อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด – ตอนที่ 23 ลุงคนนั้นไม่ใช่คนดีหรอก

ตอนที่ 23 ลุงคนนั้นไม่ใช่คนดีหรอก

อันหน่วนเอนศีรษะน้อย ๆ ของเธอพิงไปที่กระจกรถ เมื่อเห็นผู้ชายคนนั้น เธอก็พลันตะโกนอย่างเสียงดังขึ้นว่า “คุณลุงขา!”

หัวใจของอันโหรวพลันเต้นอย่างรุนแรง เธอมองดูลูกสาวของเธอที่กระตือรือร้นเป็นพิเศษ

ใครจะคิดว่าลูกสาวของตนนั้นจะชื่นชอบเขามากขนาดนี้? เพราะเกี่ยวพันกันทางสายเลือดด้วยหรือเปล่า?

ไม่ได้การแล้ว ลูกสาวของเธอนั้นจะต้องห้ามยุ่งเกี่ยวกับเขาโดยเด็ดขาด เมื่อคิดได้แบบนี้ เธอก็รีบอุ้มลูกสาวของเธอออกมาจากตรงกระจกรถและกำชับให้หลินจือเซี๋ยวขับรถออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

“หน่วนหน่วน คนนั้นไม่ใช่คุณลุงหรอกนะ”

หลินจือเซี๋ยวมองกระจกพลางเหลือบมองออกไป ก็พบเห็นประธานจิ่งที่อยู่ข้างนอก! เมื่อดูอีกทีก็รู้ได้ทันทีว่าหน่วนหน่วนนั้นชอบเขามาก

อันหยางสังเกตเห็นมาสักพักจึงเฝ้ามองไปที่จิ่งเป่ยเฉินอย่างระมัดระวัง ชั้นที่สิบแปดนั้นบางทีอาจจะเป็นชายคนนี้ที่อยู่กับแม่ของตน ถ้าหากเป็นผู้ชายคนนี้จริง ๆ ตอนนี้เขาก็มีผู้หญิงอีกคนมาอยู่ข้าง ๆ ความประทับใจในตัวชายคนนี้สำหรับเขานั้นพลันติดลบขึ้นมาทันที

เขาจับมือน้องสาวของตัวเองและพูดขึ้นเบา ๆ ว่า “หน่วนหน่วน ลุงที่เธอพูดถึงเมื่อครู่ไม่ใช่คนดีหรอกนะ วันหลังอย่าได้เข้าใกล้เขาอีก”

หลินจือเซี๋ยวที่จับพวงมาลัยอยู่นั้น มือของเธอก็พลันสั่นไหวเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีคนบอกว่าประธานจิ่งของเธอนั้นไม่ใช่คนดี!

“โหรวโหรว ลูกชายของเธอพูดแบบนั้นกับประธานจิ่ง ถ้าหากเขารู้ละก็ ไม่รู้เลยว่าในใจของเขาจะคิดยังไงกันแน่”

อันหยางเงยหน้าขึ้นมองหลินจือเซี๋ยวและเอ่ยถาม “เขารู้แล้วมันจะยังไง?”

หลินจือเซี๋ยวมองอันหยางผ่านกระจกรถ เมื่อเห็นท่าทางของเขาก็พลันถอนหายใจออกมาทันที

ท่าทางที่ดุดันของเขานั้นเต็มไปด้วยแรงกดดัน ดูแล้วช่างเหมือนใครบางคน ซึ่งเป็นคนที่เธอไม่ควรมองเขา

“จือเซี๋ยว ขับรถเร็ว ๆ หน่อยเถอะ ฉันมีเรื่องที่ต้องรีบกลับไปทำอยู่อีก” ในใจของอันโหรวตอนนี้มีแต่ความกังวล เธอจึงเอ่ยขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว

หลินจือเซี๋ยวพยักหน้า เธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงรีบเหยียบคันเร่งและพูดว่า “โอเค!”

ไม่ช้ารถสีแดงก็ขับพุ่งไปด้วยความรวดเร็ว

ลูซี่มองรถสีแดงที่พุ่งออกไป ก่อนจะเค้นหัวเราะอยู่ในลำคอ พลางเอ่ยน้ำเสียงที่นุ่มลึกราวกับอยากรู้อยากเห็นเรื่องทั้งหมด “นั่นมันไม่ใช่ป้ายทะเบียนรถเลขาคุณหรอกเหรอ? ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?”

จิ่งเป่ยเฉินเผยแววตาที่เย็นชา “ฉันไม่ชอบให้ใครมาสะกดรอยตาม และก็ไม่ชอบถูกถาม”

เมื่อพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไป ลูซี่รู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย

“เฉิน ฉันไม่ได้สะกดรอยตามคุณมาหรอกนะ ฉันเองก็ไม่คิดจะถามคุณด้วย แต่ฉันมาที่นี่เพราะฉันบังเอิญได้ยินว่าคุณกำลังพูดคุยเรื่องธุรกิจที่โรงแรม”

หลังจากที่ลูซี่พูดจบก็อยากจะกัดลิ้นตัวเอง

สิ่งที่พูดอยู่นั้นไม่ใช่กับว่ารับสารภาพไปแล้วเหรอว่าตัวเองนั้นตามเขามา

เธอเริ่มสงสัยแล้วว่าจะอธิบายยังไงให้จิ่งเป่ยเฉินนั้นเข้าใจ แต่ทว่าเมื่อเห็นดวงตาของเขาที่แสนจะเย็นชานั้น หัวใจเธอก็พลันหดลงทันที

รูปลักษณ์ที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้ เธอกับเขามีข่าวลือด้วยกันมาสักพักหนึ่งแล้ว เธอก็แค่อาศัยเรื่องพวกนี้มาสร้างเสริมและเชื่อมโยงเพื่อยิงไปในจุดที่เธอจะเป็นโฆษกโฆษณาได้

แต่เดิมเธอคิดว่าเธอสามารถควบคุมคุณชายจิ่งได้อยู่หมัด เพียงแต่คิดไม่ถึงเลยว่าในตอนนี้เขาจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอนั้นเป็นใคร

เมื่อเห็นจิ่งเป่ยเฉินกำลังจะจากไป ลูซี่ก็พลันรู้สึกเสียใจ ก่อนจะเอ่ยพึมพำเบา ๆ “เฉิน…”

คำพูดที่ติดอยู่ในลำคอเมื่อส่งออกมามันช่างชวนให้ฟังแล้วรู้สึกสงสาร

เพียงแต่ว่าจิ่งเป่ยเฉินกลับไม่เห็นเธออยู่ในสายตา ทั้งยังขึ้นไปที่รถโดยไม่สนใจอีก

เมื่อรถถูกสตาร์ทขึ้น เครื่องยนต์ก็ส่งเสียงกระหึ่มขึ้นมาทันที ไม่นานเท่าไรนัก รถพอร์ชก็หายไปในยามราตรี

ลูซี่มองไฟท้ายที่ส่องแสงสว่างพลางกำมือแน่น ปากของเธอกัดฟันแน่น

ความโกรธของเธอปะทุขึ้น หัวใจของเธอนั้นพลันเต้นเร็วขึ้นราวกับจะระเบิดออกมาทันที

เธอด้อยกว่ายัยขี้เหร่นั่นตรงไหน ตั้งแต่ยัยขี้เหร่นั่นมาที่บริษัทจิ่งก็ถูกรับเป็นหัวหน้าแผนกการดูแลการวางแผนแทบทั้งหมด

ทั้งยังมีสิทธิ์เลือกโฆษกโฆษณาอีกด้วย เพราะอะไรกันแน่ ทำไมเธอถึงทำได้? เธอมองดูแล้วยังไงยัยขี้เหร่นั่นก็ไม่สมควร

เมื่อถนนตัดเข้าเส้นที่สามก็ถึงบ้านของหลินจือเซี๋ยว

อันโหรวให้ลูกสาวของตัวเองไปนอน หลังจากนั้นเธอก็เข้าไปยังห้องหนังสือ เธอเปิดโน้ตบุ๊กขึ้นมาและเตรียมเขียนแผนการ

เพียงแต่ว่าทันทีที่เธอเปิดโน้ตบุ๊กทำงาน พิมพ์ไปได้ไม่กี่ตัวอักษร ประตูห้องก็ถูกเปิดออก ลูกชายของเธอกำลังยืนอยู่ด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด

“หยางหยาง เป็นอะไรไป?”

อันหยางปิดประตูเบา ๆ หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปหาแม่และโอบกอดตัวเธอไว้ ทั้งยังจับมือของเธอไว้ด้วย เหมือนกับผู้ใหญ่ตัวเล็ก ๆ ไม่มีผิด

“แม่ครับ ผมมีเรื่องอยากคุยด้วย”

อันโหรวยกมือขึ้นไปลูบหัวของลูกชาย เธอยิ้มออกมาเล็กน้อย “อยากจะคุยอะไรกับแม่เหรอจ๊ะ”

“แม่ โรงแรมชั้นที่สิบแปด สรุปใครอยู่กับแม่บ้างเหรอครับ?”

Related

อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด

อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด

Status: Ongoing
อ่านเรื่อง อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉดตอนที่ 1 ฉันเป็นเจ้าสาวของคุณ ภายในเรือเดินสมุทรที่ค่อนข้างหรูหรา ในตอนนี้ได้มีการจัดพิธีแต่งงานขึ้น อันโหรวกำลังมองไปยังคู่รักคู่หนึ่งด้วยสีหน้าและแววตาที่เย็นชา ชุดเดรสสีฟ้าที่เธอสวมใส่อยู่นั้นพลิ้วไหวไปกับสายลม “หยุดก่อน!” เธอตะโกนหยุดพิธีแต่งงานที่ดูไร้สาระนั่น ทำให้ทุกคนที่อยู่ในงานต่างจับจ้องมาที่ตัวเธอ “ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน? ทำไมถึงได้มายืนอยู่ตรงหน้าบ่าวสาวแบบนี้?” “หรืออาจจะเป็นคนรักของคุณชายโอวหยาง? แล้วทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่กัน?” ซุ่มสียงทั้งหมดดังเข้ามาในหูของเจ้าสาวอย่างเหลียวเว่ย รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอนั้นแข็งทื่อขึ้นมาทันที หัวใจก็เต้นโครมครามไม่หยุด เมื่อหันหน้าไปสบตากับผู้หญิงที่อยู่ตรงข้าม หัวใจของเธอก็ดำดิ่งลงไปเสียยิ่งกว่าอะไร คงไม่มีใครโง่พอที่จะปล่อยให้อดีตคู่รักมาสร้างปัญหาในพิธีแต่งงานหรอก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในช่วงเวลานี้ เธอพร้อมที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้มันพังลง! “โหรวโหรว…” โอวหยางลี่ปล่อยมือของเหลียวเว่ยทันที เขาหันไปอย่างไม่แยแสต่อสายตาของผู้คนภายในงาน รอยยิ้มบนใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยนอย่างถึงที่สุด ลียวเว่ยรู้สึกเป็นกังวลใจ เธอจึงรีบยื่นมือไปคว้าเขาไว้ “ลี่ ฉันเป็นเจ้าสาวของคุณนะ ในตอนนี้ตระกูลของอันได้ตกต่ำลงไปแล้ว” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่ทว่ามือที่จับแขนของเขานั้นกลับเต็มไปด้วยแรงที่ค่อนข้างมาก

Comment

Options

not work with dark mode
Reset