หมอดูยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 184

ท่านปู่

เป้าหมายของชิงปังในยุคแรกเริ่มคือโค่นชิงฟื้นหมิง ผู้คนทุกรูปแบบจาก ‘สามศาสนาเก้าสำนัก’ ล้วนสามารถเข้า ร่วมได้ เหนือสุดสูงถึงคนในราชสำนัก ต่ำสุดลงยังขั้นพ่อค้าเร่และคนรับใช้ โครงสร้างสมาชิกมีความซับซ้อนหาใดเปรียบ

หลังจากรับสืบทอดจากสำนักเสื้อป่านแล้วนักพรตเต๋าก็ลาจากบ้านเกิด ออกท่องไปในยุทธภพ ขณะพักแรมในเซี่ยงไฮ้ ได้คบหาหัวหน้าชิงปังมากมาย จึงถูกดึงเข้าร่วมสำนักชิงปังด้วยเหตุนี้

ด้วยกระบวนวิชาอันล้ำเลิศของหลี่ซั่นหยวน ในสายตาผู้คนจำนวนมากนั้นเป็นความสามารถ ที่กระทั่งเทพหรือปีศาจ ก็ไม่อาจคาดเดา ดังนั้นหัวหน้าชิงปังผู้มีอักษรรุ่น “หลี่” ผู้หนึ่งจึงรับเขาเป็นสาวก และนี่คือที่มาของอักษรรุ่นอันน่าหวาดหวั่น ของหลี่ซั่นหยวน

แม้ว่าผู้คนในชิงปังจะให้ความเคารพนบนอบต่อหลี่ซั่นหยวน เทิดทูนบูชาราวกับเทพเซียนที่ยังมีชีวิต แต่การสืบทอด วิชานรลักษณ์ของท่านนักพรตยังไม่เสร็จสิ้น ความปรารถนาของเขาคือการขัดเกลาวิชาที่ได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ไม่ใช่ อะไรอย่าง “โค่นชิงฟื้นหมิง”

ดังนั้นหลังจากหลี่ซั่นหยวนรั้งอยู่ภายในชิงปังช่วงเวลาหนึ่ง ก็ออกจากเซี่ยงไฮ้ ขณะนั้นเพื่อเป็นการให้เกียรติต่อท่าน นักพรต หัวหน้าชิงปังจึงส่งหนังสือเชิญไปยังแต่ละสาขาของชิงปังที่มีอยู่ทั่วประเทศ แต่ผู้อาวุโสผู้มีอักษรก่อนรุ่น “หลี่” ล้วนต้อง ได้รับการแสดงความนอบน้อมจากลูกศิษย์

จากนั้นราชวงศ์ชิงถูกโค่นล้ม ชิงปังเองก็ต้องเร่งรีบขยับขยายเครือข่าย เวลานั้นหัวหน้าชิงปังเพียงไม่กี่คนต้องการ เชิญตัวหลี่ซั่นหยวนมาพยากรณ์อนาคตของชิงปัง แต่เสาะหาจนทั่วทุกทิศแล้วก็ยังไม่พบตัว

หลังจากนั้นอีกสิบกว่าปี หัวหน้าชิงปังในยุคนั้นล้วนตายจากไปกันหมด ด้วยความเป็นอาวุโสของหลี่ซั่นหยวน อีกทั้ง ไม่ปรากฏตัวในยุทธภพเป็นเวลานาน จึงถูกเข้าใจว่าไม่ได้อยู่บนโลกมนุษย์แล้ว

ขณะที่หลี่ซันหยวนเข้าร่วมกลุ่มชิงปัง อายุเพียงแค่ยี่สิบต้นๆ เท่านั้น ในชิงปังเองยังนับว่าเป็นตำนานตอนหนึ่ง เกี่ยว กับประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขา ในพงศาวลีของชิงปังเองล้วนมีบันทึกไว้อย่างละเอียด ไม่อย่างนั้นช่วงเวลาที่ห่างกันนาน เกือบศตวรรษ ถังเหวินหย่วนคงไม่มีทางรู้จักได้

“โอ้โห ที่แท้เมื่อก่อนท่านอาจารย์ก็มีชื่อเสียงเรียงนามถึงขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”

ได้ยินถังเหวินหย่วนอธิบายสถานะของหลี่ซั่นหยวนให้ฟังแล้ว เยี่ยเทียนเองยังแอบตกตะลึงอยู่ในใจ ในอดีตนักพรต เต๋าน้อยนักจะพูดถึงเวลาที่ตัวเองท่องไปในยุทธภพ ส่วนใหญ่แล้วล้วนเป็นหลังจากที่เยี่ยเทียนแก้ลิขิตพลิกชะตาให้กับเขา แล้ว จึงค่อยๆ เล่าออกมา

“เยี่ย…เยี่ยเทียน อา…อาจารย์ของท่านคือหลี่ซั่นหยวนจริงๆ หรือ?”

พอรู้ข่าวว่าไม่กี่ปีก่อนหลี่ซั่นหยวนยังคงมีชีวิตอยู่ ถังเหวินหย่วนก็ไม่อาจสงบใจได้ยิ่งไปกว่าเยี่ยเทียน ถ้าหากเรื่องนี้ แพร่กระจายออกไป เกรงว่าทั้งโลกชิงปังและกลุ่มหงเหมินจะต้องตื่นตระหนกขึ้นมา

“แน่นอน ผมเคยส่งสาส์นมงคล   ตามระเบียบการเข้าสำนักเจ็ดปีแล้ว เพียงแต่ท่านอาจารย์ขาดการติดต่อกับสำนัก ไม่ได้ไปรายงานตัวที่ฝ่ายบุคลากรเท่านั้น แต่สาส์นและเอกสารรายงานที่ท่านอาจารย์เขียนยังอยู่ครบ ผมจะโกหกพวกคุณได้ อย่างไร?”

ฝ่ายบุคลากรที่เยี่ยเทียนพูดถึงคือฝ่ายหนึ่งในชิงปังยุคแรกๆ ชิงปังยุคแรกเริ่มนั้นแบ่งเป็นฝ่ายประวัติ ฝ่ายพิธีการ ฝ่ายการบุคลากร ฝ่ายแรงงาน ฝ่ายกองทัพ ฝ่ายอาญาทั้งหกฝ่าย

ฝ่ายประวัติมีหน้าที่รวบรวมภารกิจใหญ่น้อยภายในสำนัก เรียบเรียงประวัติชิงปัง คัดลอกจัดเก็บหนังสือของหลัวจู่ และพงศาวลี โชคร้ายเกิดความวุ่นวายสี่ปีในยุคไท่ผิงเทียนกั๋วของจักรพรรดิ์เสียนเฟิง ศาลบรรพบุรุษที่หังโจว ถูกกองทัพไท่ผิง ทำลาย เอกสารทางประวัติศาสตร์จึงไม่ได้ถูกเก็บรักษา ข้อมูลภายหลังของชิงปังล้วนถูก เขียนขึ้นมาหลังจากยุคสมัยไท่ผิง เทียนกั๋ว

ฝ่ายกองทัพมีไว้สำหรับยามเผชิญศัตรู เป็นฝ่ายที่วางแผนการศึกทุกประเภท อย่างกลุ่มคนประเภทบุปผาคู่ไม้เท้าแดง ที่เห็นในภาพยนตร์ฮ่องกงอะไรพวกนั้น ล้วนเป็นพวกบริหารฝ่ายกองทัพทั้งสิ้น

ฝ่ายแรงงานปกติแล้วรับหน้าที่โครงงานหลากหลายสิ่งอย่างในสำนัก เช่นต่อเรือ จัดหาขนส่งวัตถุดิบ สร้างหอพิธีการ เป็นต้น และฝ่ายอาญาเป็นหน่วยบังคับใช้กฎของชิงปัง สำนวนที่ว่าลงสามดาบหกรูอะไรนั่น ล้วนเผยแพร่ออกไปจากที่นี่

ส่วนฝ่ายบุคลากร รับหน้าที่ดูแลสมาชิก เป็นฝ่ายสำคัญที่ดูแลทรัพยากรมนุษย์ในชิงปัง จัดอันดับเชิญเข้าสำนัก เลื่อนขั้นสมาชิก อาจารย์ของแต่ละฝ่าย ล้วนต้องส่งเอกสารเข้าฝ่ายบุคลากร ลงในบันทึกรายละเอียดสมาชิกของฝ่ายบุคลาการ  ท้ายสุดปลายปีรวบรวมเรียบเรียงเสร็จแล้วจึงส่งต่อให้ฝ่ายประวัติคัดลอกลงพงศาวลี

ฝ่ายพิธีการรับผิดชอบตั้งกฎเกณฑ์แบบแผนและตรวจสอบมารยาทของสมาชิก รับผิดชอบตรวจสอบการรับสมาชิก เข้าสามสำนักเก้ารุ่นว่าเหมาะสมตามกฎระเบียบหรือไม่ อีกทั้งรับตำแหน่งหน้าที่เป็นประธานหอพิธียามมีการก่อตั้งหอพิธีการ

ตอนนี้สิ่งที่เยี่ยเทียนขาดก็คือพิธีการนี้ ขอเพียงผ่านหอพิธีการของฝ่ายพิธีการไปได้ ก็จะนับว่าเป็นสาวกชิงปังโดยสม บูรณ์

ดังนั้นหากพูดแบบเข้มงวด แม้เยี่ยเทียนจะเป็นผู้สืบทอดของหลี่ซั่นหยวน แต่ว่ากันตามขั้นตอนแล้วยังไม่นับว่าเป็น คนภายในชิงปัง

แต่ว่าในตอนนี้หอพิธีการรับเป็นสาวกนั้นแทบจะไม่เปิดใช้การอีกแล้ว เพียงอนุมัติเอาจากคำพูดและการได้รับสาส์น อวยพร พูดอีกอย่างก็คือ เยี่ยเทียนเพียงต้องนำสาส์นอวยพรและเอกสารที่ท่านนักพรตเขียนส่งไปที่หอกลาง แล้วจากนี้ไปชิงปังก็จะมีอาจารย์ปู่เพิ่มขึ้นอีกคน

“ทำไมเล่า? ท่านผู้เฒ่า ไม่เชื่อคำพูดของผมหรือ?”

เยี่ยเทียนเห็นถังเหวินหย่วนเงียบเสียงไม่พูดอะไร ยังคิดว่าเขาเข้าใจว่าตนเองพูดจาส่งเดช จึงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย จะว่าไปเขาเองก็ไม่ได้เร่งเร้าอยากเข้าชิงปัง นี่เป็นเพียงแค่คำพูดล้อเล่นของท่านนักพรตเมื่อในอดีตเท่านั้น

หลังจากที่หลี่ซั่นหยวนแก้ลิขิตพลิกชะตาให้เยี่ยเทียน หลี่ซั่นหยวนเคยเล่าถึงเรื่องยามท่องยุทธภพในอดีต พูดถึงอัก ษรรุ่นของตัวเองในชิงปัง พูดติดตลกว่าหากเยี่ยเทียนเข้าร่วมชิงปัง เกรงว่านีบจากอักษรรุ่นแล้ว จะกลายเป็นบรรพบุรุษของ คนนับแสน

ท่านนักพรตเป็นไม้ใกล้ฝั่ง อุปนิสัยเองก็กลับไปเหมือนตอนเด็ก ถึงขั้นเอาเรื่องล้อเล่นนี้มาทำให้กลายเป็นจริง ไม่ เพียงช่วยเยี่ยเทียนเขียนสาส์นมงคล แต่ยังเขียนเอกสารเข้าร่วมสำนักทั้งยังประทับตราประจำตน อีกทั้งถ่ายทอดชุดอักษรรุ่น หลี่ที่เหล่าหัวหน้าใช้กันเพื่อให้หอพิธีการสามารถตรวจสอบได้ด้วย

“ทะ…ท่านเยี่ย ท่านไม่จำเป็นต้องเรียกผมว่าท่านผู้เฒ่าอีกแล้ว เรียกชื่อผมหรือจะเรียกว่าเหล่าถังก็ได้…”

เห็นเยี่ยเทียนแสดงอารมณ์ไม่พอใจแล้ว ถังเหวินหย่วนที่นิ่งอึ้งจึงแสดงปฏิกิริยาออกมา จากคำเรียกของเยี่ยเทียน ตอนนี้เขารู้สึกไม่อาจเอื้อมจริงๆ การเป็นผู้เฒ่าของผู้อยู่ในรุ่นที่สูงกว่าตัวเองมากๆ นั้น ผิดกฎใหญ่ข้อที่เก้าในสิบข้อของชิงปัง คือไม่เคารพในอาวุโส

“ละ…เหล่าถังเนี่ยนะครับ?”

เยี่ยเทียนโดนคำพูดของถังเหวินหย่วนทำเอากระอักกระอ่วน ให้เขาเรียกชายชราอายุเจ็ดสิบกว่าอย่างนี้ว่าเหล่าถัง เยี่ยเทียนเรียกไม่ออกจริงๆ

ไม่เพียงแต่เยี่ยเทียน กระทั่งหูจวิน เกาเฉียนจิ้นและหลานสาวของถังเหวินหย่วนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ได้ยินเข้ายังมองตา ค้าง ไม่มีใครสักคนคาดคิดว่า ถังเหวินหย่วนหนึ่งในผู้ร่ำรวยมากอิทธิพลของชาวจีน กลับเร่งเร้าให้คนอื่นเรียกเขาว่าเหล่าถัง?

เรื่องนี้ถ้าหากพูดออกไปล่ะก็ เก้าในสิบคนได้ยินแล้วก็คงไม่เชื่อ ขนาดไม่กี่คนนี้ที่เห็นอยู่ตรงหน้ายังนึกว่าหูกับตาของ ตัวเองมีปัญหาเลย แต่ว่าหลัวจื้อปิ่งที่ยืนอยู่ข้างหน้าถังเหวินหย่วน กลับเห็นดีเห็นงามไปกับคำพูดของท่านผู้เฒ่า สุภาษิตว่า ไร้กฎก็ไร้มาตรฐาน อย่าว่าแต่ถังเหวินหย่วนอายุเพียงเจ็ดสิบกว่าปีเลย ต่อให้เขามีชีวิตถึงเจ็ดร้อยปี หากตัวเองยังยืนยันว่าเป็น สาวกของสำนักได้ ก็ต้องเคารพกฎภายในสำนัก

“คุณปู่คะ วันนี้คุณปู่เป็นอะไรไป?”

ผ่านไปได้สักพัก หลานสาวคนนั้นของถังเหวินหย่วนกลายเป็นคนแรกที่สติกลับมา ฉุดดึงชายเสื้อของปู่ที่ยืนอยู่ตรง นั้นอย่างพินอบพิเทา เธอโตมาจนป่านนี้ ยังไม่เคยเห็นคุณปู่เคารพยำเกรงใครถึงขนาดนี้?

“หืม? พวกเธอออกไปกันก่อนเถอะ เสี่ยวเกา คำพูดที่ได้ยินภายในห้องวันนี้ พวกเธอลืมไปเสียให้หมดซะ…”

ได้ยินคำพูดของหลานสาวแล้ว ถังเหวินหย่วนก็หันซ้ายแลขวา ครุ่นคิดว่าเผลอตัว คำพูดของเยี่ยเทียนเมื่อครู่ชวน ให้ตกอกตกใจ จนเขาไต่ถามออกมาต่อหน้าสาธารณะชน โดยกลับลืมไปว่ายังมีเรื่องบางอย่างไม่สมควรให้คนนอกรับรู้

“ครับ ผู้เฒ่าถัง วันนี้พวกเราไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น…”

แม้เกาเฉียนจิ้นอยากจะรั้งอยู่ฟังเรื่องเล่าต่ออีกหน่อย แต่ถังเหวินหย่วนออกปากไล่แขกแล้ว จึงได้แต่ดึงตัวหลงเสวี่ย เหลียนที่กำลังเบิ่งสองตาโตถอยออกมาอย่างโกรธๆ แต่ก่อนออกมายังมองยังเยี่ยเทียนด้วยสายตาสับสน

แม้ว่าก่อนหน้านี้อาเขยของหลงเสวี่ยเหลียนจะเคยชื่นชมเยี่ยเทียนต่อหน้าเกาเฉียนจิ้นหลายครั้ง แต่คุณชายเกาคิด มาตลอดว่าเยี่ยเทียนอายุน้อยไร้ประสบการณ์ไม่น่าเชื่อถือ เขาจึงยอมเชื่ออาจารย์หลัวที่ตัวเองเชิญมาจากอเมริกาดีกว่า

แต่จากเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ กลับทำให้สมองของคุณชายเกาหยุดทำงานไปชั่วขณะ ท่านผู้เฒ่าถังที่สามารถ เอ่ยวาจาฉะฉานต่อหน้าผู้นำระดับประเทศมากมาย กลับออกปากเรียกเยี่ยเทียนว่า “ท่าน”!

กระทั่งหลัวต้าจื้อที่วางมาดเสียเต็มที่ ยังราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ตามหลังถังเหวินหย่วนราวกับเป็นหลานชาย กระทั่งจะพูดแทรกสักนิดก็ยังไม่มี เมื่อได้ยินคำสนทนาของเยี่ยเทียนกับถังเหวินหย่วนแล้ว อาจารย์หลัวอาจเป็นได้ถึงรุ่นหลาน จริง ๆ

ความจริงอาจารย์หลัวก็ไม่มีสิทธิ์จะแทรกขึ้นมาจริงๆ ที่ถังเหวินหย่วนสามารถพูดคุยกับเยี่ยเทียนได้ นั่นเป็นเพราะ ในอดีตมาจากฝ่ายประวัติของชิงปัง ล่วงรู้ความลับของเมื่อศตวรรษก่อน

และหลัวจื้อปิ่งเพียงรู้ว่าเยี่ยเทียนมีอักษรรุ่นสูงจนน่าสะพรึงเท่านั้น แต่ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับหลี่ซั่นหยวนเลยแม้ แต่นิดเดียว ถ้าหากเขารู้ว่าหลี่ซั่นหยวนถือการสังหารสำนักเจียงเซียงเป็นภารกิจแล้วล่ะก็ เกรงว่าคนเหล่านี้คงไม่มีแม้แต่ ความกล้าจะยืนตรงหน้าเยี่ยเทียนด้วยซ้ำ

“ท่านเยี่ย ในเมื่อล้วนเป็นครอบครัวชิงปังด้วยกัน ผมว่าเรื่องที่เสี่ยวหลัวล่วงเกินต่อท่าน ก็อย่าลดตัวไปคิดบัญชี ด้วยเลย…”

หลังรอให้เกาเฉียนจิ้นเดินออกไปแล้ว ถังเหวินหย่วนก็เริ่มพิธีการในสำนักต่อเยี่ยเทียน ด้วยวินิจฉัยของเขา ก็ สามารถแยกแยะได้ว่าคำพูดที่เยี่ยเทียนบอกมาก่อนหน้านี้เป็นเรื่องจริงหรือเท็จ

ซึ่งหมายความว่า ขอเพียงเยี่ยเทียนเห็นด้วย เขาจะสามารถกลายเป็นบรรพบุรุษรุ่นอักษร “หลี่” ที่เหลือเพียงหนึ่ง เดียวเมื่อไหร่ก็ได้ แม้ว่านี่อาจไม่สามารถทำให้เยี่ยเทียนกลายเป็นหัวหน้าชิงปัง แต่ความเป็นอาวุโสก็อยู่ตรงนั้น หากมีสาวก ชิงปังพบเจอเยี่ยเทียนในวันหลังล้วนต้องเรียกเขาว่าท่านปู่อย่างเคารพนบนอบ

เมื่อรู้ว่าหลัวจื้อปิ่งเองก็เป็นคนภายในชิงปัง ถังเหวินหย่วนจึงไม่ยอมเรียกเขาว่าอาจารย์หลัวอีกต่อไป ระเบียบภาย ในชิงปังนั้นเข้มงวดนัก ไหนเลยจะมีคนที่รุ่นสูงกว่าเขาถึงสี่ห้ารุ่นเรียกคนรุ่นหลังว่าอาจารย์?

ได้เห็นถังเหวินหย่วนช่วยออกปากให้ตัวเองอย่างนั้น หลัวจื้อปิ่งจึงคุกเข่าลงต่อหน้าเยี่ยเทียนเสียงดัง “ตึง” หลังจากหน้าผากโขกสัมผัสลงพื้นดังสามครั้งแล้ว ก็เอ่ยปากขึ้น “ท่านปู่ ผมจิตใจโสมม ล่วงเกินต่อท่าน ต้องขออภัยในที่นี้…”

ต้องเข้าใจว่า ครั้งนี้ในใจ “อาจารย์หลัว” หวาดหวั่นจนไม่อาจสงบลงอยู่ตลอด เพราะไม่ว่าจะเป็นการกอบโกยเกิน ขอบเขตสำนักเจียงเซียง หรือว่าภายใต้กฎของชิงปังแล้ว ล้วนสามารถทำให้เขาถูกถลกหนังทั้งเป็น

“นี่มันอะไรกันเนี่ย? ถัง…เหล่าถัง…” เมื่อเห็นหลัวจื้อปิ่งทำท่าแบบนั้นแล้ว เยี่ยเทียนถึงกับอดมองมายังถังเหวินหย่วน ไม่ได้

“เอ่อ ท่านเยี่ย ท่านว่า….”

เมื่อพูดประโยคนี้ออกมาแล้ว ในใจเยี่ยเทียนรู้สึกตะขิดตะขวงเหลือเกิน ยิ่งเมื่อเห็นถังเหวินหย่วนยิ้มตาหยีตอบกลับ ทำให้เขารู้สึกกระอักกระอ่วนเข้าไปอีก

หมอดูยอดอัจฉริยะ

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ในยุคสมัยหลังการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ ประเทศจีนเริ่มพัฒนาสู่ความทันสมัย ผู้คนต่างหันไปพึ่งวิทยาการตะวันตก ถ้าใครแสดงออกว่าสนใจเกี่ยวกับ “ศักดินางมงาย” อาจมีตำรวจมาเยี่ยมถึงบ้าน เยี่ยเทียน เด็กชายจากหมู่บ้านชาวนาผู้มีชะตาไม่ธรรมดา มีโอกาสได้รับการถ่ายทอดศาสตร์โบราณที่ถูกตีตราว่าล้าหลังและงมงาย เสี่ยงทาย ฮวงจุ้ย คำนวณชะตา โหงวเฮ้ง ทำนายฝัน ดูฤกษ์… เขาจะใช้ทักษะเหล่านี้ (และอื่นๆ) อย่างไรในยุคสมัยเช่นนี้?

Options

not work with dark mode
Reset