หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – ตอนที่ 679 สงครามใหญ่

พื้นด้านล่างมีทางลับ และจัดวางท่อเหล็กยาวๆแล้ว ด้านในท่อเหล็กคือน้ำมันก๊าด หากว่าไม่เดาผิด ทิศทางที่ท่อเหล็กทะลุไปก็คือร่องลึกดั่งร่องที่ขุดเพื่อป้องกันข้าศึกพอดี

เหมือนดั่งหลานเยาเยาคาดการณ์ไว้

ท่อเหล็กใต้พื้นเชื่อมกับร่องลึกจริงๆ เวลานี้เปลวไฟได้ไปถึงร่องลึกด้วยความเร็วเป็นที่สุด ไฟขนาดใหญ่ลุกโชนในพริบตา ทำให้คนจากนอกแผ่นดินที่ตกลงไปในนั้นติดไฟแล้ว

แต่ละคนเหมือนดั่งลูกบอลไฟที่ลุกโชน ดินรนอย่างรุนแรงในร่องลึก

และเพลิงขนาดใหญ่ก็ไม่ได้จบลงเพราะเหตุนี้ แต่โหมกระหน่ำไปตามด้านซ้ายขวาทั้งสองด้าน

กำแพงไฟเส้นหนึ่ง เหมือนดั่งงูไฟที่พันล้อมบนร่างของคนจากนอกแผ่นดินเช่นนั้น เหมือนดั่งถังหูลู่ที่

ในเหล่าพลทหารที่อยู่ด้านหลังของอ๋องเย่ ก็มีพลทหารของประเทศเชียนหลิง และก็มีพลทหารห้าหกหมื่นนายที่เคยถูกหลานเยาเยาวางยาพิษจับกุมทั้งเป็น

เรื่องในอดีตปรากฏขึ้นตรงหน้าอย่างชัดเจน

ค่ายกลกำแพงไฟ ค่ายกลสามมีด ค่ายกลด้ายเงิน ทุกค่ายกลทำให้คนได้ยินก็ขวัญผวา

อดีตพวกเขาหวาดกลัวต่อสิ่งนี้เป็นที่สุด เหมือนดั่งอ๋องเย่เอาวิธีการที่เหมือนกันมาใช้อีกครั้ง เพียงแค่เปลี่ยนวิธีการอย่างหนึ่งมาใช้น้ำมันก๊าด เป้าหมายที่แสดงออกมาเปลี่ยนเป็นคนจากนอกแผ่นดิน ให้ตายเถอะนึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะรู้สึกว่าการกระทำนี้ล้ำเลิศอย่างไร้ที่ติ…….

ดั่งเสียงฟ้าร้องที่ครวญครางดังสะเทือนเลื่อนลั่นแผ่นดิน แต่กับไม่เหมือนเมื่อก่อนเช่นนั้น สามารถทำให้ทุกคนตกใจได้

ผู้บัญชาการทหารของคนจากนอกแผ่นดินหรี่ดวงตาทั้งสองข้างลงอีกครั้ง

เหมือนจะรู้แล้วว่ามนุษย์กลุ่มเล็กๆกลุ่มนี้ไม่ธรรมดา อีกทั้งมีการเตรียมพร้อมมา

แต่ว่า!

ก็ไม่ได้สนใจมากนัก

อย่างไรเสียกำแพงไฟชั้นหนึ่งก็ไม่มีทางที่จะหยุดยั้งการตัดสินใจบุกเข้าโจมตีแผ่นดินใหญ่ผืนนี้ของพวกเขาได้

แน่นอน!

เย่แจ๋หยิ่งก็ไม่ได้ตั้งความหวังว่ากำแพงไฟชั้นหนึ่งจะสามารถทำให้ตัดขาดกับคนจากนอกแผ่นดินที่อยู่บนชายฝั่งได้ แต่สามารถฆ่าความกล้าหาญฮึกเหิมของคนจากนอกแผ่นดินได้หน่อย และเพิ่มขวัญกำลังใจพลทหารม้าฝั่งของตัวเอง

ขวัญกำลังทหารสิ่งของชนิดนี้ คือจิตวิญญาณของความหวังและอุดมการณ์ชนิดหนึ่ง บางครั้งสามารถระเบิดศักยภาพออกมาได้ พลิกเปลี่ยนสถานการณ์

การแสดงอำนาจนี้ ทำให้ขวัญกำลังใจทหารพุ่งสูงขึ้นอย่างฉับพลันดังที่คาดไว้

เมื่อเผาน้ำมันก๊าดนี้ เพียงพอที่จะเผาไหม้ได้นานครึ่งวัน สองฝั่งยังคงคุมเชิง

รอจนน้ำมันก๊าดหมดไป คนจากนอกแผ่นดินพ่ายแพ้แล้วก็กลับมาใหม่ เมื่อข้ามร่องลึกโจมตีมาอีกครั้ง

การป้องกันชั้นที่สองปรากฏขึ้นแล้ว

แอบซ่อนไว้ด้านใต้พื้นดินเหมือนกัน เพียงแค่ครั้งนี้ไม่มีท่อเหล็กที่ฝังไว้ลึกๆ เพียงแค่ตื้นๆหนึ่งชั้น ทันทีที่เท้าของคนจากนอกแผ่นดินเหยียบลงไป ตะปูเหล็กที่แหลมคมไร้ที่เปรียบก็ทะลุหลังเท้าขึ้นมาในพริบตา ยอดปลายแหลมยังปรากฏสีเขียวคล้ำอีกด้วย

เห็นได้ชัดมาก!

ตะปูเหล็กเคยแช่ในยาพิษรุนแรงมาก่อน ยาน้ำชนิดนั้นออกฤทธิ์เร็วเป็นที่สุด แม้ว่าคนจากนอกแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่แข็งแกร่งประเภทนี้ ก็สามารถจบชีวิตในเวลาชั่วพริบตาได้

คนจากนอกแผ่นดินก็ไม่ได้โง่

หลังจากที่ล้มลงไปกลุ่มหนึ่ง

คนจากนอกแผ่นดินที่สวมชุดเกราะสีเงินรีบเปล่งเสียงดั่งฟ้าร้องทันที คนจากนอกแผ่นดินที่เข้าโจมตีรีบใช้มีดคมในมือ ทุบตะปูชั้นหนึ่งที่อยู่บนพื้นทิ้ง เช่นนี้ก็ลดปริมาณการตายลงไปได้อย่างมากมาย

เวลานี้!

หลานเยาเยามองไปทางเย่แจ๋หยิ่ง อดที่จะถามไม่ได้:

“ยังมีหลุมพรางอีกไหม?”

แม้ว่าจะตัดกำลังทหารสว่นหนึ่งของคนจากนอกแผ่นดินแล้ว แต่กำลังทหารของคนจากนอกแผ่นดิน ยังผุดขึ้นมาจากในทะเลไม่หยุด

แต่ว่า!

ภายในเวลาอันสั้นเช่นนี้ เย่แจ๋หยิ่งก็ทำการป้องกันได้สองชั้นแล้ว ก็ถึงขีดจำกัดของการจัดการพลทหารและตั้งค่ายกลแล้ว

หากว่ายังมีการป้องกันอีกชั้น เช่นนั้นก็เรียกได้ว่าขัดต่อสวรรค์แล้ว

ต่อสิ่งนี้ หลานเยาเยาไม่ได้โอบความหวังมากมายนัก เพียงแค่ถามไปงั้นๆเท่านั้น

แต่ทว่า…….

เย่แจ๋หยิ่งกลับพยักหน้าเล็กน้อย

“ชั้นสุดท้ายนับไม่ได้ว่าเป็นการป้องกัน แต่มีประโยชน์ต่อฝั่งของเราอย่างแน่นอน”

“หืม?”

หลานเยาเยาสงสัยเล็กน้อย มองไปทางเขาอย่างอดไม่ได้ เริ่มสังเกตอย่างละเอียด

ตรงที่หลุมพรางก่อนหน้านี้ มองดูอย่างละเอียดยังสามารถมองร่องรอยออกเล็กน้อย

และตอนนี้ ระยะห่างกันไกลของคนจากนอกแผ่นดินกับพวกเขานั้น นางก็มองความแปลกประหลาดไม่ออกแม้แต่น้อย

หรือว่าการป้องกันครั้งที่สาม ไม่ได้ติดตั้งอยู่ใต้พื้นดิน?

แต่ที่นี่ก็เหมือนดั่งทะเลทรายเช่นนั้น รอบๆไม่มีต้นไม้พุ่มไม้ใดๆ อย่างเดียวที่สามารถติดตั้งการป้องกันได้มีเพียงพื้นดินอย่างเดียวแล้ว

อาจเพราะมองความสงสัยของนางออก

เสียงที่อ่อนโยนแฝงไปด้วยความดึงดูดของเย่แจ๋หยิ่งค่อยๆดังมา:

“ไม่ได้อยู่บนพื้น”

ยังไม่รอให้หลานเยาเยาถามว่าอยู่ที่ไหน เย่แจ๋หยิ่งก็พูดออกมาก่อนแล้ว

“อยู่ในมือของเหล่าพลทหารส่วนหนึ่ง”

เมื่อคำพูดนี้ออกไป!

หลานเยาเยาเข้าใจในพริบตาแล้ว

พลทหารม้าที่รวมพลทั้งสองข้าง ก็ไม่ใช่แสนสองแสนนายน้อยๆขนาดนั้น

พลทหารมาที่อยู่จุดนี้ เป็นถึงกองกำลังทหารที่เกรียงไกรอาวุธพร้อมของประเทศใหญ่และประเทศเล็กแต่ละประเทศรวมตัวเข้าด้วยกัน คนจำนวนมาก ไม่ใช่เพียงแค่ไม่กี่ล้าน แทบจะมองไปก็ไม่เห็นที่สิ้นสุด

เพียงมีหัวคนที่นับไม่ถ้วน และเว้นระยะห่างช่วงหนึ่งจัดวางอาวุธโบราณแต่ละเครื่อง

พลทหารม้ารวมตัวกันเป็นคลื่นลูกใหญ่เพียงนี้ นางเคยเห็นเพียงครั้งหนึ่งในยุคแรกเท่านั้น และเป็นสงครามครั้งที่น่าเวทนาอย่างยิ่งที่มีมาตั้งแต่ประวัติศาสตร์ของแผ่นดินใหญ่ผืนนี้

หากว่าเย่แจ๋หยิ่งต้องการให้พลทหารส่วนหนึ่งถือสิ่งของไว้ในมือ ก็จำเป็นต้องแบ่งกระจายกันถือไว้

เพราะว่า!

นางเดาได้แล้ว ชั้นที่สามแนวป้องกันที่ไม่นับว่าเป็นแนวป้องกัน ก็คือค่ายกลหมอกควัน

เพียงต้องการให้คนจากนอกแผ่นดินพุ่งเข้ามาในขบวนกองทัพ ทุกคนก็ปล่อยหมอกควันออกมา ทำให้คนจากนอกแผ่นดินตกอยู่ในสภาพศัตรูอยู่ในที่มืดเราอยู่ในที่สว่าง

ทำการซุ่มโจมตี ทำการอย่างลับๆเหมาะสมเป็นที่สุด

วิธีการนี้หลานเยาเยาทดลองหลายครั้งแล้วก็ไม่เคยพลาด

คิดไม่ถึง เย่แจ๋หยิ่งจะวางแผนใช้บนสนามสงครามการต่อสู้กับคนจากนอกแผ่นดิน เรียกได้ว่ากล้าหาญและเหนือความคาดหมาย

“ความจริงนับได้ว่าเป็นแนวป้องกันชั้นหนึ่ง”

ดวงตาทั้งคู่ของทั้งสองประสานกัน ในดวงตาไม่ได้มียิ้มต่อกัน มีเพียงพยักหน้าเบาๆ รู้ใจกันและกัน

คนจากนอกแผ่นดินได้ทะลุแนวป้องกันชั้นที่สองอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากที่ทะลุแนวป้องกันชั้นที่สองแล้ว ความเร็วของพวกเขาก็ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

เพราะว่าต้องการพุ่งไปถึงด้านหน้าของทหารม้ากลุ่มใหญ่ๆที่อยู่ด้านหลังเย่แจ๋หยิ่ง ยังมีระยะห่างพอประมาณ

ชั้นแรกแนวป้องกันกำแพงไฟ และชั้นที่สองแนวป้องกันตะปูเหล็กพิษฉับพลัน ทำให้คนจากนอกแผ่นดินทั้งหมดมีความกลัว

ดังนั้นพวกเขาช้าลงแล้ว ก็คือกลัวว่าชั้นที่สามจะสร้างการบาดเจ็บล้มตายให้พวกเขามากเกินไปอีก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง!

ยังไม่ได้เข้าใกล้มนุษย์ที่อ่อนแอสักคน พวกเขาก็เสียหายไปมากขนาดนั้นแล้ว ขวัญกำลังใจทหารลดลงในพริบตา คนจากนอกแผ่นดินล้วนอดไม่ได้ที่จะสงสัยเล็กน้อยว่า มนุษย์ที่ตัวเล็กอ่อนแอความเป็นจริงก็ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น

นี่สำหรับคนจากนอกแผ่นดินแล้ว เป็นความอับอายอย่างใหญ่หลวงประเภทหนึ่ง!

แต่ทว่า!

ลดความเร็วลง หลังจากที่แทบจะเดินไปข้างหน้าได้ระยะหนึ่ง สังเกตสุดๆว่าใต้เท้าจะปรากฏหลุมพรางอะไรขึ้นมาอย่างกะทันหันอีกหรือไม่ แต่ใกล้แล้วใกล้แล้ว กลับพบว่าไม่มีชั้นที่สามโดยสิ้นเชิง

คนจากนอกแผ่นดินโมโหเดือดดาลอย่างมาก

เสียงฟ้าร้องดังลั่นเสียงหนึ่ง คนจากนอกแผ่นดินก็พุ่งเข้ามา

ระยะใกล้เพียงพอแล้ว

เย่แจ๋หยิ่งออกคำสั่ง อาวุธโบราณขนาดใหญ่ถึงเวลาใช้การแล้ว

“ปัง!”

“ปัง!”

“ปัง!”

“ปังปังปัง…….”

แต่ละเสียงดังสนั่นลั่นหู เทียบกับเสียงฟ้าร้องของคนจากนอกแผ่นดิน เหนือกว่าโดยสิ้นเชิง

มีสิ่งของตกลงข้างกายของคนจากนอกแผ่นดินที่พุ่งเข้ามา ระเบิดออกเป็นหลุมขนาดใหญ่หลุมหนึ่งทันที การสั่นสะเทือนและการโจมตีที่ดุเดือด สะเทือนให้คนจากนอกแผ่นดินที่อยู่โดยรอบๆกระเด็นลอยออกไปไร้ความสามารถในการทำศึกโดยตรงในชั่วพริบตา

ที่อยู่ใกล้ ระเบิดจนแขนขาขาดในทันที มีบ้างที่ตกลงบนตัวของคนจากนอกแผ่นดินโดยตรง กลายเป็นแอ่งโคลนเนื้อในพริบตา แยกกระจายอยู่บนพื้น ประกอบก็ประกอบเป็นรูปร่างเดิมไม่ได้ ก็ตายไปแล้วหนึ่งชีวิต

ผู้บัญชาการทหารของคนจากนอกแผ่นดินตกตะลึงแล้ว!

เขาคิดไม่ถึงว่ายังมีอาวุธที่มีพลังสังหารทำให้บาดเจ็บเช่นนี้ด้วย พาหนะใต้ร่างล้วนหวาดผวาถดถอยไปด้านหลังแล้ว ยังเป็นเขาดึงโซ่เหล็กไว้ ถึงทำให้พาหนะสงบลง

แม้ว่าเป็นเช่นนี้

แต่อาวุธโบราณก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ทุกอย่าง ไม่สามารถสังหารทำให้คนจากนอกแผ่นดินที่พุ่งเข้าไปตายทั้งหมดได้

เพียงต้องการให้มีคนจากนอกแผ่นดินผู้หนึ่งพุ่งมาถึงด้านหน้าของพวกเขา ก็จะมีคนที่สอง คนที่สาม จากเวลาที่เคลื่อนไปก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ

บรรดาทหารม้าทุ่มเทแรงการแรงใจต่อต้าน

ตามการออกคำสั่งเสียงสูงของเย่แจ๋หยิ่ง: “หมอกควัน!”

ในไม่ช้า หมอกควันสีขาวไร้กลิ่นที่หนาแน่น ดั่งเช่นเมฆทึบชั้นหนาๆ หนาแน่นอย่างรวดเร็ว คล้ายๆว่าทหารม้าจะขยายออกหลบซ่อนขึ้นมาอย่างไร้ขีดกำจัด พร้อมกับการหลบซ่อน ยังมีคนจากนอกแผ่นดินพุ่งเข้าในกลุ่มคน

มีหมอกควันปกคลุม

คนจากนอกแผ่นดินต่อสู้ขึ้นมาก็ยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เช่นนั้นก็ง่ายกว่าที่คิดไว้มาก

หมอกควันยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ค่อยๆกระจายไปโดยรอบ…….

หนาแน่นจนถึงระดับที่ยื่นมือออกไปแทบจะมองไม่เห็นทั้งห้านิ้ว มีเพียงอาวุธโบราณยิงปืนใหญ่ถล่มพริบตานั้น แสงสว่างส่องทะลุหมอกควันเล็กน้อย

สิบห้านาทีผ่านไปแล้ว…….

หมอกควันปกคลุมยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ การต่อสู้รอบๆก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ

หนึ่งชั่วยามผ่านไปแล้ว……

การต่อสู้ยังคงดุเดือดเป็นพิเศษ แทบจะไม่มีเค้าลางที่จะหยุดลง

ครึ่งวันผ่านไปแล้ว หมอกควันเริ่มจางลงมากแล้ว แต่การต่อสู้ก็ยังไม่หยุด เพียงแค่ระดับที่สามารถมองเห็นได้ในหมอกควัน จากเผชิญหน้ากันต่อหน้าจนไกลไปได้สองสามเมตร ทุกที่สามารถเห็นศพน้อยใหญ่ได้ ร่างกายที่น่าเวทนาแขนขาขาด ศพขวางอยู่ทุกที่ เลือดที่เข้มข้นไหลนองออกมา สามารถรวมกันเป็นแม่น้ำ เหมือนดั่งนรกที่น่ากลัวบนโลก

สงครามการต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างสมบูรณ์

สงครามนี้สามารถตัดสินแพ้ชนะได้ แต่เวลาของสงครามครั้งนี้นานเกินไปแล้ว

ต่อสู้กันต่อเนื่องสิบกว่าวัน

เย่แจ๋หยิ่งทางนี้ เพียงแค่ยังมีชีวิตอยู่ กลุ่มหนึ่งถอยไปพักผ่อนเพิ่มพลัง อีกกลุ่มก็ขึ้นไปรับต่อ เหมือนดั่งสงครามล้อรถเช่นนั้น

แต่คนจากนอกแผ่นดินไม่เหมือนกัน

พวกเขาก็ต่อสู้โดยตลอด ด้านหน้าทั้งหมดตายหมดแล้ว ด้านหลังรีบเพิ่มขึ้นมาทันที แต่ไม่ว่าเป็นการต่อสู้ชนิดไหน ทั้งสองฝั่งล้วนบาดเจ็บล้มตายอย่างสาหัส

หากว่าเป็นในฤดูร้อน

เกรงว่ากลิ่นศพของที่นี่คงตลบไปถึงท้องฟ้านานแล้ว

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset