หวานรักจับหัวใจท่านประธาน – ตอนที่ 331 ผมมารับคุณหลังเลิกงาน / ตอนที่ 332 ผมคิดถึงคุณมาก ซินญอริตาของผม!

ตอนที่ 331 ผมมารับคุณหลังเลิกงาน  

 

 

เพิ่งจะถอนหายใจออกมา อยู่ๆ ก็พบว่าเพื่อนร่วมงานรอบข้างล้อมเข้ามาแล้ว  

 

 

“ผู้จัดการเหนียน ยินดีด้วยนะคะ!”  

 

 

เกิดเสียงดังปัง ลำโพงสายรุ้งระเบิดอยู่เหนือหัวของเธอในทันที  

 

 

เส้นหลากสีลอยอยู่ด้านบนเหมือนสายรุ้ง จนสุดท้ายก็ร่วงลงาใส่ตัวเธอ…  

 

 

“ขอบคุณนะทุกคน รองานจากสตูดิโอของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีเสร็จสิ้น ฉันจะขอเลี้ยงข้าวเพื่อนร่วมงานแผนกนะคะ!”  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ดึงสติกลับมาได้ จึงรีบยืนขึ้น  

 

 

เธอถูกอวี๋เยว่หานยั่วโมโห จนลืมเรื่องที่เธอได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการแผนกไปแล้ว  

 

 

“มีผู้จัดการเหนียนคอยนำพวกเรา งานของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีต้องไม่มีปัญหาแน่!”  

 

 

“ดูงานแถลงข่าวตอนบ่ายว่าจะดังระเบิดแค่ไหนก็รู้แล้ว ครั้งนี้พวกเราเอาชนะคู่แข่งได้โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัวอีกครั้ง พวกเขาต้องกำลังปวดหัวร้องไห้อยู่แน่ๆ!”  

 

 

“…”  

 

 

ทุกคนต่างก็เริ่มพูดหยอกล้อกัน  

 

 

บรรยากาศครึกครื้นมาก  

 

 

อารมณ์คร่ำเคร่งของเหนียนเสี่ยวมู่ก็คลายลงเล็กน้อยเช่นกัน  

 

 

เธอเบี่ยงเบนความสนใจออกจากโทรศัพท์มือถือ ไม่ได้สนใจว่าอวี๋เยว่หานตอบกลับข้อความเธอมาหรือยัง  

 

 

ขณะที่กำลังจะไปรินน้ำให้ตนเอง ก็ได้ยินใครบางคนร้องตกใจจากในแผนก  

 

 

“บริษัทตระกูลฟ่านจะเข้ามาในเมืองเอชแล้ว!”   

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่พลันชะงักฝีเท้า รู้สึกเพียงว่าชื่อนี้คุ้นหูมาก แต่กลับนึกไม่ออกในทันที  

 

 

เป็นเพื่อนร่วมงานสาวในแผนก ที่แหวเสียงแหลมขึ้นมาก่อน  

 

 

“จริงหรือเปล่าเนี่ย ในที่สุดสามีของฉันก็จะย้ายอาณาจักรธุรกิจกลับมาในประเทศแล้วเหรอ”  

 

 

“สามีอะไรของเธอ เมื่อวานเธอยังบอกว่าชีวิตนี้จะรักแต่คุณชายหานอยู่เลย!”  

 

 

“ฟ่านอวี่เป็นสามีน้อยของฉัน ไม่ได้หรือไง”  

 

 

เพื่อนร่วมงานสาวหลายคนที่ตั้งมั่นว่าจะเป็น ‘คุณนายอวี๋’ ต่างก็หยอกล้อกันเล่น  

 

 

ฟ่านอวี่?  

 

 

ใครกัน  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เดินไปข้างหน้าอย่างไม่มีสติ ก่อนจะมองหน้าข่าวต่างประเทศบนคอมพิวเตอร์ครั้งหนึ่ง  

 

 

ข่าวใหม่ที่รายงานทั้งหน้านั้น เป็นการประกาศอย่างเป็นทางการของบริษัทตระกูลฟ่าน ว่าจะขยายการครองตลาดในประเทศเป็นครั้งแรก  

 

 

รูปภาพบนข่าว มีชายหนุ่มที่ดูท่าทางอายุยี่สิบห้า ยี่สิบหกปีอยู่คนหนึ่ง  

 

 

เขาสวมชุดสีขาวทั้งตัว ใบหน้าหล่อเหลา  

 

 

เพียงแค่มองครั้งเดียว รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ทำให้เธออยากยิ้มตอบเขาไปเช่นกัน ราวกับว่ามันซึมซาบเข้าสู่หัวใจของเธอได้อย่างนั้น  

 

 

ดูท่าทางเป็นคนที่อ่อนโยนมาก…  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กำลังจะถามว่าคนคนนี้เป็นใคร ก็ได้ยินเสี่ยวเสี่ยวเรียกเธอเสียก่อน  

 

 

“ผู้จัดการเหนียน มือถือของคุณอยู่ในลิ้นชักหรือเปล่าคะ มีสายเข้า”  

 

 

เมื่อได้ยินว่ามีสายเข้า เธอก็นึกถึงอวี๋เยว่หานในทันที!  

 

 

หญิงสาวกลัวจนตัวสั่น เกือบจะถือแก้วน้ำไม่ไหว  

 

 

ว่าแล้วเธอก็หมุนตัววิ่งกลับไป  

 

 

เธอเปิดลิ้นชักหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างร้อนรน เมื่อได้เห็นสายตาอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนร่วมงานรอบๆ เธอก็ยื่นมือไปทัดผมเข้าที่หลังหูอย่างเก้ๆ กังๆ  

 

 

จากนั้นก็ทำตัวใจเย็นๆ และถือโทรศัพท์มือถือเดินเข้าไปห้องน้ำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  

 

 

หลังจากเข้าไปในห้องน้ำ เธอก็มองดูรอบๆ อย่างมีพิรุธ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีคนอื่น  

 

 

ขณะที่กำลังจะรับสายนั้น เธอพบว่าคนที่โทรศัพท์เข้ามาไม่ใช่อวี๋เยว่หาน แต่เป็นมิสเตอร์ลอมบาร์ดี…  

 

 

และเขาวางสายไปตอนที่เธอกำลังจะรับสาย  

 

 

มุมปากของเหนียนเสี่ยวมู่พลันกระตุกสองครั้ง  

 

 

เมื่อเก็บโทรศัพท์มือถือใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้ว เธอก็ตบหน้าตนเองอย่างแรง  

 

 

เธอต้องถูกวางยาแน่ๆ…  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ใจเย็นลงได้ ถึงจะเดินออกไปข้างนอก คิดจะโทรศัพท์กลับไปหามิสเตอร์ลอมบาร์ดี  

 

 

แต่เธอยังไม่ทันรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เธอพลันเห็นเงาร่างสูงศักดิ์ยืนขึ้นจากที่นั่งของเธอในทันที  

 

 

สองมือของอวี๋เยว่หานล้วงกระเป๋า ค่อยๆ ช้อนสายตาขึ้นมองเธอ  

 

 

“ผมมารับคุณหลังเลิกงาน”  

 

 

 

 

 

ตอนที่ 332 ผมคิดถึงคุณมาก ซินญอริตาของผม!  

 

 

ตอนที่เหนียนเสี่ยวมู่ออกมาจากในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ  

 

 

เพื่อนร่วมงานรอบข้างมองเธอด้วยความประหลาดใจ สายตาก็แปลกประหลาดเช่นดัน  

 

 

ทีแรกเธอคิดว่าเพราะเธอวิ่งไปรับโทรศัพท์ในห้องน้ำ ถึงได้ทำให้ทุกคนอยากรู้อยากเห็น  

 

 

แต่เมื่อเห็นอวี๋เยว่หานปรากฏตัวตรงที่นั่งของเธอ อย่าว่าแต่เพื่อนร่วมงานในแผนกประชาสัมพันธ์เลย แม้แต่เธอเองก็ตกใจจนสะดุ้งเลยทีเดียว!  

 

 

หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ร่างกายของเธอตอบสนองไวกว่าสมองเสียอีก  

 

 

เธอถอยหลังไปสองก้าวอย่างไม่คิด  

 

 

พร้อมกับถอนหายใจออกมา  

 

 

หญิงสาวเบิกตาโพลง สายตาเหมือนกับตอนเห็นผีไม่มีผิด!  

 

 

รับเธอหลังเลิกงานอย่างนั้นเหรอ  

 

 

เขาบ้าไปแล้วหรือเปล่า  

 

 

คำพูดแบบนี้พูดมั่วซั่วได้หรืออย่างไรกัน ที่นี่มีคนอยู่เยอะแยะ แบบนี้ทำลายชื่อนางฟ้าของเธอแล้ว เขาจะรับผิดชอบไหมเนี่ย  

 

 

พวกเขาก็แค่จูบกันครั้งหนึ่ง เดี๋ยวก่อน นั่นไม่เรียกว่าจูบ ริมฝีปากของพวกเขาแค่แตะกันเท่านั้น ทำไมเขาต้องทำตัวเหมือนกับว่าระหว่างพวกเขามีความสัมพันธ์อะไรที่อธิบายไม่ได้ด้วย…  

 

 

ที่สำคัญที่สุด เธอปอดแหกจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว!  

 

 

ทันใดนั้น เธอเห็นอวี๋เยว่หานเลื่อนเก้าอี้ของเธอออก แล้วเดินมาตรงหน้าเธอ  

 

 

เขาหลุบตามองใบหน้าตื่นกลัวของเธอเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยปากอย่างสุขุม  

 

 

“คุณไม่ได้รับสายมิสเตอร์ลอมบาร์ดีเหรอ”  

 

 

“…” เธอพูดได้ไหม ว่าเธอคิดว่าเขาเป็นคนโทรศัพท์มา ทำเอาตกใจจนเกือบทำทันตกลงในชักโครก สุดท้ายโชคดีรักษาโทรศัพท์มือถือเอาไว้ได้ แต่กลับรับสายของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีไม่ทัน  

 

 

“สตูดิโอของเขามีหนอนบ่อนไส้ เกือ[จะทำให้งานครั้งนี้เกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ มิสเตอร์ลอมบาร์ดีเลยมาขอโทษด้วยตัวเอง คุณก็ไปด้วยกันสิ”  

 

 

อวี๋เยว่หานเห็นสีหน้าของเธอทั้งหมด พลางอธิบายอย่างเป็นขั้นเป็นตอน  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!  

 

 

แค่นั้นเหรอ  

 

 

“คะ คุณ ต่อไปนี้คุณ…พูดดีๆ ได้ไหม!”  

 

 

มิสเตอร์ลอมบาร์ดีกับทิมแค่เชิญพวกเขาไปกินข้าว เขาพูดว่ามารับเธอหลังเลิกงานทำไมเนี่ย  

 

 

ถึงเพื่อนร่วมงานในแผนกไม่เข้าใจผิด เธอก็ชิงเข้าใจผิดไปก่อนแล้ว!  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่บ่นอยู่ในใจ ก่อนจะวิ่งสั้นๆ ไปยังที่นั่งของตนเอง เก็บของเล็กน้อย และตามเขาออกจากปผนกประชาสัมพันธ์ไป  

 

 

ก่อนจะเข้าไปในลิฟต์ด้วยกัน  

 

 

ในลิฟต์ค่อนข้างแคบ ซึ่งตอนนี้มีแค่พวกเขาสองคน  

 

 

หญิงสาวกำลังบ่นว่าทำไมครั้งนี้มิสเตอร์ลอมบาร์ดีถึงติดต่ออวี๋เยว่หาน เธอพลันเงยหน้าขึ้น และพบว่าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ กำลังจ้องมองเธออยู่  

 

 

ดวงตาสีดำของเขาเหมือนหมาป่าหิวโหยที่กำลังจ้องเนื้อ!  

 

 

ในหัวของเธอพลันปรากฏภาพของพวกเขาในห้องประชุมก่อนหน้านี้อย่างน่าประหลาด  

 

 

เธอกลืนน้ำลายอย่างกระวนกระวายใจ พลางเขยิบตัวเข้าไปในมุม  

 

 

ขณะที่เตรียมหาเรื่องคุย เพื่อคลายบรรยากาศน่าอึดอัดในตอนนี้นั้น  

 

 

“ติ๊ง” ลิฟต์ถึงแล้ว  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก เธอเร่งชายหนุ่มที่ยืนนิ่งไม่ขยับ “คุณชายหาน ถึงแล้ว!”  

 

 

เดินเร็วสิ  

 

 

เขาไม่เดิน เธอก็ไม่กล้าเดินโดยสิ้นเชิง  

 

 

เธอคิดไปเองว่าถ้าเธอออกจากลิฟต์ก่อนเขา เขาอาจจะกดขอบประตูลิฟต์ไว้ตอนเธอเดินไปถึงประตูลิฟต์ก็ได้…  

 

 

ดีที่ความรู้สึกกลัวแบบนั้นไม่ได้อยู่นาน ผู้ช่วยของอวี๋เยว่หานเดินเข้ามาต้อนรับเสียก่อน  

 

 

“คุณชาย มิสเตอร์ลอมบาร์ดีมาถึงแล้วครับ กำลังรออยู่ที่หน้าประตู”  

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋เยว่หานก็ค่อยๆ ชอนสายตาขึ้น และก้าวเท้าออกจากลิฟต์ไป  

 

 

พวกเขาเพิ่งจะเดินออกจากอาคารของบรษัทตระกูลอวี๋ ประตูรถที่จอดอยู่หน้าประตูก็เปิดออก  

 

 

มิสเตอร์ลอมยาร์ดีสวมชุดสูทสีเทาทั้งตัว พร้อมทั้งใส่เนคไทลายดั้งเดิมด้วย  

 

 

เขาเป็นคนประเภทคุณปู่ มีเคราแพะที่ใต้คาง ทำให้เวลาเขายิ้มขึ้นมาแล้วดูใจดีและมีความสุขอยู่หลายส่วน  

 

 

ทันทีที่เห็นเหนียนเสี่ยวมู่ เขาก็กอดเธอด้วยความรักใคร่ทันที  

 

 

ก่อนจะพูดกับเธอด้วยภาษาอิตาลี “โอ้ ผมคิดถึงคุณมาก ซินญอริตาของผม!”  

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

อวี๋เยว่หาน หนุ่มหล่อดีกรีประธานบริษัทอนาคตไกลที่จู่ๆ ก็ค้นพบว่าตัวเองมีลูกโดยไม่รู้ตัวแถมไม่รู้ว่าใครเป็นแม่เด็ก ทั้งผลตรวจดีเอ็นเอก็ดันตรงกับเขาเสียด้วย นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย แม้ว่าจะไม่รู้ที่มาของเด็กน้อยแต่อาจเป็นเพราะสายสัมพันธ์อะไรบางอย่างทำให้เขาตัดสินใจเลี้ยงดูเด็กคนนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งที่ลูกสาวของเขาบาดเจ็บจนบังเอิญได้รับความช่วยเหลือจาก เหนียนเสี่ยวมู่ หลังจากนั้น เสี่ยวลิ่วลิ่ว ก็ติดเธอแจ หญิงสาวอ้างตัวว่าเป็นพยาบาลรับจ้างเขาจึงจ้างเธอไว้ แต่เบื้องหลังของเธอกลับลึกลับและมีความสามารถเกินกว่าพยาบาลทั่วๆ ไป เรื่องนี้เขาจะต้องหาทางพิสูจน์ความจริงให้ได้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset