หมอดูยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 628 ความต้องการ

ตอนที่ 628 ความต้องการ
โดย
Ink Stone_Fantasy
เหงียนเซียงเกินเพิ่งฆ่าเคมสตันอย่างโหดร้ายและดูเหมือนว่าเขากำลังจะสูญเสียการควบคุม หลังจากได้ยินกรรมการพูดเสร็จ สายตาที่เหมือนงูพิษคู่นั้นก็จ้องไปที่กรรมการจนกรรมการถึงกับถอยหลังไปหลายก้าว

นักมวยฆ่าคู่ต่อสู้จนเสียชีวิตและทำกรรมการตายเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นแล้ว แน่นอนว่านักมวยคนนั้นก็ถูกปืนยิงตายในตอนสุดท้าย

“การแข่งขันจบแล้ว กลับไปห้องพัก!” ความกล้าของกรรมการเพิ่มมากขึ้นเมื่อยืนอยู่ใกล้ ๆ กับการ์ดที่สะพายปืนพร้อมกระสุน

ส่วนการ์ดสองคนก็ชักปืนขึ้นมาตามเสียงของกรรมการ ถ้าเหงียนเซียงเกินยังไม่ทำตามคำสั่งอีก พวกเขามีสิทธิยิงทันที เพราะค่าตัวของผู้ชมที่อยู่ในสนามแพงกว่าค่าตัวของเหงียนเซียงเกินอีก

เสียงปืนขึ้นลำที่ดังขึ้นทำให้เหงียนเซียงเกินกลับมามีสติ เขามองดูเคมสตันที่ไร้ชีวิตเสร็จ ดวงตาของเขาแสดงสายตาที่ไม่รู้จะอธิบายยังไงออกมา จากนั้นเขาก็กลับไปยังห้องพักนักมวยตามคำสั่งของกรรมการและมีการ์ดคอยคุ้มกันอยู่

“การแข่งขันใช้เวลา 3.28 นาที เคมสตันตาย เหงียนเซียงเกิน ชนะ!”

หลังจากเหงียนเซียงเกินเดินออกไปแล้ว กรรมการถึงกล้าเดินขึ้นไปบนเวที เขาพลิกดูหน้าของเคมสตันอย่างไม่มีความรับผิดชอบและประกาศการตายออกไป ที่จริงหลายครั้งที่ผู้เข้าแข่งขันไม่ได้ตายสนิท แต่เพราะอาการบาดเจ็บที่รุนแรงขนาดนี้มันหมายถึงความตายอยู่แล้ว

“นักมวยปล้ำระดับโลกไม่ได้เรื่องขนาดนี้เลยเหรอ? ผิดหวังจริง ๆ !”

“นั่นนะสิ ตัวใหญ่ซะเปล่า ฉันวางเดิมพันไปตั้ง 50 ล้าน!”

“ผู้ชายที่ไม่ได้เรื่อง ไอ้หนูของแกก็อ่อนเหมือนกับแกเลยใช่มั้ย? ฉันกล้าพนันแกไป 30 ล้านได้ยังไง?”

ตอนที่เคมสตันถูกเจ้าหน้าที่หลายคนยกลงไป มีเสียงด่าดูถูกดังขึ้นเต็มสนาม แน่นอนว่าคนพวกนี้ก็คือคนที่พนันว่าเคมสตันจะชนะ ตอนนี้พวกเขามีแต่ความโมโหและไม่มีความเห็นใจผู้ตายเลยแม้แต่นิดเดียว

“บัดซบเอ้ย เหล่าต่ง บอกคลีเมตสันหน่อย ตอนที่ผมเข้าแข่งขัน ผู้ชมทั้งหมดต้องเซ็นข้อตกลงความตายนะ ถ้าพวกเขากล้าดูถูกผมละก็ ผมจะฆ่าพวกเขาให้หมด!”

สีหน้าของเยี่ยเทียนเปลี่ยนไปทันทีหลังจากที่ได้ยินคำพูดของคนพวกนี้ พลังจิตสังหารของเขาถูกแสดงออกมาผ่านสายตา ความรู้สึกเยือกเย็นที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ต่งเซิงไห่กับจู้เหวยเฟิงรู้สึกตกใจกันทั้งคู่

ภาพการต่อสู้นี้ทำให้เยี่ยเทียนรู้สึกพลุ่งพล่านจริง ๆ แต่การที่คนเหล่านี้เย็นชาต่อชีวิตของคนทำให้เยี่ยเทียนรู้สึกโกรธมาก มวยปล้ำไร้กฎเป็นกีฬาชนิดนึงที่ท้าทายขีดจำกัดของมนุษย์ ในใจของเยี่ยเทียนมีแต่ความเคารพ เขารับไม่ได้ที่ผู้ชมดูถูกนักมวยแบบนี้

“คุณเยี่ย คนพวกนี้ฆ่าไม่ได้นะ ไม่งั้นจะเกิดปัญหาใหญ่แน่ ๆ !”

ต่งเซิงไห่อยู่ในวงการมวยใต้ดินมานานหลายปี เกือบทุกปีเขาเจอมหาเศรษฐีจากประเทศต่าง ๆ และรู้จักอำนาจอันยิ่งใหญ่ของคนพวกนี้เป็นอย่างดี ฉะนั้นอย่ามองว่าพวกเขามีนักมวยปล้ำผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงทั่วโลกอยู่ในมือ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ฆ่าคนแบบไม่เห็นเลือดพวกนี้ ยังห่างหลายระดับมาก

“บนโลกนี้ไม่ว่าใครหายไปโลกก็ยังหมุนเหมือนเดิม ชีวิตของพวกเขาคือชีวิต แล้วคนพวกนั้นไม่ใช่เหรอ?” เยี่ยเทียนชี้ไปที่เคมสตัน ถ้าเขาเป็นแค่ผู้ชมคนนึงอาจจะพอทนได้ แต่เพราะเขาจะขึ้นแข่งในวันมะรืน เยี่ยเทียนทนไม่ได้แน่ ๆ ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเขา

“คุณเยี่ย ไม่เคยมีกฎแบบมานี้มาก่อนนะ” ต่งเซิงไห่เริ่มแสดงสีหน้าเคร่งเครียด เขาก็เป็นแค่เจ้าของสนาม ตัวเขาเองก็ไม่มีความสามารถถึงขั้นไปบอกให้คลีเมตสันพูดขัดใจเศรษฐีพวกนั้นหรอก

“คุณบอกคลีเมตสัน สิ่งที่พวกเราทำอยู่คือการท้าปะลอง บนสัญญาไม่ได้เขียนสถานที่แข่งไว้เลย!”

เยี่ยเทียนหัวเราะแห้ง ๆ และพูดต่อว่า “ถ้าเขาไม่เห็นด้วย ผมคิดว่าพวกเรามีสิทธิเลือกสถานที่แข่งขันเป็นที่อื่น

อยู่มั้ง? ผมมาชกมวย ไม่ได้มาชกเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับคนอื่น !”

ข้อตกลงสามฉบับของเยี่ยเทียนลงนามโดยจู้เหวยเฟิง ในข้อตกลงมีเพียงเวลาแข่งขัน แต่ไม่ได้เขียนไว้ว่าให้ใครขึ้นชกและสถานที่ชกอยู่ที่ไหน ถ้ามองจากตรงนี้ความต้องการของเยี่ยเทียนถือว่าเป็นไปได้

“ตกลง ผมจะลองดู!”

ต่งเซิงไห่ทำอะไรไม่ถูก เพราะเขาเดิมพันเยี่ยเทียนชนะจนหมดตัว ถ้าเยี่ยเทียนไม่ขึ้นชกกับแอนโทนี มาร์คัสละก็ ความพยายามทุ่มเทสิบ ๆ ปีก็จะสูญไปเปล่า ๆ

การต่อสู้อันโหดร้ายเพิ่งสิ้นสุด ต้องใช้เวลาสักนิดเพื่อให้อารมณ์สงบลง การแข่งขันรอบต่อไปจึงจะเริ่มขึ้นอีกครั้งในครึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ จากนั้นหน้าจอยักษ์ก็เริ่มแนะนำผู้เข้าแข่งขันรอบต่อไป

ในเวทีมวยใต้ดิน ไม่เพียงแต่มีการสู้แบบเดี่ยว ยังมีการสู้แบบคู่และแบบสามคน แต่การสู้แบบมีอาวุธค่อย ๆ หายไปจากวงการนี้แล้ว เพราะการต่อสู้แบบนั้นมันโหดร้ายและเลือดเย็นกว่ามาก

เมื่อ 5 ปีก่อนเรือสำราญควีนอลิซาเบธเคยจัดการแข่งขันแบบใช้อาวุธ มีหัวของนักมวยคนนึงถูกฟันจนตกลงมา แล้วผู้ชมที่เป็นเศรษฐีคนนึงเกิดโรคหัวใจกำเริบขึ้นมา ทำให้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ฉะนั้น 5 ปีที่ผ่านมาจึงน้อยมากที่จะต่อสู้โดยสามารถใช้อาวุธได้

การแข่งขันรอบต่อไปเป็นการแข่งขันแบบคู่ ผู้เข้าแข่งขันมาจากประเทศบัลแกเรีย แยงเกอวิช เจอกับฉัตรชัย ข่าโท คู่กับ ลิเฟีย ปาหนันจากประเทศไทย

ถ้าดูข้อมูลที่โชว์อยู่บนหน้าจอแล้ว ฉัตรชัย ข่าโท กับ ลิเฟีย ปาหนันเป็นคู่หูที่ติดอันดับที่หนึ่งของโลก จนถึงวันนี้บันทึกของเขาสองคนคือ ชนะทั้งหมด 158 ครั้ง ขอแค่ได้ขึ้นแข่งอีกเจ็ดรอบก็จะสามารถทะลุสถิติของอาจารย์ที่เป็นคนปั้นพวกเขามากับมือ

ในงานแข่งมวยใต้ดินระดับโลกครั้งที่แล้ว ฉัตรชัย ข่าโทกับลิเฟีย ปาหนัน เข้าร่วมการแข่งขันอยู่สองรอบ ซึ่งทั้งสองรอบล้วนแต่ฆ่าคู่ต่อสู้ตายคาที่ และหลังจากที่ข้อมูลของพวกเขาแสดงบนหน้าจอเสร็จ ก็เกิดเสียงโห่ร้องขึ้นมาทั่วสนามในทันที

บริกรผิวขาวเดินเข้ามาหาเยี่ยเทียนในขณะที่เสียงจากทั่วสนามกำลังโห่ร้องอยู่ และพูดด้วยเสียงค่อนข้างเบาว่า “คุณเยี่ย คุณคลีเมตสันขอเชิญคุณหน่อยครับ!”

“โอเค พาผมไปเลยครับ!” เยี่ยเทียนพยักหน้า และเดินตามพนักงานไป จากนั้นก็เข้าไปยังห้องทำงานห้องหนึ่งของสนาม

“คุณเยี่ย นี่คุณให้โจทย์ยากผมนะ คุณก็รู้ผมไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของคนพวกนั้นได้เลย……”

เยี่ยเทียนเพิ่งเข้าประตูมาก็ได้ยินเสียงลำบากใจของคลีเมตสันดังขึ้น เขาอยากพูดหว่านล้อมให้คนหนุ่มยกเลิกความคิดที่น่าตลกนี้ นักมวยในสนามมวยใต้ดินเกิดมาเพื่อคนใหญ่คนโตทั้งนั้น อย่าว่าแต่ด่าเลย แม้แต่การมีชีวิตอยู่หรือตายของนักมวยก็อยู่ที่การตัดสินใจของคนพวกนั้น

เมื่อก่อนก็มักจะมีเศรษฐีที่แพ้จนตาลุกเป็นไฟ จ้างคนไปฆ่านักมวยที่ชนะ ซึ่งนักมวยที่ตายด้วยปืนอย่างน้อยก็สิบกว่าคนแล้ว

ก็เหมือนกับถังหลงที่มีชื่อเสียงมากในประวัติศาสตร์ เขาเริ่มชกมวยใต้ดินที่สนามไต้หวัน ส่วนพ่อของเขาถูกลอบฆ่าโดยเศรษฐีบางคน ด้วยความโกรธเพียงวูบเดียวของถังหลง เขาได้ฆ่าคนทีเดียวทั้งหมดหกคน จากนั้นก็หนีจากไต้หวันไปที่สหรัฐอเมริกา พอไปถึงชีวิตมวยใต้ดินของเขาจึงได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง

แน่นอนว่าหลังจากที่เข้าสู่ยุค 90 โดยฉพาะหลายปีที่ผ่านมานี้เรื่องของนักมวยที่ถูกลอบฆ่ามีน้อยมากแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่านักมวยจะมีฐานะเท่าเทียมกับพวกเศรษฐีเหล่านั้น นักมวยก็ยังคงเป็นเครื่องมือของนักพนันเศรษฐีเหล่านั้นอยู่ดี

หลังจากได้ยินคลีเมตสันอธิบายให้ฟังเสร็จ เยี่ยเทียนหัวเราะแห้ง ๆ และพูดว่า “คุณคลีเมตสัน ทำได้หรือทำไม่ได้ นั่นเป็นเรื่องของคุณ ไม่งั้นผมก็ยินดีนะถ้าจะเปลี่ยนเวทีแข่ง เพราะมีเพียงเดิมพันเท่านั้นที่มีความเกี่ยวข้องกับผม คนพวกนี้เกี่ยวอะไรกับผมเหรอ?”

“เจ้าหนุ่ม นี่คุณขู่ผมเหรอ?”

ตาของคลีเมตสันหรี่ลง เรือพนันลำนี้หลังจากได้ลงสู่น้ำเมื่อปี 80 เขาก็เริ่มควบคุมทุกสิ่งอย่างบนเรือแล้ว หลายปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีใครกล้าพูดกับเขาถึงเพียงนี้

“คุณจะคิดแบบนั้นก็ได้ คุณคลีเมตสัน กฎของโลกใบนี้ ไม่ได้กำหนดโดยผู้ที่แกร่งกว่าเหรอ?”

เยี่ยเทียนแสดงสายตาอันแหลมคมออกมา “สำหรับคุณ บางทีอาจจะควบคุมชีวิตของนักมวยเหล่านั้นได้ แต่คุณคลีเมตสัน คุณเชื่อมั้ยว่าผมก็สามารถควบคุมชีวิตของคุณได้?”

ตอนที่พูด เยี่ยเทียนแตะนิ้ว พลังพิฆาตในห้องถูกเขารวบรวมเอาไว้ คลีเมตสันที่ยืนอยู่ด้านหน้ารู้สึกเย็นยะเยือกในทันใด แม้แต่การหายใจก็เปลี่ยนเป็นเร็วขึ้น คนที่เคยเห็นความตายจนชิน ยังรู้สึกขนลุกแบบนี้ได้ด้วย

จนถึงเวลานี้คลีเมตสันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า เยี่ยเทียนไม่เพียงแต่เป็นแขกที่มาเข้าร่วมงานมวยใต้ดิน เขายังเป็นนักมวยที่เข้าร่วมการแข่งขันอีกด้วย เขาจึงมีอำนาจที่จะจัดการเขาให้ตาย

“คุณเยี่ย ใจเย็นก่อน มีอะไรค่อย ๆ คุยกัน ข้อแนะนำของคุณไม่ใช่ว่าทำไม่ได้!”

เหงื่อคลีเมตสันไหลลงมาจากหน้าผาก โบราณว่าไว้เมื่อตกอยู่ในที่นั่งลำบากต้องสามารถยอมถอยเพื่อที่จะไม่เป็นเบี้ยล่างในขณะนั้นได้ ในห้องทำงานห้องนี้ไม่มีการ์ดรักษาความปลอดภัยอยู่เลยสักคน

ที่จริงถึงแม้จะมีการ์ด คลีเมตสันก็ไม่กล้าทำอะไรเยี่ยเทียนอยู่ดี เพราะเยี่ยเทียนมีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นซ่งเฮ่าเทียนจากประเทศจีนหรือซ่งเวยหลันจากสหรัฐอเมริกา ล้วนแต่เป็นคนที่คลีเมตสันไม่กล้าก่อเรื่องด้วย แล้วถ้าคลีเมตสันใช้วิธีอื่นฆ่าเยี่ยเทียน อำนาจที่อยู่ด้านหลังของเขาจะต้องส่งเขาไปให้กับพวกนั้นแน่ ๆ

“คุยกันได้ก็ดี ผมเชื่อว่าคุณคลีเมตสันจะตอบสนองความต้องการเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผมได้!” เยี่ยเทียนยิ้มให้กับคลีเมตสัน ลมอันเยือกเย็นเมื่อสักครู่ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้คลีเมตคิดว่าเมื่อสักครู่คงจะเป็นภาพลวงตา

“ให้ผมคิดสักครู่……”

คลีเมตสันขมวดคิ้วและใช้เวลาคิดไปสักครู่ ไม่นานตาก็ลุกวาวและพูดว่า “สิ่งที่คุณเยี่ยขอ เท่ากับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับคนพวกนั้นนะครับ ผมเชื่อว่าลูกค้าที่กล้า ๆ หน่อย จะชอบวิธีนี้มากกว่านะครับ?”

บนเรือสำราญควีนอลิซาเบธแห่งนี้ แขกพิเศษทุกท่านจะได้รับการรักษาความปลอดภัยแบบ100% พวกเขาจึงไม่ต้องเป็นกังวล แต่ถ้าเพิ่มปัจจัยที่กระตุ้นความเร้าใจเข้าไป คลีเมตสันคิดว่ามีคนบางคนน่าจะโอเค

“คุณเยี่ย ผมตอบรับความต้องการของคุณได้ งั้นเอางี้ ตอนที่คุณกำลังแข่ง แขกทุกท่านต้องเซ็นสัญญาแห่งความตาย!”

คลีเมตสันไตร่ตรองเสร็จ ก็ตอบรับเงื่อนไขของเยี่ยเทียน

…………………………………………………

หมอดูยอดอัจฉริยะ

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ในยุคสมัยหลังการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ ประเทศจีนเริ่มพัฒนาสู่ความทันสมัย ผู้คนต่างหันไปพึ่งวิทยาการตะวันตก ถ้าใครแสดงออกว่าสนใจเกี่ยวกับ “ศักดินางมงาย” อาจมีตำรวจมาเยี่ยมถึงบ้าน เยี่ยเทียน เด็กชายจากหมู่บ้านชาวนาผู้มีชะตาไม่ธรรมดา มีโอกาสได้รับการถ่ายทอดศาสตร์โบราณที่ถูกตีตราว่าล้าหลังและงมงาย เสี่ยงทาย ฮวงจุ้ย คำนวณชะตา โหงวเฮ้ง ทำนายฝัน ดูฤกษ์… เขาจะใช้ทักษะเหล่านี้ (และอื่นๆ) อย่างไรในยุคสมัยเช่นนี้?

Options

not work with dark mode
Reset