อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด – ตอนที่ 18 ชายเหงาแม่ม่าย กำลังทำอะไรน่ะ!

ตอนที่ 18 ชายเหงาแม่ม่ายกำลังทำอะไร!

“ฉันมีความสุขมาก เธอคิดเหมือนกันใช่ไหม?” จิ่งเป่ยเฉินเผยดวงตาที่เป็นประกาย พร้อมกับเอ่ยคำพูดที่ทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

แน่นอน ผู้ชายคนนี้ในแง่ของเรื่องอารมณ์พวกนี้ก็ยังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน! ขอเพียงตราบใดที่เขามีความสุข เขาก็จะทำ

ยังกล้ามีความสุขขนาดโชว์กล้ามหน้าท้องอย่างนั้นเหรอ  ขี้เกียจสนใจนายจริง ๆ

“หน่วนหน่วน พวกเราไปที่ห้องอื่นกันเถอะ” เธออุ้มลูกสาวของเธอขึ้นมา ก่อนจะเดินไปอีกห้องด้วยความรวดเร็ว

ขณะนั้นเองโทรศัพท์มือถือของจิ่งเป่ยเฉินก็ดังขึ้น

“ประธานจิ่ง ลูซี่มาแล้ว ยังเหมือนเดิมไม่มีผิด จะปล่อยให้เธออยู่บริษัทจิ่งเหมือนเดิมไหม?” ปลายสายเอ่ยถามอย่างทำอะไรไม่ถูก แม้ว่าจะทำงานล่วงเวลาแบบนี้ก็ยังถูกลูซี่มาสร้างปัญหาอีก

“ระเบิดออกไป” จิ่งเป่ยเฉินเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะออกคำสั่ง ผู้หญิงที่ไม่สำคัญแบบนั้น เขาจะไปสนใจทำไม

“เอ? ระเบิดเลยเหรอ?” ฉีเซิ่งเทียนเกือบตกจากเก้าอี้

“รู้ใช่ไหมว่าลูซี่เป็นใคร? เขาคือผู้หญิงที่มีหน้าอกขนาดใหญ่เลยนะ” ฉีเซิ่งเทียนบรรยายอย่างละเอียด เขารู้ดีว่าจิ่งเป่ยเฉินนั้นมีภาวะจำใบหน้าไม่ได้

จิ่งเป่ยเฉินขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งที่ฉีเซิ่งเทียนพูด ทั้งยังได้ยินเสียงตะโกน จนในที่สุดก็เปิดประตูออก

“ฉันพาลูกสาวกลับบ้านก่อนนะคะ ขอบคุณประธานจิ่งที่เมตตา”

จิ่งเป่ยเฉินรีบวางสายทันที แต่ฉีเซิ่งเทียนนั้นได้ยินเสียงของเธอไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ยินรายละเอียดชัดเจน แต่เขาก็รู้ว่าตอนนี้จิ่งเป่ยเฉินอยู่กับอันอีหาน

เขาได้ยินเสียงชัดมาก ไม่มีทางฟังผิดแน่นอน

มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ คิดไม่ถึงเลยว่าจิ่งเป่ยเฉินนั้นยังชอบอันโหรวอยู่ แต่นี่เป็นผู้หญิงที่ดูแก่เชียวนะ ทั้งยังมีลูกแล้วด้วย

“ใครอนุญาตให้คุณไปกัน?” เมื่อจิ่งเป่ยเฉินพูดจบ เขาก็หยิบโน้ตบุ๊กออกมาจากตู้เก็บของ ก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะ

“ไม่ให้ไป แล้วให้ฉันมาที่นี่เพื่ออะไรคะ? อย่าลืมนะคะว่าพรุ่งนี้ฉันจะต้องส่งแผนให้กับคุณ”

จิ่งเป่ยเฉินเปิดโน๊ตบุ๊กและพูดออกไปตรง ๆ “ตอนนี้ก็ดึกแล้ว หนึ่งทุ่มกว่าแล้ว ทำที่นี่เถอะ ผมจะคอยดูให้เอง” เขาอยากจะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้วางแผนได้ดีแค่ไหนกันเชียว คำสั่งซื้อล็อตใหญ่ที่หายไปของบริษัทจิ่งเมื่อปีที่แล้ว ยังคงเป็นเรื่องที่เขาคาดไม่ถึงในจุดนั้นอยู่ดี

“ให้ทำที่นี่? แล้วลูกสาวของฉันจะทำยังไง? อย่างน้อยฉันก็ต้องพาลูกไปนอนก่อนนะ” อันโหรวเอ่ยอย่างไม่สนใจ พลางจับมือของลูกสาวเพื่อเดินออกไปที่ประตู

แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร อันหน่วนก็พลันเอ่ยประโยคหนึ่งขึ้นมา “แม่จ๋า แม่อยู่ที่นี่เถอะ น้าจือเซี๋ยวก็อยู่ข้างล่าง แม่โทรบอกคุณน้าก็ได้ค่ะ ให้มารับหนูก็พอ”

เมื่ออันโหรวได้ยินสิ่งที่ลูกสาวตัวน้อยเอ่ย ก็รู้สึกราวกับถูกกำแพงนั้นพุ่งชนใส่ ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ลูกสาวตัวน้อยยังคิดแทงข้างหลังอีกเหรอ?

“หนูรู้งั้นเหรอว่าน้าจือเซี๋ยวเป็นใคร?” จิ่งเป่ยเฉินเอ่ยถามอันหน่วน

“น้าหลินจือเซี๋ยวเป็นเพื่อนของแม่จ๋าค่ะ” อันหน่วนตอบอย่างตรงไปตรงมา

“เลขาหลิน?” จิ่งเป่ยเฉินมองไปที่อันโหรว ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

เขาจะโทรหาหลินจือเซี๋ยวให้มารับอันหน่วนไปอย่างนั้นเหรอ?

ขณะที่กำลังรู้สึกประหม่า เธอก็รีบเข้าไปคว้าโทรศัพท์ของเขาทันที และขณะที่กำลังจะฉกโทรศัพท์ของเขามานั้น

จิ่งเป่ยเฉินก็ได้ยกโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นและได้โทรไปยังเบอร์ของเลขาหลิน อีกทั้งยังเอามือข้างซ้ายโอบอุ้มไปยังเอวของอันโหรว พลางใช้แรงกดเอาไว้เบา ๆ เพื่อไม่ให้เธอดิ้นไปมาได้

จากมุมมองของอันหน่วนนั้น เหมือนว่าตอนนี้คุณลุงคนนี้กำลังกอดแม่จ๋าไว้ในอ้อมแขนโดยไม่ยอมปล่อย

“คุณปล่อยฉันนะ!” อันโหรวตะโกนออกไปโดยไม่สนใจลูกสาวที่อยู่ข้างกายเธอเลยสักนิด

บังเอิญเสียจริง ๆ ที่เวลานั้นปลายสายกดรับพอดี

หลินจือเซี๋ยวเมื่อเห็นประธานจิ่งโทรมา เธอก็แทบจะถือตะเกียบที่อยู่ในมือไว้ไม่ไหว

หลังจากรับโทรศัพท์แล้ว เธอก็ได้ยินเสียงที่ไม่ใช่เสียงเย็นชาเหมือนแต่ก่อนที่เธอเคยได้ยินจากท่านประธาน แต่กลับเป็นเสียงของหญิงสาวที่เธอคุ้นเคยมาก นั่นคือเพื่อนสนิทของเธอเอง เธอพยายามจับตะเกียบไว้ไม่ให้หล่น แต่สุดท้ายก็หล่นอยู่ดี

“เลขาหลิน รอที่ทางเข้าลิฟต์ชั้นที่หนึ่งของโรงแรมนั่วเทียน ไปรับลูกสาวของอันอีหานไว้ด้วย” เมื่อพูดจบจิ่งเป่ยเฉินก็กดวางสายทันที

หลินจือเซี๋ยวทันทีที่ฟังจบก็หันไปมองโทรศัพท์ของตัวเอง เมื่อครู่นี้ประธานจิ่งโทรมาบอกว่าให้ไปรอที่ทางเข้าลิฟต์เพื่อรับลูกสาวของโหรวโหรวงั้นเหรอ?

โหรวโหรวพาลูกสาวไปห้องน้ำไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ยังไม่กลับมา แต่ประธานจิ่งกลับโทรมาบอกแบบนั้น พระเจ้า! ในที่สุดหลินจือเซี๋ยวก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง แสดงว่าตอนนี้โหรวโหรวอยู่กับประธานจิ่ง ทั้งยังขอให้เธอพาหน่วนหน่วนกลับบ้านไปก่อนอีก

ผู้ชายขี้เหงากับแม่ม่ายจะทำอะไรกัน! หลินจือเซี๋ยวรีบวิ่งออกไปจนลืมหยิบกระเป๋า เธอวิ่งตรงไปยังลิฟต์ทันที

อันหยางรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาจึงคว้าของของหลินจือเซี๋ยวเอาไว้ รวมถึงหยิบกระเป๋าสตางค์ที่เธอทำตก แล้ววิ่งตามไปทันที

แม่และน้องสาวออกไปตั้งนานยังไม่กลับมาแบบนี้ ต้องมีเรื่องเกิดขึ้นแน่!

Related

อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด

อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด

Status: Ongoing
อ่านเรื่อง อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉดตอนที่ 1 ฉันเป็นเจ้าสาวของคุณ ภายในเรือเดินสมุทรที่ค่อนข้างหรูหรา ในตอนนี้ได้มีการจัดพิธีแต่งงานขึ้น อันโหรวกำลังมองไปยังคู่รักคู่หนึ่งด้วยสีหน้าและแววตาที่เย็นชา ชุดเดรสสีฟ้าที่เธอสวมใส่อยู่นั้นพลิ้วไหวไปกับสายลม “หยุดก่อน!” เธอตะโกนหยุดพิธีแต่งงานที่ดูไร้สาระนั่น ทำให้ทุกคนที่อยู่ในงานต่างจับจ้องมาที่ตัวเธอ “ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน? ทำไมถึงได้มายืนอยู่ตรงหน้าบ่าวสาวแบบนี้?” “หรืออาจจะเป็นคนรักของคุณชายโอวหยาง? แล้วทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่กัน?” ซุ่มสียงทั้งหมดดังเข้ามาในหูของเจ้าสาวอย่างเหลียวเว่ย รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอนั้นแข็งทื่อขึ้นมาทันที หัวใจก็เต้นโครมครามไม่หยุด เมื่อหันหน้าไปสบตากับผู้หญิงที่อยู่ตรงข้าม หัวใจของเธอก็ดำดิ่งลงไปเสียยิ่งกว่าอะไร คงไม่มีใครโง่พอที่จะปล่อยให้อดีตคู่รักมาสร้างปัญหาในพิธีแต่งงานหรอก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในช่วงเวลานี้ เธอพร้อมที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้มันพังลง! “โหรวโหรว…” โอวหยางลี่ปล่อยมือของเหลียวเว่ยทันที เขาหันไปอย่างไม่แยแสต่อสายตาของผู้คนภายในงาน รอยยิ้มบนใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยนอย่างถึงที่สุด ลียวเว่ยรู้สึกเป็นกังวลใจ เธอจึงรีบยื่นมือไปคว้าเขาไว้ “ลี่ ฉันเป็นเจ้าสาวของคุณนะ ในตอนนี้ตระกูลของอันได้ตกต่ำลงไปแล้ว” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่ทว่ามือที่จับแขนของเขานั้นกลับเต็มไปด้วยแรงที่ค่อนข้างมาก

Comment

Options

not work with dark mode
Reset