หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – 914 ลวดลายมังกรเก้าสายฟ้า

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 914 ลวดลายมังกรเก้าสายฟ้า

ครืน!

เสียงฟ้าคำรามรุนแรงดังก้องไปทั่ว ฟ้าดินสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น กระทั่งจอมยุทธ์ทุกคนก็ต่างมีสายตาเคร่งเครียด ขณะจ้องมองสายฟ้าที่พวยพุ่งออกมาจากฝ่ามือของมู่เฉิน

สายฟ้าไม่ได้มีรูปลักษณ์ยิ่งใหญ่ เนื่องจากเป็นเพียงมังกรสายฟ้าที่มีขนาดหนึ่งจั้ง ทว่าพลังงานที่บรรจุอยู่ภายในมังกรตัวนี้ แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกบางคนยังมีสีหน้าเปลี่ยนไปรุนแรง

มังกรสายฟ้าถูกสร้างขึ้นด้วยลวดลายจั้นเหวินที่อัดแน่นด้วยรัศมีจั้นยี่ของหน่วยรบทั้งห้า ด้วยรัศมีจั้นยี่ที่ไร้ขอบเขตกดอัดเข้าด้วยกัน ทำให้พลังทำลายล้างน่าอัศจรรย์นัก

แม้ว่าคัมภีร์จิตจิ่วเจี๋ยเหลยหยู่ที่มู่เฉินได้รับมาจะยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่หลังจากที่ฝึกฝนเขาก็ได้รับทักษะรัศมีจั้นยี่ที่ราชันสงครามจิ่วเจี๋ยทิ้งเอาไว้ภายใน

ทักษะนี้ก็คือลวดลายมังกรเก้าสายฟ้าที่มู่เฉินกำลังใช้อยู่ขณะนี้นี่เอง

จากข้อมูลบางอย่างที่มู่เฉินได้รับ ลวดลายมังกรเก้าสายฟ้าเป็นเพียงบางสิ่งที่คิดค้นไว้โดยไม่ได้ตั้งใจจากราชันสงครามจิ่วเจี๋ย แต่ไม่ว่าอย่างไรวิชานี้ก็คิดขึ้นโดยจั้นเจิ้นซือที่เทียบเคียงกับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อ ในแง่ของความแข็งแกร่งก็ถือว่าทรงพลังอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยู่ในระดับเดียวกับมู่เฉิน

ยกตัวอย่างลวดลายมังกรเก้าสายฟ้า ซึ่งใช้กระบวนการพิเศษในการบีบอัดรัศมีจั้นยี่ ว่ากันว่าเมื่อผู้ฝึกศึกษาไปจนถึงจุดที่เชี่ยวชาญแล้ว ก็สามารถสร้างลวดลายมังกรสายฟ้าที่มีขนาดเท่ากับแมลงวัน แม้สิ่งนี้จะมีขนาดเล็กมาก แต่พลังที่บรรจุอยู่ก็เป็นสิ่งที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าก็ไม่สามารถต้านทานได้

แน่นอนว่าตอนนี้ลวดลายมังกรสายฟ้าที่มู่เฉินสร้างขึ้นยังห่างไกลจากขนาดของแมลงวัน แม้ว่าจะยังมีช่องว่างขนาดใหญ่สำหรับเขาที่จะไปถึงระดับนั้น แต่พลังก็ยังเหนือกว่าตราประทับสงครามเขมือบปีศาจมากนัก

แม้ว่ามู่เฉินจะไม่รู้ว่าหลินหมิงได้รับมรดกอะไรมา แต่ก็เป็นเรื่องตลกที่จะเปรียบเทียบกับสุดยอดจอมยุทธ์แบบราชันสงครามจิ่วเจี๋ย

ม่านตาดำของมู่เฉินจ้องนิ่งไปที่หลินหมิงที่สีหน้าเปลี่ยนแปลงอย่างไม่แยแส โดยไม่มีอาการลังเลในการโจมตี นิ้วเรียวก็กดลงบนท้องฟ้าเบาๆ

ตู้ม!

สายฟ้าฟาดฉีกมิติ ทันใดนั้นก็ปรากฏตรงหน้าหลินหมิง

เมื่อหลินหมิงฟื้นจากอาการตื่นตะลึงก็เส้นขนลุกชันไปหมด เขาแผดเสียงคำรามดังลั่น มือสองข้างสร้างตราประทับรวดเร็ว “ภพอเวจี ปากเขมือบปีศาจ!”

โฮก!

ที่ด้านหลังมวลคลื่นยักษ์สีดำของรัศมีจั้นยี่ที่แผ่ปกคลุมกองทัพขนาดใหญ่ก็พุ่งผ่านมิติปรากฏที่เบื้องหน้าหลินหมิง ควบแน่นกลายเป็นปากสีดำขนาดพันจั้ง

เมื่อปากขนาดใหญ่เปิดออก ริ้วสีดำสนิทภายในปากก็ดูราวกับก้นเหวลึก ให้ความรู้สึกว่าเชื่อมต่อกับมิติหลุมดำ ทุกอย่างที่เข้าไปจะถูกดูดกินโดยความมืดมิดนี้

ฟิ้ว!

ทว่ามังกรสายฟ้าขนาดหนึ่งจั้งกลับไม่ได้สนใจ เมื่อเสียงฟ้าร้องดังขึ้น มันก็ไม่ลังเลพุ่งชนเข้าไปในปาก

หลินหมิงเห็นว่าลวดลายมังกรสายฟ้าถูกดูดกลืน แต่คนขี้ระแวดระวังอย่างเขากลับไม่ได้โอ้อวดอีก เขารีบเปลี่ยนตราประทับในฝ่ามือเพื่อพยายามควบคุมรัศมีจั้นยี่ทำลายลวดลายมังกรสายฟ้า แต่ทันทีที่เกิดความคิดนี้ เสียงฟ้าผ่าดังกึกก้องก็เปล่งออกมาจากปาก

รัศมีจั้นยี่ที่ผยองเกินพรรณนาปะทุราวกับภูเขาไฟระเบิดออกมาจากปากเหวนั่น

สัมผัสได้ถึงรัศมีจั้นยี่ที่ป่าเถื่อน หลินหมิงก็มีสีหน้าเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทันใดนั้นร่างเขาก็ถอยออกไป รัศมีจั้นยี่สีดำมืดก่อตัวเป็นม่านชั้นกีดขวางขนาดใหญ่ตั้งรับที่เบื้องหน้า

แคร็ก!

ขณะที่หลินหมิงถอยออกมา ปากเหวปีศาจก็ราวกับไม่สามารถทนรับได้กับการระเบิดของรัศมีจั้นยี่รุนแรง รอยแตกปรากฏขึ้นบนปากอันใหญ่โต สายฟ้าพล่านออกมาจากรอยแตกเหล่านั้น ตามมาด้วยการระเบิดกะทันหันของปากปีศาจ

ครืน!

สายฟ้าพร้อมกับรัศมีจั้นยี่หาใดเปรียบกวาดออกมาราวกับคลื่นยักษ์เหนือชั้น ขณะที่ม่านรัศมีจั้นยี่ถูกทำลายอย่างรวดเร็ว

ในเวลาไม่กี่ลมหายใจแนวป้องกันที่หลินหมิงทิ้งไว้เบื้องหลังก็ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ สายฟ้ารัศมีจั้นยี่ที่เกรี้ยวกราดพวยพุ่งราวกับคลื่นห้อมล้อมตัวหลินหมิงไว้

เมื่อเงากดลงมา ใบหน้าของหลินหมิงก็มืดครึ้ม ทันใดนั้นเขาก็กระทืบเท้า หัวกะโหลกดำปรากฏขึ้นเหนือร่างเขา มันเปิดปากที่ดุร้าย คลื่นเสียงสีดำขนาดใหญ่แผ่ออกมาทันที

ตู้ม! ตู้ม!

คลื่นเสียงที่ถูกสร้างขึ้นด้วยรัศมีจั้นยี่ปะทะกับคลื่นสายฟ้า ทำให้เกิดการระเบิดทันที ตรงจุดที่เกิดการชนกันมิติก็บิดเบี้ยวลงหลายส่วน

แสงเย็นวาบในดวงตามู่เฉิน ขณะที่เฝ้าดูฉากนี้ ตราประทับก็เปลี่ยนแปลงเร็วรี่

ตู้ม!

ในคลื่นสายฟ้า ทันใดนั้นสายฟ้าก็เจิดจ้า เมื่อมองใกล้เข้าไปก็เห็นลวดลายจั้นเหวินสายฟ้าระเบิดขึ้นในคลื่นยักษ์

นี่คือการทำลายตัวเองของลวดลายจั้นเหวิน

สายฟ้ากวาดออก คลื่นเสียงสีดำขนาดใหญ่ก็ระเบิดตัว หลินหมิงได้รับผลกระทบไปเต็มๆ ร่างของเขาถลากลับไปในสภาพที่น่าสมเพช เสียงครางดังออกจากลำคอ

ร่างหลินหมิงปลิวไปถึงพันจั้ง นักรบมากมายในกองทัพก็กระอักเลือดอย่างช่วยไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับผลกระทบจากการปะทะกันของรัศมีจั้นยี่เช่นกัน

โห้!

เสียงโกลาหลดังก้อง เนื่องจากไม่มีใครคิดว่าหลินหมิงที่ตอนแรกมีฝีมือเหนือกว่าจะถูกพลิกสถานการณ์กลับในเวลาไม่กี่นาที

จอมยุทธ์ชั้นสูงของจวนยมโลกที่ใบหน้ากระจายไปด้วยความสุขเมื่อครู่ รอยยิ้มก็แข็งค้าง เห็นได้ชัดว่าการโต้กลับของมู่เฉินเกินความคาดหมายไปไกล

ตรงกันข้ามกับจอมยุทธ์อาณาเขตกงเวทสวรรค์ที่ตึงเครียดก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา คิ้วของซิวหลัวที่ขมวดแน่นก็ค่อยๆ คลายลง

“ฮ่าๆ ผู้บัญชาการซิวหลัววางใจเถอะ ในเมื่อผู้บัญชาการมู่กล้าทำ เขาก็ต้องไตร่ตรองแน่ชัดแล้ว ถึงแม้ว่าหลินหมิงจะทรงพลัง แต่มู่เฉินก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เคี้ยวง่ายนักหรอก” เลี่ยซันยิ้มอยู่ที่ด้านข้าง

ซิวหลัวก็ส่งยิ้มตอบ สายตามองไปยังร่างอ่อนอาวุโสที่อยู่ไกลออกไป “ผู้บัญชาการจิ่วโยวพาชายหนุ่มที่ยอดเยี่ยมกลับมายังอาณาเขตกงเวทสวรรค์ของเราจริงๆ”

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเยือกเย็นของจิ่วโยว นางมองไปที่ร่างของมู่เฉิน ตอนที่นางพาเขามาที่อาณาเขตกงเวทสวรรค์ ไม่มีใครคิดเลยว่าภายในสองปีชายหนุ่มที่ไม่มีนัยสำคัญจะเติบโตขึ้นมากเพียงนี้ นอกจากนี้นางยังเข้าใจมากว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ในอนาคตชื่อเสียงของเขาจะต้องก้องดังไปทั่วทวีปเทียนหลัวหรือแม้กระทั่ง…ในมหาพันภพ

“ไอ้เจ้านี่เหมือนตะขาบไม่รู้จักตาย…ไม่รู้จักล้ม!” ฝั่งหมู่ตึกเทวะใบหน้าของฟังยี่ก็บิดเบี้ยวลงหลายส่วน เขากัดฟันกรอดจ้องมองมู่เฉินที่สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้พลางเปล่งเสียงเย็นออกมา

“อาณาเขตกงเวทสวรรค์โชคดีที่ได้พบชายหนุ่มที่โดดเด่นคนนี้” เทียนหลงจู่ขมวดคิ้ว เวลาเพียงหนึ่งหรือสองปีเท่านั้นที่ชื่อมู่เฉินดังเป็นพลุแตกในภูมิภาคทางเหนือ ตอนแรกคงไม่มีใครคิดว่าม้ามืดตัวนี้จะคงอยู่ยาวจนถึงบัดนี้

ได้เห็นความสามารถที่ทรงประสิทธิภาพของมู่เฉิน กระทั่งเทียนหลงจู่ก็ยังต้องให้การประเมินที่ดีแก่เขา

“แม้ว่ามู่เฉินจะมีพรสวรรค์ยอดเยี่ยม แต่หลินหมิงก็ไม่ใช่จัดการได้ง่าย” จินไถหลิวหลีพูดแทรกด้วยเสียงเบาพร้อมกับจ้องมองไปที่หลินหมิง ในฐานะคนที่เคยสู้กันมาก่อน นางรู้สึกหวาดกลัวอีกฝ่ายเล็กน้อย นอกจากนี้นางยังสัมผัสได้คลุมเครือว่ามรดกที่เขาได้รับมานั้นแปลกเกินไป หากไม่ระมัดระวังก็อาจล้มเหลวลงไม่เป็นท่า

ขณะที่จินไถหลิวหลีพูด หลินหมิงก็เช็ดคราบเลือดออกจากมุมปากจากที่ไกลพลางจ้องมองมู่เฉินอย่างมืดมน

“หลังจากที่ข้าบรรลุการเป็นจั้นเจิ้นซือ แกเป็นคนแรกที่ทำให้ข้าได้รับบาดเจ็บ” จิตสังหารกำจายในเสียงของหลินหมิงแน่นหนา สายตาชั่วร้ายน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง

มู่เฉินมองหลินหมิงที่ริ้วเส้นเลือดสีดำไต่ขึ้นมาบนดวงตาก็หรี่ตาลง

“ดังนั้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าข้าให้ความสำคัญยิ่งใหญ่กับแก ข้าจะใช้กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุด…เพื่อฆ่าแก!” รอยยิ้มที่เคลือบบนใบหน้าของหลินหมิงเลวร้ายมากขึ้น จากนั้นเขาก็กัดฝ่ามือตัวเอง เลือดไหลจากฝ่ามือ ซึ่งเป็นเลือดสีดำที่ดูแปลกประหลาดมาก

ใบหน้าของหลินหมิงบิดเบี้ยวขณะที่เลือดสดไหลออกมาฝ่ามือ พร้อมกับหยดเลือดสีดำไหล ลูกปัดสีดำที่มีขนาดเท่ากับกำปั้นของเด็กทารกก็โผล่ออกมาจากฝ่ามือของเขา

เมื่อลูกปัดสีดำปรากฏขึ้น หากมองให้ชัดเจนก็จะเห็นว่าในนั้นมีใบหน้าดุร้ายมากมายพร้อมผสานด้วยเสียงกรีดร้องแหลมน่ากลัว ซึ่งเต็มไปด้วยความแค้นเคืองและเกลียดชัง

คลื่นพลังแปลกประหลาดกระจายออกไป

เมื่อมู่เฉินและจินไถหลิวหลีสัมผัสกับลอนคลื่นนั่น สีหน้าก็เปลี่ยนไป นั่นเป็นเพราะพวกเขาสัมผัสได้ถึงแรงกระเพื่อมของคลื่นจิต…

ทั้งสองจ้องเขม็งไปที่ลูกปัดสีดำ จากนั้นก็สูดอากาศเย็นเข้าไปสุดปอด นั่นเพราะพวกเขาพบว่าใบหน้าที่น่าสยดสยองในลูกปัดเป็นเหล่าแม่ทัพที่พ่ายแพ้ให้กับหลินหมิงจนไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้…

ที่แท้สาเหตุที่คลื่นจิตของพวกเขาหายไป เพราะถูกหลินหมิงใช้วิธีดังกล่าวดึงไปนั่นเอง!

“มิน่าล่ะเขาถึงเล็งเป้าไปที่เหล่าแม่ทัพ ที่แท้ก็เพราะต้องการสกัดคลื่นจิตของคนเหล่านั้นไว้!” ใบหน้าของจินไถหลิวหลีเคร่งเครียด หัวใจสะท้านจากวิธีการเลวร้ายของหลินหมิง

“ฮี่ๆๆๆ…”

รอยยิ้มที่แขวนบนใบหน้าของหลินหมิงดูชั่วร้ายอย่างที่สุด ก่อนที่เขาจะคว้าลูกปัดสีดำโยนเข้าปาก ภายใต้การจ้องมองที่ตื่นตกใจของมู่เฉินและจินไถหลิวหลี

ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำทันที ราวกับว่ามีเลือดไหลออกมา น่ากลัวยิ่งนัก

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset