้องฟ้านั่นเอง

มือใหญ่โตราวกับมือยักษ์โบราณที่ปรากฏมาจากห้วงมิติ รัศมีจั้นยี่น่าขนพองสยองเกล้าแผ่กระจายออกไปจากลวดลายจั้นเหวินเหล่านั้น ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงในมิติ

เมื่อมองมือใหญ่โตที่เต็มไปด้วยลวดลายจั้นเหวิน กระทั่งจอมยุทธ์ที่ทรงพลังแบบเลี่ยซันก็ยังอดดวงตาหดเกร็งไม่ได้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

นั่นเพราะพลังงานที่เขาสัมผัสได้จากมือยักษ์ทำให้กระทั่งตัวเขายังเกิดความรู้สึกหวาดกลัว หากเขาต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ เขาไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถต้านทานได้เลย

ถ้าขนาดเลี่ยซันยังอดตกตะลึงไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงผู้บัญชาการที่เหลือ พวกเขามีพลังน้อยกว่า ดังนั้นอันตรายที่พวกเขารู้สึกจากมือนั่นรุนแรงยิ่งกว่าหลายเท่า

“นี่คือพลังของจั้นเจิ้นซือเรอะ? น่ากลัวจริงๆ” จิ่วโยวพูดพร้อมกับสีหน้าเคร่งเครียด ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจินไถหลิวหลีสามารถนำหมู่ตึกเทวะเข้าโจมตียอดเขาหมื่นเทพจนราบเป็นหน้ากลองทั้งที่ทั้งสองก็เป็นขั้วอำนาจสูงสุดเช่นกัน ที่แท้พลังของจั้นเจิ้นซือไปไกลเกินกว่าอัจฉริยะแห่งศาสตร์รัศมีจั้นยี่มากเลยทีเดียว

อย่างน้อยในสายตาของพวกเขา รัศมีจั้นยี่ที่มู่เฉินใช้ในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าเมื่อเดือนก่อนหลายเท่า ซึ่งเปรียบเทียบแล้วทั้งสองไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย

บนท้องฟ้ามู่เฉินจ้องไปที่มือใหญ่รัศมีจั้นยี่ก็สะบัดแขนเสื้อ มือใหญ่กระจายตัวเป็นประกายแสง รัศมีจั้นยี่กว้างใหญ่ที่ปกคลุมขอบฟ้าก็เริ่มสงบลง ก่อนที่จะลอยหวือกลับลงไปในที่หน่วยรบทั้งห้า

ถึงรัศมีจั้นยี่จะสงบแล้ว แต่ระลอกคลื่นในหัวใจของมู่เฉินไม่ได้สงบลงตาม ขณะที่เหล่าผู้บัญชาการพากันตกใจกับความแข็งแกร่งของจั้นเจิ้นซือ ตัวเขาเองก็ตกใจไม่ต่างกัน

นั่นเป็นเพราะเขาสัมผัสได้ชัดเจนถึงความแตกต่างที่น่ากลัวของจำนวนลวดลายจั้นเหวินที่น้อยกว่าและมากกว่าหนึ่งหมื่นลาย เขายืนยันได้ว่าถ้าเขาเจอศัตรูในอดีต เขาอาจสามารถฆ่าอีกฝ่ายด้วยการสะบัดมือครั้งเดียว

ลวดลายจั้นเหวินเก้าพันลายกับหนึ่งหมื่นลาย อาจถูกมองว่าเป็นความแตกต่างเพียงจำนวนตัวเลขหนึ่งพันลายเท่านั้น แต่เห็นได้ชัดว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งสองระดับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ยามนี้มู่เฉินมีความมั่นใจว่าด้วยพลังลวดลายจั้นเหวินหมื่นลาย ในขุมพลังจื้อจุนขั้นหก เขาจะไม่ต้องกลัวใครอีกแล้ว

จั้นเจินซือเป็นศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง แม้ว่าจะเป็นเส้นทางเลือกก็ยังน่าตื่นตาอย่างยิ่ง ในมุมหนึ่งก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าศาสตร์ขุมพลังหลิงเลย เพียงแต่ว่ามีความแตกต่างในรากฐานของศาสตร์ทั้งสอง จอมยุทธ์ขุมพลังหลิงฝึกฝนร่างกาย ทำให้ร่างกายมีพลังที่น่ากลัวผ่านทางฟ้าดิน ขณะที่จั้นเจินซือกลับยืมพลังจากกองทัพ ใช้ปริมาณในการเอาชนะประสิทธิภาพ

ไม่มีอะไรดีกว่ากัน ทั้งสองศาสตร์แค่มีความแตกต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น

แน่นอนว่า ข้อบกพร่องเพียงอย่างเดียวของจั้นเจิ้นซือก็คือความต้องการในการบัญชากองทัพตลอดเวลา มิฉะนั้นแม้แต่จั้นเจิ้นซือที่ทรงพลังก็ไม่มีอะไรน่ากลัวหากปราศจากกองทัพ

ขณะที่จอมยุทธ์ขุมพลังหลิงจะกำกับเมฆฝนและยืนตระหง่านบนฟ้าดินด้วยพลังของตนเอง

ทั้งสองมีแง่มุมความแข็งแกร่งของตัวเอง เส้นทางการฝึกฝนที่มีหลังจากผ่านมาหมื่นปีก็ต้องมีข้อดีของตัวเองอยู่แล้ว

เมื่อแรงสั่นสะเทือนในใจของมู่เฉินสงบลง ร่างก็พลิ้วลงไปช้าๆ

“ฮ่าๆ ขอแสดงความยินดีผู้บัญชาการมู่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปอาณาเขตกงเวทสวรรค์ของเราก็มีจั้นเจิ้นซือตัวจริงแล้ว ในสงครามล่าครั้งนี้ผู้บัญชาการมู่คงได้แสดงศักยภาพให้เป็นที่ประจักษ์แน่นอน” เลี่ยซันประสานมือด้วยรอยยิ้มซึ่งเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความนับถือ ท้ายที่สุดโลกก็ยังเคารพพลังและพลังที่มู่เฉินแสดงออกเมื่อครู่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัว ดังนั้นวัยวุฒิของมู่เฉินจึงถูกพับเก็บโดยสิ้นเชิงในขณะนี้

เมื่อได้ยินคำชื่นชม มู่เฉินก็ยิ้มขณะที่คารวะตอบอย่างสุภาพ ก่อนจะถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

พวกจิ่วโยวเล่าเรื่องต่างๆ ให้เขาฟังโดยเฉพาะการต่อสู้ระหว่างหมู่ตึกเทวะและยอดเขาหมื่นเทพ

“จินไถหลิวหลีบรรลุการเป็นจั้นเจินซือแล้วจริงด้วยรึ?” เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ มู่เฉินก็ไม่แปลกใจ เพราะมรดกที่จินไถหลิวหลีได้รับสมบูรณ์กว่าของเขา แม้ว่าจักรพรรดิเทียนเจิ้นจะด้อยกว่าราชันสงครามจิ่วเจี๋ยซึ่งเป็นผู้คิดค้นคัมภีร์จิตจิ่วเจี๋ยเหลยหยู่ แต่เคล็ดวิชาที่มู่เฉินได้รับยังไม่สมบูรณ์ เขาต้องค้นคว้าไปตามเส้นทางของหลายสิ่ง ขณะที่จินไถหลิวหลีมีอาจารย์ปูทางให้ ดังนั้นเข้าใจได้ไม่ยากว่านางจะสำเร็จวิชาเร็วกว่าเขา

“ตอนนี้ชื่อของจินไถหลิวหลีดังเป็นพลุแตกในสมรภูมิหยุ่นลั้วแล้ว ข้าเชื่อว่าหลังจากสงครามล่าจบลง นางจะกลายเป็นจอมยุทธ์ที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคทางเหนือแน่” จิ่วโยวถอนหายใจ

เผชิญหน้ากับวั่นเหวินจั้นเจิ้นซือกระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกก็ยังหวาดกลัว

“มีข่าวอีกว่าขั้วอำนาจสูงสุดที่เหลือก็ให้ความสนใจเรื่องนี้ ต่างฝ่ายก็กำลังมองหาซากอารยธรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับจั้นเจิ้นซือ พวกเขาพยายามค้นหามรดกสืบทอดเพื่อที่จะนำบำรุงเหล่าอัจฉริยะศาสตร์รัศมีจั้นยี่ของพวกเขาให้กลายเป็นจั้นเจิ้นซือบ้าง” เลี่ยซันกล่าว

มู่เฉินพยักหน้า เนื่องจากในสงครามระดับนี้ความแข็งแกร่งของจั้นเจิ้นซือทรงพลังยิ่งนัก ดังนั้นก็เป็นธรรมดาที่กองทัพอื่นๆ จะอยากได้เช่นกัน

“การค้นหาของพวกเขาเป็นยังไงบ้าง?” มู่เฉินถาม สมรภูมิหยุ่นลั้วกว้างใหญ่ไพศาล พวกเขาค้นหาได้เพียงแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น ดังนั้นจั้นเจิ้นซือที่ละสังขารลงที่นี่ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเพียงจักรพรรดิเทียนเจิ้นคนเดียว แน่นอนว่าจะมีซากอารยธรรมที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังโดยจั้นเจิ้นซือรายอื่นเช่นกัน

“ขั้วอำนาจสูงสุดอื่นๆ วิ่งวุ่นค้นหากันจ้าละหวั่น ในที่สุดก็ได้รับการเก็บเกี่ยวมาบ้างเช่นกัน เรายังได้รับข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับพวกเขา เพียงแค่ว่าไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่” จิ่วโยวครุ่นคิดสั้นๆ พูดต่อว่า “เมื่อไม่นานมานี้มีข้อมูลหนึ่ง จวนยมโลกปะทะกับกลุ่มหนึ่งของหมู่ตึกเทวะโดยที่มีจินไถหลิวหลีอยู่ด้วย ศึกนั้นจบลงที่ผลลัพธ์เสมอกัน”

“โอ้?”

สายตามู่เฉินหดลง จวนยมโลกยันเสมอกับจินไถหลิวหลีได้รึ? หรือว่าจวนยมโลกจะมีจิ้นเจิ้นซืออยู่ด้วย?

“พวกเราสงสัยว่าจวนยมโลกก็ค้นพบซากอารยธรรมของจั้นเจิ้นซือและได้รับมรดกที่อยู่ในนั้น ทำให้อัจฉริยะศาสตร์รัศมีจั้นยี่ของพวกเขาบรรลุการเป็นจั้นเจิ้นซือเหมือนกัน” จิ่วโยวพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม

มู่เฉินพยักหน้าเบาๆ บางทีนี่น่าจะสมเหตุสมผลดี แต่ก็ยังทำให้เขาทอดถอนหายใจ เพียงเวลาหนึ่งเดือนสถานการณ์ในสมรภูมิหยุ่นลั้วก็เปลี่ยนไปมาก ตอนเข้ามาไม่ได้มีจั้นเจิ้นซือแม้แต่คนเดียว แต่ตอนนี้กลับเริ่มปรากฏตัวขึ้นราวกับน้ำพุร้อน แม้ว่าสมรภูมิหยุ่นลั้วจะเต็มไปด้วยอันตราย แต่ก็มีโอกาสมากมายที่ปลาคาร์พจะกลายเป็นมังกร

ทว่าจวนยมโลกก็ไม่ใช่มิตรกับอาณาเขตกงเวทสวรรค์ ดังนั้นมู่เฉินจึงยินดีที่ได้เห็นการต่อสู้ระหว่างทั้งสอง

“นอกจากนี้ฟังยี่เหมือนจะพ่ายแพ้โยวหมิงในการเผชิญหน้าครั้งล่าสุดด้วย” จิ่วโยวหยุดไปนิดก่อนจะพูดต่อ

มู่เฉินอึ้งไปทันทีที่ได้ยินประโยคดังกล่าว ก่อนที่จะพูดด้วยเสียงค่อนข้างประหลาดใจ “พลังของโยวหมิงเติบโตเร็วขนาดนี้เชียว?”

ครั้งก่อนในเขตหลงเฟิ่ง โยวหมิงชัดว่าอ่อนกว่าฟังยี่ ทว่าเพียงเวลาไม่ถึงครึ่งปี เขากลับเป็นปลาเค็มพลิกตัวแซงฟังยี่ไปงั้นรึ?

ก่อนหน้านี้ที่เขาสู้กับฟังยี่ อีกฝ่ายก็เป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้า นั่นหมายความว่าโยวหมิงต้องประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน คนพวกนี้มองข้ามไม่ได้เลย

มู่เฉินถอนหายใจ จากนั้นก็มองไปที่พรรคพวก “งั้นเราควรทำอะไรตอนนี้ดี?”

“เราทำภารกิจสำเร็จลุล่วงแล้วด้วยปริมาณยาหยุ่นลั้วที่เรามีอยู่ในมือ ดังนั้นข้าแนะนำว่าเราไปรวมตัวกันกับผู้บัญชาการอื่นๆ ก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้น” เลี่ยซันกล่าวอย่างเคร่งขรึม

สถานการณ์ในสมรภูมิหยุ่นลั้วเริ่มทวีความรุนแรง กระทั่งขั้วอำนาจสูงสุดอย่างยอดเขาหมื่นเทพก็ประสบความสูญเสียที่น่าสังเวช มากจนสูญเสียจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหก ดังนั้นตอนนี้พวกเขาต้องรวมตัวกันเพื่อป้องกันตัวเองจากการถูกล้อมรอบโดยขั้วอำนาจอื่น

มู่เฉินพยักหน้า ตอนแรกกองทัพอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็แยกกันในสมรภูมิหยุ่นลั้วเพื่อค้นหาซากอารยธรรมในการกลั่นเม็ดยาหยุ่นลั้ว เหตุผลที่พวกเขามารวมตัวกันก็เพราะเข็มทิศค้นวิญญาณของมู่เฉินที่มีความสามารถในการค้นหาซากอารยธรรมได้ ขณะที่ผู้บัญชาการคนอื่นคงยังต้องพึ่งพาตัวเองเท่านั้น

ในเมื่อสถานการณ์สมรภูมิหยุ่นลั้วไปไกลขนาดนี้แล้ว ถ้าพวกเขายังคงพึ่งพาตัวเองเพื่อต่อสู้ ก็จะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง นั่นเป็นเพราะพวกเขาจะเป็นเป้าหมายที่ดีสำหรับขั้วอำนาจอื่นๆ

หากพวกเขาถูกล้อมเม็ดยาหยุ่นลั้วที่ได้รับมาด้วยความพยายามยิ่งใหญ่ ก็จะสลายหายไปเป็นอากาศธาตุ อาจมากจนแม้แต่พวกเขาได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เนื่องจากในช่วงนี้หน่วยรบที่โดดเดี่ยวจะอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเป็นพิเศษ

มู่เฉินและคนอื่นพยักหน้าเบาๆ เมื่อได้ยินคำพูดเลี่ยซัน ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดที่พวกเขาควรทำคือรวบรวมคนทั้งหมด นั่นเป็นเพราะพวกเขาจะได้รอคำสั่งของมั่นถัวหลัว ตราบใดที่นางค้นพบขุมทรัพย์ตี้จื้อจุน พวกเขาก็จะสามารถเคลื่อนพลได้ในครั้งเดียว

“ไปกันเถอะ!”

เมื่อทุกคนตัดสินใจเด็ดขาดก็ไม่มีความลังเล แขนเสื้อสะบัดไหวแต่ละคนก็ส่งคำสั่งไปยังผู้ใต้บังคับบัญชา ทำให้เทือกเขาถึงกับสั่นสะเทือนฉับพลัน จากนั้นคนจำนวนนับไม่ถ้วนก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า กลายเป็นลำแสงหายไปที่เส้นขอบฟ้า

ขณะที่กลุ่มของมู่เฉินเดินทางไปยังสถานที่รวมพลของอาณาเขตกงเวทสวรรค์

ก็มีเงาร่างสองร่างอยู่บนยอดเขาทางเหนือห่างไกล หนึ่งในนั้นก็คือโยวหมิงแห่งจวนยมโลกและอีกหนึ่งเป็นจอมยุทธ์สวมเสื้อคลุมสีดำยืนอยู่ข้างเขาอย่างเงียบๆ

ฟิ้ว!

เสียงลมฉีกออกจากกันดังขึ้นด้านหลัง ขณะที่ร่างร่างหนึ่งทะยานเข้ามาหาโยวหมิง ผู้มาใหม่ยื่นม้วนกระดาษให้ด้วยความเคารพ

โยวหมิงรับมาอย่างเรียบเฉย ก่อนที่จะเปิดม้วนกระดาษออก สายตาวูบไหว เขายิ้มบางก่อนที่จะมองไปที่ชายสวมเสื้อคลุมสีดำข้างตัว “ไอ้ลูกหนูที่ซ่อนตัวมาหนึ่งเดือน ในที่สุดก็ปรากฏออกมาแล้ว…”

เมื่อชายสวมเสื้อคลุมสีดำได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาก็เปล่งประกายด้วยแสงแปลกประหลาด เขาพยักหน้าเบาๆ พูดด้วยเสียงแหบห้าว

“รอให้ข้าดูดซับคลื่นจิตของมันก่อน จากนั้นก็ถึงตาจินไถหลิวหลี”

**ปลาเค็มพลิกตัวหมายถึงบุคคลที่เคยตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก กำลังพบจุดเปลี่ยนให้ชีวิตดีขึ้น

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset