หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 180 ชายหญิงไม่ควรสัมผัสต้องกาย

“ปลอบขวัญอะไร ?”

“จูบข้าสักครา”

 

มุมปากเกอซีกระตุกทันที “ฝันไปเถิด เจ้าไม่เคยได้ยินหรือว่าชายหญิงไม่ควรสัมผัสต้องกาย ?”

 

“ที่กล่าวว่าชายหญิงไม่ควรสัมผัสต้องกายนั้นหมายถึงผู้ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันไม่ใช่หรือ ?” หนานกงยวี่คลี่ยิ้มเผยคำ “เจ้าคือชายาของเปิ่นหวาง เราจะไม่เกี่ยวข้องกันได้อย่างไร ? นี่ยังไม่นับรวมที่เราทั้งคู่ต่างทั้งกอดทั้งจูบกันมาแล้วด้วยซ้ำ…..”

 

ขณะที่กล่าวเขายังยื่นนำเสนอหน้าตนเองเข้ามาใกล้คล้ายจะบอกเป็นนัยว่า ‘ข้าพร้อมแล้ว’

 

นางแทบจะหลุดหัวเราะออกมาเพราะความหน้าหนาของชายผู้นี้ นางไม่รู้จริง ๆ ว่านี่คืออุปนิสัยที่แท้จริงของเขาหรือสิ่งที่เห็นเพียงเพราะผลข้างเคียงจากอาการป่วยทำให้การทำงานของสมองรวนเร

 

“ผู้ใดเกี่ยวพันกับเจ้า ? เลิกฝันเฟื่องว่าความรักของเจ้าจะสมหวังมีอีกฝ่ายที่พร้อมจะทุ่มรักอย่างสุดใจได้แล้ว ข้าหาได้สนใจเจ้าไม่ !”

 

ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบา ๆ ความขุ่นเคืองแม้เพียงน้อยไม่ปรากฏ กลับกันเขาเพียงยื่นนิ้วมาดีดปลายจมูกงอนงามของนางเบา ๆ “ร้ายนัก ! ย่อมได้ เมื่อเจ้าไม่ยอมจูบข้า เช่นนั้นข้าก็ขอน้อมรับความพ่ายแพ้ด้วยการเป็นฝ่ายจูบเจ้าแทน !”

 

กล่าวจบเขาขยับกายเข้าไปใกล้ก้มลงจุมพิตลงบนริมฝีปากสีเชอร์รี่ของนาง

 

เกอซีหันหนีผลักเขาออกในทันที ทว่า ผู้ใดจะคิดว่าหนานกงยวี่จะร่วงตกหัวกระแทกมุมโต๊ะเสียงดังสะท้อนไปทั่วห้อง

 

เกอซีตกตะลึงงันด้วยไม่คิดเลยว่าหนานกงยวี่ผู้แข็งแกร่งทรงพลังเหนือผู้ใดจะร่วงตกโต๊ะเพียงเพราะถูกผลัก

 

โดยที่แท้แล้วนางคงหลงลืมไปว่าพลังฝีมือยามนี้ของตนเองได้ก้าวขึ้นสู่ระดับที่แปดของขอบเขตพลังปราณขั้นปฐมภูมิโลกันตร์ ขณะที่ร่างกายของหนานกงยวี่ยังอยู่ในช่วงพักฟื้นสามวัน กำลังปราณ และความแข็งแกร่งนับว่าอยู่ในขอบเขตที่จำกัด

 

เมื่อชิงหลงได้ยินเสียงดังสนั่นจากด้านใน เขารีบผลักประตูออกทันทีด้วยความหวั่นวิตก ครั้นเมื่อกวาดสายตาดูจนทั่วห้องจึงเห็นนายท่านของเขานอนหมดสติกองอยู่กับพื้นไม่ไกลกันนักคือเกอซีผู้ยืนจังงังอยู่ด้วยอาการฉงนงงงวย

 

ฉากที่ปรากฏเบื้องหน้าฟ้องเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน แม้จะไม่ค่อยมั่นใจ ทว่าชิงหลงเดือดดาลขึ้นมาทันทีเมื่อรู้สึกว่าเกอซีทำให้นายท่านของเขาได้รับบาดเจ็บกระทั่งหมดสติอีกครั้งแล้ว เพียงเท่านั้นตลอดทั่วทั้งร่างของชายหนุ่มพลันระเบิดอายพลังอันเย็นยะเยียบแผ่ซ่าน

 

“ท่านมาเพียงเพื่อช่วยตรวจดูอาการของนายท่านเท่านั้นมิใช่หรือ ? ไม่ว่านายท่านจะยั่วโมโหหรือทำให้ท่านต้องขุ่นเคืองสักเพียงใดการที่ท่านผลักนายท่านจนล้มเช่นนี้คือสิ่งสมควรแล้วกระนั้นหรือ ? จงอย่าได้หลงลืมไปว่าที่นายท่านต้องตกอยู่ในสภาพเยี่ยงนี้เพราะนายท่านทุ่มเทกายใจเพื่อช่้วยเหลือท่าน !”

 

ชิงหลงผู้มีปกติเงียบขรึมถึงกับสติหลุดตะเบ็งเสียงลั่นสนั่นเป็นครั้งแรก สำหรับพวกเขาแล้ว สวัสดิภาพของนายท่านนับเป็นสิ่งอันพึงสังวรเหนืออื่นใด

 

ทว่าทันทีที่เขาสิ้นคำตำหนิติว่าเกอซี เมื่อชายหนุ่มก้มหน้าลงจึงประสานเข้ากับแววตาที่เย็นเยียบหม่นมืดของนายท่าน

 

อารมณ์ที่ส่งผ่านประกายตาอันเย็นชาบ่งบอกชัดในความหมาย ‘ชายาของข้าคือผู้ที่เจ้าสามารถขึ้นเสียงได้กระนั้นหรือ ? รนหาที่ตายนักใช่ไหม ?’

 

เส้นเลือดตลอดทั่วทั้งหน้าผากของชิงหลงกระตุกตุ้บ ๆ หยาดเหยื่อเย็นหลั่งไหลร่วงบนแผ่นหลัง

 

เขาเริ่มรู้สึกได้ทันทีว่าสถานภาพของตนถูกสั่นคลอนเสียแล้ว….. ไม่สิ ! สถานภาพของเขาสั่นคลอนเช่นนี้ตั้งแต่ครั้งที่นายท่านได้พบกับคุณหนูน่าหลานในคราแรกแล้วต่างหาก ! เขาไม่เคยคิดเลยว่านายท่านจะลงมือสังหารเขาเพียงเพื่อสตรีผู้เดียว !

 

หากทว่าเกอซีหาได้ล่วงรู้ถึงการแอบส่งสัญญาณกันอย่างลับ ๆ ระหว่างผู้เป็นนายกับผู้รับคำสั่งคู่นี้ เสียงตะคอกของชิงหลงทำให้นางว้าวุ่นกระวนกระวายใจกระทั่งต้องรีบเข้ามาตรวจดูอาการของหนานกงยวี่

 

ส่วนชิงหลงก็หัวไวพอที่จะรีบตรงเข้ามาช่วยนางประคองยกร่างผู้เป็นนายขึ้นเอนอิงซบลงบนอกของเกอซี หน้าที่ความรับผิดชอบของผู้สนองการรับใช้ส่วนพระองค์ในราชันมัจจุราชของเขานั้นหาใช่ง่ายดายอย่างแท้จริง !

 

เกอซีกุมมือชายหนุ่มเริ่มตรวจดูอาการ ทว่ายิ่งตรวจจับดูอาการของอีกฝ่าย บนใบหน้าของนางกลับยิ่งแสดงอาการร้อนรนใจมากเท่านั้น

 

แม้ร่างกายจะไม่มีบาดแผลใด ทว่าลมหายใจแผ่วบางยิ่งนัก ชีพจรเต้นเบาไม่ราบเรียบสม่ำเสมอ

 

นางว้าวุ่นกังวลใจยิ่งนัก แม้ไม่อยากจะยอมรับ ทว่ายามนี้ นางกำลังห่วงกังวลถึงชายผู้นี้อย่างยิ่ง

 

ความกระสับกระส่ายที่แฝงมากับความหวาดกลัว กลัวว่าเขาจะจากนางไปจริง ๆ อาการของเขาย่ำแย่ถึงขนาดที่แม้นางจะพยายามรักษาอาการของเขาอย่างเต็มกำลังความสามารถแล้วก็ยังไม่อาจวางใจให้สงบสุขุมขึ้นได้

 

 

***จบตอน ชายหญิงไม่ควรสัมผัสต้องกาย***

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

ในงานประมูลครั้งมโหฬารแห่งหอรื่นรมย์ สาวน้อยเครื่องอุ่นเตียงชั้นยอดได้ถูกเสนอราคาชนิดสูงเสียดฟ้า ในท่ามกลางความหื่นกระหายต่อสู้เยื้อแย่งราคากันอย่างบ้าคลั่งนั้น ดรุณีน้อยเปิดเปลือกตาทอดส่งผ่านลูกกรงขังสีทอง อายกระแสรังสีอันเย็นยะเยียบจับทรวงที่แผ่ซ่านออกมาจากเนื้อกาย บ่งบอกได้ว่ายามนี้นางไร้สิ้นความหวาดกลัวอีกต่อไป

Options

not work with dark mode
Reset