อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 1943 คัดเลือกรอบ 2

อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆

ตอนที่ 1943 คัดเลือกรอบ 2

ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินตามหลังหัวเจียงเหอ เขามีรูปร่างสูงและสวมชุดเกราะโอ่อ่าเต็มยศ นัยน์ตาของเขาฉายความมีอำนาจออกมา บ่งบอกว่าเป็นผู้มีตำแหน่งสูงส่ง

เฉว่ชิงผ่อนฝีเท้าเมื่อได้ยินเสียงนั้น เธอหันกลับไป จากนั้นก็ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะโค้งคำนับอย่างงาม “ท่านพ่อ, ศิษย์พี่หัว”

ชายวัยกลางคนผู้นั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนักสู้ที่ถูกจางเซวียนสังหารด้วยการโยนกระบี่เพียงครั้งเดียวเมื่อตอนอยู่ในหอนิรันดร์, ท่านเจ้าเมืองชวนเจียง, เฉว่เหยา

มีชายหนุ่มอีกราว 10 คนเดินตามหลังทั้งคู่มา พวกเขาล้วนอยู่ในช่วงวัยรุ่นตอนต้น อายุราว 16-17 ปี แม้จะอายุยังน้อย แต่ก็ดูจะมีพละกำลังน่าทึ่งไม่เบา

พวกเขาคือผู้เข้าร่วมการทดสอบของสำนักดาบเมฆเหิน

“นายท่านหัว…”

เมื่อเห็นทั้งคู่ เฉว่เฉินหันไปมองเจ้าเมืองเฉว่เหยาอย่างงงงัน

การทดสอบของสำนักดาบเมฆเหินมีความสำคัญสูงสุด ในฐานะเจ้าเมือง เขาย่อมต้องมาปรากฏตัวเพื่อดูแลสถานการณ์ แต่ใครจะไปคิดว่าหลังจากการคัดเลือกรอบแรกเสร็จสิ้น หัวเทียนเหอก็ยืนกรานจะมุ่งหน้ามาที่สำนักเจ้าเมือง เรื่องนี้ทำให้เฉว่เหยางุนงง

“เราจะจัดการคัดเลือกรอบ 2 ขึ้นที่นี่ ผมเห็นว่ามีผู้คนมากมายมาเป็นประจักษ์พยาน เชื่อว่าน่าจะเป็นเครื่องยืนยันความชอบธรรมในการทดสอบของเราได้เป็นอย่างดี” หัวเจียงเหอตัดสินใจขณะเดินตรงไปยังใจกลางห้อง

ถ้าเป็นสถานการณ์อื่น ก็ถือว่าผิดธรรมเนียมที่หัวเจียงเหอจะตัดสินใจโดยพละการแบบนี้ โดยเฉพาะเมื่อเจ้าเมืองเฉว่เหยาก็อยู่ด้วย แต่ขณะที่การทดสอบกำลังดำเนินไป คำพูดของเขาถือเป็นตัวแทนของเจตจำนงของทั้งสำนักดาบเมฆเหิน ดังนั้น ต่อให้เฉว่เหยาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับการตัดสินใจของเขา

เมื่อเห็นกระบวนการไต่สวนถูกขัดจังหวะอย่างกะทันหันด้วยเหตุอันคาดไม่ถึง เฉว่เฉินถึงกับจังงัง

แล้วคราวนี้เขาจะทำอย่างไร?

“ศิษย์พี่หัว ผมเป็นพลเมืองคนหนึ่งของเมืองชวนเจียงเช่นกัน ไม่ทราบว่ามีคุณสมบัติเพียงพอจะได้เข้าร่วมการทดสอบไหม?” ตั้นเฉี่ยวเทียนตั้งคำถามเสียงดังฟังชัด

“ได้อย่างแน่นอน!” หัวเจียงเหอพยักหน้า

“นายท่าน ตั้นเฉี่ยวเทียนเป็นแค่นักรบระดับเซียนขั้น 6 คุณจะเสียเวลานะหากต้องทดสอบผู้ที่มีวรยุทธระดับเขา อีกอย่าง เขาเพิ่งรวมหัวกับเหล่ากองโจรเพื่อทำลายผลประโยชน์ของเมืองชวนเจียง สำนักดาบเมฆเหินจะเสียชื่อเสียงหากคนชั่วร้ายโหดเหี้ยมอย่างเขาได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการทดสอบ” เฉว่เฉินพูดอย่างร้อนใจ

เขารู้ดีว่าตั้นเฉี่ยวเทียนไม่มีทางผ่านการทดสอบได้ ต่อให้มีโอกาสได้เข้าร่วม แต่นั่นก็จะลดทอนความชอบธรรมของการทดสอบลงไปหากอีกฝ่ายได้เข้าร่วมในการทดสอบนั้น อีกอย่าง เขาดูออกว่าตั้นเฉี่ยวเทียนมีกลเม็ดเด็ดพรายบางอย่างซ่อนอยู่ แม้เฉว่เฉินจะมั่นใจในแผนการของตัวเอง แต่ก็รู้ดีเกินกว่าจะปล่อยให้ตั้นเฉี่ยวเทียนทำอะไรตามใจ

“คุณบอกว่าผมอ่อนแอใช่ไหม?” ตั้นเฉี่ยวเทียนมองหน้าเฉว่เฉินและตั้งคำถาม

“ก็ใช่น่ะสิ! นักรบระดับเซียนขั้น 6 ที่พิการ…พละกำลังของคุณน่ะเทียบกับพลเมืองธรรมดาสามัญในเมืองของเราไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วจะให้เรียกคุณว่าอะไรนอกจากคนอ่อนแอ?” เฉว่เฉินเลิกคิ้ว

“ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ผมก็ขอถามว่าคุณมีความเห็นต่อความสามารถของเฉว่ชิงอย่างไร?” ตั้นเฉี่ยวเทียนถามต่อ

แม้สถานการณ์จะไม่เข้าข้างเขา แต่น้ำเสียงของตั้นเฉี่ยวเทียนก็ดูจะมั่นอกมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกเขาก็แค่ทำตามคำสั่งของจางเซวียนอย่างเคร่งครัด แต่เมื่อเผชิญหน้ากับอาการคุกคามข่มขู่ของเฉว่เฉิน คำพูดของเขาก็ค่อยๆหนักแน่นและทรงพลังขึ้น

“นายหญิงน้อยที่ 2 ของเรา? แน่นอนว่าคืออัจฉริยะ! แม้ปีนี้จะเพิ่งอายุ 16 ปี แต่ก็สำเร็จวรยุทธระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้น 3 โลกจารึกแล้ว อีกทั้งยังมีโอกาสฝ่าด่านวรยุทธได้เร็วๆนี้” เฉว่เฉินตอบอย่างภาคภูมิใจ

“อย่างนั้นหรือ?” ตั้นเฉี่ยวเทียนทวนคำด้วยอาการสุขุม

ฟิ้ววววว!

กระแสดาบฉีพุ่งออกจากปลายนิ้วของเขา ตัดกุญแจมือที่สวมอยู่รอบข้อมือให้แตกเป็นเสี่ยงๆ ในเวลาเดียวกัน ตั้นเฉี่ยวเทียนปลดปล่อยระดับวรยุทธออกมา ทำให้รังสีที่อยู่รอบตัวเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งเทียบเท่ากับนักรบระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้น 3 โลกจารึก แผ่นหลังของเขาที่เคยค่อมค่อยๆยืดตรง ทำให้ความสูงเดิมที่มีอยู่ราว 1.6 เมตรเพิ่มขึ้นไปเป็น 1.75 เมตร แม้จะยังไม่สูงเท่าจางเซวียน แต่ก็ดูสง่างามกว่าเดิมมาก

ที่สำคัญกว่านั้น เมื่อเขาออกเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ความพิการที่ขาก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย

รูปลักษณ์ของเขาดูจะเปลี่ยนแปลงไประดับหนึ่ง แม้จะยังมีปานโดดเด่นอยู่บนใบหน้า แต่ผิวพรรณก็ดูจะหมดจดและสง่างามกว่าเดิม บ่งบอกถึงความเป็นสุภาพบุรุษ

“เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้…” นัยน์ตาของเฉว่ชิงแทบร่วงลงกับพื้น

ตลอดเวลาที่ผ่านมา สิ่งที่เธอเห็นในตัวตั้นเฉี่ยวเทียนคือความอ่อนแอและไร้ประโยชน์ ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะเปลี่ยนแปลงไปได้มากมายขนาดนี้

ตั้นเฉี่ยวเทียนไม่แยแสเฉว่ชิงที่กำลังตกตะลึง เขาเดินตรงเข้าหาเฉว่เฉิน จากนั้นก็เหยียดริมฝีปากขึ้นขณะตั้งคำถาม “ผมกับเฉว่ชิงมีวรยุทธระดับเดียวกัน คุณมองว่าผมคือขยะ แต่เฉว่ชิงคืออัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้…ผมสงสัยเหลือเกินว่าคุณใช้อะไรตัดสิน ใช้หัวแม่เท้าคิดหรือไง?”

“คุณ…” เฉว่เฉินสะบัดหน้าอย่างไม่อยากเชื่อขณะก้าวถอยหลัง

หมอนี่ฝึกฝนวรยุทธได้ตั้งแต่เมื่อไหร่? แถมยังเป็นถึงนักรบระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้น 3 โลกจารึกด้วย?

ไม่เพียงแค่พวกเขา ฝูงชนก็พากันเงียบกริบ

ข้อกล่าวหาที่พวกเขาพากันยัดเยียดให้ตั้นเฉี่ยวเทียนก่อนหน้านี้อยู่บนข้อเท็จจริงที่ว่าอีกฝ่ายไม่สามารถฝึกฝนวรยุทธได้ ทั้งยังต้องพึ่งพาความช่วยเหลือของสำนักเจ้าเมืองเพื่อให้ยังมีชีวิตรอด แต่ถ้าตั้นเฉี่ยวเทียนคือผู้เชี่ยวชาญตัวจริง เหตุผลพวกนั้นก็ถือว่าตกไป

“พวกคุณน่ะ เข้ามาหาผมพร้อมๆกันเลย!” ตั้นเฉี่ยวเทียนร้องบอกบรรดาชายหนุ่มที่ติดตามหัวเจียงเหอมาพร้อมกับหัวเราะหึๆ

“คุณอยากสู้กับพวกเราพร้อมกันในคราวเดียวหรือ?”

วัยรุ่นเหล่านั้นพากันชะงักกับการท้าทายที่เกิดขึ้นอย่างปุบปับ พวกเขาหันไปมองหัวเจียงเหอ ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับ แต่ละคนจึงเงื้อดาบในมือขึ้นและพุ่งเข้าใส่

ส่วนตั้นเฉี่ยวเทียนก็ใช้นิ้วแทนดาบ เขาทิ่มนิ้วไปข้างหน้าและฉกฉวยดาบมาจากมือของนักรบคนหนึ่งได้ เมื่อมีดาบในมือ ตั้นเฉี่ยวเทียนก็ปัดป้องการโจมตีของคนอื่นๆได้อย่างง่ายดาย

ฟิ้ววววว!

กระแสดาบฉีมากมายนับไม่ถ้วนพุ่งออกจากปลายดาบของตั้นเฉี่ยวเทียนพร้อมๆกัน

ถึงเขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่ทำความเข้าใจเทคนิคการโยนดาบที่ท่านอาจารย์ถ่ายทอดให้ แต่ก็ไม่ได้ละเลยที่จะสร้างรากฐานของตัวเองให้มั่นคง ต่อให้ไม่ต้องใช้ไม้ตาย ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเขาก็ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะเอาชนะได้โดยง่าย

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

ด้วยการระเบิดของกระแสดาบฉี ดาบที่วัยรุ่นกลุ่มนั้นถืออยู่ถูกสอยกระเด็นหลุดจากมือ มันร่วงลงกับพื้น ส่งเสียงดังเคร้ง วัยรุ่นเหล่านั้นอดไม่ได้ที่จะจ้องหน้าตั้นเฉี่ยวเทียนด้วยความพรั่นพรึง

ศิลปะเพลงดาบที่ตั้นเฉี่ยวเทียนสำแดงออกมาปลดอาวุธของพวกเขาได้ในชั่วพริบตา

โชคดีที่อีกฝ่ายออมมือให้ ไม่อย่างนั้นข้อมือของพวกเขาคงได้รับบาดเจ็บไปแล้ว

ฟึ่บ!

ตั้นเฉี่ยวเทียนกระดิกนิ้วอีกครั้ง ดาบในมือของเขาลอยออกไปและปักอยู่กับพื้นตรงหน้า เขามองหน้าเฉว่ชิงอย่างวางมาดและถามว่า “ไม่ทราบว่านายหญิงน้อยที่ 2 ผู้ปราดเปรื่องสามารถทำในสิ่งที่ผม, ไอ้ขยะคนนี้ทำได้หรือไม่?”

“….”

ฝูงชนพากันเงียบกริบ

ทั้งที่ตกอยู่ในวงล้อมของคู่ต่อสู้มากกว่า 10 คน ตั้นเฉี่ยวเทียนก็ยังฉวยดาบมาจากมือของวัยรุ่นคนหนึ่ง และสอยดาบของคนที่เหลือให้ร่วงได้โดยไม่ต้องใช้แม้แต่ก้าวเดียว…พละกำลังของศิลปะเพลงดาบที่เขาสำแดงออกมาช่างน่าสะพรึงเหลือเกิน!

ถ้าคนแบบนี้ถูกเรียกว่าขยะ แล้วพวกเขาจะกลายเป็นอะไร?

เฉว่ชิงหน้าซีดเผือดขณะตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

ถึงเธอจะเป็นนักรบระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้น 3 โลกจารึก แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีความสามารถพอจะทำอะไรแบบนั้น

ถ้าเธอพยายามทำแบบเดียวกับตั้นเฉี่ยวเทียน ก็ยังสงสัยอยู่ว่าน่าจะพ่ายแพ้ในทันที

เฉว่เฉินเงียบงันไปครู่หนึ่งก่อนจะรีบโต้แย้ง “ใช่ คุณไม่ใช่ขยะ แต่เรื่องจริงก็คือคุณรวมหัวกับพวกกองโจร แม้แต่เพื่อนบ้านของคุณก็ยังยืนยันว่าพวกเขาเห็นเหล่ากองโจรเข้าสู่บ้านพักของคุณเมื่อกลางดึกของคืนก่อน”

“ได้ยินคำนั้น ตั้นเฉี่ยวเทียนหันกลับไปมองพยานทั้งสองและตั้งคำถาม “คุณแน่ใจหรือว่าคุณได้เห็นกับตาว่ามีกองโจรเข้าสู่บ้านพักของผม?”

“ใช่ ไม่มีข้อผิดพลาดอย่างแน่นอน!”

“พวกเราเห็นกับตา!”

ภายใต้สายตาดุดันของตั้นเฉี่ยวเทียน เพื่อนบ้านทั้งสองถึงกับผงะ

ถ้าตั้นเฉี่ยวเทียนยังคงไม่สามารถฝึกฝนวรยุทธ พวกเขาก็ไม่มีอะไรต้องหวาดกลัว แต่ด้วยประสิทธิภาพการต่อสู้ที่อีกฝ่ายเพิ่งสำแดงออกไป พวกเขาอดไม่ได้ที่จะหวนนึกถึงอำนาจอันยิ่งใหญของตระกูลตั้นเมื่อ 10 ปีก่อน…

ถึงพวกเขาจะแค่เปิดเผยในสิ่งที่ได้เห็น แต่เพียงแค่คิดว่าในอนาคตตั้นเฉี่ยวเทียนจะมาเอาคืน ก็ทำให้สุ้มเสียงขาดความมั่นใจกว่าเดิมมาก

ขณะที่ทั้งสองกำลังใจเต้นรัวด้วยความหวาดหวั่น ตั้นเฉี่ยวเทียนก็โพล่งออกมา “จากข้อเท็จจริงที่พวกคุณเห็นน่ะ ก็หมายความว่าพวกคุณน่ะ…ตาแหลม!”

“ฮะ?”

เพื่อนบ้านทั้งสองถึงกับจังงัง

ตาแหลม?

ไอ้หนุ่ม รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา เท่ากับยอมรับเลยนะว่าคุณรวมหัวกับพวกกองโจร ต่อให้คุณจะปราดเปรื่องและทรงพลังแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่สำนักดาบเมฆเหินจะยอมรับบุคคลที่มีคดีความเกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมหรอก!

เหมือนหินก้อนหนึ่งที่ถูกโยนลงไปในบึง อาการกระเพื่อมครั้งใหญ่เกิดขึ้นในหมู่ฝูงชนทันที

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ดูสิ ในที่สุดตั้นเฉี่ยวเทียนก็ยอมรับการก่ออาชญากรรมของเขาแล้ว ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ผมเชื่อว่าเราไม่ต้องดำเนินการสืบสวนต่อแล้วล่ะ พวกเรา, จับตัวไอ้สารเลวที่กล้ารวมหัวกับกองโจรไว้แล้วพาไปขัง!” เฉว่เฉินจังงังไปครู่หนึ่งก่อนจะตาโตด้วยความยินดีปรีดา

ตั้งแต่วินาทีที่ตั้นเฉี่ยวเทียนเปิดเผยประสิทธิภาพการต่อสู้ที่แท้จริงออกมา เขาก็รู้แล้วว่าทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ ถ้าตั้นเฉี่ยวเทียนยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด ก็คงเป็นการต่อสู้ที่ยากเย็นไม่น้อยสำหรับเขา

การเปิดการไต่สวนสาธารณะถือเป็นดาบสองคม พวกเขาต้องหาหลักฐานที่แน่นหนาพอจะมัดตัวตั้นเฉี่ยวเทียนให้ได้ ไม่อย่างนั้น ชื่อเสียงของสำนักเจ้าเมืองก็มีแต่จะด่างพร้อย

แต่ใครจะไปคิดว่าตั้นเฉี่ยวเทียนจะงี่เง่าขนาดยอมรับออกมาในทันที แถมยังทำต่อหน้าผู้คนมากมายด้วย!

ด้วยสิ่งนี้ ชะตากรรมของตั้นเฉี่ยวเทียนก็เป็นอันปิดตาย ในเมื่อเขาสารภาพออกมาเอง พวกเขาก็สามารถกดดันให้เกิดการประหารอีกฝ่ายได้

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

LOHP, Thiên Đạo Đồ Thư Quán, Tian Dao Tu Shu Guan, 天道图书馆
Score 7.4
Status: Completed Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชรจางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset