อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 1632

 แก่นสารของเวลา

“แต่ก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจแค่พลิกดูเนื้อหาโดยใช้การรับรู้จิตวิญญาณ แต่จดจำอะไรไม่ได้เลย…” หนานกงหยวนเฟิงตั้งข้อสังเกตหลังจากที่เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง

การพลิกดูเนื้อหากับการจดจำเนื้อหาเป็น 2 แนวคิดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

สำหรับการพลิกดูเนื้อหา ผู้นั้นก็แค่ต้องกวาดสายตาผ่านหนังสือโดยใช้การรับรู้จิตวิญญาณ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพยายามทำความเข้าใจหรือซึมซับเนื้อหาเหล่านั้น แต่สำหรับการจดจำเนื้อหา จะต้องดำเนินการแปรสภาพเนื้อหานั้นให้กลายเป็นความทรงจำ จึงเป็นธรรมดาที่ทั้งสองอย่างจะมีความยากในระดับที่ต่างกันมาก

ถ้าเป็นแค่การพลิกดูเนื้อหาหนังสือเป็นแสนเล่มพร้อมๆกัน ตัวเขาก็ทำได้

“รอดูก่อนเถอะ เดี๋ยวก็ได้รู้แล้วว่าเขาเป็นของจริงหรือเปล่า!” ถานไท่เจินชิงตอบ

ทันทีที่ถานไท่เจินชิงพูดจบ หนังสือเป็นแสนเล่มที่ลอยอยู่กลางอากาศก็พลิกไปจนถึงหน้าสุดท้าย ก่อนจะลอยกลับคืนสู่ชั้นหนังสือ

“ผู้อาวุโสที่ 8, ผมขอรบกวนให้คุณนำหนังสือกลับไปไว้ที่เดิมด้วยนะ” จางเซวียนสั่งการก่อนจะสูดหายใจลึกและหลับตา ดูเหมือนกำลังพยายามซึมซับความรู้ที่เขาเพิ่งได้มาใหม่

“ขอรับ” ผู้อาวุโสที่ 8 ตอบรับขณะเก็บชั้นหนังสือเข้าไปในแหวนเก็บสมบัติของเขาแล้วรีบออกไป

ราวสิบอึดใจต่อมา จางเซวียนก็ลืมตาและพูดว่า “จิ่วเซี่ยว ก่อนหน้านี้คุณได้ฝึกฝนเทคนิควรยุทธฉบับเรียบง่ายของตระกูลจางแล้ว ด้วยเวลาที่มีจำกัด ผมจะแก้ไขข้อบกพร่องให้ 2-3 ข้อนะ หลักใหญ่น่ะอยู่ที่เทคนิคการต่อสู้และความเข้าใจในกฎเกณฑ์ของเวลา ผมได้ประมวลหนังสือไว้ 2 เล่มจากหนังสือที่ผมเพิ่งอ่านไป จะถ่ายทอดให้คุณเดี๋ยวนี้แหละ!”

หลังจากพูดจบ จางเซวียนก็กระดิกนิ้วและส่งเจตจำนงเสี้ยวหนึ่งของเขาเข้าสู่จิตใต้สำนึกของจางจิ่วเซี่ยว

“เอ่อ…” เมื่อได้รับความรู้ที่ท่านอาจารย์เพิ่งถ่ายทอดให้ จางจิ่วเซี่ยวตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันที

กฎเกณฑ์ของเวลานั้นเป็นที่รู้กันว่ามีความเป็นนามธรรมและล้ำลึกยิ่งกว่ากฎเกณฑ์ของมิติเสียอีก ทำให้ทำความเข้าใจได้ยากมาก มีนักรบมากมายที่ใช้เวลาทั้งชีวิตไปกับความพยายามหยั่งถึงกฎเกณฑ์ของเวลา แต่ก็ต้องล้มเหลวอย่างน่ารันทด

ด้วยเหตุผลนี้ที่ทำให้แม้แต่ทายาทตระกูลจางก็ยังเข้าถึงกฎเกณฑ์ของเวลาได้ด้วยการปลุกความสามารถของสายเลือดหรือผ่านทางศิลปะเพลงดาบของตระกูลจางเท่านั้น

จางจิ่วเซี่ยวเคยคิดว่าต่อให้เขามีความถนัดด้านศิลปะของกาลเวลา แต่ก็คงต้องใช้ระยะเวลานานกว่าที่จะทำความเข้าใจมันได้ แต่หนังสือที่ท่านอาจารย์ของเขาเพิ่งถ่ายทอดให้ถูกเรียบเรียงไว้ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ทำให้ผู้รับสามารถตีความหลักการพื้นฐานของกฎเกณฑ์แห่งเวลาได้มากขึ้นทีละน้อย และด้วยสิ่งนี้ ความยากในการทำความเข้าใจกฎเกณฑ์แห่งเวลาจึงลดลงมาก

ด้วยความเร็วในการพัฒนาของเขา เขามั่นใจว่าจะสามารถเชี่ยวชาญเรื่องกฎเกณฑ์แห่งเวลาได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งเดือน

แต่ก็โชคร้ายที่นั่นยังคงนานเกินไป

เมื่อเกิดความคิดนั้นขึ้น จางจิ่วเซี่ยวเงยหน้า “ท่านอาจารย์ ผมไม่คิดว่าจะมีเวลาพอให้ผมทำความเข้าใจหนังสือ 2 เล่มนี้ได้หมด…”

ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากนำเกียรติยศศักดิ์ศรีมาสู่ตระกูลจาง แต่แม้ท่านอาจารย์จะได้ประมวลหนังสือขึ้น 2 เล่มและถ่ายทอดให้เขาแล้ว เขาก็ยังต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าที่จะเข้าใจมันดีพอและนำมาใช้ในการต่อสู้ได้

เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะรีบร้อนกันได้เลย

หนึ่งชั่วโมงเป็นระยะเวลาที่สั้นเกินไป!

“ใจเย็นน่ะ อย่าตื่นตระหนก ปล่อยพลังจากเลือดหยดนี้เข้าสู่ร่างของคุณเสีย!” เหมือนจางเซวียนจะคาดการณ์เรื่องนี้ไว้แล้ว เขากระดิกนิ้วเบาๆ แล้วเลือดหยดหนึ่งก็ซึมเข้าสู่หว่างคิ้วของจางจิ่วเซี่ยว

มันคือหนึ่งในเลือดหยดที่เข้มข้นที่สุดของตระกูลจาง

วิ้ง!

ทันทีที่หยดเลือดซึมเข้าสู่ร่างของจางจิ่วเซี่ยว มันก็ปล่อยพลังออกมา ทำให้จางจิ่วเซี่ยวเข้าสู่สภาวะพิเศษ

“นี่มัน…การเร่งเวลา?” ถานไท่เจินชิงหรี่ตา

ตอนที่หยดเลือดซึมเข้าสู่ร่างของจางจิ่วเซี่ยว ถานไท่เจินชิงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าจิตใต้สำนึกของอีกฝ่ายดำดิ่งเข้าสู่วังวนของกาลเวลา ซึ่งกระแสกาลเวลาที่อยู่ในวังวนนั้นแยกตัวออกจากโลกภายนอก

พูดอีกอย่างก็คือ ระยะเวลา 1 ชั่วโมงของโลกภายนอกหมายถึง 1 วันหรืออาจยาวนานกว่านั้นสำหรับจิตใต้สำนึกของจางจิ่วเซี่ยว

ผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูลจางเห็นสิ่งที่จางเซวียนทำ เขาตั้งข้อสังเกตด้วยความยำเกรง “เร่งกาลเวลาของจิตใต้สำนึก สิ่งนี้เหมือนกับกลไกของคลังตรวจสอบเลือด”

คลังตรวจสอบเลือดของตระกูลจางทำให้ทายาทตระกูลจางสามารถเร่งเวลาของจิตใต้สำนึกของพวกเขาได้ ส่งผลให้พวกเขาฝึกฝนวรยุทธได้เร็วขึ้น มันมีบทบาทสำคัญในการนำพาเหล่าอัจฉริยะตระกูลจางให้เหนือชั้นกว่าคู่ต่อสู้ของพวกเขา

“คลังตรวจสอบเลือดจะเร่งกาลเวลาให้เร็วขึ้นสิบเท่า ขณะที่ท่านหัวหน้าตระกูลสามารถเร่งเวลาได้มากกว่าร้อยเท่า…” ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งของตระกูลจางเสริมและกลืนน้ำลาย

“เซวียนเอ๋อใช้หยดเลือดที่เข้มข้นที่สุดของตระกูลจางของเราสร้างค่ายกลเร่งกาลเวลาขึ้นในหัวของจางจิ่วเซี่ยว” เซียนดาบชิงตั้งข้อสังเกตพร้อมกับพยักหน้า

