หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! – ตอนที่ 48 : ขึ้นสู่ระดับบรรลุญาณ

หมื่นกระปทะลวงสวรรค์ | Have Countless Lege…
ตอนที่ 48 : ขึ้นสู่ระดับบรรลุญาณ
 
เมื่อได้เห็นสภาพที่น่าอนาถใจของจ้าวมังกรเกล็ดทมิฬเจียงฮือน้อยก็มองไปทางเขาก่อนจะถามขึ้นมา “เจ้าฆ่าเขาทั้งอย่างงั้นเลยอ่ะนะ?”
 
เจ้านี่เป็นถึงปีศาจทรงพลังระดับ 5 เชียวนะ..
มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถทําลายเมืองพังอาณาจักรได้เชียวนะ!
 
เธอรู้สึกราวกับว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง แต่ไม่ใช่แค่เธอหรอก แม้แต่ฮวงเหลี่ยนชินก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
 
มีเพียงแต่จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเท่านั้นที่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขานับถือโจวฉวนจีจากใจจริง สมกับเป็นเทพกระบีโจวความเด็ดขาดนี้ไร้ซึ่งความหวาดกลัวในภัยอันตรายใด ๆ จริง
หนูทรายสามตาเดินไปยังด้านข้างของเจ้างูสีดําตัวจ้อยและดมฟุดฟิดหลังจากนั้นมันก็กัดเข้าไปที่หัวของเจ้างูนั่นและกําลังจะกินมัน
 
โจวฉวนจีรีบเขี่ยมันออกไปทันที จากนั้นเขาก็นั่งลงยอง ๆ ก่อนจะมองไปยังเจ้างูตัวเล็กนั่นด้วยความลังเล
 
เขารู้สึกได้ว่าเจ้านั่นมันยังไม่ตายสนิท
เขาควรจะฆ่ามันดีมั้ยนะ?
 
เขามองกลับไปยังจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ ก่อนจะถามว่า“ปกติแล้วก่อนที่ปีศาจทรงพลังจะกลับมาเกิดใหม่หลังจากตายไปแล้วนี่นานเท่าไหร่นะ?”
เขาอยากจะถามเจ้างเกี่ยวกับชายในชุดสีดํานั้น
ถ้าไม่ถามเรื่องนี้ไปให้ชัด ๆ เขาเองก็รู้สึกอึดอัดใจเหมือนกัน
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจพูด “อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหลายสิบปีแหละครับ เพราะยังไงการจะพัฒนาวรยุทธได้ก็ต้องฝึกฝนอยู่ดีครับ”
เขารู้สึกราวกับหัวใจของเขากําลังเต้นไม่เป็นจังหวะ เขาพึ่งจะชื่นชมเทพกระบีโจวไปได้ไม่นาน แล้วอยู่ๆ นายน้อยก็เกิดเห็นอกเห็นใจเจ้างูนั่นอ่ะนะ?
 
จู่ ๆ โจวฉวนจีก็เอาเชือกเส้นเล็กออกมา จากนั้นเขาก็เรียกให้หนูทรายสามตามาหา ก่อนจะมัดเจ้างูตัวเล็กนั้นไว้กับเท้าของเจ้าหนู
 
หลังจากนั้นเขาก็ใช้พลังวิญญาณเพื่อต่ออายุลมหายใจให้กับเจ้าง
 
หลังจากนั้นไม่นาน
 
เจ้างูก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา มันรู้สึกทรมานเพราะเจ็บไปทั่วทั้งตัวมันหันไปมองโจวฉวนจีก่อนจะพูดว่า “ข้า…”
“ถุยยย!”
โจวฉวนจีถุยน้ําลายใส่มัน ด้วยความที่ตัวมันเล็ก มันก็เลยเหมีอนกับว่ามีอ่างน้ําเทราดใส่หัวของมัน
 
เจ้าตัวเล็กรู้สึกโกรธมาก ความน่าขยะแขยงสุดแสนจะพรรณาได้นี่ทําให้มันแทบจะเป็นลม
 
“ข้าจะ…”
“ถุยยย!”
 
“เจ้ามาทําให้ข้าขายหน้าแบบนี้ได้ยังไง…”
“ถุยยย!”
“อ้าาาง…”
“ถุยยย!”
เจ้างูตัวเล็กนอนอยู่ในบ่อน้ําลายและไม่กล้าแม้แต่จะขยับ มันตกอยู่ในความสิ้นหวังสุด ๆ
 
ในตอนนี้ เขารู้สึกอยากจะตายซะมากกว่าอีก
เจียงฉือน้อยเดินไปตบไหลโจวฉวนจีก่อนจะพูดขึ้นว่า “เจ้าช่วยหยุดทําอะไรน่าขยะแขยงแบบนี้สักที่จะได้มั้ย?”
โจวฉวนจียิ้มและพูดตอบว่า “ถ้าข้าไม่สั่งสอนให้มันรู้ซะบ้างมันก็คงจะคิดว่าตัวเองเป็นราชาแห่งสรวงสวรรค์ที่ใคร ๆ ก็แตะต้องไม่ได้เลยน่ะสิ”
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจและฮวงเหลี่ยนชินก็เดินมาหาด้วยแต่เมื่อได้เห็นสภาพอันน่าอับอายของเจ้างูตัวจ้อยนั่น มันก็ทําให้พวกเขาถึงกับไร้คําพูด
“งั้นทําไมเจ้าถึงปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่ล่ะ?”
เจียงฉือน้อยถามด้วยความสงสัย ก่อนหน้านี้แม้ว่าโจวฉวนจีจะกระทบอย่างโหดร้ายซะขนาดนั้น เจ้างูนั่นก็ยังโชคดีมากที่รอดมาได้หลังจากที่โดนเหยียบ
โจวฉวนจีตอบกลับ “ข้าก็แค่อยากจะถามมันเกี่ยวกับเรื่องเมื่อวันนั้นน่ะเจ้าคงไม่อยากให้มีศัตรูลึกลับที่ไหนตามพวกเรามาด้วยหรอกใช่มั้ยล่ะ?”
ทั้งสามต่างพยักหน้า เมื่อพวกเขาคิดถึงหัวขาด ๆ ของชายแก่คนนั้นแล้วก็ตัวสั่นด้วยความกลัว
 
หลังจากนั้น โจวฉวนจีก็โยนเจ้างูตัวเล็กนั่นลงไปในแม่น้ํา หางของมันถูกมัดเอาไว้กับขาของเจ้าหนูทราย ตราบใดที่เจ้าหนูไม่ถูก โยนลงแม่น้ํามันก็ไม่มีทางจมหรอก
 
หลังจากที่พักกันมาได้ 2 วัน พวกเขาก็เริ่มออกเดินทางกันต่อ
 
บาดแผลของเจ้าตัวเล็กก็ค่อย ๆ ดีขึ้น แต่เกี่ยวกับเรื่องชายแก่ในชุดสีดํามันกลับปฏิเสธที่จะพูด ดังนั้นโจวฉวนจีเลยตัดสนใจให้มันอดอาหารไปซักพัก
หลังจากผ่านไป 5 วัน
 
พวกเขาก็กลับมาถึงหมู่บ้านลําธารขจี
มันยังคงเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลจากโลกภายนอกเช่นเดิมชาวบ้านต่างใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุก ๆ วัน และบ้านเมืองก็ยังคงสงบสุข
เมื่อโจวฉวนจีและเจียงฉือน้อยกลับมาถึง เหล่าชาวบ้านต่างก็ยังดีด้วยเหมือนเดิม และพวกเขาก็ยังจําทั้ง 2 คนได้
 
ในปีนั้นหลังจากที่เฉินฮัวได้ตายไป ตระกูลฝางเองก็ไม่ได้สืบอะไรเพิ่มเติมชาวบ้านก็ไม่ได้กระจายข่าวเกี่ยวกับเรื่องนั้นออกไปเช่นกันเห็นได้ชัดเลยว่าเฉินฮัวไม่ได้เป็นคนสําคัญอะไรเลยสักนิด
เจียงฮือน้อยรู้สึกเศร้านิดหน่อยเมื่อเธอรู้ว่าหลังจากที่เธอจากไปคุณยายของเธอก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย
 
ส่วนทางโจวฉวนจีนั้น เขาตัดสินใจที่จะอยู่ในหมู่บ้านลําธารขจีเป็นเวลาหนึ่งปี จากนั้นพวกเขาก็จะออกเดินทางไปยังมหาจักรวร รดิโจว
ไม่มีใครคัดค้านใด ๆ
ในช่วงหลายวันต่อจากนั้น เขาก็เริ่มสอนวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรให้กับจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ
ยังไงซะวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรก็ไม่ได้เป็นของเสี่ยวจิงหงแต่เพียงผู้เดียวอยู่แล้ว เขาเลยเอาไปสอนให้กับคนอื่นได้
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจรู้สึกประหลาดใจสุด ๆ เพราะเขารู้ดีว่าวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรนั้นทรงพลังแค่ไหน
ในวันนั้น จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจและฮวงเหลี่ยนชินก็สร้างกระท่อมไม้ขึ้นมา 3 หลัง พวกเขาอาศัยอยู่กันคนละหลังขณะที่เจียงฮือน้อยและโจวฉวนจีอาศัยอยู่ในกระท่อมเดียวกัน
หลังจากวันที่ 3 พวกเขาก็ลงหลักปักฐานอยู่ในหมู่บ้านลําธารขจีในที่สุด
เจ้างูตัวเล็กนั้นไม่อาจทนได้อีกต่อไป มันนอนแผ่หราอยู่บนพื้นด้วยความอ่อนแรงและพูดขึ้นว่า “ข้ายอมแล้ว…ให้ข้าได้กินอะไรสักอย่างที่เถอะ…แล้วข้าจะบอกเรื่องเกี่ยวกับหลี่ถือเหมยให้กับเจ้า…”
 
โจวฉวนจียิ้มขึ้นมา เขาหยิบเนื้อตากแห้งชิ้นเล็ก ๆ ออกมาก่อน จะวางมันไว้ที่ปากของเจ้างูพร้อมกับแก้วน้ํา
เจ้างูตัวเล็กเริ่มกินด้วยความยากลําบาก
 
กว่ามันจะกินเนื้อตากแห้งเสร็จก็ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ระหว่างนั้นเจ้าหนูทรายสามตาก็คอยกวนมันอยู่ตลอด ถ้าไม่ใช่เพราะมันปวกเปียกอยู่แบบนี้ มันคงจะสาปแช่งและสาปส่งเจ้าหนูเหม็นนั่นไปแล้ว
 
“เอาล่ะ บอกข้ามาตรง ๆ ซะ รวมถึงภูมิหลังของเจ้าด้วย”
 
โจวฉวนจีนอนอยู่บนตักของเจียงฉือน้อยพลางพูดอย่างเอื่อยเฉื่อย และกําลังมีความสุขกับการนวดไหล่อยู่
 
เจ้างูตัวเล็กเงยหน้าขึ้น “ข้ามีนามว่า จ้าวมังกรเกล็ดทมิฬข้ากับหลี่ถือเหมยเราคือเพื่อนเป็นเพื่อนตาย พวกข้าเคยท่องไปทั่วโลกและยังไปมาทุกซอกทุกมุมของมหาจักรวรรดิโจวแล้ว ข้ายังเคยไปที่มหาจักรวรรดิฉางหรือแม้แต่ 7 ภูผา ตอนนั้นเราต่างก็เป็นสุขกายและสบายใจ…” มันเริ่มร่ายยาว
 
“บอกข้าถึงเรื่องสําคัญที่สุดมาได้แล้ว!” โจวฉวนจีพูดขึ้นอย่างหมดความอดทน
 
เจ้างูตัวเล็กก็รีบตัดเข้าเรื่องทันที “เมื่อ 8 ปีก่อน แม่นางจาวฉวนหนีออกมาจากมหาจักรวรรดิโจว และหลีถือเหมยก็ได้รับค่าหัวมาจากองค์ราชินีแห่งมหาจักรวรรดิโจว ให้ไปจับลูกชายของแม่นางจาวฉวนที่ยังมีชีวิตอยู่ เขาใช้เวลาค้นหามานานถึง 8 ปีเต็ม
“ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่พบแม่นางจาวฉวนเลยแม้แต่น้อยแต่แล้วพวกข้าก็โดนคําสาปเข้าเมื่อตอนที่เดินทางลึกเข้าไปในปากู่หลานหลี่ถือเหมยก็เริ่มเสียสติแล้วก็กลายเป็นบ้า”
“เมื่อไม่นานมานี้ หลี่จือเหมยก็เผอิญเห็นเจ้าเข้าและตามเจ้ามาตลอดทางแต่พวกข้าก็ดันเจอเข้ากับเสี่ยวจิงหงซะก่อน ถ้าเขาไม่ดันเป็นบ้าไปก่อนล่ะก็อย่างเจ้าเสี่ยวจิงหงจะไปฆ่าเขาได้ยังไงกัน
ล่ะ!”
 
เมื่อมันพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เจ้างูก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
 
โจวฉวนจีรู้สึกตกใจ เจียงฉือน้อยก็เช่นกัน
 
เสี่ยวจิงหงนะหรอ?
เป็นไปได้มั้ยว่าจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์จะแอบปกป้องพวกเขาอย่างลับ ๆ อยู่นะ?
“ช่างเป็นลูกศิษย์ที่ดีจริง ๆ” โจวฉวนจีถอนหายใจด้วยความปลาบปลื้ม
โลกในชาตินี้มันช่างดีจริง ๆ ไม่เหมือนกับโลกในชาติก่อนที่ความสัมพันธ์ระหว่างครู-ศิษย์ก็เป็นได้แค่การเล่นสวมบทบาทนะ
 
สําหรับที่นี่ การเป็นครูเพียงวันเดียวก็เท่ากับเป็นพ่อของตนไปชั่วชีวิต
 
ถึงแม้เสี่ยวจิงหงจะได้เรียนวิชาดาบมาจากหลาย ๆ คน แต่เขาเคยผ่านพิธีรับศิษย์อาจารย์แค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น และคน ๆ นั้น ก็คือโจวฉวนจีนั่นเอง
 
“ศิษย์อะไรนะ?”
 
เจ้างูตัวเล็กเริ่มสับสน มันไม่เข้าใจเลยสักนิด
“ถ้างั้นการตายของหลี่ถือเหมยและอาการบาดเจ็บสาหัสของเจ้าทั้งหมดมาจากน้ํามือของเสี่ยวจิงหงงั้นหรอ?”
โจวฉวนจีถาม ขณะที่เขาพูด เขาก็เอานิ้วชี้ไปที่เอวของตัวเอง เป็นการบอกให้เจียงฉือน้อยนวดตรงนั้นให้
“ใช่แล้วล่ะ!”
 
เจ้าตัวเล็กพูดขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด ราวกับว่ามันอยากจะสู้โดยเอาชีวิตเข้าแลกกับเสี่ยวจิงหงเลยทีเดียว
“เข้าใจแล้ว ที่จะถามก็มีแค่นี้ละ งั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเจ้ามาเป็นสัตว์เลี้ยงของข้าล่ะเป็นไง?”
โจวฉวนจีถามอย่างเฉื่อยชา ปีศาจทรงพลังระดับ 5 เขาจะปล่อยมันไปง่าย ๆ ได้ไงกันล่ะ?
กว่าเจ้าตัวน้อยนี่จะฟื้นตัวได้เต็มที่ โจวฉวนจีก็น่าจะมีพลังพอสู้กับมันได้พอดี
 
เจ้างูตัวเล็กแลบลิ้นแฉกของมันออกมาก่อนจะถามขึ้นว่า “แล้ว ถ้าข้ายินยอมล่ะ?”
 
“งูตากแห้งชุบแป้งทอดนี่ เจ้าเคยกินรึเปล่าละ?”
 
เจ้าตัวเล็กสั่นสะท้านไปทั้งตัว มันก่นด่าสาปแช่งอยู่ภายในใจไอเจ้าเด็กนี้มันจะโหดร้ายไปไหนกัน!
 
มันต้องมีปีศาจสิงสู่อยู่แหงเลย!
 
แต่เพื่อความอยู่รอดแล้ว
 
เจ้าตัวน้อยก็ทําได้แต่ยอมจํานนต่อเขา
ในตอนนี้ ปีศาจระดับ 5 ก็ได้เข้าร่วมกลุ่มกับโจวฉวนจีแล้ว
เขายังคงผูกเจ้างูตัวเล็กนั่นไว้กับเจ้าหนูทรายสามตา เผื่อกรณีที่เจ้างูอาจจะหนีไปได้
 
หลายวันต่อมาก็ค่อนข้างที่จะสงบสุขดี
3 เดือนต่อมา โจวฉวนจีก็ขึ้นสู่ระดับสร้างรากฐานขั้นที่ 10 ได้ แล้ว
หลังจากที่อายุครบ 10 ปี กระดูกของเขาก็แข็งแรงและเติบโตมากขึ้นและมากยิ่งขึ้น และเขายังสามารถพัฒนาวรยุทธของเขาไปได้เร็วยิ่งขึ้นอีกด้วยเช่นเดียวกับเจียงฉือน้อย
อายุ 10 ถึง 12 ปีนั้นเป็นช่วงเวลาทองสําหรับการฝึกวรยุทธมันคือช่วงเวลาสําคัญที่จะสร้างรากฐานให้มั่นคงเลยล่ะ
 
4 เดือนผ่านไป
โจวฉวนจีก็ทะลุขึ้นสู่ระดับบรรลุญาณได้แล้ว!
“จากการวิเคราะห์พบว่าท่านเจ้าของดาบเลื่อนขึ้นสู่ระดับบรรลุญาณได้ ระบบกาชาเริ่มทํางาน!”
“ทิ้ง! ยินดีด้วย ท่านเจ้าของดาบได้รับ [ระดับทอง] …”
 

I HAVE COUNTLESS LEGENDARY SWORDS!

I HAVE COUNTLESS LEGENDARY SWORDS!

บทนำ หลังจากได้กลับชาติมาเกิดในฐานะ โจวฉวนจี องค์ชายแห่งจักวรรดิ เขาก็คิดว่าคงจะใช้ชีวิตอยู่สุขสบายอย่างหรูหราไปได้ชั่วชีวิต แต่เรื่องที่ไม่ได้คาดคิดก็เกิดขึ้น เขาต้องเข้าไปพัวพันกับการเมืองและเป็นปฏิปักษ์ราชินีผู้โหดเหี้ยม ทำให้เขาต้องจำใจหลบหนีออกจากราชวัง แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น คือ โปรแกรมโกงที่เขาเคยสร้างขึ้นในชาติก่อนกลายมาเป็นของจริงในชีวิตนี้ เมื่อเขาอายุได้ 2 ปี เขาก็ได้รับดาบมังกรสีชาดซึ่งมีจิตวิญญาณมังกรสีชาดสถิตอยู่ เมื่ออายุได้ 3 ปี เขาก็ได้รับดาบในตำนานเล่มที่ 2! นั่นก็คือ เขาจะได้รับดาบในตำนานทุก ๆ ปีที่เขาโตขึ้น! และหลังจากมีชีวิตมาได้ 100 ปี โจวฉวนจีก็ได้ออกผจญภัยไปทั่วโลกอย่างหาญกล้าพร้อมกับดาบในตำนานนับร้อยเล่ม! และหมื่นปีต่อมา ดาบในตำนานนับหมื่นเล่มของเขาก็ทำให้สรวงสวรรค์ต้องสั่นสะเทือน จนในที่สุดเขาก็ได้ก้าวขึ้นสู่บังลังก์แห่งตำนานในฐานะจักรพรรดิกระบี่! ติดตามการเดินทางจากเด็กน้อยวัยกระเตาะ ขึ้นสู่ตำนานจักรพรรดิกระบี่ได้แล้ว ใน “หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์” I Have Countless Legendary Swords!

Options

not work with dark mode
Reset