หวานรักจับหัวใจท่านประธาน – ตอนที่ 521 คุณคือคนที่สลักลึกอยู่ในใจ (9) / ตอนที่ 522 คุณคือคนที่สลักลึกอยู่ในใจ (10)

ตอนที่ 521 คุณคือคนที่สลักลึกอยู่ในใจ (9)

 

 

ถึงหยวนซือจับมือของเธอไว้อย่างแรง แววตานิ่งลึก สายตานั้นส่อแววที่เธอไม่อาจเข้าใจและก็ไม่อยากจะทำความเข้าใจ

 

 

เธออยากจะดึงมือของตัวเองกลับมา แต่ถังหยวนซือจับไว้ไม่ยอมปล่อย

 

 

สีหน้าดูน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ

 

 

กัดฟันกรอดแล้วพูด “ถอนคำพูดเมื่อกี้เดี๋ยวนี้!”

 

 

“ไม่ถอน!” ซ่างซินอยากจะสะบัดแขนออก แต่ว่าถังหยวนซือที่แม้จะดูผอมแต่เรี่ยวแรงกลับมีมากมหาศาล

 

 

การออกแรงของเธอ เมื่อใช้กับเขาก็เหมือนเป็นการสะกิดให้คันรำคาญก็เท่านั้น ไม่มีผลอะไรเลย

 

 

ร่างทั้งร่างของเธอ ถูกเขากดทับอยู่บนโซฟา

 

 

รูปร่างผอมเพรียว แนบชิดไปกับโซฟา ตรงหน้าของเธอคือร่างอันร้อนผ่าวของชายหนุ่ม

 

 

น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจพร้อมเตือนขึ้น “พี่จะพูดอีกรอบ ถอนคำพูดซะ!”

 

 

“ไม่ถอน! ฉัน……อื้อ!”

 

 

ปากของเธอถูกเขาประกบจูบลงมาอย่างรุนแรง

 

 

จูบที่เต็มไปด้วยการลงโทษ ไม่มีความอ่อนโยนเลยแม้แต่นิดเดียว

 

 

ซ่างซินกำลังจะผลักเขาออก แต่ถังหยวนซือกลับพูดออกมาเสียงเย็นเสียก่อน “ไหนบอกว่าไม่รังเกียจที่จะนอนเป็นเพื่อนพี่อีกคืนไง แล้วจะกลัวอะไร”

 

 

“……”

 

 

หญิงสาวแข็งทื่อไปทั้งร่าง

 

 

ราวกับกำลังอาละวาด เธอเงยหน้าสบตาเขา

 

 

สายตาสองคู่มองจ้องกัน ไม่มีใครคิดจะยอมแพ้ใคร

 

 

ท่ามกลางอากาศภายในห้อง บรรยากาศยิ่งผิดปกติขึ้นเรื่อยๆ

 

 

ซ่างซินขยับตัวอย่างรู้สึกอึดอัด อยากจะหนีออกไปจากอ้อมกอดของชายหนุ่ม แต่กลับถูกถังหยวนซืออุ้มขึ้นมาเสียก่อน จากนั้นเขาก็เดินหมุนตัวไปยังเตียงใหญ่

 

 

โยนเธอลงบนเตียง ประกบริมฝีปากตามลงไป

 

 

 ตามด้วยการลงทัณฑ์อย่างงเร่าร้อน…….

 

 

 

 

 

คฤหาสน์ตระกูลอวี๋

 

 

ท่ามกลางความมืดตอนกลางคืน แสงไฟเปิดประดับทุกดวง สว่างไสวราวกับเป็นเวลากลางวัน

 

 

อวี๋เยว่หานพาเหนียนเสี่ยวมู่กลับมาที่บ้าน แล้วก็พาเธอตรงไปที่ห้องหนังสือ

 

 

ผู้ช่วยยืนรออยู่ที่หน้าประตูแล้ว มีผู้ชายวัยกลางวันคนหนึ่งที่เหนียนเสี่ยวมู่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนยืนอยู่กับผู้ช่วยด้วย

 

 

ดวงตาคมกริบคู่หนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยเครา

 

 

ใส่เสื้อคลุมผ้าฝ้ายสีเทาพร้อมด้วยหมวกผ้าฝ้าย ปกปิดตัวเองไว้อย่างมิดชิด

 

 

ทั้งสองคนพอเห็นอวี๋เยว่หาน ก็รีบหันมาทักทาย “คุณชาย!”

 

 

อวี๋เยว่หานไม่ได้เอ่ยพูดอะไร จูงมือเหนียนเสี่ยวมู่ เดินตรงเข้าไปในห้องหนังสือ นั่งลงตรงหน้าโต๊ะหนังสือ จากนั้นก็ดึงเหยียนเสี่ยวมู่ให้มานั่งในอ้อมกอด

 

 

เขามองไปยังผู้ช่วย “หาตัวผู้หญิงคนนั้นเจอแล้วเหรอ”

 

 

ได้ยินคำพูดของเขา เส้นประสาทของเหยียนเสี่ยวมู่ก็ตึงเครียดขึ้นในทันที

 

 

ร้อนรนเหมือนมดที่อยู่บนกระทะร้อนๆ

 

 

ตลอดทาง เธอพยายามหาโอกาสเพื่อที่จะสารภาพกับอวี๋เยว่หาน

 

 

แต่พอเธอเริ่มพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับแม่ของเสี่ยวลิ่วลิ่ว อวี๋เยว่หานก็มักจะคิดว่าเธอกระวนกระวายเพราะอาการหึงหวง แทบไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พูดอะไรเลย

 

 

เอาแต่กอดแต่หอมเธออยู่นั่น

 

 

เธอยังอยากที่จะพูดต่อ แต่ก็เกือบถูกชายหนุ่มกดลงบนรถแล้วทำเรื่องน่าอายแล้ว เขาใช้การกระทำมาพิสูจน์ว่าในใจของเขามีแค่เธอคนเดียว……

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่จึงไม่มีโอกาสที่จะสารภาพความจริงเลย

 

 

ตอนนี้พอได้ยินเขาถามผู้ช่วย ในใจก็กระวนกระวายไม่เป็นสุข

 

 

“หาภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นเจอภาพหนึ่งครับ!” ผู้ช่วยพูด แล้วก็มองไปยังนักสืบประจำตระกูลที่ยืนอยู่ข้างๆ ผู้ชายคนนั้นรีบล้วงภาพถ่ายภาพหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อทันที

 

 

เดินตรงไปด้านหน้า แล้วยื่นมันให้กับอวี๋เยว่หาน

 

 

พอได้ยินว่าพวกเขาหาภาพของตัวเองเจอ เหนียนเสี่ยวมู่ก็เกือบจะหล่นลงจากตักของอวี๋เยว่หานลงไปกองอยู่บนพื้น

 

 

พอสงบนิ่งได้ ก็เห็นเขาส่งภาพให้กับอวี๋เยว่หาน เธอไม่พูดพร่ำทำเพลง ชะโงกศีรษะไปแอบดู

 

 

“กลัวอะไร นั่งดีๆ”

 

 

อวี๋เยว่หานคิดว่าปฏิกิริยาของเธอ เป็นเพราะแคร์การมีตัวตนอยู่ของแม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่ว เขาลูบไปที่ศีรษะของเธอ

 

 

อุ้มเธอให้นั่งดีๆ

 

 

รับภาพถ่ายไปจากมือของนักสืบประจำตระกูล กวาดตามองแวบหนึ่ง แล้วก็ต้องหรี่ตาลง

 

 

มองไม่ออกว่าโมโห หรือไม่ได้โมโห

 

 

“ให้ฉันดูหน่อย” เหยียนเสี่ยวมู่เห็นสีหน้าที่ดูไม่ปกติของเขา จึงดึงรูปภาพเอาไปดู กวาดตามองอย่างรวดเร็ว

 

 

พอเห็นเงาของคนในภาพถ่าย ก็ตะลึงงันไปเช่นกัน!

 

 

 

 

 

  ตอนที่ 522 คุณคือคนที่สลักลึกอยู่ในใจ (10)

 

 

ผู้หญิงในภาพ มีแค่แผ่นหลังปรากฏให้เห็น

 

 

แถมยังเป็นภาพแผ่นหลังที่ดูไม่ชัดเจนอีกด้วย

 

 

ขนาดใบหน้าด้านข้างยังมองไม่เห็นเลย พวกเขารู้ได้อย่างไรกัน ว่านี่คือแม่ของเสี่ยวลิ่วลิ่ว

 

 

เธอเงยหน้าขึ้นอย่างงงๆ แล้วมองไปทางอวี๋เยว่หาน

 

 

ดวงตาสีดำขลับของเขาเคร่งขรึมลงเล็กน้อย “มีแค่ภาพนี้เหรอ”

 

 

“เวลามันผ่านไปนานมากแล้วครับ ตอนที่คุณหนูถูกส่งตัวมาที่บริษัทตระกูลอวี๋ พวกเราก็ให้คนไปปิดพื้นที่การเข้าออกทุกทางในทันทีพร้อมกับสำรวจบริเวณนั้นหมดแล้ว ก็ไม่พบร่องรอยอะไรเลย ภาพถ่ายนี้ เป็นภาพที่เจ้าของโทรศัพท์จะเคลียร์ภาพในโทรศัพท์ของตัวเองแล้วพบเข้าโดยบังเอิญ”

 

 

ผู้ช่วยเดินมาตรงหน้า นิ้วชี้ไปที่ภาพถ่าย จุดที่ดูเบลอที่สุด

 

 

“ผ้าที่ปรากฏอยู่ในภาพนี้ เหมือนกับเสื้อผ้าที่คุณหนูใส่ในวันนั้นมากครับ”

 

 

ถ้าเกิดสามารถพิสูจน์ได้ว่า เด็กผู้หญิงในอ้อมกอดของเธอคือเสี่ยวลิ่วลิ่ว อย่างนั้น ก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่คนๆ นี้จะเป็นแม่ของเสี่ยวลิ่วลิ่ว!

 

 

“สืบต่อไป ในเมื่อมีคนถ่ายภาพตอนที่เธอกำลังออกไปจากบริษัทตระกูลอวี๋ได้ ไม่แน่ว่าอาจจะถ่ายติดภาพอื่นอีก” อวี๋เยว่หานส่งภาพคืนไปให้ผู้ช่วย จากนั้นก็เอ่ยเสียงเย็น

 

 

“ครับ” ผู้ช่วยรับภาพกลับคืนมา แล้วพานักสืบประจำตระกูลเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

 

 

เหตุการณ์ลุ้นระทึก

 

 

เหยียนเสี่ยวมู่หนาวเย็นไปทั้งร่าง เอนซบไปที่อกของชายหนุ่ม

 

 

ไม่ได้ เรื่องนี้ปล่อยไว้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

 

 

ก่อนที่อวี๋เยว่หานจะสืบเจออะไร เธอต้องหาโอกาสเหมาะๆ ในการชิงสารภาพกับเขาก่อน ต้องจัดการโดยเร็ว!

 

 

ประตูห้องหนังสือ ถูกเปิดออกอีกครั้ง

 

 

หน้าประตู ศีรษะทุยเล็กยื่นเข้ามาจากด้านนอก

 

 

เมื่อมองเห็นคนสองคนที่กอดกันอยู่ด้านใน ก็รีบผลักประตูออกกว้าง แล้ววิ่งสาวเท้าเล็กๆ สั้นๆ ของตัวเองไปทางพวกเขา

 

 

“เสี่ยวลิ่วลิ่วก็อยากได้กอดกอด!”

 

 

ก้อนข้าวเหนียวร่างเล็ก วิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเหยียนเสี่ยวมู่ ยื่นแขนกว้างออกมาทางเธอ

 

 

เหยียนเสี่ยวมู่ที่ในใจกำลังหวาดกลัว เมื่อมองเห็นเจ้าตัวน้อยของตัวเอง ก็รีบอุ้มเธอขึ้นมากอดไว้

 

 

ทั้งสามคน อยู่ในท่าที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ

 

 

อวี๋เยว่กอดเธอเอาไว้ ส่วนเธอก็อุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วเอาไว้

 

 

เสี่ยวลิ่วลิ่วพบว่าตัวเองอยู่สูงที่สุด ก็หัวเราะคิกคักออกมาอย่างมีความสุข

 

 

เสียงหัวเราะอ่อนหวานนั้น ทำให้บรรยากาศหนักอึ้งในห้องหนังสือ เปลี่ยนเป็นความชื่นมื่น

 

 

“ซนจริง” อวี๋เยว่หานบีบไปที่แก้มเล็กรูปไข่ของลูกสาว แล้วพูดออกมาอย่างเอ็นดู

 

 

สิ้นคำพูด เหยียนเสี่ยวมู่ก็ใจสั่น

 

 

อุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วไว้ในอ้อมกอดแน่น หมุนตัวกลับไป มองไปทางเขา “คุณรู้สึกไหมว่า ความจริงเสี่ยวลิ่วลิ่วเหมือนฉันมาก”

 

 

“……” อวี๋เยว่หานจ้องไปที่เธอ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

 

 

สายตาจ้องไปยังเธอกับเสี่ยวลิ่วลิ่ว จากนั้นก็มองสลับไปมาอยู่สองสามรอบ

 

 

ริมฝีปากบางค่อยๆ เอ่ยพูด “อือ ซนเหมือนคุณ”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “……”!!

 

 

จะพูดกันดีๆ ได้ไหมนะ

 

 

จุดเด่นบนตัวของเธอ มีแค่ความซนหรือไงกัน

 

 

ไม่ใช่สดใสร่าเริง งดงามใจดีหรือไง!

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ไม่อยากถือสาเอาความกับเขา เพยิดหน้าไปทางเสี่ยวลิ่วลิ่ว “คุณดูดีๆ สิ ดูให้ละเอียด เหมือนมากใช่ไหม”

 

 

“……”

 

 

“ที่ฉันพูดไม่ได้หมายถึงเรื่องหน้าตา หมายถึงรัศมี รัศมีน่ะ คุณรู้จักใช่ไหม” เหยียนเสี่ยวมู่ร้อนใจจนเหงื่อออกเต็มไปหมด

 

 

ผู้ชายตรงหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไร ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรทั้งสิ้น

 

 

ตอนที่เธอใกล้จะหมดความอดทน เขาก็ยื่นมาลูบศีรษะของเธอ เปิดริมฝีปากพูดขึ้นช้าๆ “อย่าพูดในสิ่งที่คุณไม่มีเลย มันดูดีเกินไป”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “……” !!

 

 

อวี๋เยว่หาน ถ้าคุณเป็นแบบนี้คุณจะกลายเป็นโสดได้ง่ายๆ นะ รู้ตัวหรือเปล่า

 

 

ทน!

 

 

เธอต้องอดทนให้ได้!

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่สูดหายใจเข้าลึก “คุณไม่รู้สึกเหรอว่า นิสัยของเสี่ยวลิ่วลิ่วเหมือนฉันมาก คนอื่นต่างก็พูดกันว่าเหมือนถอดแบบฉันออกมาเลย…….”

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

อวี๋เยว่หาน หนุ่มหล่อดีกรีประธานบริษัทอนาคตไกลที่จู่ๆ ก็ค้นพบว่าตัวเองมีลูกโดยไม่รู้ตัวแถมไม่รู้ว่าใครเป็นแม่เด็ก ทั้งผลตรวจดีเอ็นเอก็ดันตรงกับเขาเสียด้วย นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย แม้ว่าจะไม่รู้ที่มาของเด็กน้อยแต่อาจเป็นเพราะสายสัมพันธ์อะไรบางอย่างทำให้เขาตัดสินใจเลี้ยงดูเด็กคนนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งที่ลูกสาวของเขาบาดเจ็บจนบังเอิญได้รับความช่วยเหลือจาก เหนียนเสี่ยวมู่ หลังจากนั้น เสี่ยวลิ่วลิ่ว ก็ติดเธอแจ หญิงสาวอ้างตัวว่าเป็นพยาบาลรับจ้างเขาจึงจ้างเธอไว้ แต่เบื้องหลังของเธอกลับลึกลับและมีความสามารถเกินกว่าพยาบาลทั่วๆ ไป เรื่องนี้เขาจะต้องหาทางพิสูจน์ความจริงให้ได้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset