หมอดูยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 643 จุดจบของราชามวย

ความจริงแล้ว การโจมตีของแอนโทนี มาร์คัสเป็นวิธีการธรรมดา ใช้แค่ขาทั้งสองเตะด้านข้าง

จากการฝึกซ้อมมาเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง ลูกเตะลูกถีบของเขาถือว่าขึ้นชั้นเซียนทีเดียว เพียงแค่การเตะด้านข้างธรรมดา ก็มีอย่างน้อยสามครั้งขึ้นไปที่เกือบทำให้เยี่ยเทียนเป็นอันตรายถึงชีวิต

หลังจากสู้กันได้เจ็ดแปดนาที แอนโทนี มาร์คัสบางครั้งก็ดูเหมือนเสือร้ายแห่งไซบีเรีย ต่อสู้ด้วยพละกำลังอย่างดุเดือด บางครั้งกลับดูเหมือนจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่หลบหลีกการโจมตีที่ถึงชีวิตของเยี่ยเทียน

แม้ว่าแอนโทนีจะทำให้เกิดบาดแผลบ้าง แต่จนถึงตอนนี้เยี่ยเทียนยังหาโอกาสโจมตีถึงชีวิตไม่ได้เลย สภาพการณ์แบบนี้กลับทำให้เยี่ยเทียนรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก

แอนโทนี มาร์คัสไม่เหมือนกับถังหลง โดยเฉพาะตอนที่ต่อสู้กับ โฮเกน เป็นเวลาสิบห้านาทีครั้งนั้น เขารู้ดีว่าพละกำลังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการแข่งมวย

นอกจากจะต้องฝึกกระบวนท่าการโจมตีแล้ว แอนโทนียังให้ความสำคัญกับการฝึกความอดทน ตามการคาดเดาของเยี่ยเทียน แอนโทนีต่อสู้ในสิบนาที แรงไม่มีตกเลย

ด้วยสัญชาตญาณของเยี่ยเทียนที่แม่นยำไม่มีผิดเพี้ยนบอกว่าพละกำลังของฝ่ายตรงข้ามกำลังค่อยๆถดถอยลง ตรงท่อนขาของแอนโทนีที่เคยได้รับบาดเจ็บ กำลังเริ่มสั่นคลอนแล้ว

“หรือว่าจะเป็นการหลอก?” เยี่ยเทียนเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา

เยี่ยเทียนเดาไม่ผิด ตอนนี้แอนโทนี มาร์คัสกำลังปิดบังอาการบาดเจ็บของตัวเองอยู่

วิธีการฝึกซ้อมมวยปล้ำนั้นถ้าเทียบกับการฝึกวิชานอกรีตต่างๆแล้วเป็นที่เอน็จอนาถกว่ามาก พวกเขาอาศัยแรงโจมตีจากภายนอกเพื่อฝึกความอดทนอดกลั้นของตัวเอง ดึงเอาศักยภาพของร่างกายที่ซ่อนอยู่ออกมา

ศักยภาพของร่างกายมนุษย์นั้นไม่มีประมาณ ยกตัวอย่างเช่น มารดาที่ร่างกายบอบบางสามารถใช้มือยกรถทั้งคันที่กำลังทับตัวบุตรของเธออยู่ขึ้นได้

แต่ศักยภาพแบบนี้หาได้น้อยนัก เช่นเดียวกับการกระตุ้นสมองของมนุษย์ ปกติแล้วสมองของคนเราจะใช้ความสามารถที่แท้จริงอยู่เพียงยี่สิบเปอร์เซ็นต์  ต่อให้เป็นอัจฉริยะอย่างไอน์สไตน์ยังใช้ความสามารถของสมองได้ไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์เลย

ส่วนนักมวยใต้ดินเหล่านี้เคยผ่านการฝึกซ้อมตามหลักวิทยาศาสตร์ สามารถกระตุ้นศักยภาพของตัวเองออกมา กดดันให้เซลล์ในร่างกายแตกสลาย เพื่อให้กล้ามเนื้อสร้างเซลล์ใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม ทั้งยั้งทนทานต่อแรงกระทำภายนอกได้นานขึ้นด้วย

แต่สภาพร่างกายที่ถูกกระตุ้นด้วยวิธีนี้มีอันตรายมาก ในขณะที่ใช้แรงจากภายนอกกระตุ้นนั้น ร่างกายมนุษย์จะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง เป็นอันตรายถึงชีวิตได้

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมนักมวยอย่าง คิงวิลเลียมและคนอื่น ๆ จึงถอนตัวออกจากสังเวียนด้วยสถิติไร้พ่ายในประวัติศาสตร์ของกีฬามวย  แต่มีชีวิตอยู่ถึงแค่อายุหกสิบต้น ๆ เท่านั้น ส่วนผู้ที่ฝึกวิชากำลังภายในจนถึงขั้นสูงต่างอายุยืนอย่างน้อยถึงหนึ่งร้อยปี ซึ่งนี่คือความแตกต่างของนักสู้ทั้งสองคน

แอนโทนี มาร์คัส สามารถป้องกันแชมป์ได้ถึงสิบปีถือเป็นจุดสูงสุดในชีวิตของเขาแล้ว ในสิบปีนี้เขาอยู่ในวงการมวยปล้ำอย่างคงกระพัน มีชื่อเสียงเลื่องลือ แต่สิ่งที่ป้องกันไม่ได้คือ ตอนนี้เขากำลังเสื่อมลง

โดยเฉพาะเมื่อเยี่ยเทียนโจมตีโดยใช้ความอ่อนในความแข็ง ทุกครั้งที่โจมตีโดนคู่ต่อสู้ เป็นแรงกระทบที่เข้าไปทำลายอวัยวะภายในของแอนโทนี

แรงกระทบแบบนี้ถ้าโดนแค่ครั้งสองครั้งไม่เป็นไร แต่ถ้าโดนมากๆเข้า ก็จะทำให้อาการบาดเจ็บของแอนโทนีกำเริบขึ้นมา

แอนโทนีเริ่มรู้สึกว่าร่างกายเกิดความผิดปกติบางอย่าง สองขาที่เขาใช้โจมตีกำราบคู่ต่อสู้มานับไม่ถ้วน ตอนนี้กลับเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

หมัดเหล็กทั้งสองข้างก็ดูจะอ่อนแรงลงเช่นกัน แม้แต่ความเจ็บปวดตามร่างกายยังเริ่มทวีคูณขึ้น ความเจ็บปวดเหล่านี้ทำให้แอนโทนีกัดฟันทนเอาไว้

มองดูเยี่ยเทียนที่อยู่ตรงหน้าแล้ว ได้ยินเสียงโห่ร้องตะโกนมาจากผู้ชม แอนโทนีเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาว่าดูท่าคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายในชีวิตของเขาแล้ว

แอนโทนี มาร์คัสไม่ถึงขนาดสูญเสียความมั่นใจไปเสียทีเดียว  ตอนนี้ในใจของเขาไม่สนเรื่องการแพ้ชนะอีกแล้ว เพราะในการต่อสู้ มีแพ้มีชนะเป็นเรื่องธรรมดา ตำแหน่งแชมป์จะอยู่หรือไม่ก็ไม่สำคัญ

แอนโทนีมองเห็นภาพในอดีตอย่างชัดเจน ชีวิตที่อัตคัดในวัยเด็ก สิบกว่าปีในสังเวียนมวยปล้ำที่มีชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ทำให้ไม่เกรงกลัวความตาย ชีวิตนี้เขาต่อสู้ก็เพื่อการแข่งขัน!

เมื่อรู้สึกว่าร่างกายตัวเองเริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ แอนโทนีจ้องมองเยี่ยเทียนพูดว่า “ผมต่อสู้เพื่อมีชีวิตรอด ผมยินดีมากที่การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของผมได้พบกับคุณ!”

เยี่ยเทียนรับฟังน้ำเสียงทุ้มต่ำของแอนโทนีแล้วส่ายหัวตอบกลับว่า “คุณเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ายกย่อง ถ้าหากคุณอายุน้อยกว่านี้สักห้าปี ผมคงไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของคุณได้!”

เยี่ยเทียนไม่ได้พูดหว่านล้อมและก็ไม่ได้ปลอบใจแอนโทนี เขาพูดตามความรู้สึกของตัวเอง

แม้ว่าสภาพร่างกายพละกำลังของเยี่ยเทียนจะแข็งแรงกว่าแอนโทนีเพียงเล็กน้อย แต่เรื่องการฆ่าคน เขาต่างจากแอนโทนีหลายขุม อันตรายที่เกิดขึ้นในหลายๆครั้งนี้เป็นเพราะเขาไม่มีประสบการณ์มากพอ

แอนโทนีเองเรื่องสัญชาตญาณเตือนภัยอันตรายแม้จะรวดเร็วกว่าคนทั่วไปหลายเท่าตัว แต่เขามีอาการบาดเจ็บที่หลบซ่อนอยู่ การแข่งขันครั้งนี้ใครจะเป็นผู้รอดชีวิตลงจากเวทีนั้นยังไม่อาจตัดสินได้

กับคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อเช่นนี้ เยี่ยเทียนให้ความนับถือ แอนโทนีเป็นคนที่มีชีวิตอยู่เพื่อมวยใต้ดิน ชีวิตและความเชื่อต่างยกให้กับมวยใต้ดินจนหมดสิ้นและแอนโทนี มาร์คัสก็ได้ขึ้นถึงจุดสูงสุดแล้ว

“ผมจะสู้จนวาระสุดท้าย ถึงจะไม่มีกำลังแล้ว ผมยังคงเป็นเครื่องมือฆ่าคนในตำนาน!”

แอนโทนีไม่พอใจกับคำตอบของเยี่ยเทียน การแข่งขันยังไม่สิ้นสุด เขาไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ นี่ไม่ได้เกี่ยวกับความเป็นความตาย แต่เพื่อชัยชนะ กับเกียรติศักดิ์ศรีแห่งเจ้าสังเวียน

“เข้ามาเลย!” เยี่ยเทียนผงกหัว พูดว่า “คุณจะต้องได้รับผลของการเป็นเจ้าแห่งสังเวียนมวย!”

“พวกคุณอยากตายก็รีบเข้า ให้ตายเถอะ เร็วๆหน่อย รีบๆจัดการปิดเกมส์ลงเสียที!”

บทสนทนาของเยี่ยเทียนกับแอนโทนีทำให้ผู้ชมทุกคนต่างจับจ้อง แต่บางคนรำคาญ อย่างเช่น โทนี่พ่อทูนหัวของแก๊งค์มาเฟียอิตาลีที่ก่นด่าอย่างรำคาญใจ

เสียงตะโกนอย่างห่านตัวผู้ของนายโทนี่ทำให้ผู้ชมแสบแก้วหู เยี่ยเทียนมองแอนโทนีด้วยสายตาที่เปลี่ยนเป็นเย็นชาลงทันที

ไม่ว่าเจ้าสังเวียนหลายสมัยอย่างแอนโทนี มาร์คัสหรือคนที่หยิ่งทระนงอย่างเยี่ยเทียนต่างไม่ชอบใจกับการสบประมาทแบบนี้ เยี่ยเทียนเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “เขาจะได้ตายก่อนคุณแน่นอน!”

“ใครๆก็ต้องตายทั้งนั้น!”

แอนโทนีไม่เข้าใจความหมายของเยี่ยเทียน แต่รู้สึกว่ากำลังของตนถดถอยลงไม่หยุด การถ่วงเวลาให้นานเข้าไม่เป็นผลดีกับตัวเองเลย

พร้อมกันนั้นแอนโทนีคำรามเสียงดังราวสัตว์ป่าแล้วพุ่งตัวเข้าหาเยี่ยเทียน ตอนนี้การเคลื่อนไหวของเขาไม่มีการป้องกันใดๆ แขนทั้งสองอ้ากว้าง เป็นครั้งแรกที่เขาไม่ได้ใช้ท่อนขาโจมตี

สายตาของเยี่ยเทียนเฝ้าจับตาสังเกตการเคลื่อนไหวของแอนโทนี แล้วตาก็ลุกวาวขึ้นมา เขารู้ว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังคิดอะไรอยู่ เขาอยากจะเป็นผู้ชนะที่สังหารคู่ต่อสู้แล้วได้เป็นเจ้าสังเวียน

ทำดีได้ดี หากคนๆหนึ่งได้ตายไปพร้อมกับหลักการและความปรารถนานั้น ก็ถือว่าบรรลุถึงความสุขของชีวิตแล้ว

เยี่ยเทียนไม่มีความลังเลใด เขาพุ่งตัวออกไปรวดเร็วดั่งลูกธนู

ในระยะห่างจากตัวแอนโทนีประมาณสามเมตร เยี่ยเทียนใช้เท้าซ้ายถีบยันกับพื้น ออกแรงจากเอวและท้อง ตีลังการ้อยแปดสิบองศา ใช้แรงถีบจากเท้าขวาซัดเข้าที่ยอดอกของแอนโทนีเต็มๆ

“ผลั่ก!”

เสียงดังหนักๆดังลั่น ลูกถีบของเยี่ยเทียนมีแรงมหาศาล จนทำให้หน้าอกของแอนโทนีเป็นรอยบุ๋มลงไป

แรงสะท้อนที่รุนแรงซัดเอาร่างของแอนโทนีกระเด็นลอยออกไปทางรั้วเหล็กขอบเวที

รั้วเหล็กก็ไม่อาจหยุดยั้งแรงกระแทกอย่างมหาศาลนั้นลงได้ “ปัง” เสียงร่างกายแอนโทนีกระแทกกับรั้วเหล็กท่อนหนาขนาดเท่าสองท่อนแขนให้หักเป็นสองท่อน ร่างของเขายังถลาไปด้านหลังอีกไกล

ระยะห่างระหว่างแถวที่นั่งคนดูแถวแรกห่างจากเวทีประมาณห้าหกเมตร เยี่ยเทียนถีบแอนโทนีให้ลอยไปไกลถึงแถวที่นั่งของผู้ชม จะว่าบังเอิญหรือตั้งใจ ร่างของแอนโทนีลอยไปตกใกล้กับที่นั่งของนายโทนี่ที่พูดจาสบประมาทพวกเขาคนนั้น

ตอนที่ร่างของแอนโทนีลอยอยู่กลางอากาศ เขาได้กระอักเลือดสดๆออกมา อวัยวะภายในแหลกเหลว แต่ด้วยความเข้มแข็งซึ่งไม่ผิดจากที่เยี่ยเทียนคาดการณ์ไว้

“ขอบคุณมาก ผมอยากจะ เด็ดหัวเจ้านั่นมานานแล้ว!”

เรี่ยวแรงสุดท้ายของชีวิตกำลังเหือดหาย แต่สมองของแอนโทนีกลับรับรู้อย่างชัดเจน เมื่อเห็นว่าโทนี่นั่งอยู่ตรงหน้า แอนโทนีแสยะยิ้มออกมา

การเป็นนักมวยปล้ำมืออาชีพนั้น แอนโทนีเคยได้ยินเสียงตะโกนก่นด่าจากผู้ชมมามาก แต่คนเหล่านั้นเขาไม่สามารถทำความเดือดอะไรให้ได้ ตอนนี้ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีกแล้ว

แอนโทนีรวบรวมพละกำลังที่เหลืออยู่ยื่นมือซ้ายออกไป ค่อยๆบีบคอโทนี่ ผู้อาวุโสของแก๊งค์มาเฟียอิตาลีดูราวกับตกใจจนตัวแข็งค้าง ไม่กล้าขยับร่างกายหนีแม้แต่น้อย!

“แกร๊ก!” เสียงหักดังสะท้อนออกมา ลำคอของโทนี่อ่อนปวกเปียกลง ใบหน้ายังแสดงถึงความสับสนงุนงง ราวกับว่าประหลาดใจที่จู่ๆแอนโทนีมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าตน

“ขอบคุณมาก!”

แอนโทนีกระจ่างในความหมายของเยี่ยเทียนแล้ว เมื่อหักคอโทนี่เสร็จ ใบหน้าของแอนโทนียิ้มแย้มอย่างอิ่มเอม เส้นทางบนสังเวียนมวยปล้ำของเขาเริ่มด้วยการฆ่าคน ไม่คิดว่าจะจบลงด้วยการฆ่าคนเช่นกัน แอนโทนีรู้สึกพึงพอใจแล้ว

“ลากเขาออกมา รีบลากเขาออกมา!” ถึงคลีเมตสันจะรับปากในคำขอของเยี่ยเทียน ให้คนในสนามแข่งทั้งหมดลงนามยอมรับความเป็นความตาย

แต่เหตุผลที่เลือกสถานที่นี้เป็นสนามแข่ง ก็เพื่อจะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ตรงหน้า แต่ลูกถีบของเยี่ยเทียนเมื่อครู่ เห็นได้ชัดว่าอยู่นอกเหนือการควบคุมของคลีเมตสัน เขาจึงรีบตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาจัดการในสนามแข่ง

แต่ตอนที่พวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใช้ไม้กระบองหนังทุบตีแยกมือของแอนโทนีออกจากลำคอของโทนี่นั้น เขาได้สิ้นลมไปแล้ว แอนโทนีก็จากไปอย่างสงบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเช่นกัน

………………………………………………..

หมอดูยอดอัจฉริยะ

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ในยุคสมัยหลังการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ ประเทศจีนเริ่มพัฒนาสู่ความทันสมัย ผู้คนต่างหันไปพึ่งวิทยาการตะวันตก ถ้าใครแสดงออกว่าสนใจเกี่ยวกับ “ศักดินางมงาย” อาจมีตำรวจมาเยี่ยมถึงบ้าน เยี่ยเทียน เด็กชายจากหมู่บ้านชาวนาผู้มีชะตาไม่ธรรมดา มีโอกาสได้รับการถ่ายทอดศาสตร์โบราณที่ถูกตีตราว่าล้าหลังและงมงาย เสี่ยงทาย ฮวงจุ้ย คำนวณชะตา โหงวเฮ้ง ทำนายฝัน ดูฤกษ์… เขาจะใช้ทักษะเหล่านี้ (และอื่นๆ) อย่างไรในยุคสมัยเช่นนี้?

Options

not work with dark mode
Reset