หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – 967 สองเดือนในการเตรียมพร้อม

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 967 สองเดือนในการเตรียมพร้อม

“อีกสองเดือนไปเผ่าวิหคโลกันตร์”

มั่นถัวหลัวไม่ได้แปลกใจสำหรับการเลือกของมู่เฉินเลย นางเหลือบมองไปที่ชายหนุ่ม “แต่สิ่งที่ผู้อาวุโสเทียนเช่อพูดนั้นถูกต้อง ด้วยพลังปัจจุบันของเจ้า หากไม่ใช้พลังรัศมีจั้นยี่ ไม่ง่ายที่จะได้ตำแหน่งที่สี่มา”

มู่เฉินเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าเท่านั้น แต่อัจฉริยะสองคนที่แข่งขันกันเพื่อตำแหน่งสุดท้ายของเผ่าวิหคโลกันตร์แข็งแกร่งยิ่งกว่าหลิ่วชิงเสียอีก ไม่แน่พวกเขาอาจสัมผัสขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดแล้วก็ได้

ถ้าบวกกับร่างกายเทพอสูร พลังการต่อสู้ก็จะยิ่งเหนือล้ำขึ้นไปอีก ดังนั้นถ้ามู่เฉินต้องการเอาชนะพวกเขาและคว้าตำแหน่งมาให้ได้ก็คงเป็นเรื่องยาก นอกจากนี้…ต่อให้เขาชนะ ถ้าเขาต้องการจะช่วยจิ่วโยวให้ได้รับเลือดศักดิ์สิทธิ์ของวิหคอมตะ เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับอัจฉริยะจากเผ่าเทพอสูรต่างๆ ซึ่งอาจทรงพลังขึ้นอีกหลายขุม ด้วยขุมพลังในปัจจุบันของมู่เฉินชัดว่าไม่เพียงพอเลยทีเดียว

มั่นถัวหลัวพูดความจริงใส่ มู่เฉินก็ไม่ได้แสดงความกระอักกระอ่วนบนใบหน้า เขายิ้มบาง “นั่นก็จริง แต่…”

“ข้ายังมีเวลาสองเดือนไม่ใช่เหรอ?”

“หืม?”

เมื่อมั่นถัวหลัวและจอมพลทั้งสามได้ยินคำพูดนี่ พวกเขาก็หดดวงตาก่อนที่จะจ้องมองมู่เฉินด้วยสายตาสว่างวาบ

เมื่อมู่เฉินเห็นสายตานี่ก็พยักหน้าเบาๆ ก่อนหน้านี้เขาใช้ยาหยุ่นลั้วบรรลุขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าแล้ว ในครึ่งปีหลังจากนั้น เขาก็ไม่ได้คิดบรรลุกลับเลือกที่จะรักษาคลื่นหลิงไว้ในร่างกาย ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาคลื่นหลิงของเขาก็มาสู่ความสมบูรณ์แบบแล้ว

ในการฝึกฝนครั้งล่าสุด เขาสัมผัสได้ว่าคลื่นหลิงในจุดจื้อจุนไห่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ ความรู้สึกไม่คุ้นชินที่เขาเคยมีตอนเกิดพัฒนาการหายไปอย่างสมบูรณ์

ดังนั้นเขาสามารถสร้างพัฒนาการอีกครั้งในขณะนี้

“แต่เรื่องนี้อาจต้องการความช่วยเหลือจากท่านประมุขน่ะ” มู่เฉินมองมั่นถัวหลัวแล้วอมยิ้ม

“ว่ามา” มั่นถัวหลัวสะบัดมือ ท่าทางน่ายำเกรงมาก

“ข้าคงต้องการของเหลวจื้อจุนไม่น้อยสำหรับพัฒนาการนี้ ดังนั้นต้องขอยืมของเหลวจื้อจุนหนึ่งล้านหยดหน่อย” มู่เฉินยิ้มกล่าว

เมื่อถึงคราวจะบรรลุก็ต้องใช้คลื่นหลิงจำนวนมาก ตอนนี้ยาหยุ่นลั้วที่ได้มาหมดลงไปแล้ว เขาก็ต้องใช้ของเหลวจื้อจุนแทน แต่ถุงเงินของมู่เฉินช่างว่างเปล่า

แม้ว่าหอวิหคโลกันตร์จะขยายตัวอย่างมากเมื่อเร็วๆ นี้ มิหนำซ้ำจำนวนเมืองที่อยู่ใต้อาณัติก็มากเป็นอันดับหนึ่งของเหล่าผู้บัญชาการ ทว่านั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามู่เฉินจะร่ำรวย เป็นเพราะเมื่อหอวิหคโลกันตร์ขยายตัวออก พวกเขายิ่งต้องใช้ของเหลวจื้อจุนจำนวนมาก นอกจากนี้ก็ยังไม่ถึงเวลาที่เมืองต่างๆ จะส่งบรรณาการ หอวิหคโลกันตร์จะไปบีบคั้นเมืองขึ้นเหล่านี้ก่อนที่พวกเขาจะจัดการเรียบร้อยก็ไม่ได้ มิฉะนั้นบางเมืองอาจจะก่อกบฏขึ้นได้

“ของเหลวจื้อจุนหนึ่งล้านหยด? ได้ เดี๋ยวข้าจะให้คนส่งไปให้” การร้องขอของมู่เฉินเช่นนี้ มั่นถัวหลัวไม่ได้ลังเลอะไร เนื่องจากมู่เฉินมีส่วนอย่างมากในสงครามล่าและการมีส่วนร่วมของเขาไม่ได้แค่การขยายตัวของหอวิหคโลกันตร์เท่านั้นที่สามารถชดเชยได้

“เฮ้ เจ้าเป็นสมาชิกอาณาเขตกงเวทสวรรค์ของข้านะ ถ้าไปเผ่าวิหคโลกันตร์ก็อย่าปล่อยให้พวกนั้นมาดูถูก ดังนั้นต้องการอะไรก็บอกมาเลย สำนักเราจะพยายามตอบสนองคำขอของเจ้า”

เมื่อมู่เฉินเห็นมั่นถัวหลัวทำตัวเหมือนรวย เขาก็อดยิ้มพลางไตร่ตรอง ก่อนที่จะพูดแบบไม่เกรงใจ “งั้นแบบนี้ข้าต้องรบกวนท่านประมุขช่วยรวบรวมภาพค่ายกลให้หน่อย ถ้าเป็นไปได้ขอเป็นค่ายกลระดับเทียน…”

“ค่ายกลระดับเทียน?”

เมื่อได้ยินคำเหล่านี้ ม่านตาสีทองคำของมั่นถัวหลัวก็เปล่งประกายระยับ จากนั้นนางก็กวาดมองมู่เฉิน ก่อนที่จะพูดช้าๆ “เจ้าสามารถวางขบวนแถวค่ายกลระดับเทียนได้แล้วรึ? นี่ไม่ได้หมายความว่า…ตอนนี้เจ้าเป็นหลิงเจิ้นต้าซือขั้นเทียนแล้วรึ”

หลิงเจิ้นต้าซือจำแนกออกเป็นสามขั้นได้แก่เหยิน-ตี้-เทียน ทั้งสามขั้นนี้เทียบเท่ากับทั้งเก้าขั้นของระดับจื้อจุน เมื่อก่อนดอกบัวสี่ทิศที่มู่เฉินวางไว้ในค่ายกลบัวยมทูตนับเป็นเพียงค่ายกลขั้นตี้ ในเวลานั้นเขายังห่างไกลจากขั้นเทียนมาก แต่เนื่องจากเป็นเวลานานพอสมควรแล้วที่มู่เฉินไม่ได้ใช้ค่ายกลเพื่อจัดการศัตรู ทำให้กระทั่งมั่นถัวหลัวยังลืมไปสนิทว่าความจริงมู่เฉินเป็นหลิงเจิ้นซือด้วย…

แต่ขณะนี้เมื่อมู่เฉินพูดถึงเรื่องนี้ พวกเขาก็ตระหนักได้ว่าจั้นเจิ้นซือเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งของหลิงเจิ้นซือ มิหนำซ้ำมู่เฉินยังมีพรสวรรค์มากในศาสตร์ค่ายกล มิฉะนั้นเขาจะมีพัฒนาการในด้านรัศมีจั้นยี่อย่างรวดเร็วได้อย่างไร

จอมพลทั้งสามผงะไปเมื่อมองดูมู่เฉิน ถ้ามู่เฉินสามารถสร้างค่ายกลระดับเทียนได้จริง ต่อให้เป็นภาพชั้นต่ำที่สุด ก็เทียบเคียงได้กับขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดแล้ว

เผชิญกับแววสงสัยของมั่นถัวหลัวและจอมพลทั้งสาม มู่เฉินก็ยิ้มบาง “แม้ว่าจะยังค่อนข้างไม่เสถียร แต่ก็มีความรู้สึกบางอย่าง หากมีภาพค่ายกลระดับเทียนให้เรียนรู้ ข้าก็น่าจะสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นอีก”

ในหนึ่งปีที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะไม่ได้ฝึกฝนค่ายกลแบบจริงจัง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทิ้งมันไป เพียงแต่ว่าเขาจัดลำดับความสำคัญการเพาะบ่มทางด้านศาสตร์อื่นๆ ก่อน

นอกจากนี้หลังจากศึกษารัศมีจั้นยี่ เขาก็ตระหนักถึงความคล้ายคลึงกันระหว่างศาสตร์ทั้งสอง เมื่อเขาศึกษารัศมีจั้นยี่ เขาก็มีความเข้าใจเกี่ยวกับค่ายกลบางอย่างด้วย ซึ่งทำให้ความสามารถในด้านค่ายกลเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าเมื่อก่อนเขาไม่ได้สนใจมากนัก เนื่องจากเวลาที่เร่งรัดและการเข้าร่วมสงครามล่า ดังนั้นมู่เฉินจึงไม่มีเวลาพอที่จะหาภาพค่ายกลระดับเทียนมาศึกษา แต่ตอนนี้ชัดว่าเขาต้องให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากใหม่แล้ว เพราะนี่จะเป็นไพ่ตายที่จะช่วยให้จิ่วโยวได้รับเลือดวิหคอมตะ

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะซ่อนอะไรไว้เยอะนะเนี่ย… มิน่าล่ะถึงกล้ารับงานนี้” ดวงตาของมั่นถัวหลัวกะพริบด้วยแสงประหลาดขณะที่รู้สึกโล่งใจภายใน แบบนี้นางก็ไม่ต้องห่วงเรื่องให้มู่เฉินเข้าสู่ดินแดนเสินโซ่แล้ว เพราะท่ามกลางเผ่าทรงพลัง อัจฉริยะเหล่านั้นไม่ใช่คนที่เป็นมิตร พวกเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าจอมยุทธ์รุ่นใหม่ของภูมิภาคทางเหนืออย่างแน่นอน

“งั้นแบบนี้ เจ้าก็ควรเข้าไปในดินแดนเสินโซ่สักหน่อย ที่นั่นจะเป็นโอกาสดีสำหรับเจ้าที่อาจทำให้บรรลุขั้นสองของคัมภีร์หลงเฟิ่ง…”

“โอ้?”

เมื่อมู่เฉินได้ยินหัวใจก็สั่นสะท้าน คัมภีร์หลงเฟิ่งไม่เพียงแต่ทำให้เขาสร้างกายามังกรหงส์ได้เท่านั้น แต่ยังมอบลวดลายมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงไว้ด้วย แม้จะเป็นแค่ขั้นแรก แต่ก็มอบความช่วยเหลือมหาศาลให้แก่มู่เฉิน ลวดลายมังกรแท้จริงมอบความสามารถโจมตีที่ทรงพลังและปกป้องเขาในช่วงเวลาวิกฤต ส่วนลวดลายหงส์ฟ้าแท้จริงช่วยเพิ่มความเร็วเกินพิกัด ในการต่อสู้ที่ผ่านมาลวดลายทั้งสองช่วยเหลือเขามานับไม่ถ้วน

ขั้นแรกเป็นการปลุกวิญญาณ ซึ่งเป็นการก่อกำเนิดลวดลายมังกรและหงส์ฟ้า

ส่วนขั้นสองจะเป็นการสร้างกายา

ตามชื่อบอกเป็นนัยว่าเมื่อมาถึงขั้นนี้ลวดลายมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงสามารถหลุดออกจากร่างกายของมู่เฉิน จนมีพลังที่แตกต่างไปสิ้นเชิง

นั่นจะเป็นการเปลี่ยนแปลงปฐมภูมิอย่างไม่ต้องสงสัย!

เมื่อถึงเวลานั้นความสามารถของลวดลายมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงถึงจะเริ่มเผยออกมา

เมื่อก่อนมู่เฉินก็โหยหาสิ่งนี้นัก แต่การฝึกฝนคัมภีร์หลงเฟิ่งยากเกินไป แม้ว่าเขาจะใช้พลังงานทั้งหมดไป แต่ก็ยังไม่สามารถแตะเข้าไปในขั้นสองได้

นั่นเป็นเพราะวิธีการฝึกฝนจำเป็นต้องใช้แก่นเลือดบริสุทธิ์เทพอสูรจำนวนมาก ซึ่งยากมากที่จะหาได้ในมหาพันภพ แต่ในดินแดนเสินโซ่มีเทพอสูรจำนวนมากที่ล้มหายตายจาก แม้แต่มหาเทพอสูรก็ไม่ได้รับการยกเว้น ถ้ามู่เฉินโชคดีพอที่ได้มา ก็อาจเป็นไปได้ที่เขาจะไปถึงขั้นสองของคัมภีร์หลงเฟิ่งจริงๆ

“ดูเหมือนว่าจะต้องไปที่ดินแดนเสินโซ่แน่แล้ว…” แค่คิดมู่เฉินก็ยิ้มบางขณะที่พึมพำกับตัวเอง

“ส่วนเรื่องค่ายกลระดับเทียนไว้เป็นหน้าที่ข้าเอง แม้เวลาจะกระชั้นไปสักหน่อย แต่ก็น่าจะพอหาได้ แค่ต้องจ่ายเพิ่มเท่านั้น” มั่นถัวหลัวพยักหน้า

ราคาของภาพค่ายกลระดับเทียนไม่ต่ำเลย ยิ่งถ้าต้องการในเวลาอันสั้น ก็ต้องเสียของเหลวจื้อจุนจำนวนมากแน่

“รบกวนเจ้าด้วยนะ” มู่เฉินพยักหน้า โชคดีที่เขาได้รับการสนับสนุนจากอาณาเขตกงเวทสวรรค์ ไม่เช่นนั้นถ้าต้องพึ่งพาตัวเอง เขาคงอยู่ภายใต้แรงกดดันหนักหนาแน่นอน

“ในสองเดือนนี้ ข้าก็คงต้องเริ่มดูดซับของเหลวหลิงเสินด้วยเช่นกัน เผื่อเกิดอะไรขึ้นตอนพาเจ้าเดินทางไปที่เผ่าวิหคโลกันตร์…” มั่นถัวหลัวพูดเบาๆ

แม้ว่ามู่เฉินดูเหมือนจะเตรียมการอย่างดี แต่มั่นถัวหลัวก็ต้องเตรียมแผนสำรองในกรณีที่มู่เฉินไม่ได้รับตำแหน่ง แล้วเผ่าวิหคโลกันตร์ก็ไม่ยอมปล่อยเขาออกมา คิดจะกักตัวเขาเอาไว้ เวลานั้นนางอาจต้องปะทะกับจอมยุทธ์เผ่าวิหคโลกันตร์ก็ได้

เผ่าวิหคโลกันตร์มีรากฐานมั่นคง แม้ว่าจะไม่มีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุน แต่พวกเขาก็ไม่มีอะไรต้องกลัว ตราบใดที่มั่นถัวหลัวไม่ได้เป็นจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายแท้จริง

เมื่อมู่เฉินได้ยินคำพูดนี่ก็เข้าใจความกังวลของนางทันที เขาเม้มปากก่อนที่จะพูดเบาๆ ว่า “ขอบคุณนะ”

เขาเข้าใจดีถึงอันตรายที่มั่นถัวหลัวต้องเจอ เพราะเผ่าวิหคโลกันตร์ไม่ใช่กลุ่มที่ขั้วอำนาจสูงสุดของภูมิภาคทางเหนือจะเทียบได้ เผชิญหน้ากับพวกเขา อาณาเขตกงเวทสวรรค์ดูด้อยกว่าหลายส่วน แต่ถึงอย่างนั้นมั่นถัวหลัวก็เลือกที่จะสนับสนุนเขา ความจริงใจนี้ทำให้มู่เฉินรู้สึกขอบคุณในใจอย่างสุดซึ้ง

ยามนี้เขาเข้าใจแล้วว่าการให้พีระมิดแสงดาวปราบปีศาจกับมั่นถัวหลัวเป็นการตัดสินใจที่ดีแค่ไหน

ถ้าเขาไม่สนับสนุนนางโดยไม่มีเงื่อนไขก่อน บางทีนางอาจจะไม่สนับสนุนเขาจนถึงจุดนี้ก็ได้

“ไม่ต้องเยอะ…”

มั่นถัวหลัวโบกมือขณะที่พูดต่อ “เรื่องที่เหลือเจ้าไม่ต้องมากังวลแล้ว สิ่งที่เจ้าต้องทำก็คือบรรลุระดับจื้อจุนขั้นหกภายในสองเดือน!”

เมื่อมู่เฉินได้ยินคำพูดของนางก็พยักหน้าเบาๆ ความมั่นใจแล่นพล่านในส่วนลึกของม่านตาสีดำ

สองเดือนต่อจากนี้ทุกอย่างจะต้องชัดเจน

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset