อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด – ตอนที่ 99 ถ้าหากคุณไม่ถือสาอะไร + ตอนที่ 100 ที่แท้ประธานจิ่งไม่ใช่คน

ตอนที่ 99 ถ้าหากคุณไม่ถือสาอะไร

เพียงแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจิ่งเป่ยเฉินที่เป็นคนบ้างานแบบนั้นจะมาบริษัทไม่ตรงเวลา เธอจึงทำได้แต่เอนกายพิงไปที่ประตูห้องทำงาน ไม่ช้าร่างกายก็ค่อย ๆ ไหลพักพิงไปกับกำแพง

หลินจื่อเซี๋ยวถือเอกสารเดินตามหลังจิ่งเป่ยเฉินออกจากลิฟต์ พลันเห็นอันโหรวนั่งท่ายอง ๆ อยู่ที่หน้าประตูห้องทำงานด้วยท่าเอียงศีรษะเล็กน้อยพลางกำลังปิดตางีบหลับไปชั่วครู่

จริง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรมาก หากเธอไม่เห็นร่องอกของเพื่อนที่เปิดกว้างขึ้นเล็กน้อย จากมุมที่เธอเห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเพื่อนเธอนั้นใส่ยกทรงที่เป็นลายลูกไม้สีดำ เมื่อเห็นเช่นนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงจิ่งเป่ยเฉินที่สูงกว่าตัวของเธอมาก เขาย่อมต้องเห็นอย่างแน่นอน

“อันอีหาน!” เธอตะโกนออกมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เธอไม่ปล่อยให้จิ่งเป่ยเฉินอุ้มเพื่อนรักเข้าไปแน่ ๆ เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เมื่ออันโหรวได้ยินเสียงของหลินจื่อเซี๋ยว เธอก็รีบโบกไม้โบกมือไปมา “ฉันง่วงน่ะ เลยฟุบหลับไป”

หลินจื่อเซี๋ยวเดิมทีคิดว่าจะตะโกนเรียกเพื่อนอีกครั้ง แต่กลับได้ยินเสียงเข้มจากคนข้าง ๆ ดังขึ้นมาก่อน “เลขาหลิน เธอไปทำงานของเธอเถอะ”

ห้องทำงานของเธอนั้นอยู่ติดกับเขา เธอจึงจำต้องเดินออกไปอย่างฝืนไม่ได้

เมื่อหันไปมองที่ด้านข้างก็เห็นอันโหรวทำท่าลูบปากเช็ดน้ำลาย ท่วงท่าเรียบง่ายแต่ดูยั่วยวนไม่ใช่น้อย ซึ่งการกระทำแบบนี้ ถ้าหากเธอไม่ใช่ผู้หญิงมามองเข้าก็คงรู้สึกหวั่นไหว แล้วนับประสาอะไรกับจิ่งเป่ยเฉินที่เป็นผู้ชาย

ควรตะโกนออกไปดีไหม?

แต่หากตะโกนจิ่งเป่ยเฉินคงได้มองค้อนใส่เธอแน่ ๆ คงไม่ใช่แค่อันโหรวหรอกที่จะมองมา

ยากจริง ๆ การที่ต้องอยู่ในรอยแยกระหว่างกึ่งกลางพวกเขาทั้งสอง

“อันอีหาน ยังไม่ตื่นอีก ดูเธอสิ สภาพเป็นแบบไหนกันเนี่ย?” เธอยกแฟ้มขึ้นมา แม้จะยังอยู่ในอาการงัวเงีย

เมื่ออันโหรวได้ยินอย่างชัดเจนก็รู้ว่าหลินจื่อเซี๋ยวได้มาปลุก เธอจึงรีบลืมตาและวิ่งเข้าไปยังห้องทำงานของเธอ

อันโหรวรู้ดีว่าตัวเองทำอะไรลงไปจึงไม่ได้พูดอะไรมาก เธอเดินตามจิ่งเป่ยเฉินเข้าไปยังห้องทำงานของเขา

“ประธานจิ่งคะ นี่คือแผน” อันโหรววางแผนลงบนโต๊ะทำงานของเขา

จิ่งเป่ยเฉินยื่นมือออกไปเปิดคอมพิวเตอร์ ก่อนจะสั่งอย่างไม่เป็นทางการว่า “เทน้ำที”

“ฉันจะเรียกเลขาหลินให้นะคะ” เธอไม่ได้เทน้ำให้เขา แต่คิดจะเดินออกไปข้างนอกแทน ถ้าขืนทำให้แบบนี้ตลอด มีหวังถูกใช้ตลอดแน่ ๆ

“ไม่ได้ยินคำพูดของผมเหรอ? คุณเป็นพนักงานของบริษัทจิ่ง เอาน้ำให้ผมแค่นี้ก็ไม่ได้?” จิ่งเป่ยเฉินเอนตัวหลังพิงเก้าอี้ ดวงตาสีดำจับจ้องมาที่เธอตลอดเวลา

อันโหรวเม้มริมฝีปากแน่น พลางคิดในใจว่านี่มันเกี่ยวอะไรกัน?

จิ่งเป่ยเฉินยื่นมือออกไปหยิบแผนขึ้นมาอ่าน พลันดวงตาสีดำก็เปลี่ยนเป็นสว่าง เมื่อชำเลืองมองเห็นอันโหรวกำลังถือแก้วน้ำมาให้ เขาจึงทำทีว่ากำลังอ่านแผนในมือต่อราวกับไม่ได้สนใจมากนัก

อันโหรววางแก้วน้ำไว้ข้างมือของเขาโดยไม่พูดอะไร แต่เมื่อได้อ่านแผนของเธออย่างละเอียดแล้ว แผนการของเธอเรียกได้ว่าเหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้าทีมของแผนก TE มากจริง ๆ เธอเป็นบุคคลที่มีความสามารถ

หลังจากผ่านไปไม่นาน เขาก็ปิดแผนในมือลง ก่อนจะโน้มตัวไปข้างหน้าและทำท่าผสานมือเท้าคางขึ้น “ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกนะ แต่เหอเฉ่าเป็นอะไรกับเหอเหมียวคนรักลับ ๆ ของโอวหยางลี่กัน?”

อันโหรวตกใจ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาที่มีสภาวะจดจำใบหน้าไม่ได้จะสามารถจำชื่อได้แม่นถึงขนาดนี้

“เป็นลูกพี่ลูกน้องค่ะ” เธอตอบกลับด้วยความจริง “แต่ฉันไม่คิดว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเลือกโฆษกโฆษณาหรอกนะคะ พวกเขาสองคนเป็นคนละคนกัน”

เขาเอื้อมมือไปหยิบแก้วชาอุ่น ๆ ก่อนจะเอาแตะจับขอบถ้วยและพูดขึ้นว่า “ไม่เลว หวังว่าตอนบ่ายเธอจะแสดงให้ผมเห็นนะ”

“รับรองว่าประธานจิ่งต้องไม่ผิดหวังค่ะ” เธอพูดจบก็หันหลังกลับเตรียมจะเดินออกไป

การทำงานหนักในตลอดคืนไม่ได้ไร้ผล แต่ตอนนี้เธอค่อนข้างง่วงมาก รู้สึกอยากจะนอนมากจริง ๆ

จิ่งเป่ยเฉินยกชาขึ้นดื่ม แต่ก็ไม่ได้ดื่มจนหมด ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ถ้าหากคุณไม่ถือสาอะไร คิดอยากจะพักผ่อน ข้างหลังห้องรับรองของผม คุณนอนในนั้นก็ได้ ไม่มีใครรบกวนคุณหรอก”

…………………………………

ตอนที่ 100 ที่แท้ประธานจิ่งไม่ใช่คน

“รวมถึงคุณด้วยใช่ไหมประธานจิ่ง?” เธอไม่เชื่อในตัวเขาเท่าไรนัก

ครั้งที่แล้วที่โรงแรมไค่ฮั่ว เหตุการณ์ในวันนั้นเธอก็พอจะเห็นหมดแล้ว

“ไม่ได้รวมถึงใคร ผมแค่บอกว่าใครก็ตามที่ผมเลือก คนนั้นย่อมไม่หมายถึงผม” เมื่อพูดเสร็จก็จิบชาต่อ ทั้งยังบอกว่าเป็นชานั้นรสชาติดีอีกด้วย

พูดไปแล้วนี่มันก็เหมือนกับเธอเป็นเลขาของเขาเลย

“วันนี้ฉันเพิ่งจะรู้เลยนะคะ ที่แท้ประธานจิ่ง……” อันโหรวเผยใบหน้าที่ซีดเซียว “ไม่ ใช่ คน”

“ปัง” เมื่อเสียงปิดประตูดังขึ้น อันโหรวก็หายวับไปเสียแล้ว

ยั่วยุเขาและวิ่งหนี คิดเหรอว่ามันจะง่ายขนาดนั้น?

การที่บอกว่าเขาไม่ใช่คน นั่นก็บ่งบอกว่าเขานั้นเป็นสัตว์ป่าน่ะสิ?

อันโหรวรีบกลับไปยังแผนกของเธอ ทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง พลางมองแผนที่วางอยู่บนโต๊ะ

ฉิวซีมองเธออย่างพิจารณา ดูไปแล้วตาคู่นั้นของอันโหรวก็คล้ายกับสภาพแพนด้าไม่มีผิดเพี้ยน เธอไม่ได้หงุดหงิดหรืออารมณ์เสียแต่อย่างใด วันนี้เธอตั้งใจรอดูงานตอนบ่ายเป็นที่สุด

หึ อันโหรว คิดว่าเธอจะไปได้สักกี่น้ำกัน

เวลาบ่ายโมงห้าสิบนาที มีผู้คนมากมายต่างเดินเข้าไปในโถงห้องประชุมใหญ่ การประชุมแถลงข่าวครั้งนี้ค่อนข้างสำคัญเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ใบหน้าของทุกคนล้วนดูเคร่งเครียด

เหอเฉ่าเดินตามอันโหรวมา วันนี้เธอสวมเสื้อผ้าที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ เธอก้มลงมองดูตัวเองอีกครั้ง พลันเกิดความรู้สึกประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย

อันโหรวหยุดเดิน ก่อนจะจับแขนของเธอไว้ทั้งสองข้างและพูดขึ้นว่า “เงยหน้า เชิดอก สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เธอเป็นตัวเลือกที่ฉันเลือกมา นั่นหมายความว่าเธอคือผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุด และผู้บริหารระดับสูงก็บอกแล้วว่าไม่มีใครที่จะเหมาะสมไปกว่าเธอ ถ้าหากเธอไม่มั่นใจแบบนี้ก็เท่ากับสงสัยว่าวิสัยทัศน์ของฉันน่ะสิ”

เหอเฉ่าทำตามที่เธอพูด ก่อนจะส่งเสียงให้กำลังใจตัวเองอยู่ในใจ นี่อาจเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียว ถ้าหากมันพลาดก็จะพลาดจนหมด

“ดีมาก แสดงความสามารถที่มีออกมา อย่ากังวลมากเกินไป” อันโหรวยิ้มกว้างก่อนจะก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือของตนและพูดขึ้น “ใกล้จะได้เวลาแล้ว เข้าไปกันเถอะ”

อันโหรวเดินเข้าไปเป็นคนแรก แม้ว่าใบหน้าของเธอนั้นจะดูดซีดเหลือง น้ำเสียงแหบแห้ง แต่ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นคนที่จิ่งเป่ยเฉินชื่นชอบเป็นพิเศษ นับตั้งแต่วันที่เข้ามาในบริษัท เธอกลายเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในแผนงานที่ใหญ่โตครั้งนี้ เมื่อเห็นเช่นนี้ก็ต้องบอกได้เลยว่าเธอมีความสามารถที่ไม่ธรรมดา

เมื่ออันโหรวเดินเข้ามา เห่อเฉ่าที่สวยงามจนน่าตะลึงก็เดินตามเข้ามาด้วย พลันเดินเข้ามาภายในห้องโถง ผู้คนมากมายจึงต่างหันมาจับจ้องที่เธอ

สะอาด บริสุทธิ์  ไม่มีอะไรที่ดูสกปรกแม้แต่น้อย ผิวพรรณก็ดูดี เปรียบประหนึ่งหยกที่แสนล้ำค่า

ตอนนี้พวกเขาเมื่อลองคิดถึงลูซี่ดูแล้ว พวกเขาก็รู้สึกว่าเธอนั้นค่อนข้างจะดูเลี่ยนเกินไปหน่อย หากมาคู่กับภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาแล้วละก็ คงแตกต่างกันมาก

“สวัสดีค่ะทุกคน ดิฉันชื่อเหอเฉ่า” เธอเอ่ยทักทายด้วยความจริงจัง ก่อนจะนั่งลงด้านหลังของอันโหรว

ฉีเซิ่งเทียนเหลือบมองเหอเฉ่าเล็กน้อย ก่อนจะมองไปที่อันโหรว เขาถอนหายใจออกมาเบา ๆ แอบเสียดายอยู่เล็กน้อย เขาคิดว่าถ้าหากอันโหรวไม่มีใบหน้าซีดเซียว น้ำเสียงไม่แหบแห้ง น่าจะสวยและงดงามกว่าเหอเฉ่าเป็นอย่างมาก

ในขณะที่ทุกคนกำลังจับจ้องไปยังเหอเฉ่าอยู่นั้น จิ่งเป่ยเฉินกับหลินจื่อเซี๋ยวก็เดินเข้ามาพอดี เมื่อพวกเขาก้าวเข้ามา ประตูก็ถูกเปิดออก และการแถลงข่าวที่แท้จริงก็ได้เริ่มต้นขึ้น

จิ่งเป่ยเฉินเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยท่าทางเกียจคร้าน ดวงตาของเขานั้นดูนุ่มลึก น้อยคนนักที่จะรู้ความนัยที่แท้จริงได้

อันโหรวลุกขึ้นและเดินไปที่หน้าจอโปรเจกเตอร์ ด้านหลังของเธอมีชื่อขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ข้อความนั้นคือ แผนการ โดย “อันอีหาน” สามพยางค์

“นี่คือแผนที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทจิ่ง และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับหยกโดยเฉพาะ โดยชุด “หยกไหม” ก็จะถูกนำมาใช้ และพวกเราก็ได้คัดเลือกบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งพวกคุณเองก็เห็นกันแล้ว นั่นคือคุณเหอเฉ่า”

เธอมองไปที่เหอเฉ่า แน่นอนว่าคนอื่น ๆ ต่างก็จับจ้องไปที่เธอเช่นกัน เพียงแต่พวกเขาสองคนกลับไม่ได้มองไปที่เหอเฉ่าแต่อย่างใด

 ***************************

100 แล้วเย่ๆ อวยนางเอกค้าบบ // อีฟ่าน

อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด

อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด

Status: Ongoing
อ่านเรื่อง อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉดตอนที่ 1 ฉันเป็นเจ้าสาวของคุณ ภายในเรือเดินสมุทรที่ค่อนข้างหรูหรา ในตอนนี้ได้มีการจัดพิธีแต่งงานขึ้น อันโหรวกำลังมองไปยังคู่รักคู่หนึ่งด้วยสีหน้าและแววตาที่เย็นชา ชุดเดรสสีฟ้าที่เธอสวมใส่อยู่นั้นพลิ้วไหวไปกับสายลม “หยุดก่อน!” เธอตะโกนหยุดพิธีแต่งงานที่ดูไร้สาระนั่น ทำให้ทุกคนที่อยู่ในงานต่างจับจ้องมาที่ตัวเธอ “ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน? ทำไมถึงได้มายืนอยู่ตรงหน้าบ่าวสาวแบบนี้?” “หรืออาจจะเป็นคนรักของคุณชายโอวหยาง? แล้วทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่กัน?” ซุ่มสียงทั้งหมดดังเข้ามาในหูของเจ้าสาวอย่างเหลียวเว่ย รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอนั้นแข็งทื่อขึ้นมาทันที หัวใจก็เต้นโครมครามไม่หยุด เมื่อหันหน้าไปสบตากับผู้หญิงที่อยู่ตรงข้าม หัวใจของเธอก็ดำดิ่งลงไปเสียยิ่งกว่าอะไร คงไม่มีใครโง่พอที่จะปล่อยให้อดีตคู่รักมาสร้างปัญหาในพิธีแต่งงานหรอก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในช่วงเวลานี้ เธอพร้อมที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้มันพังลง! “โหรวโหรว…” โอวหยางลี่ปล่อยมือของเหลียวเว่ยทันที เขาหันไปอย่างไม่แยแสต่อสายตาของผู้คนภายในงาน รอยยิ้มบนใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยนอย่างถึงที่สุด ลียวเว่ยรู้สึกเป็นกังวลใจ เธอจึงรีบยื่นมือไปคว้าเขาไว้ “ลี่ ฉันเป็นเจ้าสาวของคุณนะ ในตอนนี้ตระกูลของอันได้ตกต่ำลงไปแล้ว” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่ทว่ามือที่จับแขนของเขานั้นกลับเต็มไปด้วยแรงที่ค่อนข้างมาก

Comment

Options

not work with dark mode
Reset