อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 1966 พนัน(1)

อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆

ตอนที่ 1966 พนัน(1)

จางเซวียนเดินไปสอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากผู้คนที่ผ่านไปมา

ก็เหมือนกับหอนิรันดร์ที่อื่นๆ วิธีที่รวดเร็วที่สุดในการจะได้เหรียญสำนักดาบมาก็คือต้องเข้าร่วมในสังเวียนประลอง เรื่องนี้ถือว่าเข้าทางของจางเซวียน

ดังนั้น สถานที่แห่งแรกที่เขามุ่งหน้าไปจึงเป็นสังเวียนประลอง

ในตอนนั้น ชายหนุ่ม 2 คนกำลังต่อสู้กันอยู่

เพราะทุกคนสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาได้ตามใจเมื่ออยู่ในหอนิรันดร์ จึงไม่มีทางบอกตัวตนที่แท้จริงของนักสู้ทั้ง 2 คนได้ ดังนั้น เพื่อให้ผู้ชมแยกแยะนักสู้แต่ละฝ่ายออกจากกันได้สะดวก ทั้งสองจึงสวมเสื้อผ้าที่มีสีต่างกัน คนหนึ่งสีเขียวและอีกคนสีขาว

ศิลปะเพลงดาบของชายหนุ่มชุดเขียวจัดว่าทรงพลังและเฉียบคม ยากที่จะเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ ส่วนศิลปะเพลงดาบของชายหนุ่มชุดขาวนั้นว่องไวมาก ทั้งยังแผ่วเบาและมีความยืดหยุ่น

แม้ศิลปะเพลงดาบของทั้งคู่จะต่างกันสุดขั้ว แต่พวกเขาก็สู้กันได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

“ไม่เลว!”

หลังจากดูได้สักครู่ จางเซวียนพยักหน้า

สมกับที่เป็นศิษย์สายตรงฝ่ายในของสำนักดาบเมฆเหิน ศิลปะเพลงดาบของพวกเขาอยู่ในระดับที่เหนือชั้นกว่าหัวเจียงเหอกับพรรคพวก ทั้งสองคนพบวิถีทางเพลงดาบของตัวเองแล้ว และทุกกระบวนท่าที่พวกเขาปลดปล่อยออกมาก็มีแนวคิดล้ำลึกอยู่เบื้องหลัง ถึงจะอายุยังน้อย แต่ก็มีบุคลิกของบรมครู

แม้แต่ศิลปะเพลงดาบของเซียนดาบชิงกับคนอื่นๆในทวีปแห่งปรมาจารย์ก็ไม่อาจเทียบชั้นกับทั้งสองได้

“พี่ชาย คุณสนใจจะพนันไหม?”

ขณะที่จางเซวียนกำลังศึกษากระบวนท่าของนักสู้ทั้งสองฝ่าย เสียงหนึ่งก็กระซิบกระซาบเข้าหู เขาหันไป เห็นชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทาคนหนึ่งกำลังมองมาด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์

รูปลักษณ์อวตารส่วนใหญ่ที่ปรากฏในหอนิรันดร์ล้วนแต่ผ่านกระบวนการขัดเกลาต่างๆมา จึงไม่เป็นการพูดเกินจริงหากจะบอกว่าทุกคนที่นี่ล้วนแต่มีหน้าตาสะสวยและหล่อเหลา แต่ถึงอย่างนั้น ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทาคนนี้ก็มีนัยน์ตาที่เป็นประกายหลุกหลิกเจ้าเล่ห์ ซึ่งทำให้ดูไม่น่าไว้ใจอย่างยิ่ง

“พนันอย่างไรล่ะ?” จางเซวียนถาม

ในฐานะหนึ่งใน 6 สํานักใหญ่ สำนักดาบเมฆเหินให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของความเที่ยงธรรมและการอยู่ในกฎเกณฑ์ ด้วยเหตุนี้ จึงไม่น่าเป็นไปได้ที่ทางสำนักจะอนุญาตให้ศิษย์สายตรงเข้าร่วมการพนันขันต่อใดๆ ดังนั้นจึงไม่มีการเปิดรับพนันอย่างเป็นทางการในการประลอง เป็นไปได้ว่าชายหนุ่มคนนี้น่าจะทำตัวเป็นเจ้ามือรับพนันแบบผิดกฎหมาย เพื่อหวังว่าจะได้เงินพิเศษ

“ง่ายนิดเดียว แต้มต่อของชายหนุ่มชุดเขียวคือ 1 ต่อ 1.5 ส่วนแต้มต่อของชายหนุ่มชุดขาวคือ 1 ต่อ 1.1 แต่ถ้าคุณแทงเสมอ แต้มต่อคือ 1 ต่อ 5” ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทาตอบ

“ทำไมแต้มต่อของชายหนุ่มชุดขาวถึงต่ำนักล่ะ?” จางเซวียนสงสัย

“เพราะเขามีโอกาสชนะมากกว่า เขาดวลมาแล้วถึง 300 ครั้ง และเอาชนะได้มากกว่า 200 ครั้งทีเดียว นั่นหมายความว่าศิลปะเพลงดาบของเขาไร้เทียมทาน!” ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทาตอบ “คุณอยากลองแทงสักตาไหม?”

“ได้สิ!” จางเซวียนมองคู่ต่อสู้ที่อยู่บนสังเวียนประลองก่อนจะยิ้มออกมา เขาชูสองนิ้วขึ้นและพูดว่า “ผมพนัน 20 เหรียญสำนักดาบว่าชายหนุ่มชุดเขียวชนะ”

“คุณจะพนัน 20 เหรียญสำนักดาบ?” ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทาอุทานด้วยความตกใจ นึกไม่ถึงว่าจู่ๆชายแปลกหน้าคนนี้จะทุ่มทุนก้อนโต

ก็เป็นอย่างที่จางเซวียนคิด ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทาเป็นเจ้ามือรับพนันแบบผิดกฎหมาย แม้สำนักดาบเมฆเหินจะไม่อนุญาตให้ศิษย์สายตรงเล่นพนัน แต่การบังคับใช้กฎเกณฑ์ข้อนี้ก็ไม่ได้เข้มงวดนัก ตราบใดที่ไม่มีอะไรรั่วไหลออกไป ก็ไม่มีใครเข้ามายุ่งเกี่ยว

โดยทั่วไป การเปิดรับพนันจะไม่ใช้เงินก้อนโตนัก ตกราว 2-3 เหรียญสำนักดาบเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทาได้เจอนักพนันหน้าใหม่ที่ทุ่มเงินถึง 20 เหรียญสำนักดาบในตาเดียว

จางเซวียนพยักหน้าอย่างสุขุมเพื่อยืนยัน

“ผมเตือนคุณไว้ก่อนนะว่าถอนคำพูดไม่ได้ ตกลงไหม?” ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทาพูดขณะชำเลืองมองสังเวียนประลอง

ในตอนนั้น ชายหนุ่มชุดขาวกำลังถือไพ่เหนือกว่า ด้วยการโจมตีอย่างไม่ลดละของเขา ชายหนุ่มชุดเขียวถูกบีบต้องให้ต้องล่าถอยไปครั้งแล้วครั้งเล่า

ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทาหัวเราะเบาๆ เขายื่นบัตรใบหนึ่งที่มีตัวเลข 20 จารึกอยู่บนนั้นออกมา “วางเงินของคุณมาก่อน เมื่อจบการดวล ถ้าคุณชนะ ก็รับบัตรใบนี้ไป แต่ถ้าคุณแพ้ บัตรนี้ก็จะไร้ประโยชน์”

“ได้!” จางเซวียนพยักหน้า

เขาเตรียมบัตรนิรันดร์ของเขาไว้เรียบร้อยแล้ว และใส่เงินจำนวน 20 เหรียญสำนักดาบไว้ในนั้นแล้วเช่นกัน ด้วยการเคาะเบาๆ เงิน 20 เหรียญก็ถูกยื่นให้ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทา

“ฮ่าาาา!”

เห็นมูลค่าของเงินในบัตรที่เพิ่มขึ้นมา 20 เหรียญสำนักดาบ ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทายิ้มอย่างลิงโลด ก่อนจะแหวกฝูงชนเพื่อหาที่นั่ง

ไม่ช้า สาวน้อยคนหนึ่งที่สวมเสื้อผ้าแบบเดียวกับเขาก็เดินเข้ามาถาม “เป็นอย่างไรบ้าง?”

“ผมเพิ่งพบไอ้งั่งคนหนึ่ง หมอนั่นพนัน 20 เหรียญสำนักดาบว่าเจ้าหนุ่มชุดเขียวจะชนะ” ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทากระหยิ่มยิ้มย่อง

“20 เหรียญ? โง่สิ้นดี!” สาวน้อยหัวเราะลั่น “เจ้าหนุ่มชุดเขียวไม่มีทางชนะหรอก! ด้วยเครือข่ายข้อมูลข่าวสารของเรา เราพบว่าชายหนุ่มชุดขาวคือศิษย์พี่โม่เหอ ขณะที่ชายหนุ่มชุดเขียวคือศิษย์น้องหูเฉี่ยว ฝ่ายหลังเพิ่งเข้าร่วมสำนักได้ไม่ถึง 2 ปี จะเอาชนะศิษย์พี่โม่เหอได้อย่างไร?”

“จริงด้วย…20 เหรียญสำนักดาบเหนาะๆ!” ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทาคำรามเยาะ

แต่ในตอนนั้นเอง ขณะที่ชายหนุ่มชุดเขียวถูกบีบให้ถอยไปจนสุดขอบสังเวียนประลอง เขาก็พลัน เปลี่ยนกระบวนท่าและพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายพร้อมกับปลดปล่อยกระแสดาบฉีอันทรงพลังออกมา

พลั่ก!

การโจมตีอย่างฉับพลันนั้นทำให้ชายหนุ่มชุดขาวไม่ทันระวังตัว เขาถูกกระแทกอย่างจังเข้าที่หน้าอก

ด้วยสิ่งนี้ ชายหนุ่มชุดเขียวจึงเป็นผู้ชนะ!

“ฮะ…”

ทั้งคู่ที่กำลังยิ้มกริ่มเงียบกริบทันที

เกิดอะไรขึ้น…ทำไมชายหนุ่มชุดเขียวถึงเอาชนะได้?

เมื่อครู่นี้ยังตกเป็นเบี้ยล่างอยู่เลยไม่ใช่หรือ?

“ชายชุดเขียวรู้ดีว่าศิลปะเพลงดาบของเขาเทียบชั้นกับคู่ต่อสู้ไม่ได้ จึงแกล้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อหลอกให้ชายชุดขาวตายใจ ก่อนจะฉวยโอกาสโจมตี!”

“จริงด้วย การดวลที่นี่เป็นการดวลแบบชี้เป็นชี้ตาย ไม่ใช่แค่การประลองศิลปะเพลงดาบ ต่อให้คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าก็อาจถูกสังหารได้หากขาดความระมัดระวัง”

เสียงออกความคิดเห็นทำนองนี้ดังเซ็งแซ่

ผู้ชมล้วนแต่เป็นศิษย์สายตรงของสำนักดาบเมฆเหิน และมองว่าการได้ชมการประลองถือเป็นการฝึกฝนรูปแบบหนึ่งเช่นกัน

เห็นได้ชัดว่าศิลปะเพลงดาบของชายหนุ่มชุดเขียวอ่อนด้อยกว่าชายหนุ่มชุดขาว แต่เขาคือผู้ที่ได้หัวเราะทีหลัง

ในการต่อสู้ของจริง ผู้ที่มีทักษะเพลงดาบเหนือชั้นกว่าอาจไม่ได้เป็นผู้ชนะเสมอไป ยังมีอีกหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง

“หมอนั่นแค่โชคดี!” ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทาพึมพำก่นด่า

มันเรื่องอะไรที่ไอ้งั่งคนหนึ่งคว้าเงินของเขาไปได้ง่ายๆแบบนี้?

คงเป็นโชคดีของมือใหม่ ไม่น่าเป็นเหตุผลอื่นไปได้!

“นี่ ผมขอรับเงินด้วย!”

ขณะที่ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทายังคงสาปแช่งอย่างโกรธเกรี้ยว ‘ไอ้งั่ง’ เมื่อครู่ก็เดินเข้ามาหาเขาและยื่นบัตรนิรันดร์ให้

ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทาจ้องหน้า ‘ไอ้งั่ง’ ครู่หนึ่งก่อนจะยื่นเงิน 30 เหรียญให้อย่างไม่เต็มใจ

ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเขียวกับเสื้อคลุมสีขาวต่างก็ลงจากสังเวียนประลอง มีนักสู้คู่ใหม่ เข้าประจำตำแหน่ง

นัยน์ตาของชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทาเป็นประกายวาบขณะตั้งคำถาม “คุณจะพนันอีกสักตาไหม?”

โชคดีอาจเป็นของคนๆหนึ่งได้เพียงหนึ่งหรือสองครั้งเท่านั้น แต่ท้ายที่สุด สิ่งที่เป็นตัวกำหนดว่าใครจะเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายคือแต้มต่อ นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมถึงเกิดการล้มละลายขายบ้านกันบ่อยครั้งในบ่อนการพนัน

“ได้สิ” จางเซวียนพยักหน้า

เขาเพิ่งมาถึงที่นี่ได้เพียงนาทีเดียว ยังไม่ทันจะได้กระดิกนิ้ว ก็ทำเงินได้ 10 เหรียญสำนักดาบแล้ว ในเมื่อมาเจอวิธีหาเงินแบบง่ายๆเข้าโดยบังเอิญ ก็ไม่มีทางที่เขาจะหยุดอยู่แค่ 10 เหรียญแน่!

“ได้เลย คราวนี้เราต่างคนต่างแทง เพื่อจะได้ยุติธรรมขึ้น” ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทามองสังเวียนประลองที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะตั้งข้อสังเกตด้วยรอยยิ้ม “ขอผมดูก่อนนะ…ผมขอแทงว่าชายวัยกลางคนเสื้อคลุมสีดำจะชนะ!”

“ถ้าอย่างนั้น ผมขอแทง 30 เหรียญสำนักดาบว่าสาวน้อยเสื้อคลุมสีขาวจะชนะ!” จางเซวียนทุ่มหมดหน้าตักโดยไม่ลังเล

“ผมแทง 30 เหรียญเหมือนกัน!” ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทาตอบ

เขานึกเย้ยหยันจางเซวียนอยู่ในใจว่าหมอนี่แสนจะโง่เง่า ในฐานะเจ้ามือของสังเวียนประลอง เขามีเครือข่ายข้อมูลข่าวสารกว้างขวางที่ทำให้รู้ตัวตนของผู้ที่เข้าสู่สังเวียนประลองอยู่บ่อยๆ

สำหรับคู่ต่อสู้ทั้งสองฝ่ายที่เพิ่งขึ้นสู่สังเวียนนั้น ชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อคลุมสีดำคือศิษย์พี่โจวว ขณะที่สาวน้อยเสื้อคลุมสีขาวคือศิษย์พี่หวัง

ทั้งคู่เคยดวลกันมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งศิษย์พี่โจวก็เอาชนะศิษย์พี่หวังได้บ่อยครั้งกว่า

ไม่นานหลังจากทั้งสองตัดสินใจเสร็จสิ้น การดวลก็เริ่ม

เป็นอย่างที่ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทาคาดการณ์ไว้ ศิษย์พี่โจวเป็นฝ่ายรุกตั้งแต่แรก ทุกการโจมตีของเขาแม่นยำและเฉียบคม สร้างความกดดันหนักหน่วงให้ศิษย์พี่หวัง ในที่สุด ฝ่ายหลังก็ถูกบีบให้ล่าถอยครั้งแล้วครั้งเล่า ดูเหมือนเธอไม่มีโอกาสได้ตอบโต้เลย

ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทาชำเลืองมองจางเซวียนและคำรามเยาะในใจ ฮ่า…รอดูไปเถอะ เดี๋ยวคุณก็หมดตัว!

ดูเหมือนเขาน่าจะเรียก 10 เหรียญที่เสียไปเมื่อครู่กลับคืนมาได้ แถมยังได้กำไรอย่างงามด้วย

ที่สังเวียนประลอง การดวลดำเนินไปจนถึงจุดที่ศิษย์พี่หวังในเสื้อคลุมสีขาวถอยไปจนสุดขอบสังเวียน ดูเหมือนเธอพร้อมจะร่วงลงมาได้ทุกขณะ แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงท่วงท่าอย่างปุบปับ เธอก็หลบไปด้านข้างได้ทันท่วงทีราวกับเสือดาวผู้ว่องไว

กระบวนท่านี้ทำให้การโจมตีของศิษย์พี่โจวในเสื้อคลุมสีดำไม่เป็นผล การโจมตีครั้งนี้หนักหน่วงมาก เพราะเขาตั้งใจจะจบการดวลให้สำเร็จเสร็จสิ้น แต่เมื่อมันพลาดเป้า จึงกลายเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อรู้ตัวแล้วว่ากลายเป็นเป้านิ่ง ศิษย์พี่โจวรีบยับยั้งการเคลื่อนไหวและพยายามถอยเพื่อเรียกความสมดุลกลับมา

แต่โชคร้ายที่ยังไม่ทันจะได้ทำแบบนั้น ดาบเล่มหนึ่งก็จ่ออยู่ที่ลำคอของเขา

ด้วยเหตุนี้ ศิษย์พี่โจวในเสื้อคลุมสีดำจึงเป็นฝ่ายแพ้!

“ขอโทษเถอะ แต่ผมคิดว่าตานี้ผมก็ชนะ!” จางเซวียนพูดพร้อมกับหัวเราะหึๆ

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

LOHP, Thiên Đạo Đồ Thư Quán, Tian Dao Tu Shu Guan, 天道图书馆
Score 7.4
Status: Completed Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชรจางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset