หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! – ตอนที่ 50 : เป้าหมายต่อไป : งานประชุมกระบี่

หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ THave Countless Lege…
ตอนที่ 50 : เป้าหมายต่อไป : งานประชุมกระบี่
 
“ดาบของข้าก็คือดาบของเจ้า”
หัวใจของเจียงฮือน้อยเริ่มเบ่งบานไปด้วยความสุขและเธอก็เผลอยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ เธอชอบทัศนคติของโจวฉวนจีที่ไม่เคยมองว่าเขาและเธอนั้นต่างกันเลย
 
เธอสายหัวพลางจําน้อย ๆ “ไม่เป็นไรหรอก แค่ดาบเล่มเดียวข้ายังทําได้ไม่ดีเลย นับประสาอะไรกับดาบ 10 เล่มล่ะ? ข้ากลัวว่าข้าจะเป็นบ้าไปซะก่อนน่ะนะ”
 
ในตอนนั้นเอง จู่ ๆ จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจก็เข้ามาใกล้
ตุบ!
เขาคุกเข่าลงทันที เข่าของเขาทุบหิน 3 ก้อนแตกละเอียด
เขาพยายามระงับความตื่นเต้นของเขาเอาไว้ ก่อนจะพูดขึ้นมา “นายท่านได้โปรดสอนวิชาดาบที่สุดแสนจะทรงพลังนั้นให้ข้าด้วยจะได้หรือไม่?”
 
ก่อนหน้านี้ เมื่อตอนที่เขาได้ยินว่าเสี่ยวจิงหงเป็นศิษย์ของโจ ฉวนจีเขาก็ยังรู้สึกลังเลใจและคิดว่าบางที่นายน้อยอาจจะโม้ไปเอง
แต่มาตอนนี้ เขาเชื่อสุดหัวใจแล้ว
 
เทียบกับนายท่านของเขา เทพกระบี่โจว แล้ว เสี่ยวจิงหงยังเปรียบเป็นน้องชายของนายท่านไม่ได้เลยสักนิด
 
นี่แหละคือปรมาจารย์แห่งวิถีกระบี่ที่แท้จริงล่ะ!
 
เขาสามารถบรรลุสุดยอดวิชาดาบที่ทรงพลังได้เพียงแค่ฝึกแบบสุ่ม ๆ เท่านั้น!
ใช่แล้วล่ะ
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจคิดว่า อาคมหมื่นกระบี่มังกรเป็นวิชาดาบที่โจวฉวนจีสร้างขึ้นมาเอง นั่นเป็นเพราะเขาไม่เคยเห็นมัน มาก่อนและไม่เคยเห็นนายน้อยของเขาไปคุยกับใครมาก่อนด้วย
 
โจวฉวนจีจ้องไปทางเขาก่อนจะพูดตอบ “มีวิชาดาบอยู่เป็นพันบนโลกใบนี้ และวิชาที่ดีที่สุดก็คือวิชาที่เป็นของเจ้าเอง เจ้าหวังที่จะมุ่งสู่วิถีดาบที่ทรงอํานาจแต่ไร้ซึ่งความรอบคอบไม่แลหน้าดูหลังต่อให้จะใช้ดาบ 2 หรือ 3 เล่มก็อาจไม่ได้ดีไปกว่าดาบเดียวห รอกนะ”
แต่ก็แน่อยู่แล้วว่า ดาบ 10 เล่มของข้าต้องดีกว่าดาบเล่มเดียวอยู่แล้วล่ะ!
เมื่อจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจได้ยิน ตัวของเขาก็สั่นเทิ้มราวกับเริ่มบรรลุสัจธรรม
เขามักจะพยายามไล่ตามวิชาจิตดาบคู่ของโจวฉวนจีเสมอแต่เขาก็พบว่าแค่จะใช้ 2 วิชาดาบพร้อมกันได้ก็ยากแล้ว
 
แต่เขาพึ่งมาตระหนักเอาในวันนี้หลังจากที่เขาได้ฟังนายท่านของเขาไป
เส้นทางของเขาคือวิถีดาบเดียวยังไงล่ะ!
 
จู่ ๆ โจวฉวนจีก็เอาดาบเด็ดสุกรออกมาและพูดขึ้นว่า “เปิดตาของเจ้าซะและจงดู”
 
เขาโยนดาบขึ้นด้วยมือขวาและใช้วิชาขยายวิถีกระบี่ดาบเด็ดสุกรบินตรงไปยังปาข้างหน้า และตัดต้นไม้จํานวนนับไม่ถ้วนในระยะหลายร้อยหลาลงก่อนจะเจาะทะลุเนินเขาเล็ก ๆ ไป
 
แม้จะเป็นเวลาพลบค่ํา แต่ทั้งกลุ่มก็สามารถเห็นได้ว่าเนินเขาเล็กๆถูกผ่าออกเป็นสองส่วน ดาบเด็ดสุกรยังคงบินขึ้นไปสู่ท้องฟ้า
 
เร็วมาก!
หัวใจของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเต้นระรัว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นวิชาขยายวิถีกระบี่ ก่อนหน้านี้เขาคิดว่ามันเป็นเพ ราะพลังอันล้นเหลือของโจวฉวนจีแต่พอได้เห็นมันใกล้ ๆ แล้ว เขาก็ได้รู้ว่ามันเป็นเพราะวิชาดาบนั่นเอง
 
โจวฉวนจียกมือขวาขึ้น และดาบเด็ดสุกรก็บินกลับมาหา เขาพูดขึ้นมา “วิชาขยายวิถีกระบี่ หากเจ้าบรรลุวิชานี้ได้ เจ้าจะสามารถสังหารศัตรูที่อยู่ในระยะ 100 หลาได้ในทันที”
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจมองด้วยความอิจฉา “นายท่านได้โปรดสอนข้าได้หรือไม่?” เขาถาม
 
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจนั้นค่อนข้างจะเก่งทีเดียว และถ้าโจวฉวนจียังคิดเก็บเขาเอาไว้อยู่กับตัวต่อไป เขาก็ต้องให้แรงจูงใจ อะไรกลับไปบ้างโจวฉวนจีลองคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นก่อนจะตัด สินใจว่าวิชาขยายวิถีกระบี่นี่แหละเหมาะกับเขาที่สุดแล้ว
ยังไงซะเขาก็ไม่มีอนาคตสําหรับวิชาจิตดาบคู่อยู่แล้ว
ด้วยพรสวรรค์แบบนี้ เขาแทบจะไม่มีทางต่อต้านบัญชาสวรรค์ได้เลย
โจวฉวนจีพูด “ได้อยู่แล้ว เพราะเจ้านะภักดีต่อข้า เจ้ามักทําสิ่งที่ข้ามอบหมายให้ได้ดีเสมอ และในเมื่อเจ้าไม่สามารถบรรลุวิชาดาบคู่ได้งั้นก็ให้เจ้าก็บรรลุวิชาขยายวิถีกระบี่แล้วกัน ข้าน่ะมีวิชา ดาบอยู่อีกมากมายและบางทีอาจจะมีสักวิชาที่เหมาะสมกับเจ้าอยู่ในอนาคตก็ได้เพราะงั้นจงพยายามต่อไป”
 
เมื่อจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจได้ยิน ก็คุกเข่าลงต่อหน้าเขาด้วยความตื่นเต้น
 
ฮวงเหลี่ยนชินก็มองไปทางเขาอย่างคาดหวังเช่นกัน
 
โจวฉวนจีเงยหน้าขึ้นก่อนจะพูดขึ้นว่า “ในฐานทาสกระบี่ของข้าเจ้าจะเป็นรองแค่ข้าเท่านั้นแน่นอน”
เป็นรองแค่เขาเท่านั้นงั้นหรอ!
 
เขาจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดได้แน่เลย!
เลือดในตัวของทาสกระบี่และสาวใช้เดือดพล่านด้วยความอีกเหิมพวกเขาเห็นโจวฉวนจีบรรลุวิชาสิบกระป์ได้จริงจึงเชื่อมั่นในสิ่งที่เขาพูดอย่างสุดหัวใจ
 
“เอาล่ะ ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว!”
 
โจวฉวนจีพูดพลางโบกมือให้ จากนั้นเขาก็นําทั้งกลุ่มกลับไปยังหมู่บ้าน
 
เจ้างูตัวเล็กยังคงรู้สึกช็อคอยู่ ขณะที่เจ้าหนูทรายสามตาเริ่มเดินต่อและวิ่งลากมันไปกับพื้นอย่างบ้าคลั่งจนเกือบจะฆ่ามันตายได้
ในคืนนั้น ชาวบ้านคิดว่ามีอันตรายอยู่ใกล้ ๆ เพราะดาบเด็ดสุกรทําลายเนินเขาเสียงดังสนั่น แต่เมื่อพวกเขาไปตรวจสอบดูก็ไม่เจออะไร
 
โจวฉวนจียังเฝ้ารอ
 
เขาอยากจะย้ายเข้าไปอยู่ในมหาจักรวรรดิโจวหลังจากที่อายุครบ 11 ขวบ
 
แต่การจะเข้าร่วมการคัดเลือกแห่งสวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจวได้นั้นเขาจําเป็นต้องทําอะไรบางอย่างที่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งโลกได้เสียก่อน
ในช่วงครึ่งปีมานี้ เขาไม่ได้ทําอะไรมากนักชื่อเสียงของเขาเลย
ลดลง
 
องค์กรที่ทรงพลังจะเข้ามาชักชวนเขาก็ต่อเมื่อเขามีชื่อเสียงที่มากพอเท่านั้นจากนั้นพวกเขาก็จะยื่นเสนอชื่อเขาเข้าสู่การคัดเลือกแห่งสวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจวได้
โจวฉวนจีเรียกทาสกระบี่และสาวใช้มาเพื่อถามเกี่ยวกับเรื่องนี้
 
“มีเรื่องใหญ่อะไรที่มากพอจะเพิ่มชื่อเสียงให้ข้าได้บ้าง?”
 
ฮวงเหลี่ยนชินตกลงไปอยู่ในห้วงความคิด
 
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจพูด “ข้ารู้อยู่เรื่องนึงครับ มันเป็นเรื่องแถวเมืองแถบชายแดนของมหาจักรวรรดิโจวนะครับ ศิษย์เอกของจักรพรรดิกระบี่แห่งมหาจักรวรรดิโจว เสี่ยหรูโหยว ได้จัดงานประชุมกระบี่ขึ้นมาครับ ในทุก ๆ 5 ปี ผู้ชนะเลิศจะได้สิทธิ์ในการเข้าหอสมุดกระบี่เป็นเวลา 3 วัน และในขณะเดียวกันผู้ชนะเลิศก็ จะได้โอกาสในการเป็นศิษย์ของจักรพรรดิกระบี่ด้วยครับ”
 
หอสมุดกระบี่นั้นมีข้อมูลเกี่ยวกับวิชาดาบอยู่จํานวนมหาศาลมันคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สําหรับจอมยุทธที่อยู่ในวิถีกระบีแห่งมหาจักรวรรดิโจว
มีเพียงศิษย์ของจักรพรรดิกระบี่แห่งมหาจักรวรรดิโจวเท่านั้นที่จะมีโอกาสได้เข้าไปยังหอสมุดแห่งนั้น
จักรพรรดิกระบี่นั้นเป็นที่นับถือมากในมหาจักรวรดิโจว ถึงแม้เขาจะไม่มีตําแหน่ง แต่เขาก็อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของมหาจักรวรรดิโจว
 
เขาเป็นถึงจ้าวแห่งโลกวรยุทธในมหาจักรวรรดิโจว เขานั้นสามารถปกป้องมหาจักรวรรดิจากภยันอันตรายใด ๆ ก็ตามที่เข้ามาได้แล้วยังได้รับการสนับสนุนจากมหาจักรวรรดิโจวอีก ด้วยเหตุนี้ทั้งสองฝ่ายจึงอยู่ในลักษณะถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน
 
โจวฉวนจีถามขึ้นมา “งานประชุมกระบี่จะจัดขึ้นเมื่อไหร่ล่ะ?แล้วต้องใช้เวลาแค่ไหนกว่าจะไปถึงที่นั่นได้?”
 
“ครึ่งปีหลังจากนี้ครับ และเราต้องใช้เวลา 4 เดือนหากเดินทางจากที่นี่ไป” จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจตอบ
โจวฉวนจีพูดถาม “ถ้าอย่างนั้น พวกเราจะย้ายออกจากที่นี่ในหนึ่งเดือน!”
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจก็ไม่ได้ค้านอะไร เขาสนใจในงานประชุมกระบี่มากและเดิมทีก็จะไปเข้าร่วมอยู่แล้วด้วยแต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ไปเข้าร่วมในฐานะของผู้ชนะ
 
โจวฉวนจีกลับไปยังกระท่อมและบอกเจียงฮือน้อยเกี่ยวกับเรื่อง
ale
 
“ถ้าเจ้าอยากจะอยู่รอคุณยายของเจ้าก็อยู่ที่นี่เถอะ อาใหญ่กับน้องสองจะอยู่กับเจ้าที่นี่เพื่อปกป้องเจ้าเอง”
โจวฉวนจีถามความเห็นของเธอเพราะไม่อยากจะบังคับให้เธอไปกับเขาด้วย
เด็กสาวก็ใกล้จะอายุ 15 ปีแล้ว หนึ่งปีหลังจากนี้เธอก็แต่งงานกับใครสักคนตามธรรมเนียมได้แล้ว
 
เมื่อเจียงฉือน้อยได้ยินก็หยิกหูของเขา “มันแหงอยู่แล้วสิว่าข้าก็จะตามเข้าไปด้วยนะ ข้าไม่คิดว่าคุณยายของข้าจะกลับมาหรอกนะ แล้วถ้าไม่มีข้าแล้วใครจะเป็นคนดูแลเจ้าละห้ะ?” เธอตะคอกใส่
 
โจวฉวนจีรู้สึกอุ่นใจขึ้นมา แต่เขาก็แกล้งทําเป็นเจ็บแทนก่อนจะพูดว่า “ปล่อยมือเจ้าได้แล้วน่าข้าเจ็บหูจะตายแล้ว”
 
“ไม่! เจ้ายังจะกล้าพูดอะไรแบบนี้อีกมั้ยจ๊ะ?”
 
“ไม่ ไม่ ข้าจะไม่พูดอีกแล้วน่า…”
 
“ฮีม อย่าคิดจะทิ้งข้าไว้อีกเชียวล่ะ!”
“เข้าใจแล้ว ถ้างั้นมาตกลงกันนะว่าเราจะไม่ทิ้งกันน่ะ!”
โจวฉวนจีถือโอกาสนี้พูดออกไป
เจียงฮือน้อยเองก็ตั้งใจจะทําแบบนั้นเหมือนกันเธอเลยยืนนิ้วก้อยออกมาและพูดขึ้นว่า “ถ้างั้นมาทําสัญญาตามแบบของเจ้ากันเกี่ยวก้อยสัญญากันว่าจะไม่มีวันเปลี่ยนไปเด็ดขาด ออใช่แล้ว เราต้องทําสัญญากันอีกข้อนึ่งด้วย ต้องไม่แต่งงานมีภรรยากับมี เมียน้อยหลายคนในอนาคต!”
 
พอมีฮวงเหลี่ยนชินอยู่ด้วยแล้วตอนนี้ เธอก็สามารถถามอะไรได้หลายอย่างเพราะงั้นเจียงฉือน้อยก็ไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสาอย่างที่เคยอีกแล้ว
“แต่ทําไมล่ะนั่น?” โจวฉวนจีถามพลางเบิกตากว้าง
 
เขาขําอยู่ในใจ ยัยเด็กคนนี้โตขึ้นแล้วจริง ๆ แถมยังเริ่มคิดมากอีกตอนนี้เธอแทบจะขุดหลุมฝังเขาด้วยซ้ํา
เจียงฉือน้อยบิดมือพลางจ้องไปทางเขาด้วยสายตาระยิบระยับก่อนจะพูดขึ้นว่า “ไม่มีแต่จะสัญญาไม่สัญญา?”
โจวฉวนจีเบ้ปากและพูดตอบอย่างเศร้า ๆ “ถ้าเจ้าทํางี้แล้วเจ้าไม่กลัวรึไงว่าในอนาคตข้าจะหาภรรยาไม่ได้เอาน่ะ?”
 
“ถ้าเจ้าหาไม่ได้ก็ยิ่งดีน่ะซิ!”
 
เธอพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น ขณะที่เธอพูด เธอก็คลายมือที่หยิกหูเขาออกก่อนจะยืนกอดอกและมองอย่างภาคภูมิใจ
 
จู่ ๆ โจวฉวนจีก็รู้สึกปวดตับกระทันหัน ในฐานะผู้ชายในโลกนี้แล้วเขาจะอยู่ได้ยังไงโดยไม่มีภรรยาละห้ะ?
 
“อย่างมากสุด… เดี๋ยวข้าก็จะเป็นภรรยาให้เจ้าเองละน่า”เจียงฉือน้อยพูดพลางมุ่ยปาก
 
โจวฉวนจีแกล้งทําเป็นตกใจก่อนจะก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็ว “โว้วววเจ้าซ่อนเจตนาอะไรแบบนี้ไว้นี่เอง!” เขาพูด
 
เจียงฉือน้อยรู้สึกทั้งเขินทั้งโกรธก่อนจะหยิบหมอนขึ้นมาและวิ่ง
ไล่เขา
คู่หูที่แสนไร้เดียงสาทั้งสองต่างมีเพียงแค่กันและกันเท่านั้น นี่แหละคือความรักที่ฟ้าลิขิตล่ะ
 

I HAVE COUNTLESS LEGENDARY SWORDS!

I HAVE COUNTLESS LEGENDARY SWORDS!

บทนำ หลังจากได้กลับชาติมาเกิดในฐานะ โจวฉวนจี องค์ชายแห่งจักวรรดิ เขาก็คิดว่าคงจะใช้ชีวิตอยู่สุขสบายอย่างหรูหราไปได้ชั่วชีวิต แต่เรื่องที่ไม่ได้คาดคิดก็เกิดขึ้น เขาต้องเข้าไปพัวพันกับการเมืองและเป็นปฏิปักษ์ราชินีผู้โหดเหี้ยม ทำให้เขาต้องจำใจหลบหนีออกจากราชวัง แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น คือ โปรแกรมโกงที่เขาเคยสร้างขึ้นในชาติก่อนกลายมาเป็นของจริงในชีวิตนี้ เมื่อเขาอายุได้ 2 ปี เขาก็ได้รับดาบมังกรสีชาดซึ่งมีจิตวิญญาณมังกรสีชาดสถิตอยู่ เมื่ออายุได้ 3 ปี เขาก็ได้รับดาบในตำนานเล่มที่ 2! นั่นก็คือ เขาจะได้รับดาบในตำนานทุก ๆ ปีที่เขาโตขึ้น! และหลังจากมีชีวิตมาได้ 100 ปี โจวฉวนจีก็ได้ออกผจญภัยไปทั่วโลกอย่างหาญกล้าพร้อมกับดาบในตำนานนับร้อยเล่ม! และหมื่นปีต่อมา ดาบในตำนานนับหมื่นเล่มของเขาก็ทำให้สรวงสวรรค์ต้องสั่นสะเทือน จนในที่สุดเขาก็ได้ก้าวขึ้นสู่บังลังก์แห่งตำนานในฐานะจักรพรรดิกระบี่! ติดตามการเดินทางจากเด็กน้อยวัยกระเตาะ ขึ้นสู่ตำนานจักรพรรดิกระบี่ได้แล้ว ใน “หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์” I Have Countless Legendary Swords!

Options

not work with dark mode
Reset