อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 1817 ฝ่าด่านวรยุทธ

อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆

ตอนที่ 1817 ฝ่าด่านวรยุทธ

“ได้”

เมื่อเห็นว่ายังมีเลือดมังกรเหลืออยู่ หอกสวรรค์กระดูกมังกรตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น มันรีบกลายร่างกลับสู่สภาพของโครงกระดูกมังกรและกลืนเลือดมังกรที่เหลือลงไป

ทันทีที่เลือดมังกรซึมเข้าสู่ร่างของมัน ร่างขนาดใหญ่ของหอกสวรรค์กระดูกมังกรก็สั่นสะท้านขึ้นมาทันที ราวกับมีสายฟ้านับไม่ถ้วนพลุ่งพล่านอยู่บนผิวหน้าของมัน รังสีของมันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ อีกเพียงครู่เดียว ก็จะทำลายฉนวนที่ปิดกั้นพละกำลังของมัน และฟื้นคืนพลังกลับมาในฐานะของของล้ำค่าระดับนักปราชญ์โบราณได้แล้ว

รู้ดีว่าคงต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าเลือดมังกรจะถูกซึมซับได้อย่างเต็มที่ จางเซวียนหันกลับมามองน้ำเต้าพร้อมกับขมวดคิ้ว

เขารู้ว่าน้ำเต้าตงฉู่มีความพิเศษตรงที่มีชีวิตจิตใจเป็นของตัวเองและพูดภาษามนุษย์ได้ แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะทำได้ถึงขั้นฉกฉวยเลือดมังกรไปจากมือของอำมาตย์เฉินหลิง…

แน่นอนว่ามันไม่ธรรมดา!

หรือมันจะเป็นของล้ำค่าระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่…บางทีอาจถึงขั้นนักปราชญ์โบราณก็เป็นได้!

เมื่อทนความสงสัยไม่ไหว จางเซวียนตั้งคำถาม “คุณเป็นใครกัน?”

ในเมื่ออีกฝ่ายมีชีวิตจิตใจ ก็เป็นไปได้ว่ามันอาจจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง

“ผมคือน้ำเต้า!” น้ำเต้าตงฉู่ตอบพร้อมกับส่ายก้น

จางเซวียนหน้าดำคร่ำเครียด ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง ทุกครั้งที่เขาพูดกับน้ำเต้าตงฉู่ เขารู้สึกอยากจะซ้อมมันเหลือเกิน!

จางเซวียนใช้เวลาสูดหายใจลึกอยู่ครู่หนึ่ง ระงับความอยากใช้กระบี่ไว้ก่อนจะถามต่อ “ที่ผมกำลังถามน่ะ หมายถึงว่าคุณเป็นของล้ำค่าชนิดไหนหรือระดับขั้นไหน?”

น้ำเต้าตงฉู่เงียบไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคำถามนั้น “ผมไม่รู้”

“คุณไม่รู้?”

“ผมเพียงแค่มีชีวิตจิตใจ แต่การควบคุมตัวเองของผมอยู่ในระดับเดียวกับเด็กๆเท่านั้น…ผมอยากกินนู่นนี่มากมายหลายอย่างเพื่อฟื้นคืนพละกำลัง ก็ใช่ ขอแค่คุณให้อาหารผมมากพอ ทันทีที่ฟื้นตัวผมก็คงจะรู้ว่าผมอยู่ในระดับขั้นไหน” น้ำเต้าตงฉู่ส่ายก้น น้ำลายดูเหมือนจะซึมออกมาจากจุกของมัน

“….” จางเซวียน

กระบี่ของเราอยู่ไหน?

เราควรจะเฉือนเจ้างั่งนี่ให้ขาดเป็น 2 ท่อนเพื่อตัดปัญหาทุกอย่างซะ!

หมอนี่กินของล้ำค่าไป 2 อย่างแล้ว ทั้งหินอุกกาบาตและเลือดมังกร เพราะมันไม่รู้ว่าหินอุกกาบาตเป็นของล้ำค่าระดับขั้นไหน จึงป่วยการจะพูดถึง แต่เลือดมังกรคือสิ่งที่มีอานุภาพถึงขนาดทำให้หอกสวรรค์กระดูกมังกรสำเร็จวรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 4-ผู้ทำลายล้างมิติได้ สำคัญขนาดที่แม้แต่อำมาตย์เฉินหลิงซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ยังพยายามสุดตัวเพื่อปกป้องมัน

แล้วการกลืนกินของล้ำค่าระดับนี้ยังไม่มากพอจะทำให้คุณฟื้นคืนพละกำลังอีกหรือ?

จริงๆนะ ผมควรจะโยนคุณทิ้งแล้วลืมเรื่องของคุณซะ!

ถึงจางเซวียนจะหงุดหงิด แต่ความอยากรู้อยากเห็นก็มีมากขึ้น

จากที่น้ำเต้าตงฉู่พูด ดูเหมือนมีแต่ของล้ำค่าที่อยู่ในระดับขั้นเดียวกับเลือดมังกรเท่านั้นที่จะทำให้มันสนใจ แล้วถ้าอย่างนั้น ตัวมันเองจะต้องเป็นของล้ำค่าที่ไร้เทียมทานแค่ไหน?

เขาไม่เคยคิดมากเรื่องนี้มาก่อน แต่เมื่อลองคิดดู ก็น่าประหลาดที่ผู้ทรงพลังอย่างนักปราชญ์โบราณชิวอู๋จะสร้างมิติลี้ลับขึ้นและใช้พลังจิตวิญญาณที่มีอยู่ในโลกเพียงเพื่อบ่มเพาะน้ำเต้าลูกหนึ่งมาเป็นเวลากว่าหลายหมื่นปี

เท่าที่ดู ทุกอย่างน่าจะไม่เรียบง่ายอย่างที่ตาเห็น

บางทีน้ำเต้าตงฉู่อาจเป็นของล้ำค่าในระดับเดียวกันกับบัวเก้าหัวใจก็เป็นได้!

จางเซวียนยื่นมือออกไปสัมผัสน้ำเต้าตงฉู่ หวังจะประมวลหนังสือขึ้นในหอสมุดเทียบฟ้า แต่กลับตรงกันข้ามกับที่คิดไว้ ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย

บางที อาจเป็นเพราะน้ำเต้าตงฉู่ถูกจัดให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่หอสมุดเทียบฟ้าไม่อาจวิเคราะห์ข้อมูลของมัน เว้นเสียแต่น้ำเต้าจะสำแดงเทคนิคการต่อสู้ หรือถูกเล่นงานจนสูญเสียสติสัมปชัญญะไป หอสมุดเทียบฟ้าจึงจะสามารถประมวลหนังสือขึ้นได้

ลงท้าย จางเซวียนก็ไม่มีทางเลือกนอกจากส่ายหน้า

ถึงจะไม่รู้ว่าน้ำเต้าตงฉู่เป็นของล้ำค่าระดับขั้นไหน แต่ก็ค่อยยังชั่วที่ได้รู้ว่าในอนาคตมันอาจมีประโยชน์ แม้จะยังคงไว้ใจไม่ค่อยได้ก็ตาม

“เอาเถอะ คุณไปพักผ่อนได้แล้ว…” เมื่อเห็นว่าไม่มีทางเค้นอะไรจากน้ำเต้าตงฉู่ได้อีก จางเซวียนขี้คร้านจะเสียเวลา เขาโยนอีกฝ่ายกลับเข้าไปในแหวนเก็บสมบัติก่อนจะนำศพเผ่าพันธุ์ปีศาจที่เป็นนักปราชญ์โบราณที่เหลือออกมา

ศพนักปราชญ์โบราณทั้ง 2 ศพที่เขาใช้เป็นโล่เพื่อต่อสู้กับสองนักปราชญ์โบราณก่อนหน้านี้มีรอยแตกร้าวอยู่เต็มไปหมด จึงใช้การไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังมีอีก 2 ตัวที่ยังไม่ได้รับความเสียหาย ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่จะตั้งต้นหลอมมัน

จางเซวียนถอดจิตวิญญาณออกและดำดิ่งเข้าสู่ศพของนักปราชญ์โบราณคนหนึ่งที่มีวรยุทธขั้นบรมครูนักปราชญ์โลกจารึก

ภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง เขาก็หลอมมันได้สำเร็จ

จากนั้น จางเซวียนก็ย้ายไปที่อีกตัว…

ผ่านไป 4 ชั่วโมง เขาก็สามารถแปรสภาพศพของเผ่าพันธุ์ปีศาจที่เป็นนักปราชญ์โบราณทั้งหมดให้กลายเป็นหุ่นโลหะไร้วิญญาณได้

ในบรรดาศพทั้งสี่ ตัวที่แข็งแกร่งที่สุดคือนักปราชญ์โบราณที่มีวรยุทธขั้นบรมครูนักปราชญ์ โลกจารึก ขณะตัวที่อ่อนแอที่สุดมีวรยุทธขั้นการสืบทอดสายเลือด โลกจารึก ด้วยหุ่นพวกนี้ เขาจะไม่ต้องตื่นตระหนกอีกต่อไปหากต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบเมื่อครู่

หลังจากหลอมหุ่นตัวสุดท้ายเสร็จ จางเซวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าและเห็นเมฆดำเข้ามารวมตัวกันอยู่ทั่วทั้งบริเวณ สภาพแวดล้อมโดยรอบเริ่มจะเปลี่ยนไป ดูราวกับว่าพายุใหญ่จะพัดกระหน่ำเข้าใส่โลกในเร็วๆนี้

“นี่มันการทดสอบนักปราชญ์โบราณ หอกสวรรค์กระดูกมังกรกำลังจะฝ่าด่านวรยุทธ…” นักปราชญ์โบราณโม่หลิงระงับการฝึกฝนวรยุทธและลุกขึ้นยืน

เมื่อมองไป จางเซวียนก็เห็นว่าเลือดเนื้อเริ่มจะปรากฏขึ้นบนโครงกระดูกมังกร เกล็ดสีดำสนิทงอกออกจากร่างของมัน การจ้องมองเกล็ดเหล่านั้นเหมือนกับการจ้องมองหลุมดำที่อาจทำให้ใครสักคนจมลงไปในนั้น

“แม้แต่การปลดฉนวนก็นำมาซึ่งการลงทัณฑ์ครั้งใหญ่หรือ?” จางเซวียนงง

หอกสวรรค์กระดูกมังกรเป็นของล้ำค่าระดับนักปราชญ์โบราณอยู่แล้ว เพียงแต่พละกำลังของมันถูกนักปราชญ์โบราณหรันชิวสกัดกั้นไว้ แล้วทำไมถึงต้องมีการทดสอบนักปราชญ์โบราณเพียงเพราะมันฟื้นคืนพละกำลังกลับมาดังเดิม?

“ภายใต้สถานการณ์ทั่วไป ฉนวนควรจะถูกปลดออกเมื่อคุณฝ่าด่านวรยุทธไปเป็นนักปราชญ์โบราณได้สำเร็จ แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าเลือดและเนื้อเริ่มจะปรากฏขึ้นบนโครงกระดูกนั้นก็หมายความว่าฉนวนไม่ได้ถูกปลดออก แต่มันกำลังฝ่าด่านวรยุทธ!” นักปราชญ์โบราณโม่หลิงพูด

“มันกำลังฝ่าด่านวรยุทธ?” จางเซวียนชะงัก

เรื่องนี้พอฟังขึ้น

แม้ในสภาวะที่ถูกปิดกั้นไว้ หอกสวรรค์กระดูกมังกรก็ยังแข็งแกร่งกว่ากระบี่เปลวเพลิงสีดำตั้งแต่ก่อนที่มันจะฝ่าด่านวรยุทธไปเป็นขั้นนักปราชญ์โบราณแล้ว เมื่อได้รับการบ่มเพาะจากเลือดมังกรอันทรงพลังเข้าไปอีก ต่อให้ฉนวนของมันยังไม่ถูกปลด แต่ก็เป็นธรรมดาที่มันจะฝ่าด่านวรยุทธไปสู่ขั้นนักปราชญ์โบราณได้สำเร็จ!

ส่วนนิรันดร์กาลของนักปราชญ์โบราณ…หอกสวรรค์กระดูกมังกรเป็นของล้ำค่าระดับนักปราชญ์โบราณตั้งแต่แรก แม้พละกำลังของมันจะถูกปิดกั้นไว้ แต่ก็น่าจะเป็นไปได้ว่ามีนิรันดร์กาลของนักปราชญ์โบราณบางส่วนอยู่ในตัวมัน ด้วยเหตุนี้ มันจึงไม่ต้องการความช่วยเหลือของจางเซวียนในการฝ่าด่านวรยุทธ

ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน การลงทัณฑ์อย่างหนักหน่วงก็ถาโถมเข้าใส่พื้นโลก มันคือพละกำลังทำลายล้างที่เป็นส่วนผสมของเปลวเพลิงสวรรค์และสายฟ้าฟาด

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอำนาจระดับนี้ โครงกระดูกมังกร – บางทีตอนนี้อาจควรเรียกมันว่ามังกรสีดำมากกว่า- คำรามกร้าวและพุ่งเข้าใส่การลงทัณฑ์จากสวรรค์ ร่างขนาดมหึมาของมันลัดเลาะไปตามหย่อมพละกำลังทำลายล้าง ปล่อยให้สายฟ้าแลบและเปลวเพลิงสวรรค์บ่มเพาะร่างกายของมัน ไม่ช้า เกล็ดของมันก็เริ่มหนาและเปล่งประกายเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ

“สมกับเป็นอาวุธที่หลอมขึ้นโดยนักปราชญ์โบราณหรันชิว แม้จะเพิ่งฝ่าด่านวรยุทธไปเป็นนักปราชญ์โบราณ แต่ก็ยังฝ่าด่านวรยุทธไปจนถึงขั้นการฟื้นคืนชีพของสายเลือดด้วย ตอนนี้มันมีระดับวรยุทธสูงกว่าผมเสียอีก” นักปราชญ์โบราณโม่หลิงมองหอกสวรรค์กระดูกมังกรและอดออกความคิดเห็นไม่ได้

นักปราชญ์โบราณหรันชิวนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นลูกศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดภายใต้การดูแลของปรมาจารย์ขง และหอกสวรรค์กระดูกมังกรก็ขึ้นชื่อว่าเป็นหอกหมายเลข 1 ของประวัติศาสตร์ เป็นธรรมดาที่จะต้องมีบางสิ่งพิเศษเกี่ยวกับมัน

ถ้าจางเซวียนปลดฉนวนของมันได้ มันคงสามารถฝ่าด่านวรยุทธไปถึงขั้นที่นักรบทุกคนได้แต่ฝันถึง วรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 4-ผู้ทำลายล้างมิติ!

จางเซวียนเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา หรือว่านี่จะเป็นเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้นักปราชญ์โบราณหรันชิวสกัดกั้นวรยุทธของหอกสวรรค์กระดูกมังกรไว้?

ถ้าเขาสามารถฝ่าด่านวรยุทธไปเป็นนักปราชญ์โบราณได้ในตอนนี้และช่วยหอกสวรรค์กระดูกมังกรปลดฉนวนของมัน อีกฝ่ายก็ย่อมจะฝ่าด่านวรยุทธไปสู่ขั้นที่สูงกว่าได้

บางที นี่อาจเป็นสิ่งที่นักปราชญ์โบราณหรันชิวตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก

“พวกเขาพูดกันว่าการรีบร้อนฝ่าด่านวรยุทธไปเป็นนักปราชญ์โบราณนั้นไม่ได้มีคุณค่าอะไร มีแต่การสั่งสมที่มากพอเท่านั้นที่จะทำให้ใครคนหนึ่งเข้าถึงวรยุทธระดับที่สูงขึ้นได้ ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นจริงๆ!”

“การผ่านการทดสอบนักปราชญ์โบราณจะทำให้ได้ประโยชน์ทุกครั้ง ยิ่งเข้าท้าทายบ่อยครั้งขึ้นเท่าไหร่ ก็มีโอกาสที่ในอนาคตผู้นั้นจะป่ายปีนได้สูงกว่าใครๆ

เพราะการท้าทายการทดสอบนักปราชญ์โบราณหลายต่อหลายครั้ง ปรมาจารย์ขงจึงมีพละกำลังที่ไม่มีใครเทียบได้

หอกสวรรค์กระดูกมังกรก็เคยผ่านการทดสอบนักปราชญ์โบราณมาแล้วครั้งหนึ่งในอดีต ตอนนี้ เพราะวรยุทธของมันถูกสกัดกั้นไว้มันจึงมีโอกาสที่จะฝ่าด่านวรยุทธได้อีกครั้ง ซึ่งหากมันนำพละกำลังที่ได้จากการฝ่าด่านวรยุทธทั้ง 2 ครั้งมาผนวกรวมกัน ก็แน่นอนว่าประสิทธิภาพการต่อสู้ของมันจะพุ่งพรวด

เห็นการทดสอบนักปราชญ์โบราณค่อยๆซาไปเพราะความแข็งแกร่งของหอกสวรรค์กระดูกมังกร จางเซวียนตาโตด้วยความตื่นเต้น

“ต่อให้เราไม่อาจถอดรหัสฉนวนและปลดปล่อยมันให้เข้าถึงวรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 4 ได้ แต่อานุภาพของมันในตอนนี้ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับเราแล้ว!”

ในตอนนั้น หอกสวรรค์กระดูกมังกรได้พละกำลังกลับฟื้นขึ้นมาเทียบเท่ากับนักรบขั้นการฟื้นคืนชีพของสายเลือดโลกจารึก ในแง่ของประสิทธิภาพการต่อสู้ มันไม่เป็นรองแม้แต่กับไอ้โหด ขอแค่เขามีหอกสวรรค์กระดูกมังกรอยู่ในมือ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องหวั่นเกรงผู้ใด!

ต่อให้เขาต้องปะทะกับอำมาตย์เฉินหลิงอีกครั้ง ก็คงเอาชนะอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย

ฟึ่บ!

ขณะที่สายฟ้าในหมู่เมฆสลายตัวไป มังกรสีดำที่อยู่กลางอากาศก็กลายร่างกลับคืนเป็นหอก ก่อนจะพุ่งตรงเข้าหาจางเซวียน มันโน้มตัวลงต่อหน้าจางเซวียนอย่างนอบน้อม

“นายท่าน!”

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

LOHP, Thiên Đạo Đồ Thư Quán, Tian Dao Tu Shu Guan, 天道图书馆
Score 7.4
Status: Completed Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชรจางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset