หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – ตอนที่ 149 เพิ่มกำลังภายในได้อย่างเป็นอย่างดี

บทที่ 149 เพิ่มกำลังภายในได้อย่างเป็นอย่างดี

“เฮ้ยเฮ้ย! จะแปลงร่างแล้วเพคะ” หลานเยาเยาส่ายหัวพร้อมถอนหายใจ

คิดไม่ถึงว่าจิตใจของฮองเฮาจะอ่อนแอถึงเพียงนี้ เพียงแค่คำพูดนางไม่กี่คำ ถึงกับแปลงร่างเข้าสู่ร่างเดิมทันที

หากว่ายังพูดมากไปกว่านี้ นางจะกระอักเลือดตายหรือไม่?

หลังจากหายใจไม่กี่เฮือก!

ฮองเฮาที่ดูน่าขนลุกสยดสยองก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน ดวงตาแดงก่ำ เสียงหัวเราะที่น่าสะพรึงกลัว ทั้งยังมีเล็บที่สามารถฆ่าทำร้ายที่ทั้งดำและยาวอีก……

“อ๊า……”

ทุกคนอยู่ในความตกตะลึง เมื่อดึงสติกลับมาได้ ก็วิ่งหนีไปคนละทิศละทาง

ภายในตำหนักเหลือเพียงความว่างเปล่าภายในเสี้ยวนาที นอกจากหลานเยาเยาและเย่แจ๋หยิ่ง ก็เหลือเพียงฮ่องเต้และองครักษ์ของเขาที่ยังอยู่

“หลานเยาเยา เจ้าทำให้ข้าอยู่เป็นสุขไม่ได้ ข้าก็จะทำให้เจ้าไม่ได้ตายดี”

ยังไงทุกคนก็ได้รู้ความลับของนางหมดแล้ว จะเผยหรือไม่เผยโฉมหน้าที่แท้จริงนั้นไม่สำคัญอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น ตำแหน่งฮองเฮาของนางก็ไม่ได้มั่นคงอาจจะรักษาไว้ไม่ได้แล้ว ตอนนี้สิ่งที่สำคัญคือฆ่าหลานเยาเยา

ฆ่าคนที่ทำให้ทุกอย่างของนางพังทลายลง!

ในดวงตาของฮองเฮาเต็มไปด้วยแรงแห่งความอาฆาตแค้น หากว่าได้ปลดปล่อยออกมา ก็จะเหมือนกับภูเขาที่ระเบิดอย่างรุนแรง

“สร้างเวรกรรมกันเองให้มีชีวิตต่อไปไม่ได้!”

หลานเยาเยาค่อยๆเหลือบมองฮองเฮา ดวงตาฉายแววความดุดันออกมาเล็กน้อย

ถ้าหากฮองเฮาไม่คิดแต่จะฆ่านางให้ตาย นางจะไม่ต้องคอยตอบโต้? ก็จะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างในวันนี้ขึ้น

ว่าแล้ว!

หลานเยาเยาก็หยิบมีดต่อสู้ภาคสนามออกมาจากแขนเสื้อ

เพียงแต่นางยังไม่ทันจะได้ลงมือ มือข้างที่ถือมีดต่อสู้ภาคสนามข้างนั้น ก็ถูกฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งจับไว้

หลานเยาเยาหันไปดู ก็มองเห็นเย่แจ๋หยิ่งที่ไม่รู้ว่าขึ้นไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเพียงแค่จ้องมองนาง จากนั้นก็ดึงนางมานั่งที่เก้าอี้ตัวข้างๆ

เอ่อ……

เขาจะทำอะไร?

เขาถือมีดต่อสู้ภาคสนามเอาไว้ แต่ก็ไม่ได้พุ่งเข้าไปต่อสู้กับฮองเฮา เพียงแค่เตรียมไว้เพื่อป้องกันเท่านั้น

ช่างเถอะ!

ยังไงฮ่องเต้ก็อยู่ใกล้ฮองเฮามากกว่า อีกทั้งข้างๆเขาก็ยังมีองครักษ์มากมาย เย่แจ๋หยิ่งคงคิดจะให้ฮ่องเต้เป็นผู้เริ่มก่อน!

ตามที่คาดไว้

“ฮองเฮา ที่พระชายาเย่พูดมาเป็นความจริงหรือไม่? หรือว่านี่คือรูปโฉมที่แท้จริงของเจ้า?” สำหรับเรื่องนี้ ฮ่องเต้คิดว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ

คนที่อยู่ข้างเขานอนหมองเคียงกันมาตลอดสิบกว่าปีเป็นมีรูปร่างเหมือนปีศาจไปได้เช่นไร? อีกทั้งเขายังไม่เคยสังเกตเห็นอะไรมาก่อนเลยสักน้อย……

“ฮ่าฮ่าฮ่า……”

เมื่อได้ยินที่ฮ่องเต้พูด ฮองเฮาก็มองไปทางเขา และก็หัวเราะด้วยเสียงอันดัง แม้ว่าจะเป็นเสียงหัวเราะที่บ้าคลั่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แต่กลับเผยได้ถึงความโศกเศร้าอย่างที่สุด

“ใช่แล้วจะเป็นเช่นไรเพคะ? ไม่ใช้แล้วจะเป็นเช่นไรเพคะ? วังหลังของท่านมีสาวงามมากมายนับไม่ถ้วน พวกนางได้ความรักความเอ็นดูอยู่ไม่ขาด แต่ท่านเคยมองข้าที่เป็นภรรยาอย่างถูกต้องเลยบ้างหรือไม่?”

หลังจากที่ตำแหน่งฮ่องเต้ของเขามั่งคง

เขาก็มาที่ตำหนักของนางน้อยลงเรื่อยๆ แม้ว่าจะมาเพียงครั้งสองครั้ง แต่ก็กลับรีบร้อนจากไปทุกครั้ง

เหอะเหอะเหอะ……

ยังไงเรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว

นางไม่สามารถหลบหนีออกไปได้ และนางก็เห็นได้ถึงความแค้นเคืองจากในดวงตาของฮ่องเต้

ในใจเจ็บปวดอย่างที่สุด!

ฮองเฮาเลื่อนสายตาไปมองที่ร่างของหลานเยาเยา แววตาแสดงออกถึงความเกลียดชัง

“สู้กันอย่างมากก็แค่ให้ตายกันไปข้างหนึ่ง!”

ยังไงซะวันนี้นางก็จะต้องฆ่าหลานเยาเยาให้ได้ หลานเยาเยาไม่ตาย นางตายไปก็ไม่สงบสุข

พูดจบ

นางก็พุ่งใส่หลานเยาเยาทันที แต่ทว่ามีเย่แจ๋หยิ่งอยู่ ฮองเฮาจะสามารถทำสำเร็จได้เช่นไร? แต่ว่า เย่แจ๋หยิ่งก็ไม่ได้ลงมือใดใด เพียงแค่เอามือไปจับมือน้อยๆของหลานเยาเยาเบาๆ

ข้างกายฮ่องเต้มีองครักษ์มากมาย ในเวลานี้ เขาไม่สามารถที่จะอยู่เฉยๆได้

ดังนั้นจึงทำได้เพียงสั่งให้พวกองครักษ์จับกุมตัวฮองเฮา

มีองครักษ์มาหยุดยั้ง ฮองเฮาจึงไม่สามารถเข้าใกล้หลานเยาเยาได้ ความเกลียดแค้นในใจก็ยิ่งระอุมากขึ้น จึงใช้เล็บแทงเข้าไปที่หน้าออกขององครักษ์ทีละคน

ฮ่องเต้เห็นดังนั้น จิตใจจึงบังเกิดความหวาดผวา!

มองดูองครักษ์เหล่านั้นในตำหนักที่ค่อยๆเหลือน้อยลงไปเรื่อยๆ ฮองเฮาที่กำลังฆ่าอย่างบ้าคลั่ง ค่อยๆใกล้เข้ามาหาเขาเรื่อยๆ

เมื่อไม่มีทางเลือก ฮ่องเต้จึงเป็นต้องให้องครักษ์ลับข้างกายปรากฏตัวออกมา

ในฐานะพระราชาแห่งบ้านเมือง ไม่มีองครักษ์ลับฝีมือดีอยู่ข้างกาย งั้นจะยังอยู่ได้เช่นไร?

ในไม่ช้าฮองเฮาก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่นางไม่ยอม จึงได้เอายาเม็ดออกมาจะตรงเอวแล้วใส่เข้าปากไป

ไม่ช้า นางก็เปลี่ยนไปเป็นคนที่ดูโหดเหี้ยมมากกว่าเดิม

ใบหน้าที่ซีดเผือด เส้นเลือดลมปราณแต่ละเส้นในร่างกายพองโต ราวกับว่าจะทะลุผิวหนังออกมาดูแล้วน่ากลัว ผิวพรรณที่เหมือนกับขาดน้ำอย่างกะทันหัน แห้งผากเหี่ยวย่นขึ้นมา

และเส้นผมที่สวยงามสีดำชวนมองของนาง ก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นสีขาวซีด……

ผ่านไปครู่หนึ่ง!

ฮองเฮาได้กลายไปเป็นคนแก่ๆ แต่เล็บของนางยิ่งดูแหลมคมน่ากลัว

หลานเยาเยาเห็นดังนั้น ใช้วิธีลับไม่ดี

“นางใช้ยาพิษที่ทำให้กำลังภายในเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นเท่าตัว”

“ร้ายกาจขนาดนั้นเลยหรือ?” เย่แจ๋หยิ่งถาม

“ร้ายกาจแน่นอน นางอาจจะสามารถฆ่าพวกเราทั้งหมดได้เลย”

ยาพิษชนิดนี้ออกฤทธิ์รุนแรงมาก

แต่ก็เป็นอันตรายถึงชีวิตเช่นกัน เมื่อยาหมดฤทธิ์ ลมปราณของคนก็จะแตกเป็นชิ้นๆ เลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดแล้วก็ตาย

ดังนั้น!

ฮองเฮาคิดที่สู้กันจนให้ตายไปข้างหนึ่งจริงๆ

ได้ยินดังนั้น เย่แจ๋หยิ่งขมวดคิ้ว มองเห็นฮองเฮาฆ่าองครักษ์ลับไปมากมายภายในเสี้ยววินาที

แววตาดูเคร่งเครียดไปในทันที ครู่ต่อมาก็หายตัวไป

เมื่อเห็นเขาปรากฏตัวอีกครั้ง ก็ไปอยู่ด้านหน้าของฮองเฮาแล้ว ใช้เพียงฝ่ามือเดียวก็โจมตีฮองเฮากระเด็นไป จากนั้นฮองเฮาก็ไม่ได้ขยับอีกเลย

เย่แจ๋หยิ่งหยิบผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมออกมาเช็ดมือของตัวเอง จากนั้นก็หันกลับไปมองนาง

“นี่หรือที่เจ้าบอกว่าร้ายกาจมาก?”

“……” หลานเยาเยามุมปากกระตุกเล็กน้อย

เขายังเป็นคนอยู่รึเปล่า?

แค่ฝ่ามือเดียวก็ซัดคนที่เพิ่งกินยาเพิ่งกำลังภายในเข้าไปซะหมอบเลย วิทยายุทธของเย่แจ๋หยิ่งสูงบรรลุถึงขั้นไหนกันแน่?

ฮ่องเต้ที่ไปหลบอยู่ไกลๆก่อนหน้านี้ก็ตกตะลึง

คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธของเขาจะถึงขั้นนี้แล้ว

ถึงขั้นบรรลุ ดูท่าแล้วคิดจะกำจัดเขา ก็คงจะรอช้าไม่ได้อีกแล้ว

หลานเยาเยารอให้ฮองเฮาหยุดหายใจแล้วจึงออกมา เพิ่งจะเดินออกจากตำหนักของไทเฮา ก็มีคนมาแจ้งเรื่อง

ไทเฮาฟื้นคืนสติแล้ว……

ข่าวที่มาอย่างกะทันหันนี้ทำให้หลานเยาเยารู้สึกประหลาดใจ แล้วก็รีบวิ่งกลับเข้าไปในตำหนักไทเฮาทันที

ไทเฮาที่เพิ่งจะฟื้น ยังดูไม่ค่อยจะมีชีวิตชีวาดีนัก

เมื่อได้ยินเรื่องของฮองเฮา ก็เกิดพิโรธหนักขึ้นมาทันที และให้ฮ่องเต้รีบหาพระราชธิดาจาวหยางให้พบโดยเร็ว

หากว่าหาพระราชธิดาจาวหยางเจอในพระราชวัง เช่นนั้นบทสนทนาของนางกับฮองเฮา จะยิ่งทำให้คนสงสัย ซึ่งนี่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตายของฮองเฮา แต่เกี่ยวข้องกับความจริงของเหตุการณ์

เย่แจ๋หยิ่งอยู่ที่ตำหนักไม่นานนัก ก็เดินจากไป ไทเฮาที่อารมณ์ไม่ค่อยจะดีอยู่แล้วนั้น ตอนนี้เบาะแสของพระราชธิดาจาวหยางก็ยังไม่กระจ่าง ยิ่งทำให้อารมณ์ไม่ดีขึ้นไปอีก

ดังนั้น!

เขาจึงอยู่เพียงแป๊บเดียว แล้วก็ออกไป

มีเพียงหลานเยาเยาที่อยู่เป็นเพื่อนไทเฮา

แต่ว่า พวกนางสนทนากันแต่เรื่องที่เป็นทางการไม่กี่คำ ก็ไม่ได้คุยอะไรกันต่ออีก

อยู่ไม่ไกลจากไทเฮา หลานเยาเยาขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ในใจมีความเป็นห่วง

พระราชวังเป็นของฮ่องเต้ คนที่สั่งให้ไปค้นหาพระราชธิดาจาวหยางพวกนั้น ก็เป็นองครักษ์ที่ลาดตระเวนในพระราชวังอยู่บ่อยๆ แล้วจะมีบริเวณไหนของพระราชวังที่พวกเข้าจะไม่คุ้นเคย?

ฮัวหยู่อันก็ไม่ได้คุ้นเคยกับพระราชวัง นางจะเอาคนไปซ่อนไว้ที่ไหน?

เวลาค่อยเลื่อนผ่านไป ไทเฮาเสวยโจ๊กไปเล็กน้อย แล้วก็นั่งบนเตียงอยู่เงียบๆ จนองครักษ์เข้ามาแจ้งข่าว ว่ายังหาพระราชธิดาจาวหยางไม่พบ นางจึงได้กลับลงไปนอนบนเตียง

แต่ก่อนที่นางจะปิดตาลง ก็พูดออกมาหนึ่งคำ “น่าเสียดาย!”

เสียดายอะไร?

คำพูดนี้ก็ไทเฮาทำให้หลานเยาเยารู้สึกไม่สบายใจ……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset