หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – ตอนที่ 148 ยั่วโทสะฮองเฮา

บทที่ 148 ยั่วโทสะฮองเฮา

นางไม่ได้พูดอะไรอีก แต่กลับวิ่งชนเสาทันที ช่วงเวลาที่คนและเสาชนกัน เงินเหรียญจากตัวของจากก็ร่วงหล่นลงพื้น “กริ้งกร้างๆ”

ฮ่องเต้หลับตาลง คนทั้งคนมีท่าทางดูไม่เหมือนคนที่มีอำนาจบาตรใหญ่ดั่งเช่นก่อนหน้านี้ เหมือนเพียงสุนัขตายที่ไร้แรงกำลัง จนตรอกจนถึงที่สุด!

เดิมทีคิดว่าเรื่องมาเช่นนี้ก็จะสิ้นสุดลง

คิดไม่ถึง……

เมื่อหลานเห็นเลือดที่ทะลักออกมาของแม่นม แววตาดูล่องลอย แสดงอาการขาดอากาศ จากนั้นพูดอย่างเยือกเย็นว่า :

“ไหนๆเรื่องเกิดขึ้นมาแล้ว ข้าจะคิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นคงจะเป็นไปไม่ได้ หวังว่าฮ่องเต้จะหาตัวคนผิดที่คิดใส่ร้ายข้าให้เจอ”

แม้ว่าฮ่องเต้คิดอยากจะจัดการนางให้ตาย นางนั้นกลับไม่ได้เอาคืนก็รู้สึกแย่แล้ว เพียงแต่การเอาคืนของนางจะไม่ใช่การทะเลาะหรือก่อความวุ่นวายเล็กๆน้อยๆ แต่จะเป็นการโจมตีเพียงครั้งเดียวเพื่อจบชีวิต

“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ จะปล่อยคนทำผิดไว้ได้ไม่ได้แน่นอน ข้าจะให้ศาลต้าหลี่และสิงปู้(กรมอาญา)ร่วมกันสอบสวนเรื่องนี้ พระชายาเย่เสียขวัญแล้ว ให้กลับไปพักผ่อนที่จวนก่อนเถอะ!

หึ!

ตอนนี้เพิ่งรู้ว่าควรให้ศาลต้าหลี่สอบสวนหรือ

น่าเสียดาย สายไปเสียแล้ว

“ฮ่องเต้ ข้ารู้ว่าเรื่องนี้มีใครที่เกี่ยวข้อง ไม่งั้นลองเชิญนางมา เรื่องทั้งหมดก็จะกระจ่าง”

ยังไม่ทันที่ฮ่องเต้จะได้พูดจา หลานเยาเยาก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมากางออกต่อหน้าทุกคน……

บนกระดาษมีอักษรเขียนว่า : หากต้องการรู้เบาะแสของพระราชธิดาจาวหยาง ให้รีบเข้าวังโดยด่วน

เพียงแค่อักษรบนกระดาษ ก็เพียงพอต่อการทำให้คนเห็นว่า มีคนจับตัวพระราชธิดาจาวหยางไป แล้วบีบให้หลานเยาเยาเข้าวัง

และลายมือของตัวอักษรนั้นฮ่องเต้ก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี!

ไม่ต้องพูดถึงฮ่องเต้ แม้แต่บรรดาพระสนมก็รู้จัก

นอกจากฮองเฮาแล้วจะยังมีใครอีก?

เดิมทีฮ่องเต้ไม่อยากที่จะเอ่ยอะไรออกมา แต่เมื่อเห็นคำว่าพระราชธิดาจาวหยางนี้แล้ว ใบหน้าก็ดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันที

ฮองเฮาเพื่อที่จะใส่ร้ายหลานเยาเยา ถึงกับต้องจับตัวจาวหยางมา เช่นนี้จะให้เขารับได้อย่างไร?

จาวหยางเป็นถึงลูกสาวที่เขารักและเอ็นดูที่สุดเชียวนะ!

ฮองเฮาบ้าไปแล้วหรือ?

คราวนี้……

“มานี่ ไปเชิญฮองเฮามาหาข้า เชิญมาไม่ได้ก็แบกนางมา”

มองดูฮ่องเต้ที่โกรธจัดจนใบหน้าเกิดอาการกระตุก หลานเยาเยามองดูด้วยความเย็นชา

ผ่านไปไม่นาน ฮองเฮาก็ถูกองครักษ์หลายนายใช้เกี้ยวหามมา สีหน้าของนางซีดขาวราวกระดาษ ร่างกายที่ดูอ่อนแอมาก ประหนึ่งว่าหากโดนลมพัดก็สามารถปลิวได้เช่นนั้น

ในขณะที่สายตาของนางเหลือบไปเห็นหลานเยาเยา ก็มีแววตาแห่งความอาฆาตแค้นปรากฏออกมา

คนสนิทของนางได้บอกนางไปก่อนหน้านั้นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างที่ตำหนักของไทเฮา แม้ว่าต่อหน้านางจะไม่ได้มีปฏิกิริยา แต่ในใจนั้นแค้นจนแทบจะฉีกหลานเยาเยาออกเป็นชิ้นๆ

ในขณะที่ฮ่องเต้คาดคั้นด้วยคำถามหลายๆคำถามนั้น

ฮองเฮาแสดงเพียงสีหน้าที่เย็นชา และไม่มีการแสดงออกอื่นๆ และก็ไม่มีคำอธิบายใดๆ ทั้งนี้ก็ไม่ได้ยอมรับผิดด้วย

ไม่มีหลักฐานปรากฏชัดเจน ภายใต้สายตาของทุกคนที่มองดูอยู่จะยังมาบีบบังคับให้นางยอมรับความจริงให้ได้เลยหรือ?

นางเป็นถึงฮองเฮาเชียวนะ!

ใครจะกล้าแตะตัวนาง?

“ฮองเฮา เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เจ้ายังจะมี

อะไรให้พูดอีกหรือไม่? รีบบอกข้ามา จาวหยางอยู่ที่ใด?” ท่าทางของฮ่องเต้ในเวลานี้เป็นห่วงพระราชธิดาจาวหยางเป็นอย่างมาก

แต่ทว่าภายในจะกำลังคิดอะไรอยู่ ใครจะไปรู้ได้?

เมื่อได้ยินจาวหยางสองคำ ฮองเฮาก็หัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นก็เคลื่อนสายไปมองยังร่างของหลานเยาเยา อ้าปากขึ้นเล็กน้อย

“คำถามนี้ไม่ใช่ว่าควรจะถามหลานเยาเยาหรอกหรือ?”

ฮองเฮาพูดออกไป!

ทุกคนก็ล้วนหันไปมองที่หลานเยาเยา แต่หลานเยาเยาก็ทำได้เพียงยักไหล่แบบทำอะไรไม่ได้

“คำพูดเช่นนี้ของฮองเฮาหมายความว่าอะไรเพคะ? หน้าประตูจวนอ๋องเย่ ท่านให้ขอทานนำกระดาษแผ่นนี้มาส่งให้กับมือข้า

ข้าก็ทำตามที่ท่านปรารถนา เข้าวัง แต่คิดไม่ถึงว่านี่จะเป็นกับดักที่ท่านวางไว้ อยากจะให้ข้าตายให้ได้ ตอนนี้เรื่องถูกเปิดโปงฮองเฮายังจะใส่ร้ายข้า หาว่าข้าเป็นผู้พาพระราชธิดาจาวหยางไปซ่อนไว้งั้นหรือ?”

ฮองเฮาไม่ได้คิดว่าตัวเองฉลาดหลักแหลมรึ!

งั้นนางก็จะออกอุบายนิดหน่อย ดูซิว่าหลังจากที่นางตกหลุมพรางแล้ว จะรับมือกับผลที่ตามมาได้หรือไม่

“หลานเยาเยา เห็นๆอยู่ว่าเจ้าเป็นผู้ลักพาตัวพาจาวหยางออกไปจากตำหนักของข้า ตอนนี้คิดจะมาแก้ตัว เจ้าหยุดคิดไปได้เลย!” เมื่อพูดกับหลานเยาเยาจบ ฮองเฮาก็เลื่อนสายตาไปทางฮ่องเต้ทันที “ฮ่องเต้ ฮ่องเต้ หลานเยาเยากำลังโกหก นางต้องเอาจาวหยางไปซ่อนไว้แน่ๆเพคะ”

เมื่อเผชิญหน้าฮองเฮาที่กำลังแก้ต่าง คราวนี้ฮ่องเต้จึงเกิดความลำบากใจ

“นี่……”

ใครจะรู้……

หลานเยาเยาหัวเราะเยาะออกมา หลังจากนั้นก็พูดเบาๆว่า :

“ฮองเฮาไม่ได้เลอะเลือนใช่หรือไม่? เป็นท่านที่ให้คนส่งกระดาษให้ข้า ให้ข้าเข้าวัง มีเพียงท่านที่จะรู้ว่าจาวหยางอยู่ที่ใด ข้าอยู่ที่ตำหนักของไทเฮาเฝ้าไทเฮาอยู่ตลอด ทั้งยังได้รับบาดเจ็บ จะไปลักพาตัวจาวหยางมาได้เช่นไร?”

คราวนี้ ฮองเฮาถูกคำพูดของหลานเยาเยายั่วโทสะจนหัวเราะออกมา

“เลอะเลือน? ฮ่าฮ่าฮ่า……ข้ายังไม่เคยตาสว่างเท่านี้มาก่อน ก่อนหน้านี้ที่ตำหนัก เจ้ายังต่อสู้กับจาวหยาวที่ถูกหนอนพิษกู่ควบคุม จากนั้นเจ้าก็ลักพาตัวนางไป เจ้าลืมไปแล้วจริงๆหรือ?”

“”ไอหยาหยาหยา เกิดอะไรขึ้น? ตอนจาวหยางอยู่ที่จวนอ๋องเย่ยังดีๆอยู่เลย ทำไมพอถึงมือท่านก็ไปโดนหนอนพิษกู่ซะได้เพคะ?

หรือว่าจาวหยางดันไปรู้เรื่องที่ท่านไม่สามารถบอกคนอื่นได้ ดังนั้นจึงวางยาพิษนาง?”

ในบทสนทนานี้ได้ข้อมูลเยอะพอสมควร

ถ้าไม่ใช่คนที่โง่มากๆ ก็ควรจะรู้ว่าความหมายที่นางต้องการจะสื่อ

ข้อหนึ่งคือจาวหยางโดนหนอนพิษกู่ควบคุม!

ข้อสองคือสิ่งที่ไม่สามารถเปิดเผยต่อผู้คนได้ของฮองเฮาแท้จริงแล้วคืออะไร?

ทุกคนมองฮองเฮาด้วยสายตาที่ไม่ปกติเหมือนเคย ทำให้ฮองเฮาเกิดไฟโทสะคุกรุ่นขึ้นมาโดยฉับพลัน ท่าทีที่ดูอ่อนแอในตอนแรกนั้นเลือนหายไป แสดงแววตาที่ดุดันออกมาทันที

นางกุมบาดแผลที่บริเวณท้อง ค่อยๆลุกยืนขึ้นมา

ก้าวทีละก้าวไปทางหลานเยาเยา

“หลานเยาเยา เจ้า……”

“เอ๊ะ ข้าทำไมหรือเพคะ?” จากนั้นก็ทำเหมือนว่าคิดอะไรได้ รีบพูดขึ้นมาว่า :

“อ๋อ ข้ารู้แล้ว ท่านยังคิดจะฆ่าปิดปากข้า! แต่ว่าวันนั้นไม่มีเพียงข้าผู้เดียวที่ได้เห็นรูปลักษณ์เดิมของท่าน

ไอหย๊า ข้าพูดผิดไปแล้ว ฮองเฮา

ท่านอย่าได้โกรธ หากว่าท่านโกรธขึ้นมาก็จะเปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์นั้น จะทำให้คนอื่นตกใจเอาได้นะเพคะ

จื่อซีบอกว่า โฉมหน้าของท่านในตอนนี้ต้องกินยาสมุนไพร เพื่อรักษาไว้ หากไม่มียาสมุนไพร ท่านไม่เพียงจะกลับไปมีโฉมหน้าแบบเดิม ยังเป็นเพราะท่านใช้ยาสมุนไพรเป็นเวลานาน ทำให้โฉมหน้าของท่านเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากจนไม่เหลือเคล้าเดิมในที่สุด”

แต่เมื่อนางยิ่งพูดเช่นนี้ ฮองเฮาก็ยิ่งโกรธหนักขึ้น

นางอยากจะฆ่าหลานเยาเยาให้ตายไปซะเดี๋ยวนั้น แต่ทุกคนยังอยู่ และท้องของนางก็ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นนางจึงจำเป็นต้องควบคุมตัวเอง

แต่ทว่าเมื่อคำพูดออกจากปากหลานเยาเยา!

ทุกคนก็ล้วนตกตะลึง

บทสนทนาระหว่างฮองเฮาและหลานเยาเยา ทำให้พวกเขายิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ

โฉมหน้าของฮองเฮาไม่ใช่รูปโฉมนี้ แล้วยังจะมีรูปโฉมไหนอีก? แล้วยังจะกินยาสมุนไพร นั้นมันหมายความว่าอะไร?

เนื่องด้วย!

ก่อนหน้านี้เรื่องที่ฮองเฮาฆ่าคนอย่างบ้าคลั่ง ทำให้จิตใจของพวกเขาเกิดความหวาดผวา ดังนั้นในเวลานี้พวกเขาจึงได้ถอยห่างจากนางโดยไม่รู้ตัว

แม้แต่สายตาที่ฮ่องเต้มองนางก็แปรเปลี่ยนไปเป็นการมองจากพินิจพิจารณา ทั้งยังส่งสัญญาณให้กับองครักษ์คุ้มครองข้างกายแล้วด้วย เพื่อให้เตรียมการคุ้มกันให้พร้อม

เมื่อเห็นสายตาที่ดูไม่ปกติของทุกคน นัยน์ตาของฮองเฮาเต็มไปด้วยเส้นเลือดทันที ดวงตาคู่เดิมที่น่ามองค่อยๆแดงก่ำ เล็บที่ตัดแต่งอย่างสะอาดเรียบร้อย ก็เริ่มดำขึ้น

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset