หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) – ตอนที่ 38

ถนนกว้างปรากฏให้เห็นอยู่เบื้องหลังประตูเมือง มีทางแยกทุกๆสิบเมตร สิ่งก่อสร้างสร้างสี่เหลี่ยมที่สูงต่างระดับกันสูงขึ้นไปยังสุดสายตา

มีพ่อค้าเร่มากมายอยู่ตามถนน และมีขอทานร่างผอมแห้งอยู่หลายคนซึ่งวางชามเก่าๆไว้อยู่เบื้องหน้า

ในเมื่อมันยังเช้าอยู่ ทำให้มีคนอยู่บนถนนไม่มากนัก ทว่ามันก็ดูค่อนข้างมีชีวิตชีวา

โรแลนด์และเบทต้าอุดจมูกโดยทันทีเมื่อพวกเขาเดินเข้ามาด้านใน มันเหม็นมาก

อุจจาระทั้งของคนและสัตว์อยู่เกลื่อนเต็มถนน พวกมันนั้นลอยอยู่ตรงท่อน้ำทิ้ง

เมืองเรดเมาน์เทนนั้นอาจจะไม่ได้สะอาดนัก แต่ว่ามันก็สะอาดกว่าที่นี่

ถึงอย่างไรก็ตามนี่ก็ยังคงเป็นยุคกลางอยู่

โรแลนด์และเบทต้าต่างดึงดูดความสนใจของคนโดยรอบ ทว่าคนส่วนใหญ่กลับรีบหลบสายตาหลังจากจ้องไปที่พวกเขา

ไม่มีใครอยากมีปัญหา

เบทต้าก็รู้สึกได้ถึงมัน ขณะที่กำลังปิดจมูกอยู่เขาก็พูดขึ้นมาว่า “ผมรู้สึกว่าคนในเมืองนี้ค่อนข้างกลัวขุนนาง ทั้งพวกพ่อค้าและคนในพื้นที่ต่างก็ระวังตัวกันอย่างมาก ในเมืองเรดเมาน์เทนคนที่นั่นดูจะไม่ได้กลัวผมขนาดนี้เลย”

โรแลนด์คิดสักครู่ก่อนยิ้มออกมา “เมืองเรดเมาน์เทนเป็นแค่เมืองที่อยู่ห่างไกล คนที่มีตำแหน่งสูงสุดที่นั่นมีแค่ฟอลเคิลและนายก พวกเขาทั้งคู่ต่างใจดี เป็นธรรมดาที่พวกชาวเมืองจะไม่เคยได้รับการข่มขู่จากพวกขุนนาง แต่เมืองที่มีประชากรเกือบล้านนั้นต่างออกไป บางทีอาจจะมีพวกกลุ่มตัวปัญหาที่มักคอยสร้างเรื่องอยู่ที่นี่ก็ได้”

เบทต้าหยุดคิดและเข้าใจว่ามันก็สมเหตุสมผลดี เมื่อที่ที่หนึ่งมีคนเยอะ เป็นธรรมดาที่จะมีคนแปลกๆปะปนอยู่เยอะเช่นเดียวกัน

พวกเขาเดินไปตามถนน ผู้คนที่สัญจรไปมาต่างหลีกเลี่ยงพวกเขา

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็เจอกับแอ่งน้ำเสียอยู่ด้านหน้า

แอ่งน้ำนั้นทั้งยาวและกว้างอยู่เต็มถนน โรแลนด์และเบทต้าไม่สามารถกระโดดข้ามไปได้

ผู้สัญจรโดยมากมักจะเดินเขย่างผ่านมันไป โดยไม่สนใจอึและฉี่ที่อยู่ในนั้น ในฐานะสามัญชนพวกเขาไม่ได้ใส่ใจนัก

ขุนนางต่างโดยสารด้วยรถม้าพวกเขาจึงไม่ต้องกังวลกับมัน

ในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มที่อยู่บนชั้นสามของตึกจากทางด้านขวาของโรแลนด์และเบทต้าก็มองมายังพวกเขาด้วยความสนใจ

“ขุนนางหนุ่มและผู้ใช้เวทย์ที่ข้าไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน” ชายหนุ่มหลันกลับไปและพูดกับเพื่อนของเขาว่า “ดูเหมือนพวกเขาจะมีปัญหาเสียแล้ว เจ้าคิดว่าพวกนั้นจะทำยังไง?”

ขุนนางอีกสองสามคนมาใกล้หน้าต่างและมองลงไป

หนึ่งในพวกเขากล่าวว่า “ข้าคิดว่าพวกเขาจะอ้อมไป”

อีกคนหนึ่งก็พูดขึ้นมาว่า “ถ้าข้าเป็นพวกนั้น ข้าจะโปรยเหรียญออกมาและให้พวกชั้นต่ำก้มลงบนพื้น เพื่อให้ข้าเหยียบตัวพวกมันไป”

“ไม่เลวเลย”

ขุนนางคนอื่นๆต่างเห็นด้วย ขุนนางที่เป็นเจ้าของความคิดนี้รู้สึกพึงพอใจ

ขุนนางอีกคนก็กล่าวว่า “ถ้าข้าเป็นพวกนั้น ข้าจะเดินกลับไปจ้างรถม้า พวกนั้นไม่ใช่คนในพื้นที่ พวกเขาอาจจะหลงได้หากเดินอ้อม และการใช้สามัญชนเพื่อเป็นที่เหยียบนั้นยุ่งยากและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพวกเขา”

“ฮ่ะๆๆๆๆ จอห์นเจ้ายัง ‘เมตตา’ เหมือนเคยเลยนะ”

ขุนนางหนุ่มที่ชื่อจอห์นยิ้มออกมา “มาพนันกันเถอะ”

“พนันอะไร?”

“ถ้าสองคนด้านล่างนั่นใช้ทั้งสามวิธีที่พวกเรากล่าวถึง ข้าจะจ่ายค่าเที่ยววันนี้เอง”

“แล้วถ้าพวกเขาใช้ทางอื่นล่ะ?”

“ถ้างั้นพวกเจ้าทุกคนต้องไปร่วมงานวันเกิดของพี่สาวข้าในวันมะรืน”

“ฮ่ะๆๆๆ ได้เลยไม่มีปัญหา”

ทุกคนต่างยินดีกับข้อเสนอนี้ ทั้งได้สนุกอยู่ที่นี่หรือไปร่วมงานปาร์ตี้ของพี่สาวจอห์นต่างก็ดีทั้งคู่ แม้ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงก็ตามพวกเขาก็ไม่มีอะไรเสีย

ตรงถนน เบทต้ากำลังเซ็งอยู่ทางด้านหน้าของแอ่งน้ำ เขาพูดว่า “ทำไมเราไม่ลองอ้อมกันดูล่ะครับ?”

“ไม่จำเป็น”

โรแลนด์ชี้นิ้วและไอเย็นก็เริ่มควบแน่นและพุ่งออกมาและทอดยาวออกมาเป็นทางเดินน้ำแข็งอยู่บนแอ่งน้ำ

นี่เป็นเวทย์ที่พัฒนามาจากวงแหวนเยือกแข็งที่เขาพึ่งได้รับมาเมื่อเร็วๆนี้ มันไม่ได้ทรงพลังนัก ทว่าโรแลนด์กลับคิดว่ามันมีประโยชน์ในการแช่แข็งอย่างรวดเร็วในบางโอกาส อาทิเช่นในตอนนี้”

ในชั้นสาม ขุนนางหนุ่มทั้งหมดต่างตกอยู่ในความเงียบ ท้ายที่สุดจอห์นก็หัวเราะออกมา “เป็นผู้ใช้เวทย์ที่น่าสนใจมาก ข้าไม่เคยเห็นใครใช้พลังเวทย์สิ้นเปลืองแบบเขามาก่อน”

เบทต้าก็รู้สึกประหลาดใจเช่นเดียวกัน “เวทมนตร์นี่มีประโยชน์จริงๆ”

พวกสามัญชนโดยรอบนั้นต่างถูกทำให้ตกใจเพราะเวทมนตร์ ทว่าพวกเขาก็ใจเย็นลงเมื่อเห็นว่าโรแลนด์และเบทต้าไม่ได้ต้องการทำร้ายพวกเขา

หลังจากเดินบนสะพานน้ำแข็ง พวกเขาทั้งคู่ก็เริ่มเดินทางต่อ

พวกเขาได้ถามยามมาแล้วในตอนที่พวกเขาเข้าเมือง หอคอยสีขาวซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดภายในเมืองนั่นคือสาขาของสมาคมนักเวทย์

หอคอยเวทย์นั้นอยู่ในท้ายสุดของทางเดิน

เดลพอนนั้นเป็นเมืองที่ใหญ่ถึงแม้ว่าหอคอยจะดูเหมือนอยู่ใกล้แต่จริงๆแล้วมันอยู่ไกลออกไป

พวกเขาใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงเพื่อมายังหอคอย

พวกเขาพบว่าพวกเขานั้นอยู่ในจัตุรัสที่สร้างมาจากอิฐสีขาวและสีน้ำเงิน มันสะอาดและไม่มีขยะกระจัดกระจายเหมือนภายในเมือง

หอคอยเวทย์นั้นทำมาจากหินสีขาวล้วนๆ ไม่มีรอยเชื่อมต่อกัน ราวกับว่าเป็นหินหนึ่งก้อนที่ถูกสร้างโดยธรรมชาติ

หอคอยนั้นค่อนข้างใหญ่ มันกว้างอย่างน้อยกว่า 7 เมตรในรัศมี

เมื่อเงยมองหน้าขึ้นไปยังหอคอย โรแลนด์สึกได้ถึงลวดลายคลื่นที่มองไม่เห็นกำลังออกไปด้านนอก

“นั่นมันสิ่งมีชีวิตเวทย์?” โรแลนด์พึมพำออกมาเบาๆ

ในตอนนั้นเอง เบทต้าก็พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน “พี่โรแลนด์ผมไม่ไปกับพี่นะ ยังไงซะผมก็ไม่ใช่นักเวทย์ ผมอยากไปดูรอบๆเมืองและลองหาเควสดู!”

โรแลนด์ขมวดคิ้วและถามว่า “แล้วพวกเราจะเจอกันยังไง?”

“ผมเห็นโรงแรมเล็กๆที่ชื่อแลมป์เกิร์ลระหว่างทางที่มาที่นี่ ผมจะอาศัยอยู่ที่นั่น พี่สามารถมาหาผมได้ตลอดที่โรงแรมนั่น”

“อ่าหะ” โรแลนด์พยักหน้าและกล่าวว่า “ที่นี่เป็นเมืองใหญ่ ก็ไม่เลวที่พวกเราจะลองแยกกันสำรวจดู”

เบทต้าโบกมือลาโรแลนด์ก่อนวิ่งออกไปด้วยความตื่นเต้น

เขามองไปยังประตูทางเข้าสมาคม โรแลนด์เดินเข้าไปใกล้

เมื่อเขามาถึงยังประตู หนึ่งในยามทั้งสองหยุดเขา “ต้องขอโทษด้วย ทว่าหอคอยเวทย์จะเปิดให้เพียงแค่สมาชิกเท่านั้น คุณมีใบรับรองการเป็นนักเวทย์หรือไม่?”

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง โรแลนด์ถามออกมาด้วยรอยยิ้มว่า “แล้วผมต้องทำยังไงถึงได้ใบรับรองมา?”

ยามดูกระอักกระอ่วน “ต้องขอโทษด้วยแต่ข้าก็ไม่มั่นใจเช่นกัน

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์
Score 6.9
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์ในฐานะผู้เล่นกลุ่มแรกที่เข้าสู่โลกแห่งฟาลาน เกมเสมือนจริงเกมแรกของโลก โรแลนด์ได้เริ่มตัวตนใหม่ของเขาในฐานะนักเวทย์ ทว่าการเป็นนักเวทย์นั้นแสนยากลำบากไม่เหมือนที่เขาเคยจิตนการไว้ ครั้งแรกที่เขาลองร่ายเวทย์หัวของเขาก็ระเบิดออกมา ผู้เล่นนักเวทย์คนอื่นๆต่างถอดใจและพากันลบตัวละครทว่าโรแลนด์ก็ยังคงดื้อดึงต่อไป โรแลนด์เริ่มพัฒนาความสามารถของตัวเองจนเชี่ยวชาญและพบเข้ากับพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาของตัวเอง ซึ่งทำให้เขาสามารถเปลี่ยนความคิดของผู้เล่นที่มีต่อนักเวทย์และค้นหาความลับของเกมนี้ได้….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset