หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 7 แผ่นป้ายทัณฑ์พิฆาตผนึกตราทาส

เข็มเงินไร้เงาในมือของหญิงสาวพุ่งเสียดอากาศรวดเร็วปานประหนึ่งประกายสายฟ้า มันแทรกผ่านผิวของอารักขาทั้งสี่ตรงเข้าหาจุดรวมพลังก่อกำเนิดกระแสปราณอย่างรวดเร็วแม่นยำและเงียบเชียบ

 

เพลงกระบี่เหินเวหาของเหล่าอารักขาทั้งสี่ชะงักค้างอยู่กลางอากาศ ก่อนจะติดตามมาด้วยเสียงดัง “เคร้ง” พร้อมปลายกระบี่ทั้งสี่ทิ่มถลาลงแผ่นพื้น

 

ความตื่นตะลึงอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าฉาบไปทั่วใบหน้าของพวกมันขณะที่สายตาแห่งความโง่งมต่างจับจ้องไปยังหญิงสาวร่างน้อยผู้เผยรอยยิ้มหยันอันอ่อนบาง

 

สุ้มเสียงของพวกมันคนใดคนหนึ่งร้องเอะอะขึ้น “เหตุใดข้าจึงมิอาจโคจรกระแสปราณได้ ?”

 

“นางปีศาจ เจ้าทำอะไรพวกเรา ! !”

 

เกอซีเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบา ขณะร่างน้อยกระโจนขึ้นสู่อากาศ ฝ่าเท้ายกสูงก่อนจะสะบัดแรงเตะใส่อารักขาทั้งสี่ผู้ไร้สิ้นพลังยุทธ

 

ภายใต้ลำแสงพร่างตาที่ยังคงสาดส่องมากลางเวที สาวน้อยร่างเพรียวบางทอดสายตาที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยันกวาดไปทั่วร่างของเหล่าบุรุษที่ล้มระเนระนาดอยู่ใต้ฝ่าเท้าของตน

 

ผู้ที่กำลังนอนร้องโอดครวญรายล้อมอยู่ที่ปลายเท้านั้นคือเหล่าผู้มีพลังฝีมือในระดับขั้นที่สองปฐมภูมิโลกันตร์  อีกทั้งยังมีจูจงป้าผู้หวาดผวาต่อนางอย่างยิ่งยวดล้มผึ่งหงายสะโพกคราดอยู่กับพื้นเช่นกัน

 

สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าสร้างความตกตะลึงอย่างน่าอัศจรรย์ใจให้แก่บรรดาผู้อยู่ในห้องประมูล เมื่อสาวน้อยผู้บอบบางอ่อนระทวยกลับกลายเป็นนางพญาผู้ทรงอำนาจที่กำลังเพ่งมองดูสิ่งรอบกายดุจดั่งว่านางกำลังพินิจผู้ที่อยู่ใต้อาณานิคมของตน แววตาท่าทีเช่นนี้ทำให้ผู้ที่ได้ยลเห็นต่างพากันสั่นผวาหวาดกลัวยอมสิโรราบ

 

จูจงป้าจ้องมองสตรีร่างบางผู้ยืนตระหง่านไม่ไกลจากจุดที่เขานอนล้มอยู่ด้วยอาการตาค้างสีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เดิมทีเมื่อครั้งที่ถูกสาวน้อยผู้นี้เตะส่งกระเด็นมาไกลเขาก็หยัดกายลุกขึ้นได้แล้ว หากแต่เมื่อได้เห็นเหล่าอารักขาทั้งสี่ต้องปราชัยอย่างราบคาบให้แก่นาง ร่างที่อ้วนกลมนั้นกลับล้มหงายลงไปกองกับพื้นอีกคราด้วยความตื่นกลัว

 

ยิ่งเมื่อได้เห็นเกอซีสืบฝ่าเท้าย่างสามขุมตรงเข้าหา คุณชายน้อยผู้นี้รีบเหนี่ยวรั้งแขนของหวูอวี้พร้อมเปล่งเสียงโวยวาย “ช่วยด้วย…ช่วยข้าด้วย ! หญิงน่ารังเกียจของหอรื่นรมย์ผู้นั้นทำร้ายข้า เจ้ายังจะทำเป็นนิ่งเฉยอยู่กระนั้นหรือ ? ข้าเป็นแขกคนสำคัญของเจ้านะ !”

 

“หากเจ้าช่วยข้ากำราบนางได้ ไม่ว่าเจ้าจะเรียกร้องเงินทองสักเพียงไรข้าก็พร้อมจะมอบให้ !”

 

หวูอวี้ยังคงนิ่งสงบ เขาลดมือลงปลดฝ่ามือของจูจงป้าที่กำลังเกาะกุมอยู่ออก แววตาทั้งคู่เปี่ยมไปด้วยความสนใจใคร่รู้ในตัวเกอซี “คุณชายจู ข้าได้บอกท่านไปแล้วว่าทันทีที่สินค้าของเราถูกจำหน่ายออก หอรื่นรมย์จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอันใดอีก”

 

“เมื่อครู่…ข้าได้มอบแผ่นป้ายทัณฑ์พิฆาตให้แก่ท่านไปแล้ว เช่นนั้นจึงถือว่าหอรื่นรมย์ไม่มีส่วนรับผิดชอบใดต่อสินค้าชิ้นนี้อีก”

 

วาจาตอบกลับของหวูอวี้ทำให้ในหัวของจูจงป้าว่างเปล่าไปชั่วครู่ ก่อนที่ดวงหน้านั้นจะพลันสดใสเปล่งปลั่งขึ้น

 

บรุษเจ้าเนื้อลนลานรีบโคจรกระแสพลังในกายถ่ายเทพลังลงในแผ่นป้ายทัณฑ์พิฆาต พร้อมส่งเสียงพึมพำกับตนเองด้วยอาการตกประหม่า

 

“นังหญิงน่าขยะแขยง เจ้าต้องตาย ! เจ้ากล้าทำร้ายข้า ครานี้เจ้าต้องตายแน่ !”

 

ช่วงเวลาที่จูจงป้ากำลังขับเคลื่อนขุมพลังลงสู่แผ่นป้ายทัณฑ์พิฆาตนั้น ความเจ็บปวดดุจดั่งว่าแท่งเข็มจำนวนมากพุ่งเข้าทิ่มแทงในศีรษะพลันระเบิดขึ้นในหัวของเกอซี

 

ความรู้สึกทุกข์ทรมานเช่นนี้มิต่างอันใดกับตอนที่นางกำลังย่างกรายออกจากประตูห้องตรวจสอบคุณภาพสินค้า ความเจ็บปวดรุนแรง ถึงขั้นทำให้นางต้องหมดสติ

 

บัดซบ ! แผ่นป้ายทัณฑ์พิฆาตมีไว้เพื่อการนี้นี่เอง ! แผ่นป้ายซึ่งมีอำนาจในการควบคุมหมู่ทาสนั้นถูกผนึกตราไว้อย่างแน่นหนากับร่างของนาง !

 

นัยน์ตาของเกอซีพลันแปรเปลี่ยน มันให้ความรู้สึกที่ด้านชาเหน็บหนาวเต็มไปด้วยแรงปะทุแห่งความเดือดดาล ร่างของหญิงสาวพุ่งกระโจนออกไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า เพื่อหาทางหลีกหนีออกไปจากที่นี้

 

นางต้องหนี หนีไปจากที่นี่ให้ได้ !

 

แม้หากต้องจบชีวิตลง นาง เกอซี ! ก็จะไม่มีวันยอมให้ตนตกไปเป็นทาสของผู้ใด ! ต้องตกอยู่ใต้อาณัติยอมตนเป็นทาสรับใช้ อยู่ภายใต้การดูหมิ่นดูแคลนจากผู้อื่น !

 

หากแต่นางพุ่งกายออกไปได้แค่เพียงห้าก้าวเท่านั้น ในศีรษะพลันปวดร้าวทรมานอย่างหนักจนมิอาจฝืนทนต่อไปได้อีก ร่างของเกอซีทรุดลงกองกับพื้นด้วยสภาพที่สิ้นไร้เรี่ยวแรงและหลับใหลไม่ได้สติไปอีกครา

 

จูจงป้าค่อย ๆ สืบเท้าก้าวเข้าหาเกอซีด้วยอาการที่ยังระแวดระวังเป็นอย่างดีขณะที่ในมือของชายหนุ่มยังคงกุมแผ่นป้ายทัณฑ์พิฆาตนั้นอย่างเหนียวแน่น เขาค่อย ๆ ลดกายลงสำรวจดูนางอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่านางหมดสติไปแล้วจริง ๆ  เมื่อไร้สิ้นการตอบสนองใด ๆ จากเกอซี ชายหนุ่มจึงระเบิดเสียงหัวเราะที่แสดงให้เห็นถึงความจองหองทระนงตนออกมา

 

“หญิงน่ารังเกียจ ดูสิว่าเจ้าจะเชิดหน้าทำผยองไปได้อีกไหม !” เขาพลิกฝ่าเท้าเตะใส่ร่างของเกอซี

 

“กล้าล่วงเกินนายน้อยผู้นี้กระนั้นหรือ เจ้าคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วกระมัง ! ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ว่าผู้ใดที่กล้าขัดขืนคำสั่งข้ามันจะต้องกล้ำกลืนต่อความทุกข์ทรมานเพียงใด !”

 

ยามนี้เหล่าอารักขาที่ลงไปนอนกองที่พื้นต่างพากันลุกขึ้นหยัดยืนได้อย่างมั่นคงอีกครา

จุดตันเถียน* ที่ถูกสกัดไว้ค่อยคลายออก ทำให้พวกมันทั้งหมดสามารถกลับมาโคจรกระแสพลังปราณในกายได้อีกครั้ง

จุดตันเถียน = จุดรวมกระแสพลัง อยู่ใต้สะดือ 2-3 นิ้ว

 

สีหน้าของพวกมันทั้งสี่แสดงออกถึงความคลายกังวลที่เคยอัดอั้นไว้ก่อนหน้า หากแต่เมื่อสายตาของพวกมันมาหยุดยังร่างอันสงบนิ่งบนแผ่นพื้นของเกอซี ความหวาดผวาระทมใจยังคงฉายผ่านออกมาจากนัยน์ตาทุกคู่

 

หากแต่บนใบหน้าจูจงป้ากลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ เขายกมือขึ้นชี้ไปที่ร่างของเกอซี “พวกเจ้าจัดการหญิงน่ารังเกียจผู้นั้นไม่ได้ ต้องข้า ! นายน้อยผู้นี้เท่านั้นถึงจะกำราบนางได้ !”

 

“จับนางยัดใส่กรงเอากลับจวน หากพวกเจ้ากล้าทำผิดพลาดอีก ข้าจะไม่ละเว้นพวกเจ้าแม้สักคนเดียว !”

 

“รับทราบ” เหล่าอารักขาทั้งหลายพากันขานน้อมรับคำสั่ง พวกมันยกร่างของเกอซีโยนใส่กรงขังราวกับสัตว์มีชีวิตที่จับจ่ายซื้อหากันในท้องตลาด น้ำหนักของกรงขังทำให้ผู้แบกถึงกับซวนเซเล็กน้อย ยามเมื่อพวกมันช่วยกันยกกรงทองขึ้นมา

 

 

***จบตอน แผ่นป้ายทัณฑ์พิฆาตผนึกตราทาส***

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

ในงานประมูลครั้งมโหฬารแห่งหอรื่นรมย์ สาวน้อยเครื่องอุ่นเตียงชั้นยอดได้ถูกเสนอราคาชนิดสูงเสียดฟ้า ในท่ามกลางความหื่นกระหายต่อสู้เยื้อแย่งราคากันอย่างบ้าคลั่งนั้น ดรุณีน้อยเปิดเปลือกตาทอดส่งผ่านลูกกรงขังสีทอง อายกระแสรังสีอันเย็นยะเยียบจับทรวงที่แผ่ซ่านออกมาจากเนื้อกาย บ่งบอกได้ว่ายามนี้นางไร้สิ้นความหวาดกลัวอีกต่อไป

Options

not work with dark mode
Reset