หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 105 คืนสู่เรือนน่าหลาน ?

กล่าวถ้อยวาจาทั้งสิ้นออกไปแล้ว ฉินลู่เหยียดกายขึ้นตรงด้วยท่าทีเหินห่าง “ข้ามาวันนี้เพื่อเรียนเชิญท่านตามคำสั่งของฮูหยิน ฮูหยินกล่าวว่าเมื่อครั้งท่านยังเยาวว์วัยได้กระทำความผิดไว้ ฮูหยินจำต้องลงโทษท่านด้วยการขับท่านให้มาอยู่ในเรือนน้อยแยกจากตัวเรือนใหญ่แห่งนี้ การที่คุณหนูต้องมาอยู่ในสถานที่นี้หลายปีแล้วย่อมถือได้ว่าคุณหนูสำนึกผิดแล้ว ดังนั้นฮูหยิน และนายท่านจึงเมตตาให้ข้ามาเรียนเชิญคุณหนูสามกลับไปอยู่ในเรือนใหญ่น่าหลาน”

 

ฉินลู่กล่าวจบมันเชิดหน้าขึ้นเพื่อรอชมหยาดน้ำตาแห่งความปลื้มปีติยินดี รอชมนางคุกเข่าแสดงความซาบซึ้งต่อน้ำใจที่มันมีให้

 

ทุกคนล้วนทราบดีว่า ชีวิตความเป็นอยู่เมื่อได้กลับไปสู่เรือนใหญ่แห่งน่าหลาน กับการจมปลักคุดคู้อยู่ในเรือนโกโรโกโสแห่งนี้ย่อมแตกต่างกันประดุจดั่งสรวงสวรรค์กับผืนพิภพ น่าหลานเกอซีถูกขับออกจากเรือนใหญ่มาแต่ครั้งเยาว์วัย นางมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ยิ่งกว่าทาสรับใช้ ยามนี้ เมื่อมีโอกาสได้กลับคืนสู่เรือนใหญ่ หากนางไม่ตื่นเต้นยินดีก็คงต้องเสียสติวิกลจริตไปแล้วเป็นแน่

 

แม่นมเฉินที่ยืนฟังอยู่ไม่ไกลเปล่งเสียงอุทานออกมาด้วยความปรีดา หยาดน้ำตาแห่งความปีติเอ่อล้นพร้อมน้ำเสียงพึมพำ “คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ ท่านได้ยินไหมเจ้าคะ ? ในที่สุดนายท่านก็มารับตัวคุณหนูกลับเรือนแล้ว ในที่สุดนายท่านก็ยอมรับคุณหนูแล้วนะเจ้าคะ !”

 

แววตาของฉินลู่กลับยิ่งแลดูจองหอง มันเยาะหยันต่อชะตาที่อาภัพของอีกฝ่าย

 

ทั้งน่าหลานเกอซี และนางหญิงชราผู้นี้ล้วนไม่รู้ตัวเลยว่าตนจะได้มีชีวิตสุขราญอยู่ในเรือนใหญ่แห่งน่าหลานได้เยี่ยงไร สมควรกล่าวว่าพวกนางจะได้เผชิญต่อสภาพที่เรียกได้ว่าราวกับต้องตายไร้ที่ฝังเสียมากกว่ากระมัง ถึงตอนนั้น ความเจ็บใจเสียหน้าในวันนี้ของมันจะได้รับการชดใช้

 

ยิ่งคิด พ่อบ้านใหญ่ก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น หากทว่ารั้งรออยู่เนิ่นนาน อาการแห่งความซาบซึ้งใจกลับยังไม่ปรากฏให้ได้ยลเห็น ครั้นเมื่อมันแหงนเงยใบหน้าที่ก้มต่ำขึ้นมา จึงประสานเข้ากับดวงตาที่เหยียดหยันแสดงอาการแดกดันของเกอซีเข้าอย่างเต็มตา

 

เห็นได้ชัดว่านี่คือใบหน้าที่ผอมบางซูบตอบเมื่อครู่ หากทว่ามิรู้เมื่อไรที่แววตาคู่นั้นกลับกลายเป็นนัยน์ตาที่คมกริมเฉียบขาดประดุจคมดาบ ความเย็นเยียบจับจิตที่สามารถดูดกลืนวิญญาณผู้คนแผ่ซ่านผ่านแววตาคู่นั้น

 

ทั่วร่างของมันหนาวยะเยือกสั่นสะท้าน ยังมิทันที่มันจะได้เอ่ยกล่าวสิ่งใด เกอซีกลับเป็นฝ่ายเริ่มเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีเฉื่อยชา “โอ ! มารับข้ากลับเรือนใหญ่แห่งน่าหลานงั้นรึ ? นี่คือคำสั่งของฮูหยินน่าหลานงั้นสิ ?”

 

“ถูกแล้ว……ถูกแล้ว เป็นเช่นนั้น” ถูกจับจ้องด้วยแววตาคมกริบคู่นั้น ภายในใจของฉินลู่หนาวสะท้านกระทั่งน้ำเสียงที่เปล่งออกมายังตะกุกตะกัก “ฮูหยินยินดีหยิบยื่นน้ำใจให้แก่เจ้าแล้ว เจ้าก็ควรน้อมรับแต่โดยดี”

 

“ไม่เร็วจนเกินการ ไม้ช้ากระทั่งสายไป นางเพิ่งจะมาแสดงไมตรีเมตตาต่อข้าตอนนี้กระนั้นหรือ ? หรือนางคิดว่า ข้า ! เกอซี ! เป็นเพียงเด็กสามขวบ ?” เกอซีหัวร่อด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ข้าไม่ใคร่จะแน่ใจนักว่าการกระทำในครานี้ของนางมาจากน้ำใจอารี หรือจิตมุ่งร้ายกันแน่ ?”

 

น้ำเสียงของนางอัดแน่นไปด้วยรังสีสังหาร “น่าเสียดาย หากแค่เพียงเรือนน่าหลานกระจอกหมายจะให้ข้ากลับไป คงต้องรอดูก่อนว่าข้ามีใจอยากจะกลับไปหรือไม่ !”

 

สีหน้าของฉินลู่แปรเปลี่ยนไปทันทีพร้อมคำขู่คำราม “คุณหนูสาม ฮูหยินไว้หน้าเจ้าแล้วจึงยอมให้เจ้ากลับเรือนใหญ่ เจ้ามันช่างไร้ยางอาย เจ้ามันเป็นแค่เพียงนางเด็กเหลือขอชั้นต่ำหน้าทน ! น้ำหน้าอย่างเจ้ายังเคยคุกเข่าอ้อนวอนขออาหารจากพวกเรา หรือเจ้าหลงลืมไปสิ้นแล้ว ? เจ้ายังกล้าคิดเหิมเกริมว่าตนคือคุณหนูแห่งน่าหลานอีกกระนั้นรึ ? ถุย ! อีกไม่นานสกุลน่าหลานก็จะถอนเจ้าออกจากรายชื่อสกุลแล้ว ถึงตอนนั้นข้าจะรอดูว่าเจ้าจะทนมีชีวิตอยู่ได้อีกนานเพียงไร…..”

 

เสียงตะคอกคำรามของฉินลู่ชะงักค้างอยู่ในลำคอ เมื่อร่างของมันถูกยกขึ้นกระทั่งลอยเหนือพื้นด้วยฝ่ามือเพียงข้างเดียวที่รัดรอบลำคอ

 

มันอ้าปากกว้างหอบหายใจ ‘แฮ่ก แฮ่ก’ ใบหน้าแปรเปลี่ยนเกิดสีม่วงแดงเป็นหย่อม ๆ นัยน์ตาที่ตื่นกลัวหวาดผวาระคนแปลกประหลาดใจจับจ้องฝ่ามือที่แลดูบอบบางอ่อนแอของสตรีร่างน้อยตรงหน้าที่ยกร่างทั้งร่างของมันขึ้น

 

เกอซีแย้มยิ้มอ่อนบางให้แก่ฉินลู่ก่อนเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “ไป๋หู่ นายของเจ้ามักจัดการพวกทาสรับใช้ที่ก้าวร้าวกับนายตนเยี่ยงไร ?”

 

ไป๋หู่มองฉินลู่ผู้ถูกเกอซีขย้ำลำคอด้วยหางตาที่เย็นชา ก่อนจะตอบคำที่ทำให้ผู้รับฟังต้องขนลุก “หั่นเป็นพันชิ้นก่อนจะบดขยี้กระดูกให้แหลกเหลวเป็นฝุ่นผง ! อย่าเก็บเจ้าโสโครกคนนี้ไว้ให้สกปรกนัยน์ตาเลย”

 

ฉินลู่เบิ่งตากว้าง มันพยายามตะเกียกตะกายดิ้นรนต่อสู้อย่างสุดกำลังด้วยความหวาดกลัว ปากออกเสียงร้องตะโกนจนแหบแห้ง “เจ้าไม่กล้าหรอก ! ฮูหยิน…..ฮูหยินจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ !”

 

“เรายังไม่รู้เลยว่าผู้ใดจะไม่ปล่อยผู้ใดกันแน่ !” แท่งเข็มเงินไร้เงาปรากฏขึ้นในฝ่ามือของเกอซีราวปาฏิหาริย์ ฉับพลันแท่งเข็มเหล่านั้นถูกซัดทะลวงแทรกเข้าสู่หัวของอีกฝ่าย

 

 

***จบตอน คืนสู่เรือนน่าหลาน ?***

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

ในงานประมูลครั้งมโหฬารแห่งหอรื่นรมย์ สาวน้อยเครื่องอุ่นเตียงชั้นยอดได้ถูกเสนอราคาชนิดสูงเสียดฟ้า ในท่ามกลางความหื่นกระหายต่อสู้เยื้อแย่งราคากันอย่างบ้าคลั่งนั้น ดรุณีน้อยเปิดเปลือกตาทอดส่งผ่านลูกกรงขังสีทอง อายกระแสรังสีอันเย็นยะเยียบจับทรวงที่แผ่ซ่านออกมาจากเนื้อกาย บ่งบอกได้ว่ายามนี้นางไร้สิ้นความหวาดกลัวอีกต่อไป

Options

not work with dark mode
Reset