หมอดูยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 617 เดิมพัน

“โอ้ คุณคลีเมตสัน ดีใจที่ได้พบคุณนะครับ!”

ต่งเซิงไห่เห็นชายชราคนนั้นแล้วก็ยิ้มแย้มยินดีกางแขนทั้งสองข้างออกโอบกอดชายคนนั้นอย่างอบอุ่น ส่วนบอดี้การ์ดของชายชรา ต่งเซิงไห่ไม่แม้แต่จะชายตามอง

เยี่ยเทียนได้ยินชื่อของชายชราแล้วก็หันไปสบตากับจู้เหวยเฟิง เขาจำได้ว่าตอนที่ขึ้นเรือมานั้นเคยได้ยินจู้เหวยเฟิงเอ่ยถึงชื่อ คลีเมตสัน

แต่ดูท่าทางของจู้เหวยเฟิงแล้วคล้ายกับว่าไม่รู้จักชายคนนี้ คงเป็นเหมือนกับต่งเซิงไห่ที่ได้คุยแต่ในโทรศัพท์หรืออีเมลแต่ไม่เคยพบหน้า

“คุณคลีเมตสัน ผมขอแนะนำเพื่อนทั้งสองของผม พวกเขามีภูมิหลังที่ไม่น้อยทีเดียว!”

ผละจากอ้อมกอดของคลีเมตสันแล้ว ต่งเซิงไห่ถอยออกมา เอ่ยต่อว่า “ท่านนี้เป็นผู้อาวุโสในสมาคมหงเหมิน คุณคลีเมตสัน ผมเรียกเขาว่าท่านเยี่ย ถ้าคุณจะนับตามลำดับขั้นแล้ว คุณต้องเรียกเขาว่าคุณปู่!”

ต่งเซิงไห่ไม่ได้โอ้อวดเกินจริงเลย สถานะของเยี่ยเทียนช่างสูงส่งจนน่าตกใจ ในที่ประชุมสมาคมหงเหมินต่างตกลงยินยอมให้เยี่ยเทียนได้รับเกียรติในการเป็นผู้อาวุโสชั้นสูง เยี่ยเทียนเองก็ยอมรับแล้ว

“ต่ง ลำดับขั้นของพวกคุณเข้าใจยากมาก หนุ่มน้อยคนนี้ จะให้เรียกเขาว่าคุณปู่ได้อย่างไร?”

คลีเมตสันได้ยินที่ต่งเซิงไห่แนะนำแล้วก็หัวเราะเสียงดัง เขามีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นดีมาก ภายในการพูดคุยไม่กี่ประโยคก็เหมือนเอาไม้กระบองทุบหัวเยี่ยเทียนไปทีหนึ่ง

คลีเมตสันผู้เป็นตัวแทนแห่งอำนาจเบื้องหลังเรือสำราญหรูหราลำนี้ได้พบปะผู้คนมาไม่น้อย แม้ว่าเยี่ยเทียนจะดูยังหนุ่มแน่น แต่เขาสังเกตจากใบหน้าของเยี่ยเทียนแล้วดูเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นแบบผู้นำซ่อนอยู่

อีกทั้งตำแหน่งผู้อาวุโสระดับสูงในสมาคมหงเหมิน ดังนั้นเมื่อเทียบกับจู้เหวยเฟิงที่ต่งเซิงไห่ไม่ได้แนะนำให้รู้จัก คลีเมตสันยิ่งให้ความสำคัญแก่เยี่ยเทียนมากกว่า จึงยื่นมืออกมาจับมือเยี่ยเทียน

คุณคลีเมตสันเกรงใจเกินไปแล้ว เรียกผมว่าเยี่ยเทียนก็พอ”

เยี่ยเทียนยิ้มให้เล็กน้อย ค่อยๆยื่นมือขวาออกไป การกระทำของเขาทำให้ผู้ติดตามของคลีเมตสันชักสีหน้าทันที

คลีเมตสันเป็นใคร? เบื้องหลังของเขามีทรัพย์สมบัติมหาศาลที่ครอบครองอยู่ เป็นกลุ่มผู้ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกกลุ่มหนึ่ง แม้แต่พวกแก๊งค์มาเฟียขวางโลกที่ขึ้นมาบนเรือยังไม่มีใครกล้าวางก้ามต่อหน้าเขาเลย

เมื่อเยี่ยเทียนเอื้อมมือออกไป เป็นการแสดงถึงความไม่เคารพต่อคลีเมตสัน แม้แต่ตัวคลีเมตสันเองยังตกใจ แต่เขาได้รับการปลูกฝังมาอย่างดีจึงจับมือเยี่ยเทียนไว้แล้วยิ้มให้

“สหาย ส่วนคนนี้เป็นคนดูแลกลุ่มนักมวยใต้ดินในประเทศจีน เขาชื่อว่า จู้เหวยเฟิง คิดว่าคุณคงจะพอรู้จักอยู่บ้างใช่ไหม?”

ต่งเซิงไห่คิดไม่ถึงว่าเยี่ยเทียนจะใจกล้าขนาดนี้ รีบหัวเราะกลบเกลื่อนแนะนำจู้เหวยเฟิงแก่คลีเมตสันเป็นคนต่อไป

“แน่นอนสิ คุณจู้ยังหนุ่มยังแน่นมีความสามารถ ทำให้วงการมวยใต้ดินในจีนพัฒนาขึ้นได้เป็นอย่างดี”

เมื่อปล่อยมือจากเยี่ยเทียนแล้ว คลีเมตสันได้ยื่นมือออกไปให้จู้เหวยเฟิง แต่ครั้งนี้เขายื่นมือออกไปข้างเดียว แต่ไม่ได้เป็นเพราะเขาเลือกปฏิบัติ แต่เกรงว่าจู้เหวยเฟิงจะเหมือนเยี่ยเทียน เขาจึงแสดงออกเป็นนัย

จู้เหวยเฟิงกุมมือของคลีเมตสันตามมารยาท ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณคลีเมตสันชมเกินไปแล้ว ความก้าวหน้าของวงการมวยใต้ดินในจีนนั้นเพิ่งเริ่มได้ไม่นาน ยังต้องให้คุณคลีเมตสันช่วยชี้แนะอีกมาก”

“คนจีนชอบถ่อมเนื้อถ่อมตัวอยู่เสมอแหละ…”

คลีเมตสันส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า “ผมได้ยินว่าในค่ายมวยของคุณมีคนที่ล้มเจ้าอันเดรวิชราชามวยของ มิสเตอร์ต่งได้ด้วย ครั้งนี้ทำไมคุณไม่พาเขามาเข้าร่วมแข่งขันที่นี่ด้วย?”

“เหอะๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมา ผมแค่อยากจะมาศึกษาดูงานเท่านั้น คราวหน้ายังมีโอกาสอีกมาก!”

จู้เหวยเฟิงอยู่ในวงการธุรกิจมานาน คุ้นเคยกับการหยั่งเชิงแบบนี้ดี คำตอบที่ให้กับคลีเมตสันไปเป็นการอุดปากไม่ให้คลีเมตสันถามต่อได้อีก

“หึ อันเดรวิชเขามีชื่อเสียงไม่เบาสินะ ในโลกมวยใต้ดินเขายังไม่ติดอันดับหนึ่งในสิบเลย แพ้แล้วจะเป็นอะไรไป?”

คลีเมตสันยังไม่ทันเอ่ยปาก คนข้างๆเขาชิงพูดเยาะเย้ยขึ้นมาก่อน คนที่พูดเป็นชายชาวฝรั่งรูปร่างสูงใหญ่ถึง 190เซนติเมตรขึ้นไปกำลังมองจู้เหวยเฟิงอย่างสบประมาท แล้วพูดต่อว่า “การต่อสู้แบบจีนของพวกคุณคงเหมาะกับการแสดงบนเวทีมากกว่า ไม่มีความน่าเกรงกลัวเลยสักนิด ถ้ามาลงแข่งก็คือการมารนหาที่ตายเท่านั้นเอง!”

“คุณเป็นใคร?”

จู้เหวยเฟิงถลึงตาเข้าใส่ ชายคนนั้นพูดภาษาอังกฤษ จากสำเนียงที่พูดยังไม่สามารถแยกได้ว่าเขาเป็นคนชาติไหน

ต่งเซิงไห่ตบไหล่จู้เหวยเฟิงที่กำลังคิดคำศัพท์ออกมาเถียงกับชายคนนั้น แล้วก้าวออกมาตรงหน้าคนฝรั่ง เอ่ยว่า “รูดอล์ฟ ลืมไปแล้วหรือว่าใครลงมือสังหารราชาแห่งมวยของพวกแก?”

ต่งเซิงไห่มีวิชากังฟูติดตัวอยู่ไม่น้อย แม้ว่ารูปร่างจะไม่สูงใหญ่เท่าฝ่ายตรงข้าม แต่กำลังวังชาไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย กลับทำให้ชายฝรั่งคนนั้นถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ตอบว่า “คุณต่ง เมื่อปีที่แล้ว ผมพ่ายแพ้ให้แก่คุณ ปีนี้คุณยังกล้าเดิมพันอยู่อีกไหม?”

ต่งเซิงไห่ตอบอย่างไม่คิด “ยังจะเดิมพันอีก? คราวนี้คุณจะเอาอะไรมาเดิมพัน?”

เจ้ารูดอล์ฟขบเขี้ยวเคี้ยวฟันตอบว่า “ถ้าปีนี้คนของผมแพ้ ค่ายมวยใต้ดินในมาเลเซียแล้วก็เรือคาสิโนอีกลำหนึ่งจะเป็นของคุณ!”

รูดอล์ฟเป็นเจ้าพ่อคาสิโนรายใหญ่ในลาสเวกัส เขามีกิจการมากมายกระจายไปตามประเทศต่างๆทั่วโลก

เมื่อสามปีก่อนเขาเตรียมจะลงทุนในกิจการมวยใต้ดินในมอสโค กลับถูกต่งเซิงไห่โจมตี เงินทุนจำนวนร้อยล้านดอลลาร์สูญสลายไปในพริบตา ทั้งยังสูญเสียลูกน้องฝีมือดีไปอีกหลายคน

สำหรับรูดอล์ฟเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่จะให้เสียหน้านั้นยอมไม่ได้ การแข่งขันมวยปล้ำเมื่อปีก่อน เขากับต่งเซิงไห่ได้ตกลงสู้พนันกัน แต่กลายเป็นฝ่ายรูดอล์ฟที่ต้องพ่ายแพ้กลับไป

“รูดอล์ฟ คุณสมองเสื่อมไปแล้วหรือไง?”

ต่งเซิงไห่ส่ายหัว “ค่ายมวยในมาเลเซียกับค่ายมวยในมอสโคมันเทียบกันได้ที่ไหน? ต่อให้เพิ่มเรือคาสิโนเข้าไปอีกลำก็ไม่พอ รูดอล์ฟ ถ้าคุณอยากจะสู้จริง ก็ต้องแสดงความจริงใจมากกว่านี้!”

เอเชียอาคเนย์ได้รับอิทธิพลมาจากมาเก๊า ที่มีการลงทุนสร้างคาสิโนกับเรือคาสิโนส่วนบุคคล แต่เพราะขอบเขตที่จำกัดของแต่ละท้องที่ทำให้กิจการไม่ค่อยรุ่งเรืองเท่าไหร่

ส่วนมอสโคเป็นตลาดศูนย์กลางการค้าใหญ่ระดับนานาชาติ มีความสำคัญมากกว่าสถานที่เล็กๆในมาเลเซียนั้นไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ต่งเซิงไห่ไม่อยากรับคำท้าของรูดอล์ฟเลย

รูดอล์ฟหยุดคิดเล็กน้อย แล้วเอ่ยต่อ “เอาเถอะ คุณต่ง ผมเพิ่มค่ายมวยใต้ดินในอินโดนีเซียให้ด้วยเลย อย่างนี้พอได้หรือยัง?”

“ไม่พอ!” ต่งเซิงไห่ตอบอย่างไม่ใยดี

“คุณยังอยากได้อะไรอีก? ทั้งสนามมวยสองแห่งยังมีเรือคาสิโนอีกลำ ผมยอมให้คุณมากเกินไปแล้ว!”

รูดอล์ฟเริ่มโมโหเดินก้าวเข้ามาก้าวหนึ่ง แต่นึกได้ว่าเขาเคยแพ้ให้กับต่งเซิงไห่ครั้งหนึ่งแล้ว จึงรีบถอยหลังกลับไปสองก้าว ตอบว่า “เอาอย่างนี้ ผมเพิ่มหุ้นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของโรงแรมในลาสเวกัสให้ด้วย น่าจะพอแล้วนะ?”

 “จริงหรือ?” ฟังรูดอล์ฟพูดจบต่งเซิงไห่มีสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นประหลาดใจ

โรงแรมลาสเวกัสที่ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและนักพนันจากทั่วโลก ที่นั่นราวกับเป็นเครื่องมือผลิตทองคำ ในทุกวันมีรายได้มหาศาลไม่รู้เท่าไหร่

อย่าดูถูกหุ้นแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ของรูดอล์ฟ แค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์นี้ มีมูลค่าสูงถ้าห้าร้อยล้านดอลล่าร์เข้าไปแล้ว

เมื่อได้ยินถึงสิ่งที่ใช้เป็นเครื่องเดิมพัน พวกคลีเมตสันต่างตกตะลึง รู้สึกว่าสิ่งที่รูดอล์ฟนำไปใช้แลกเปลี่ยนนั้นยิ่งใหญ่เหลือเกิน

“แน่นอน ถ้าคุณแพ้ ต้องมอบค่ายมวยใต้ดินในตุรกีให้ผม!” รูดอล์ฟกัดฟันกรอดๆ “เป็นอย่างไร? กล้าพนันไหมเล่า?”

รูดอล์ฟถามออกมา ต่งเซิงไห่รู้สึกลังเล เขาไม่รู้ว่าทำไมรูดอล์ฟจึงวางเดิมพันไว้สูงเช่นนี้? ถ้าตัวเองเกิดแพ้ ความลำบากยากเย็นในธุรกิจที่สร้างมากับมือต้องยกให้เป็นของคนอื่นไป

แม้ผู้โดยสารบนเรือต่างเป็นพวกมาเฟียในโลกสีดำ ที่ฆ่าคนทำชั่วเป็นเรื่องปกติ

แต่พวกเขากลับเคารพในกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้ การพนันบนเรือนี่ต้องมีการแลกเปลี่ยน ไม่เช่นนั้นจะถูกคนอื่นๆโจมตี

เช่นค่ายมวยใต้ดินในตุรกีของต่งเซิงไห่ ความจริงแล้วปีที่แล้วชนะเดิมพันรูดอล์ฟ จึงได้มาครอบครอง คนที่แข็งแกร่งอย่างรูดอล์ฟก็ไม่อาจน้อมรับผลลัพธ์จากการแหกกฎได้

“คุณต่ง หรือคุณไม่เชื่อใจในหมีขั้วโลกแล้วใช่ไหม?”

รูดอล์ฟเห็นท่าทางลังเลของต่งเซิงไห่แล้วหัวเราะเยาะ “ถ้าไม่มั่นใจ ก็อย่าส่งหมีขั้วโลกลงแข่งเลย ได้ยินว่าเพิ่งพ่ายแพ้มาไม่นานนี่!”

วงการมวยใต้ดินก็มีอยู่แค่นี้ อย่างคาโต้ ทาคุมิที่ถูกตัดแขนขาหรืออันเดรวิชที่ถูกตีจนกระอักเลือด เรื่องแค่นี้ใครๆก็รู้กันทั่ว

“รูดอล์ฟ ผมไม่เชื่อว่าคุณจะหาใครที่เก่งกว่าอันเดรวิชได้อีกแล้ว!” ต่งเซิงไห่ถูกฝ่ายตรงข้ามยั่วมากเข้าก็ทนไม่ไหว กัดฟันรับปากจนได้

หากวิเคราะห์ตามความจริง ความสามารถของอันเดรวิชติดอันดับหนึ่งในสิบของตารางนักมวยใต้ดินทั่วโลกได้ แต่คนที่อันดับสูงกว่าอันเดรวิชนั้น ต่างกระจัดกระจายไปตามกลุ่มต่างๆ พวกเขาไม่อาจให้รูดอล์ฟยืมตัวนักมวยผู้เก่งกาจเหล่านั้นมาได้หรอก

อีกทั้งเดิมพันที่สูงของรูดอล์ฟช่างล่อตาล่อใจ ต่งเซิงไห่จึงยอมรับปาก ไม่เช่นนั้นคงยอมเสียหน้าดีกว่ารับคำท้าเดิมพัน

“ดี คุณคลีเมตสัน ขอให้คุณเรียกให้คนเอาสัญญามาให้ด้วยเถอะ!” รูดอล์ฟเห็นว่าต่งเซิงไห่รับปากแล้ว นัยตาเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์เพทุบายทันที

การแข่งขันมวยใต้ดินระดับโลกในทุกปี ที่ขาดไม่ได้เลยคือการพนันเดิมพัน โดยใช้เรือสำราญควีนอลิซาเบธเป็นคำยืนยันเพื่อรักษาสัญญาของทั้งสองฝ่าย

คลีเมตสันถ่ายทอดคำสั่งไปไม่นานก็มีบริกรถือเอาใบสัญญาที่ถ่ายเอกสารมาให้ถึงดาดฟ้าเรือ

“รูดอล์ฟ เขาดูเหมือนจะเพ่งเล็งมาที่คุณโดยตรงเลย ดูไม่ชอบมาพากล!”

เยี่ยเทียนมองดูกระดาษสัญญาที่วางอยู่บนเก้าอี้ชายหาดใบนั้นแล้วกระซิบกับต่งเซิงไห่ แม้เยี่ยเทียนจะไม่ได้ผูกดวงทำนาย แต่สัญชาตญาณบอกว่าเรื่องนี้มีบางสิ่งที่ไม่น่าไว้วางใจ

“ท่านเยี่ย ผมจะให้เขาได้ไม่คุ้มเสียเลย”

ต่งเซิงไห่รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน แต่เมื่อเขาตกลงเดิมพันไปแล้ว อย่างน้อยอันเดรวิชเองก็ชนะมาหลายเวทีแล้ว

………………………………………………………

หมอดูยอดอัจฉริยะ

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ในยุคสมัยหลังการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ ประเทศจีนเริ่มพัฒนาสู่ความทันสมัย ผู้คนต่างหันไปพึ่งวิทยาการตะวันตก ถ้าใครแสดงออกว่าสนใจเกี่ยวกับ “ศักดินางมงาย” อาจมีตำรวจมาเยี่ยมถึงบ้าน เยี่ยเทียน เด็กชายจากหมู่บ้านชาวนาผู้มีชะตาไม่ธรรมดา มีโอกาสได้รับการถ่ายทอดศาสตร์โบราณที่ถูกตีตราว่าล้าหลังและงมงาย เสี่ยงทาย ฮวงจุ้ย คำนวณชะตา โหงวเฮ้ง ทำนายฝัน ดูฤกษ์… เขาจะใช้ทักษะเหล่านี้ (และอื่นๆ) อย่างไรในยุคสมัยเช่นนี้?

Options

not work with dark mode
Reset