หมอดูยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 639 ปีศาจนรก

ถ้าเยี่ยเทียนชนะ ทุกอย่างจะง่ายขึ้น และข้อตกลงที่สามคนนี้เซ็นต์มาก็สามารถดำเนินต่อไปได้

แต่ถ้าเยี่ยเทียนแพ้ จู้เหวยเฟิงต้องมอบอำนาจการบริหารสนามมวยใต้ดินในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นให้กับ    ต่งเซิงไห่ ถือเป็นค่าตอบแทนที่ให้อันเดรวิชขึ้นต่อสู้ และอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก ถ้าหากเยี่ยเทียนแพ้ชีวิตของพวกเขาก็จบลงด้วยเช่นกัน

สำหรับจู้เหวยเฟิงนี่คือภัยพิบัติอย่างหนึ่ง อย่าว่าแต่คนในตระกูลซ่งจะไม่วางมือ แม้แต่ซ่งเหวยหลันเองเขาก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายให้เธอฟังยังไง เพราะเวลาที่ผู้หญิงระแวงขึ้นมันน่ากลัวมาก

ถ้าเยี่ยเทียนตายระหว่างการแข่งขันจริง ๆ ชีวิตต่อจากนี้ของต่งเซิงไห่ก็ไม่คงไม่ดีเหมือนกัน เพราะว่าเยี่ยเทียนมีลำดับอาวุโสเป็นหัวหน้าใหญ่ในสมาคมหงเหมิน ถ้าเขาตายจากการมาช่วยเขาจริง ๆ หัวหน้าคนต่อไปอย่างตู้เฟยที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเยี่ยเทียน ก็คงไม่ปล่อยเขาไปแน่ ๆ

“ท่านเยี่ย คุณอย่าล้อเล่นสิ อย่างอื่นค่อยว่ากัน ขอแค่คุณมีพลังเหมือนอันเดรวิชตอนนั้น อย่าว่าแต่แอนโทนี มาร์คัสเลย ถังหลงและเวยเหลียนหวังกลับชาติมาเกิดและร่วมมือกันก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณอยู่ดี คุณว่าจริงมั้ยล่ะ?”

คำที่เยี่ยเทียนพูดออกมาทั้งหมดทำให้จู้เหวยเฟิงกับต่งเซิงไห่สูญเสียรอยยิ้มไปหมดแล้ว จนถึงเวลานี้พวกเขาเพิ่งตระหนักได้ว่า คนหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเป็นผู้ที่ตัดสินชนะและแพ้ต่างหาก สิ่งที่พวกเขาทำเอาไว้ก่อนหน้านี้ อาจจะเร็วเกินไปด้วยซ้ำ

เวยเหลียนหวังที่ต่งเซิงไห่พูดถึงเป็นคนจีน เขาเป็นหนึ่งในสามคนของวงการมวยใต้ดินที่สามารถออกจากวงการด้วยสถิติและสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด และเสียชีวิตในปี1995 มีอายุถึง 60 ปี ถือว่าเป็นนักชกที่จากไปด้วยดีคนหนึ่ง

เวยเหลียนหวังเคยขึ้นต่อสู้มาแล้ว 433 ครั้ง สถิติชนะทั้ง 433 ครั้ง ใน 352 ครั้งเขาฆ่าคู่ต่อสู้กลางสนาม ไม่ว่าจะเป็นสถิติหรือจำนวนครั้งเขาก็เป็นนักชกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มวยใต้ดินได้อย่างไม่ต้องสงสัย และสิ่งที่ต่งเซิงไห่พูดออกมา มันคือการเยินยอเยี่ยเทียน

 “แบบอันเดรวิช? พวกคุณมีใครใช้วิชาเข็มทองทะลุจุดเลือดลมเป็นบ้างล่ะ? ”

เยี่ยเทียนได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมา และหัวเราะอย่างไม่เกรงใจ ถ้าศิษย์พี่ใหญ่อยู่ตรงนี้บางทีอาจจะใช้วิธีนั้นช่วยเขาได้ แต่ตอนนี้เยี่ยเทียนไม่กล้าทำอะไรกับท้ายทอยของตัวเองหรอก เพราะถ้าผิดพลาดนิดเดียวเขาอาจตายได้ในทันที

“ท่านเยี่ย งั้น…. งั้นทำยังไงกันดี? แอนโทนี มาร์คัสไม่ใช่คู่ต่อที่จัดการได้ง่ายเลยนะ!”

เดิมทีคิดว่าเยี่ยเทียนสามารถใช้วิธีแบบอันเดรวิชได้ ดังนั้นต่งเซิงไห่มั่นใจว่าเทียนจะเอาชนะแอนโทนี มาร์คัสได้ แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่เยี่ยเทียนพูดออกมา ในสมองของเขาก็มีแต่ภาพอันโหดเหี้ยมของแอนโทนี มาร์คัสลอยขึ้นมา

ในฐานะนักชกอินโดนีเซียที่ผงาดขึ้นมาในช่วงสิบปีที่ผ่านมา แอนโทนี มาร์คัสแสดงให้เห็นถึงการมีอำนาจเหนือกว่าแม้ว่าเขาจะเข้าร่วมการแข่งขันอย่างเป็นทางการเพียง 167 ครั้ง แต่เป็นสถิติการชนะที่สมบูรณ์ทั้งหมด และ 166 ครั้งคู่ต่อสู้ของเขาเสียชีวิตในสนามทันที

ในทศวรรษที่ผ่านมาแอนโทนี มาร์คัสยังเข้าร่วมการแข่งขันชกมวยในสนามมวยใต้ดินที่ไม่เป็นทางการมากกว่า 300 ครั้ง ในหลาย ๆ รอบการแข่งขันเขาต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ทีเดียวหลายคน มากที่สุดหกคนซึ่งทุกคนถือแท่งเหล็กเอาไว้ ในเกมนั้นแอนโทนี มาร์คัสจัดการทั้งหกคนจนตายในสนาม และได้รับสมญานามว่า “ปีศาจนรก” และ “ปีศาจสังหาร” รวมทั้งชื่ออื่น ๆ อีกมากมาย!

พูดได้ว่าในเวทีมวยใต้ดินปัจจุบัน เมื่อใดที่แอนโทนี มาร์คัสปรากฏตัว นักชกที่เป็นคู่ต่อสู้ทุกคนจะต้องรู้สึกสั่นสะทาน แม้กระทั่งผู้ที่ร่ำรวยมหาศาลที่เคยเห็นการแข่งขันของแอนโทนี มาร์คัส เวลาเห็นด้านหลังของเขาก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

“เหล่าต่ง รู้ก็ดีแล้วล่ะ อย่าเอาเรื่องพวกนั้นมารบกวนผมอีกเลยนะ”

เยี่ยเทียนเห็นสภาพของต่งเซิงไห่ จึงทำได้เพียงส่ายหัวและพูดกับเขาว่า “พวกคุณออกไปเถอะ มาเรียกผมอีกทีมื้อเย็น ผมต้องการอยู่อย่างสงบสักครู่!”

พลังการโจมตีในมวยใต้ดินเกินความคาดหมายของเยี่ยเทียนไปเยอะ ถึงแม้เขาเป็นผู้ฝึกฝน แต่ถ้าจุดสำคัญของเขาโดนเตะจากขาที่มีกำลังเป็นพันกิโล ตอนจบก็คงตายคาที่เช่นกัน  ฉะนั้นเยี่ยเทียนไม่กล้าละเลยแม้แต่น้อย เขาจะต้องปรับสภาพจิตของเขาให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด เพื่อต้อนรับการแข่งขันที่กำลังจะเกิดขึ้นในค่ำคืนนี้

จู้เหวยเฟิงกับต่งเซิงไห่รับรู้ถึงความสำคัญในค่ำคืนนี้แล้วเหมือนกัน จึงไม่กล้าพูดอะไรต่อ เดินออกจากห้องของเยี่ยเทียนไปทันที

จนถึงเวลาหนึ่งทุ่ม เยี่ยเทียนเดินออกจากห้องนอน และเจอกับจู้เหวยเฟิงกับต่งเซิงไห่ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องมาหลายชั่วโมง ทั้งสามคนลงไปที่ร้านอาหารและหาอะไรกินด้วยกัน

เยี่ยเทียนกินไม่เยอะแค่ผลไม้และอาหารที่พลังงานสูงเพื่อเสริมสร้างกำลังภายในร่างกาย ก่อนจะเริ่มการแข่งขัน ถ้ากินอิ่มเกินไปมีผลทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายนั้นช้าลงได้ ฉะนั้นนักชกต่าง ๆ นอกจากฉีดอาหารเสริมเข้าร่างกายกับดื่มน้ำแล้ว ในหนึ่งวันนั้นพวกเขาจะไม่กินอาหารใด ๆ เลย

จนถึงเวลาสองทุ่ม เยี่ยเทียนกับจู้เหวยเฟิงและคนอื่น ๆ ต่างก็เข้าไปยังสนามมวยใต้ดินของเรือสำราญควีนอลิซาเบธ สนามที่ใช้ในวันนี้ไม่เหมือนกับเมื่อวันก่อน สนามแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ชั้นใต้ดินชั้นที่ 4 ของเรือสำราญ เป็นสนามที่มีพื้นที่ไม่ใหญ่แต่ปิดล้อมไว้ดีมาก

ส่วนเวทีมวยไม่ได้ถูกล้อมด้วยเชือก แต่ได้กลายเป็นรั้วเหล็กที่มีขนาดเท่ากับเวทีมาตรฐานทั่วไป และสิ่งที่เวทีแห่งนี้จะสื่อก็คือถ้าไม่ตายก็ไม่มีวันจบ มีเพียงหนึ่งคนเท่านั้นที่จะมีชีวิตรอดออกมาได้

นี่เป็นลูกเล่นที่คลีเมตสันคิดขึ้นมา ในวันนี้จะมีคนที่ฐานะเหมือนเขาขึ้นมาสู้กันภายในรั้วเหล็กแห่งนี้ การถูกแทนที่ที่หวาดเสียวถึงที่สุดเช่นนี้ เชื่อว่าเลือดของพวกเศรษฐีที่อยู่ในสนามต้องพลุ่งพล่านขึ้นอย่างแน่นอน

คลีเมตสันมีจุดประสงค์อย่างอื่นด้วย นั่นก็คือป้องกันไม่ให้คนในสนามหยาบคายต่อเยี่ยเทียน จะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากสำหรับเรือสำราญควีนอลิซาเบธพอสมควร หากเยี่ยเทียนจัดการพวกเขา แม้พวกเขาจะเซ็นสัญญาแห่งความตายแล้วก็ตาม

เมื่อมีรั้วเหล็กเพื่อชะลอการเกิดเรื่อง ถึงเวลานั้นเพื่อป้องกันไม่ให้แขกพิเศษได้รับผลกระทบใด ๆ บนเรือสำราญ พวกเขาสามารถใช้เวลาที่สั้นที่สุดและสั่งให้แขกที่ต่อว่าผู้อื่นออกไปได้

หลังจากเยี่ยเทียนและคนอื่น ๆ นั่งลง แขกอื่น ๆ ก็เริ่มเข้าสู่สนาม รวมถึงห้องพิเศษแล้วสามารถบรรจุคนได้ถึง 280 คน และในเวลาสั้น ๆ เพียง 10 นาที ที่นั่งก็เต็มหมด

“คนที่ไม่กลัวตายมีเยอะจริง ๆ ?”

การที่เยี่ยเทียนมีสถานะเป็นแขกพิเศษและนักชกคู่กัน จึงไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่ในห้องเก็บตัว

เมื่อมองดูชายหญิงที่เข้ามาในสนาม เยี่ยเทียนมีสีหน้าเยาะเย้ยออกมา คิดว่ารั้วเหล็กนั่นสามารถกั้นเขาไว้ได้จริง ๆ เหรอ ? ถ้าคนในสนามกล้าพูดจาดูถูกเขาจริง ๆ เยี่ยเทียนจะทำให้คลีเมตสันอึ้งจนพูดไม่ออก

บนโลกนี้ ไม่ว่าผู้ประสบความสำเร็จจะอยู่ในอาชีพอะไร ทุกคนล้วนต้องมีความหวาดระแวงและความบ้าคลั่งอยู่ในตัว ในเวลานี้เยี่ยเทียนกำลังจะเป็นแบบนั้น และเพื่อให้ตัวเองสามารถอยู่ในลัทธิเต๋าได้ยาวนานขึ้น เขาจึงยอมใช้ชีวิตของตัวเองเป็นเดิมพัน

ในเมื่อชีวิตของตนยังสามารถทิ้งได้ แล้วนับประสาอะไรกับชีวิตของผู้อื่นล่ะ เวลานี้เขาไม่ต่างจากนักชกคนอื่น ๆ ภายในใจมีแต่สัญชาตญาณเหมือนสัตว์ป่า และความต้องการฉีกเหยื่อออกเป็นชิ้น ๆ เท่านั้น

“แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ผมเชื่อว่าทุกคนอาจจะกลัวอยู่บ้างใช่มั้ย?”

ในเวลาสามทุ่ม คลีเมตสันปรากฏตัวในรั้วเหล็กนั้นอย่างตรงเวลา  และใช้น้ำเสียงเยาะเย้ยพูดว่า “กล้าเซ็นสัญญาแห่งความตาย เพื่อชมการแข่งขันของปีศาจนรกแอนโทนี มาร์คัส ผมนับถือความกล้าของทุกคนจริง ๆ เอาล่ะครับ ขอให้พวกเราเข้าใจข้อมูลและอัตราต่อรองของทั้งสองฝ่ายก่อน”

แม้สิบสองชั่วโมงก่อนหน้านี้ คลีเมตสันรู้ชื่อทั้งสองฝ่ายอยู่แล้ว แต่ต้องประกาศต่อหน้าผู้ชมในเวลานี้เท่านั้น

เมื่อจอฉายภาพขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางสนามสว่างขึ้น บุคคลที่มีความสูงประมาณ 1.8 เมตรผิวสีเข้มและใบหน้าผสมเอเชียและยุโรปก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เป็นนักมวยที่สูงกว่าเขา

ภาพบนหน้าจอเล่นผ่านไปเพียงสิบวินาทีเท่านั้น นักมวยร่างสูงที่อยู่ข้างหน้าแอนโทนี มาร์คัส ก็ล้มลงต่อหน้าและไม่ลุกขึ้นอีกเลย

ทันทีที่ภาพหมุน แอนโทนี มาร์คัสกำลังเตะหัวคู่ต่อสู้ของเขาอย่างเมามันจนสมองหลุดออกมา ภาพดังกล่าวปรากฏขึ้นหลายสิบครั้งติดต่อกัน เทคนิคการโจมตีที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพของแอนโทนี มาร์คัสแสดงให้เห็นความงามของความรุนแรงขั้นสูงสุดออกมา

แม้ว่าคนร่ำรวยระดับสูงในปัจจุบันจะรู้ว่านี่เป็นเพียงข้อมูลวิดีโอ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงโห่ร้องออกมา แอนโทนี มาร์คัส ยกระดับการสังหารขึ้นมาเป็นเทคนิคชนิดหนึ่ง แค่เปลี่ยนจากหมีสีน้ำตาลที่ถูกฆ่าด้วยมือเปล่า เปลี่ยนเป็นคนเป็น ๆ ก็เท่านั้นเอง

ประสบการณ์รุนแรงแบบนี้เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิต เมื่อมองไปที่ฉากการฆ่าเหล่านี้ผู้ชมจำนวนมากรู้สึกเพียงว่าฮอร์โมนถูกหลั่งเร็วขึ้น แต่ละคนก็เหมือนคนคอแห้งกระหายน้ำ ที่ต้องการให้การแข่งขันเริ่มทันที

“นี่คือนักมวยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในช่วงสิบปีที่ผ่านมา … แอนโทนี มาร์คัส ใช่ มันยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่มีใครเทียบกับเขาได้ ไทสัน โฮลีฟิลด์เมื่อเทียบกับเขาก็เป็นแค่ขยะ มาร์คัสสามารถเตะน้ำในสมองของพวกเขาออกมาได้ทั้งหมด!”

ภาพของแอนโทนี มาร์คัสเล่นเป็นเวลาห้าหกนาที เมื่อโปรเจ็กเตอร์ถูกปิดลง คลีเมตสันก็ปรากฏตัวตรงกลางของรั้วเหล็กอีกครั้ง และใช้คำพูดยั่วยุทุกคนอยู่ตลอดเวลา

“คลีเมตสัน อย่าพูดไร้สาระอีกเลยดีกว่า นักมวยอีกคนคือใครกัน พวกเราต้องการดูข้อมูลของเขา แล้วก็อยากรู้อัตราต่อรองด้วย!”

ก่อนที่เสียงของคลีเมตสันจะสิ้นสุดลง เขาก็ถูกขัดจังหวะโดยคนในสนาม ตอนนี้พวกเขาอยากรู้ว่าใครกล้าท้าทาย แอนโทนี มาร์คัส และบุคคลนี้ไม่ได้เป็นนักสู้ในตลาดมวยใต้ดินอีกด้วย แต่เป็นคนชั้นสูงเฉกเช่นพวกเขา

ในสายตาของคนเหล่านี้ คนที่กำลังจะขึ้นต่อสู้ คงเป็นเพียงคนป่วยทางจิตที่มาฆ่าตัวตายบนเวทีมวยใต้ดินเท่านั้น

………………………………………………….

หมอดูยอดอัจฉริยะ

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ในยุคสมัยหลังการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ ประเทศจีนเริ่มพัฒนาสู่ความทันสมัย ผู้คนต่างหันไปพึ่งวิทยาการตะวันตก ถ้าใครแสดงออกว่าสนใจเกี่ยวกับ “ศักดินางมงาย” อาจมีตำรวจมาเยี่ยมถึงบ้าน เยี่ยเทียน เด็กชายจากหมู่บ้านชาวนาผู้มีชะตาไม่ธรรมดา มีโอกาสได้รับการถ่ายทอดศาสตร์โบราณที่ถูกตีตราว่าล้าหลังและงมงาย เสี่ยงทาย ฮวงจุ้ย คำนวณชะตา โหงวเฮ้ง ทำนายฝัน ดูฤกษ์… เขาจะใช้ทักษะเหล่านี้ (และอื่นๆ) อย่างไรในยุคสมัยเช่นนี้?

Options

not work with dark mode
Reset