หมอดูยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 659 หนีเอาชีวิตรอด (3)

ห่างออกไปเกือบร้อยกว่าเมตร เสียงที่ตะโกนของคนเหล่านั้นไม่มีประโยชน์ใดๆ แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า กลับทำให้ตาของพวกเขาแทบจะถลนออกมา

ตอนที่แผ่นพื้นห่างจากเยี่ยเทียนอีกแค่ 20 เมตร ทุกคนคิดแล้วว่าคนที่อยู่กลางอากาศตรงนั้นไม่มีโอกาสรอดชีวิตแล้ว แต่จู่ ๆ เยี่ยเทียนก็ทำบางอย่างที่เกินความคาดหมายของทุกคน

มือขวาที่ว่างเปล่าข้างนั้น จู่ ๆ ก็ถูตรงเอว ท่อดับเพลิงที่มัดไว้ ไม่รู้ทำไมถึงขยับ เด็กผู้หญิงที่ตอนแรกถูกอุ้มไว้ตรงอ้อมกอดเลื่อนลงข้างล่างทันที

ขณะเดียวกัน ซ่งเวยหลันที่ถูกแบกไว้ข้างหลัง ก็เลื่อนลงข้างล่างอย่างแรง แขนที่แทบจะไม่มีแรงอยู่แล้ว ไม่สามารถรับน้ำหนักของตัวเธอได้เลย

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวนี้ ทำให้ใจของเจ้าหน้าที่รู้สึกตึงไปหมด ตอนนี้ยังห่างจากพื้น 20 กว่าเมตร ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งเด็ก สองคนนี้ถ้าร่วงลงมาไม่มีใครรอดแน่นอน

“บ้าเอ้ย หลังคารั่วไม่พอ ฝนยังตกอีก นี่กะเอาชีวิตกันเลยใช่มั้ย!”

ที่จริงเยี่ยเทียนรู้สึกได้ ตั้งแต่เสียงระเบิดดังขึ้น กับตอนที่แผ่นพื้นร่วงลงมาแล้ว เขารู้แล้วว่าภัยนี้หลบไม่ทันแล้ว และเขาก็ได้เตรียมใจไว้ตั้งแต่แรก

ท่อดับเพลิงถูกกรีดจนขาดด้วยมือซ้ายเสร็จ ไอลีนเลื่อนลงมาที่ขาของเยี่ยเทียนพอดี ขาข้างขวาของเขากระโดดขึ้นเล็กน้อย ร่างเล็ก ๆ ของไอลีนเปลี่ยนทิศทางในทันที เธอลอยออกไปในทิศทางที่เบาะลมวางอยู่

หลังส่งไอลีนออกไปเสร็จ เยี่ยเทียนหันตัวกลับ ส่งแรงผ่านมือซ้ายและผลักแม่ออกไป แรงที่ถูกส่งมาจากเยี่ยเทียนทำให้ตัวของซ่งเวยหลันลอยออกไปเฉียง ๆ จุดร่วงเป็นจุดเดียวกับไอลีน ซึ่งก็คือเบาะลมอันใหญ่ที่วางอยู่บนพื้นนั่นเอง

สิ่งที่เยี่ยเทียนทำกะทันหันนี้ ทำให้คนที่ดูอยู่แทบหยุดหายใจ ตอนนี้พวกเขาไม่มีเวลาไปสนใจว่าทำไมเยี่ยเทียนถึงมีแรงมหาศาลถึงเพียงนี้ พวกเขาล้วนแต่รู้สึกตื่นเต้นที่ผู้หญิงสองคนนั้นรอดจากเหตุการณ์อันเลวร้าย

แต่ยังไม่ทันแสดงความดีใจ สิ่งที่ทำให้น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าก็เกิดขึ้นอีกครั้ง

เพราะแผ่นพื้นแผ่นนั้นค่อนข้างใหญ่ และความเร็วการร่วงค่อนข้างเร็ว ตอนที่ตัวของซ่งเวยหลันเพิ่งลอยออกไปได้แค่ครึ่งตัว แผ่นพื้นก็ร่วงลงจากข้างบน และดูเหมือนจะหล่นใส่ตัวเธอ

“เห้ย ฟ้าจะเล่นกับฉันแบบนี้เหรอ?”

พอเห็นสถานการณ์กลายเป็นแบบนี้ เยี่ยเทียนก็ยิ้มอย่างหดหู่ ตอนแรก เขากะว่าหลังจากโยนแม่กับไอลีนออกไปแล้ว เขาจะพุ่งเข้าไปในอาคารที่กำลังลุกเป็นไฟ แต่ความเร็วการร่วงของแผ่นพื้น เร็วกว่าที่เยี่ยเทียนคิดไว้

เมื่อเห็นแผ่นพื้นใกล้จะหล่นใส่แม่ เยี่ยเทียนไม่คิดอะไรอีกและตัดสินใจทันที เขาคว้าหมับเข้าที่ท่อดับเพลิง ทันใดนั้น ตัวของเยี่ยเทียนก็ม้วนอยู่กลางอากาศ

สิ่งนี้เกิดขึ้นในเวลาที่สั้นมาก การม้วนตัวของเยี่ยเทียนทำให้ท่อดับเพลิงพันเข้าที่เอวของเขา ตัวของเขาสูงขึ้นหลายเซ็นต์ในทันทีทันใด ทำให้เจอกับแผ่นพื้นหนักเป็นตันแผ่นนั้นพอดี

ท่อดับเพลิงที่มัดอยู่ตรงเอว ทำให้ตัวของเยี่ยเทียนเหยียดตรงอยู่กลางอากาศ เห็นเพียงมือสองข้างที่ชูขึ้นเหนือศีรษะ จากนั้นก็เปล่งคำว่า “แตกออก” ดั่งสนันไปทั่ว ในระยะร้อยเมตรต่างก็ได้ยินกันหมด

ดูเหมือนไม่มีการหยุดเกิดขึ้น ตอนที่เยี่ยเทียนชูมือขึ้น ในเวลาเดียวกันกับแผ่นพื้นที่มีน้ำหนักมหาศาลหล่นใส่เขาอย่างจัง คนที่เห็นภาพนี้ แทบจะหยุดหายใจกันทีเดียว

แผ่นพื้นหนักเป็นพัน ๆ กิโลกรัม บวกกับแรงร่วงที่ตกลงมาจากชั้น 80-90 แรงของมันมหาศาลมาก ไม่ต้องพูดถึงเนื้อหนังของคนเลย ถ้ามีรถดับเพลิงจอดอยู่ด้านล่าง เกรงว่ามันก็สามารถถูกทับจนเป็นแผ่นได้เหมือนกัน

“เสี่ยวเทียน!”

ซ่งเวยหลันที่ยังอยู่กลางอากาศ ก็ส่งเสียงตกใจออกมา ถ้าเป็นไปได้ เธอยอมอยู่ใต้แผ่นพื้นแทนลูกชาย

ทุกคนคิดว่าการกระทำของเยี่ยเทียนคือการเอาไข่ชนกับหิน คนที่หัวร้างข้างแตก ร่างกายแหลกเหลว ต้องเป็นเยี่ยเทียนที่อยู่กลางอากาศแน่นอน แม้แต่ช่างภาพที่มองสิ่งที่เกิดขึ้นกลางอากาศจนอึ้งไปหมดจนลืมบันทึกภาพ

การคุกคามของแผ่นพื้นแผ่นนั้น ไม่ได้ด้อยไปกว่าการคุกคามด้วยขาเหล็กของแอนโทนีมาร์คัสเลย ในตอนที่บนหัวมีเงาดำครอบบนหัว วิกฤตแห่งความตายได้เกิดขึ้นแล้วในใจของเยี่ยยเทียน

แต่ตอนนี้ ใจของเยี่ยเทียนกลับสงบราวน้ำนิ่ง ตั้งแต่เล็กจนโต เขาเป็นคนที่ตามใจตัวเองมาตลอด ไม่เคยมีสิ่งใดมาพัวพันกับเขา มีแต่แม่ ที่เป็นพันธะในใจเขา

“ตรงนี้แหละ!”

ภายใต้การรับรู้การเคลื่อไหวของลมปราณชีวิตของเยี่ยเทียน ความเร็วการร่วงของแผ่นพื้นไม่ได้เร็วอย่างที่ทุกคนเห็น และในวินาทีที่ 1 ใน 1000 เยี่ยเทียนสัมผัสได้ถึงความอ่อนแอของแผ่นพื้น

“บึ้ม!” เสียงดังสนั่น เหมือนจะระเบิดอีกแล้ว สั่นจนกระจกร้าวไปหมด “ซา ซา” แล้วก็แตกร่วงลงไปหมด

ส่วนแผ่นพื้นแผ่นนั้นที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ กลางอากาศ ตอนแรกเกือบหล่นใส่บริเวณเอวของซ่งเวยหลัน สุดท้ายแค่เฉียดตรงขอบเอวของเธอและร่วงลงไป ซ่งเวยหลันที่มองดูแผ่นพื้นหล่นทับใส่ลูกชาย ขณะที่เธอตกลงบนเบาะลมอย่างแรง

“เสี่ยวเทียน!”

ซ่งเวยหลันส่งเสียงน่าเวทนาออกมา หลังจากตกลงสู่เบาะลม เธอไม่สนแผ่นหินที่ตกลงมาจากฟ้า แต่ทั้งกลิ้งทั้งคลานลงไป

“รีบช่วยคน!”

ผู้สั่งการออกคำสั่งทันทีที่เห็นภาพนั้น เจ้าหน้าที่สิบกว่าวิ่งไปที่จุดเบาะลมอย่างไม่สนใจแผ่นหินที่กำลังร่วงลงมา

เบาะลมมีความสูงถึง 5 เมตร คนทั่วไปไม่สามารถปีนลงมาเองได้ แม้แต่เจ้าหน้าที่เองก็ยังต้องใช้บันใดปีนขึ้นไป

นอกจากนี้ยังมีอีก 4-5 คน วิ่งไปจุดที่เยี่ยเทียนกับแผ่นหินจะร่วงลงมา

ในใจของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯเหล่านี้ เยี่ยเทียนเป็นฮีโร่ของจริง ในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดเขายอมเสียสละชีวิตของตัวเอง เพื่อปกป้องชีวิตของผู้หญิงถึงสองคน ขอแค่มีโอกาส พวกเขาจะช่วยเยี่ยเทียนไว้ให้ได้

แต่ตอนนี้ สถานการณ์ของเยี่ยเทียนอยู่ในจุดที่อันตรายมาก

แม้จะพบความอ่อนแอของแผ่นพื้นแผ่นนั้น แต่กำลังของคนก็ไม่อาจชนะฟ้าได้ เยี่ยเทียนป้อนพลังลมปราณชีวิตแท้ทั้งหมดไว้ที่หมัดทั้งสองข้าง ก็ยังไม่สามารถต้านทานความแรงของแผ่นพื้นแผ่นนั้นได้เลย

แม้ว่าแผ่นพื้นจะถูกเขาทุบจนแตกเป็นสี่ส่วนห้าส่วน แต่สองแขนของเยี่ยเทียนที่ทุบไปเมื่อกี้ ก็หักไปแล้วหลายส่วน ยิ่งไปกว่านั้น หินน้อยหินใหญ่ต่างก็ร่วงใส่หัวของเยี่ยเทียนอย่างจัง

หลังจากสู้กับแอนโทนี มาร์คัส อาการของเยี่ยเทียนก็ยังไม่ฟื้นฟูดี ประกอบกับเมื่อเช้าที่วิ่งอย่างไม่เสียดายกำลัง ตอนนี้เขากลายเป็นม้าตีนปลายแล้ว หลังจากที่สองแขนหักไปหมดแล้ว สติก็เริ่มพร่ามัว

“เสี่ยวเทียน!” ในเวลานี้ ข้างหูของเยี่ยเทียนมีเสียงของแม่ดังขึ้น ในเวลาเดียวกัน ความรู้สึกถึงอันตรายก็เกิดขึ้นภายในใจ

“ฉันยังตายไม่ได้ ฟ้าจะให้ฉันตาย ฉันไม่ยอมตายหรอก!”

เหมือนจะเป็นปฏิกิริยาจากจิตใต้สำนัก เยี่ยเทียนก้มหัวลง ตัวโค้งขึ้นมา ทั้งแผ่นหลังอยู่ด้านบน ชนกับแผ่นพื้นที่ร่วงลงมาอย่างจัง

“ผัวะ!”

แรงมหาศาลที่ส่งมาจากแผ่นหลัง ทำให้อวัยวะภายในของเยี่ยเทียนแทบจะแตกหมด กระอักเลือดออกมาจากปากกลางอากาศ จากนั้นตัวเขาที่ถูกท่อดับเพลิงพันเอาไว้ก็ร่วงลงสู่พื้น

ความสูง 20 เมตร เทียบได้กับตึกประมาณ 6-7 ชั้น เยี่ยเทียนที่อยู่กลางอากาศไม่สามารถช่วยตัวเองได้อีกแล้ว และตอนที่เจ้าหน้าที่ยังวิ่งไปไม่ถึงจุดที่เขาร่วง ภาพนั้นทำให้ทุกคนบีบหัวใจจนแน่นไปหมด

ที่จริงเสียงเรียกของแม่ช่วยชีวิตเขาไว้ แม้กระดูกสันหลังจะถูกชนจนหักเกือบหมด อวัยวะภายในอาการค่อนข้างหนัก แต่แรงมหาศาลนี้กลับทำให้เยี่ยเทียนตื่นขึ้นมา

ตอนที่ระยะห่างจากพื้นยังมีอีก 3-4 เมตร ทั้งตัวของเยี่ยเทียน มีเพียงขาสองข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ เขาบิดท่อดับเพลิงที่พันตัวไว้ ทำให้การร่วงอย่างรวดเร็วก็หยุดลงทันที

และการบิดท่อดับเพลิงแบบนี้ทำให้พลังงานสุดท้ายของเยี่ยเทียนถูกใช้ไปหมดแล้วเหมือนกัน ในเวลาไม่กี่วินาที ในที่สุดร่างของเขาก็หมดแรงและร่วงลงมาทันเจ้าหน้าที่ที่วิ่งเข้ามารับไว้พอดี

“พระเจ้า ปฏิหาริย์ นี่มันปาฏิหาริย์!”

“พระเจ้า คุณยังชีวิตอยู่ ใช่มั้ย?”

“ขอบคุณพระเจ้า คนหนุ่มคนนั้นยังไม่ตาย!”

“ฮีโร่ เขาเป็นฮีโร่ของคนอเมริกา!”

ณ เวลานี้ รอบบริเวณอบอุ่นขึ้นมา ทุกคนที่เป็นพยาน ไม่แบ่งสัญชาติ ไม่แบ่งเชื้อชาติ แต่ทุกคนน้ำตาเอ่อล้นที่ดวงตา

เสียงเชียร์ดังสนั่น น้ำตาที่เอ่อล้นทำให้การมองเห็นของทุกคนพร่ามัว พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังตะโกนอะไรอยู่ตอนนี้ การเผชิญกับภัยพิบัติอันหนักหน่วงนี้ คนอเมริกาต้องการฮีโร่ มวลมนุษย์ก็ต้องการฮีโร่เช่นกัน!

คนหนุ่มเชื้อสายจีนคนหนึ่ง มอบความหวังการมีชีวิตรอดให้กับคนอื่น ในขณะที่ชีวิตของตัวเองนั้นได้รับการคุกคามที่รุนแรงที่สุด เผชิญด้วยความยากลำบาก

สิ่งที่สำคัญกว่าคือ การช่วยเหลือตัวเองในตอนสุดท้ายแสดงให้เห็นแล้วว่าเขายังมีชีวิตอยู่ นี่แหละคือสิ่งที่คนอเมริกาต้องการ พวกเขาไม่ต้องการฮีโร่ที่ตาย มีแต่ฮีโร่ที่มีชีวิต ถึงจะเป็นฮีโร่ของพวกเขา

การกระทำของเยี่ยเทียน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในบริเวณนั้นลืมกลัว มีเจ้าหน้าที่มากมายเริ่มวิ่งเข้าไปภายในอาคาร เพื่อไปทำหน้าที่ของพวกเขา

“ให้ตายเถอะ ผมลืมเก็บภาพของเขาได้ยังไง?”

ตอนที่ทุกคนกำลังดีใจ นักข่าวทื่ยืนอยู่ข้างหลังผู้สั่งการตบเข้าที่หน้าของตัวเองอย่างแรง “พระเจ้า ให้อภัยผมด้วย รางวัลภาพถ่ายข่าวของปีนี้ควรจะเป็นของผมสิ!”

นักข่าวหนุ่มคนนี้มีเหตุผลที่จะเชื่อว่า ถ้าเขาสามารถเก็บภาพกลางอากาศของเยี่ยเทียนไว้ได้ รางวัลภาพถ่ายข่าวประจำปีนี้ ต้องเป็นของเขาอย่างแน่นอน

แต่ตอนที่เขาอุ้มกล้องและพุ่งเข้าไปถ่ายตอนที่เจ้าหน้าที่ที่ยกเยี่ยเทียนลงมา โอกาสก็หมดไปแล้ว เพราะเยี่ยเทียนที่มี

ชีพจรอ่อนมาก ถูกส่งเข้ารถพยาบาลไปแล้ว

“ออกไป นั่นลูกชายของฉัน ให้ฉันเข้าไป!” ซ่งเวยหลันที่เพิ่งถูกยกลงมาจากเบาะลม เดินกระเผกพุ่งมาหา และจับมือของเยี่ยเทียนที่วางอยู่บนเปลไว้แน่น

อาการที่ขาของซ่งเวยหลันก็ไม่เบา แถมยังมีเลือดไหล แต่ตอนนี้ซ่งเวยหลันมีแค่ลูกชาย เธอไม่รู้สึกแม้กระทั่งความเจ็บ

“คุณผู้หญิงคนนี้ได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน แล้วยังมีเด็กผู้หญิงคนนั้นด้วย ส่งไปโรงพยาบาลด้วยกันเลย!”

ผู้สั่งการตรงบริเวณนั้นรู้ดีว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาชื่นชมฮีโร่ มีเพียงคนที่มีชีวิตรอดเท่านั้น ถึงจะได้รับการชื่นชมจากคนอเมริกา

…………………………………………………….

หมอดูยอดอัจฉริยะ

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ในยุคสมัยหลังการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ ประเทศจีนเริ่มพัฒนาสู่ความทันสมัย ผู้คนต่างหันไปพึ่งวิทยาการตะวันตก ถ้าใครแสดงออกว่าสนใจเกี่ยวกับ “ศักดินางมงาย” อาจมีตำรวจมาเยี่ยมถึงบ้าน เยี่ยเทียน เด็กชายจากหมู่บ้านชาวนาผู้มีชะตาไม่ธรรมดา มีโอกาสได้รับการถ่ายทอดศาสตร์โบราณที่ถูกตีตราว่าล้าหลังและงมงาย เสี่ยงทาย ฮวงจุ้ย คำนวณชะตา โหงวเฮ้ง ทำนายฝัน ดูฤกษ์… เขาจะใช้ทักษะเหล่านี้ (และอื่นๆ) อย่างไรในยุคสมัยเช่นนี้?

Options

not work with dark mode
Reset