หมอดูยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 557 ค่ายกลซานฉาย

“ถูกต้อง เทคนิควิชาของอาจารย์ไม่สามารถคาดเดาได้ น่าเสียดายที่ไม่มีการสืบทอดต่อ …”

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของศิษย์น้องเล็ก โก่วซินเจียถึงกับถอนหายใจยาว แต่กลับไม่รู้ว่าเยี่ยเทียนได้สืบทอดวิชาหลักของสำนักเสื้อป่านมาตั้งนานแล้ว การฝึกฝนเทคนิควิชา เมื่อเทียบกับลี่หยวนจึนั้นดีกว่าหลายเท่า

แต่เยี่ยเทียนก็ไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ให้ฟังได้ แค่พูดปลอบใจโก่วซินเจียว่า “ศิษย์พี่ คาถาในปัจจุบันนี้น้อยลงแล้ว นี่ก็เป็นแนวโน้มที่ดีไม่ใช่เหรอ พี่อย่าไปใส่ใจให้มากเลย”

“ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้ว ศิษย์น้องเล็ก ตระกูลเฮ่ออยู่ในฮ่องกงเป็นเวลาหนึ่งร้อยปีกว่า มีฐานที่ลึกมาก ห้ามแพร่งพรายเรื่องในวันนี้ออกไปเด็ดขาด”

โก่วซินเจียคิดสักพักหนึ่ง หันหน้ามามองที่หลิ่วติ้งติ้ง พูดด้วยน้ำเสียงที่กำชับว่า “ติ้งติ้ง เรื่องสำคัญมาก เธอห้ามเอาเรื่องภายในไปบอกคนอื่นเด็ดขาด!”

ศิษย์ทั้งสองคนของเยี่ยเทียนที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ เยี่ยตงผิงและภรรยาต่างก็เป็นผู้ใหญ่วัยกลางคนแล้ว รู้ว่าอะไรที่เป็นภัยและเป็นประโยชน์ พวกเขาไม่เอาไปเผยแพร่อย่างแน่นอน มีแค่หลิ่วติ้งติ้งที่ได้สัมผัสกับคนรวยในฮ่องกงเยอะ โก่วซินเจียเลยต้องเน้นย้ำเป็นพิเศษ

“ค่ะ ท่านอาจารย์ลุง!”เมื่อเผชิญหน้ากับโก่วซินเจีย นิสัยที่เย่อหยิ่งของหลิ่วติ้งติ้งกลับไม่กล้าเผยออกมา และได้แต่ตอบรับแต่โดยดี

“พอแล้ว ยุ่งกันมาหลายวันแล้ว ทุกคนเหนื่อยกันหมดแล้ว รีบไปพักผ่อนกันเถอะ”

เมื่อเห็นว่าได้อธิบายเรื่องเหตุผลชัดเจนแล้ว โก่วซินเจียจึงลุกขึ้น การโปรดสัตว์ของโครงกระดูกของซือซานเหลียงในครั้งนี้ พวกเขาศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสามได้หมดพลังอย่างมาก การบาดเจ็บที่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เกรงว่าเวลาแค่สามหรือห้าเดือน ก็ยากที่จะฟื้นฟูขึ้นมา

ถ้าไม่ใช่ว่าการดำเนินการก่อสร้างพวกเขาต้องควบคุมอยู่ โก่วซินเจียอยากจะหลบรักษาแผลที่เรือนสี่ประสานของเยี่ยเทียนที่เมืองปักกิ่ง

“เยี่ยเทียน มา มาพูดให้ฉันฟังหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

หลังจากที่รอทุกคนแยกย้าย ซ่งเวยหลันไปจับลูกชาย เมื่อครู่ที่ซ่งเวยหลันยังฟังพวกเขาสองสามคนคุยกันก็ไม่เข้าใจ ซึ่งความจริงแล้วเธอไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้

เยี่ยเทียนรู้ว่าแม่มีประสบการณ์และความรู้ที่กว้างขวาง ในตอนนั้นก็ไม่ได้ปิดบังอะไร ได้อธิบายเรื่องที่ผ่านไปแล้วให้ฟังอีกรอบหนึ่ง เมื่อซ่งเวยหลันกับซ่งตงผิงทั้งสองได้ฟังก็มองหน้าซึ่งกันและกัน

“ฮวงจุ้ยมหัศจรรย์แบบนี้เลยเหรอ?” ถ้าคนที่พูดไม่ใช่ลูกชาย ซ่งเวยหลันเกรงว่าจะด่าไปตั้งนานแล้ว เพราะเรื่องพวกนี้มันแปลกประหลาดมากเกินไป

“แหะๆ ของที่บรรพบุรุษสืบทอดกันมาหลายพันปี มักจะมีเหตุผลอื่นอยู่ข้างใน ต่อไปคุณเห็นบ่อยเข้าก็จะเข้าใจครับ…”

เยี่ยเทียนยิ้มและไม่ได้อธิบายอะไรมาก คนสำนักฉีเหมินอย่างพวกเขากับคนธรรมดาชีวิตเดิมทีก็อยู่กันคนละโลก ยากที่จะเข้าใจปัญหา

หลังจากที่แก้ปัญหาการก่อสร้างถนนที่ยากนี้เสร็จ ต่อไปการพัฒนาโครงการวิศวกรรมก็คงจะราบรื่นเยอะ เร็วสุดต้องใช้เวลาสองอาทิตย์ ซากปรักหักพังพวกนั้นจะกลายเป็นสวนริมถนนขนาดใหญ่

ตรงกลางสวนดอกไม้ สร้างฐานหินอ่อนสูงประมาณห้าเมตร ลูกบอลคริสตัลขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณสามสิบเซนติเมตรอยู่เหนือฐาน

ด้านนอกของลูกบอลคริสตัลเป็นงานฝีมือทรงกลมทำจากโลหะผสมที่มีลักษณะเหมือนดวงอาทิตย์

ของสิ่งนี้เยี่ยเทียนได้ออกแบบมา มันไม่เพียงแต่กำจัดพลังพิฆาตและระงับพลังหยิน ในขณะเดียวกันก็สามารถป้องกันการโจรกรรมได้ แค่ลูกคริสตัลนี้มีมูลค่าสูงลิบลิ่วแล้ว

หลังจากที่สร้างฮวงจุ้ยบอลแล้ว รถที่เข้าออกที่นี่ ต้องผ่านลูกบอลฮวงจุ้ยด้านซ้ายและด้านขวาทั้งสองด้าน ก็เหมือนกับการนวดจากซ้ายไปขวา ทำให้ลูกบอลฮวงจุ้ยเคลื่อนไหวไปมา

เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่เพียงแต่พลังหยินในบริเวณนี้ทั้งหมดจะกลายเป็นพลังของความมงคล และยังพัดพาพลังวิญญาณที่ยุ่งเหยิงไปยังทะเลด้านหน้า พลังระหว่างฟ้าดินที่แน่นขนัดได้ส่งไปที่อยู่อาศัยของเยี่ยเทียนที่อยู่ตรงไหล่เขานั้นไม่ขาดสาย

ก่อนอื่นชาวบ้านที่เดินทางบนถนนสายนี้รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง เพราะนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมสวนน้ำ จู่ๆ ก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ชาวบ้านบางคนขายงานหัตถกรรมเปลือกหอยที่ทำด้วยตัวเองก็ขายได้จำนวนไม่น้อย

นี่ทำให้สองสามหมูบ้านละแวกนี้ค่อยๆ มีชีวิตที่ดีขึ้น คนหนุ่มสาวบางคนที่ออกไปทำงานในเขตเมือง ก็กลับมาที่หมู่บ้านเพื่อเตรียมงานใหญ่

คนที่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงคนต่อไป ก็คือพวกคนที่มีบ้านหรูที่อยู่กลางภูเขา ตอนที่พวกเขาออกมากำลังกายทุกเช้า ก็จะพบอากาศบนภูเขา ที่ดูเหมือนว่าจะสดชื่นกว่าทุกวัน ทุกครั้งที่ออกกำลังกาย ในทุกๆ วันก็จะรู้สึกกระปี้กระเปร่าขึ้นมา

คนพวกนี้ต่างก็เป็นคนที่รอบรู้ เมื่อถามข่าวคราว ก็รู้ว่าเป็น“ปรมาจารย์จั่ว”ที่เป็นคนจัดฮวงจุ้ย ทำให้มีผลต่อภูเขาเช่นนี้ หลังจากนั้นสองสามวัน ชื่อของปรมาจารย์จั่วจึงกลายเป็นคำพูดติดปากของคนพวกนี้

และมีคนเสนอเงินก้อนใหญ่เชิญจั่วเจียจวิ้นมาช่วยดูฮวงจุ้ยที่บ้านให้ตลอด แต่ก็ถูกจั่วเจียจวิ้นปฏิเสธ ตอนนี้เขากำลังเตรียมก่อสร้างเสาฮวงจุ้ยให้กับศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสองคน แล้วจะมีเวลาไปจัดการเรื่องที่ไร้สาระแบบนี้ที่ไหนกันล่ะ?

จัตุรัสฮวงจุ้ยได้เริ่มก่อสร้างเมื่อสามวันก่อน ประการแรกคือวางรากฐานก่อน แต่รากฐานนี้ก็ต้องประณีตเช่นกัน กระทั่งการออกแบบสวนจัตุจักร ทั้งหมดต่างก็แแฝงไปด้วยค่ายกลคาถา

สามวันมานี้ ศิษย์น้องของโก่วซินเจียสองสามคนต่างก็อยู่ที่นี่ตลอด เยี่ยเทียนเข้มงวดกับพวกคนงานมากกว่าเดิม เพราะมุมหนึ่งของสวนผิดไปสามเซนติเมตร จึงถูกสร้างใหม่

เมื่อมีจั่วเจียจวิ้นคอยคุมค่ายกล บวกกับเยี่ยเทียนที่รู้การเรื่องงานอย่างมาก เมื่อชี้ถึงความผิดพลาด ทำให้พวกคนงานเหล่านั้นพูดไม่ออก ดังนั้นจึงได้แต่กลับไปทำใหม่แต่โดยดี

“เยี่ยเทียน ค่ายกลที่คุณวางไว้มันค่อนข้างที่จะวุ่นวายหรือเปล่า? ด้านในสุดก็คือค่ายกลการซานฉาย ถัดไปข้านอกคือสี่ปรากฏการณ์ สุดท้ายก็เป็นปากั้วแปดเอกลักษณ์ ค่ายกลในสวมอยู่ในค่ายกลนี้ มีวิธีการพูดอะไรไหม?”

เมื่อมองภาพวาดในมือ โก่วซินเจียถึงกับขมวดคิ้วขึ้น ค่ายกลเหล่านี้ถ้าวาดเดี่ยวๆ เขาก็ดูออกทั้งหมด แต่เยี่ยเทียนกลับเอาค่ายกลใหญ่ทั้งสามมารวมกัน ทำให้โก่วเจียซินถึงกับงงดูไม่ออก

เยี่ยเทียนยิ้มแล้ว พูดว่า “ศิษย์พี่ ลูกบอลฮวงจุ้ยหมุนเวียนเปลี่ยนพลังความโชคดีค่อนข้างน้อย ผมจัดตั้งค่ายกลสามแบบนี้ ก็มีชื่อเรียกเหมือนกัน มันเรียกว่าค่ายกลซานฉายเปลี่ยนสุริยัน ทั้งสามขั้วนี้แบ่งเป็นฟ้า ดิน และคน จางจิ้งเคยพูดในตำรา ‘กวนเซี่ยงฟู่’ แม้ว่าเสาทั้งสามนั้นจะแตกต่างกัน แต่ใช้เวทย์มนตร์ก็เหมือนกัน ผมตั้งชื่อมาจากหลักการพวกนี้ครับ…”

ค่ายกลที่เยี่ยเทียนเลือกใช้ทั้งหมด ที่อยู่ในสมองเขาทั้งหมดสืบทอดออกมาได้ยากที่สุด ขณะเดียวกันก็เป็นรูปแบบที่ดีที่สุดในการรวบรวมพลังวิญญาณ

ทั้งสามวิธีอยู่ตรงจุดล่างสุดของเสาฮวงจุ้ย จะแกะสลักหน้าคนสามคน แบ่งเป็นจักรพรรดิหยาน หวงและฝูซี พวกเขาสามคนเป็นตัวแทนของสวรรค์และโลกและยังสามารถปราบปรามวิญญาณชั่วร้ายในโลกมนุษย์ได้

ส่วนบนพื้นที่ตั้งอยู่นอกซานฉาย จำเป็นต้องแกะสลักสัตว์เทพทั้งสี่คือมังกรฟ้า เสือขาว หงส์แดง และเต่าดำ พวกมันจะคอยปกป้องคุ้มครองแต่ละทิศ พลังชี่แท้จะคอยดูดซับค่ายกลปากว้าผสมผสานเข้าไปในค่ายกล กำจัดพลังพิฆาตและเปลี่ยนเป็นพลังแห่งความโชคดีและสิริมงคล

ส่วนค่ายกลปากว้าที่อยู่ด้านนอกสุด สามารถเรียกว่าค่ายกลจิ่วกงปากว้า

เก้าคือจำนวนที่มากที่สุด นำลิ่วเหยาแบ่งเป็นอย่างละสามของป้ากว้า พูดได้ว่า หนึ่งให้กำเนิดสอง สองให้กำเนิดสาม สามให้กำเนิดทั้งหมายทั้งปวง และยังเรียกว่าหลักการของไท่จี๋ ทวิภาวะให้กำเนิดสี่ปรากฏการณ์  สี่ปรากฏการณ์ให้กำเนิดแปดเอกลักษณ์ปากว้า ปากว้าเปลี่ยนเส้นเหยาไขว้หกสิบสี่เส้น นับตั้งแต่นั้นก็เกิดการหมุนเวียนรอบแล้วรอบเล่าไม่รู้จบ

ที่ตั้งมังกรของค่ายกลนี้ หันหน้าเข้าหาปากแม่น้ำ ราวกับมังกรที่ดูดซับน้ำดูดพลังแห่งท้องทะเล พลังแห่งท้องทะเลคลื่นโหมซัดเข้ามาไม่หยุด หมุนเวียนเป็นวัฏจักรอย่างไม่ขาดสาย

ค่ายกลทั้งสามค่ายนี้มีหน้าที่แตกต่างกันไป แต่ละค่ายกลต่างก็รับผิดชอบแต่ละส่วน ถ่ายทอดพลังมงคลเข้าสู่เสาหลักของฮวงจุ้ย จากนั้นเยี่ยเทียนก็จะสร้างค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณตรงกลางบ้าน โดยที่ให้เสาฮวงจุ้ยดูดพลังมงคลทั้งหมดเข้ามา

แต่เยี่ยเทียนจะสามารถวางค่ายกลให้สมบูรณ์แบบได้หรือไม่ ในใจของเยี่ยเทียนเองก็ไม่ได้มั่นใจขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่มีเงินทุนที่เพียงพอและจั่วเจียจวิ้นก็รู้จักคนที่ฮ่องกง เขาเองก็ไม่กล้าที่จะสร้างค่ายกลนี้ขึ้นมา

เพราะค่ายกลซานฉายเปลี่ยนสุริยันนี้ต้องประกอบไปด้วยซานฉายสี่ปรากฏการณ์รวมทั้งค่ายคลปากว้า แต่ละค่ายกลกจะต้องใช้วัสดุที่ไม่เหมือนกัน ก็เหมือนพวกทอง หิน หยกพวกนี้ ที่เป็นวัสดุพื้นฐานในการสร้างค่ายกล ซึ่งไม่ใช่คนธรรมดาที่จะซื้อได้

และในค่ายกลของค่ายกลนี้ จะต้องให้มันสอดคล้องกัน ตอนที่ทำการสร้างค่ายกลนั้นจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก ถ้าผิดพลาดเพียงนิดเดียวก็เท่ากับทุกอย่างเสียเปล่า

“มีค่ายกลที่น่ามหัศจรรย์แบบนี้ด้วยเหรอ?”

เมื่อเยี่ยเทียนได้อธิบายให้โก่วซินเจียและจั่วเจียจวิ้นฟังก็ถึงกับตกตะลึง เขาสองคนมีอายุรวมกันได้หนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดปีแล้ว แต่ค่ายกลแบบนี้ อย่าว่าแต่เคยเห็นเลย แม้แต่ได้ยินก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน

“ศิษย์พี่ ค่ายกลนี้มีอยู่ก็จริง แต่จะทำได้สำเร็จหรือไม่นั้น ผมเองก็ไม่ได้แน่ใจ”

เยี่ยเทียนยิ้มเจื่อนๆ ในใจ ถ้าสร้างค่ายกลทั้งสามแยกกัน เขามีความมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้กลับต้องนำทั้งสามค่ายกลรวมเป็นหนึ่ง ในใจของเยี่ยเทียนกลับไม่ค่อยมีความมั่นใจเท่าไร

“ไม่กลัว พวกเราสนับสนุนนาย ศิษย์น้องเล็ก จะต้องสร้างค่ายกลซานฉายเปลี่ยนสุริยันอกมาให้พวกเราเห็นได้แน่นอน!” จั่วเจียจวิ้นตบบ่าของเยี่ยเทียนเบาๆ และพูดให้กำลังใจสนับสนุน

“ได้ ศิษย์พี่ คงต้องให้พวกพี่ออกแรงช่วยด้วยนะครับ”

เยี่ยเทียนแบะปาก ถ้าเขาอยู่ที่นี่คนเดียว ก็คงไม่คิดเพ้อฝันเรื่องค่ายกลนี้ และจากวรยุทธของเขา จึงไม่สามารถสร้างสามค่ายกลรวมเป็นหนึ่งได้

โครงสร้างพื้นฐานทางวิศวกรรมใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ เมื่อเสาหลักฮวงจุ้ยมีความลึก 8.8 เมตรและกว้าง 3.6 เมตรขุดเสร็จ เยี่ยเทียนก็ไล่ทีมงานวิศวกรออกไปให้หมด และให้จั่วเจียจวิ้นส่งคนมาล้อมรอบในระยะหนึ่งร้อยเมตร

“เยี่ยเทียน การทำแบบนี้คุ้มค่ามากจริงๆ!”

เมื่อมองไปเห็นวัตถุที่คลุมด้วยผ้าไหมสีแดงบนรถเข็น แม้แต่จั่วเจียจวิ้นก็อดไม่ได้ที่จะเลียริมฝีปาก

ไม่แปลกใจเลยที่เยี่ยเทียนจะระมัดระวังแบบนี้ หากมีคนรู้ว่ามีทองคำสามตันซ่อนอยู่ใต้เสาฮวงจุ้ยนี้ เกรงว่าพวกอันธพาลอย่างเยี่ยจี้ฮวนก็ไม่ต้องไปปล้นร้านทองแล้ว แค่ระเบิดเสาฮวงจุ้ยนี้ก็สิ้นเรื่อง

“ศิษย์พี่ อย่าพูดจาไร้สาระเลย รีบมาช่วยแขวนลงไปเถอะ”

เยี่ยเทียนยกผ้าสีแดงบนรถ น้ำเต้าฮวงจุ้ยอันหนึ่งที่ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์มาปรากฎต่อหน้าสองสามคน ถึงแม้ตอนนี้เป็นเวลาใกล้มืด แต่ในดวงตาทั้งสองสามคนก็ยังเห็นประกายสีทองอร่าม

ด้านล่างสุดของเสา ทำตามคำของเยี่ยเทียนที่ให้ขุดเป็นรูปน้ำเต้า เหมาะที่จะเอาน้ำเต้าฮวงจุ้ยนี้วางไว้ในนี้ เพื่อให้เป็นฐานของเสาฮวงจุ้ย

อย่ามองว่าเต้าหู้ฮวงจุ้ยอันนี้บรรจุทองคำสามตัน ที่จริงแล้วเยี่ยเทียนไม่สนใจสิ่งนี้ แต่ที่ทำให้เขาเจ็บปวดใจ ก็คือวัตถุที่จำเป็นต้องใช้ของค่ายกลที่เหลืออีกสองอัน

………………………….

หมอดูยอดอัจฉริยะ

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ในยุคสมัยหลังการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ ประเทศจีนเริ่มพัฒนาสู่ความทันสมัย ผู้คนต่างหันไปพึ่งวิทยาการตะวันตก ถ้าใครแสดงออกว่าสนใจเกี่ยวกับ “ศักดินางมงาย” อาจมีตำรวจมาเยี่ยมถึงบ้าน เยี่ยเทียน เด็กชายจากหมู่บ้านชาวนาผู้มีชะตาไม่ธรรมดา มีโอกาสได้รับการถ่ายทอดศาสตร์โบราณที่ถูกตีตราว่าล้าหลังและงมงาย เสี่ยงทาย ฮวงจุ้ย คำนวณชะตา โหงวเฮ้ง ทำนายฝัน ดูฤกษ์… เขาจะใช้ทักษะเหล่านี้ (และอื่นๆ) อย่างไรในยุคสมัยเช่นนี้?

Options

not work with dark mode
Reset