คนอื่นอาจไม่รู้ว่าจางเซวียนกำลังทำอะไร แต่ในฐานะอดีตหัวหน้าตระกูลจางและผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดคนหนึ่ง เขามองออกอย่างง่ายดายว่าลูกชายของตัวเองกำลังทำอะไรอยู่

ภายใต้สถานการณ์ปกติ การเรียกพลังจากสายเลือดจะต้องใช้พลังจากหยดเลือดของผู้นั้น มีอยู่บ่อยครั้งที่ทายาทของเหล่าตระกูลนักปราชญ์ต้องสูญเสียพลังของสายเลือดไปหลังจากสำแดงเทคนิคการต่อสู้ได้เพียง 1 หรือ 2 เทคนิค

แต่จางเซวียนใช้ศาสตร์ลับเพื่อปรับเปลี่ยนกระแสของกาลเวลาสำหรับจิตใต้สำนึกของจางจิ่วเซี่ยว ด้วยสิ่งนี้ ไม่เพียงแต่อัตราการใช้พลังจากหยดเลือดจะต่ำมาก การเร่งเวลาก็ยังเป็นไปได้เร็วขึ้นอีกหลายเท่า

“ถึงเขาจะเร่งเวลาได้มากกว่าร้อยเท่า แต่ก็น่าจะยังต้องใช้เวลา 2-3 วันเป็นอย่างน้อย จางจิ่วเซี่ยวจะมีพละกำลังพอที่จะเอาชนะถานไท่เจี้ยนขุยได้ภายในเวลาเพียง 2-3 วันหรือ?” ผู้อาวุโสที่พูดขึ้นก่อนหน้านี้ตั้งคำถามอย่างไม่แน่ใจ

แม้วิธีการของหัวหน้าตระกูลของพวกเขาจะน่าทึ่งมาก แต่จางจิ่วเซี่ยวก็แทบจะเริ่มต้นจากศูนย์ ต่อให้มีการเร่งเวลา แต่เพียงแค่ 2-3 วัน จะเพียงพอให้จางจิ่วเซี่ยวเอาชนะถานไท่เจี้ยนขุยได้หรือ?

ผู้อาวุโสส่วนใหญ่ของตระกูลจางใช้เวลาหลายศตวรรษในการศึกษาศิลปะของกาลเวลา แต่พวกเขาก็แทบไม่ก้าวหน้าไปไหนเลย

จางเซวียนไม่ใส่ใจความสงสัยของฝูงชน เขากลับไปยังที่นั่งของตัวเองและหลับตา ดูเหมือนจะกำลังซึมซับความรู้ที่เพิ่งได้มาจากหนังสือหลายแสนเล่มนั้น

เหตุผลที่เขาใช้การรับรู้จิตวิญญาณพลิกหน้าหนังสือก็เพื่อปกปิดสายตาของกลุ่มคนจาก 100 สำนักแห่งนักปราชญ์และพวกตระกูลจาง เพราะอันที่จริง เพียงแค่กวาดสายตามอง เขาก็ถ่ายโอนหนังสือทั้งหมด จดจำรายละเอียดของมัน และประมวลขึ้นเป็นศิลปะแห่งกาลเวลาเทียบฟ้าได้แล้ว

หนังสือที่เขาถ่ายทอดให้จางจิ่วเซี่ยวนั้นเป็นฉบับเรียบง่าย และตอนนี้ เขากำลังวางแผนว่าจะฝึกฝนฉบับสมบูรณ์

เหล่าบรรพบุรุษตระกูลจางมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเรื่องเวลา…จางเซวียนครุ่นคิดด้วยความยำเกรงขณะศึกษาศิลปะแห่งกาลเวลาเทียบฟ้าที่อยู่ในสมองของเขา

พูดได้เลยว่าบรรพบุรุษหลายคนของตระกูลจางประสบความสำเร็จอย่างมากในเรื่องของเวลา ไม่น่าแปลกใจที่ตระกูลจางสามารถก้าวขึ้นเป็นตระกูลนักปราชญ์หมายเลข 1 ของทวีปแห่งปรมาจารย์ได้ กลายเป็นกลุ่มอำนาจที่ไม่มีใครเอาชนะได้ตลอดหลายหมื่นปีที่ผ่านมา

ด้วยการฝึกฝนอย่างหนักของพวกเขา พวกเขาสามารถทำความเข้าใจความลับมากมายของกาลเวลาได้

…..

ครู่ต่อมา

บึ้มมม!

จางเซวียนพลันรู้สึกว่าเขาคว้าอะไรบางอย่างที่จับต้องได้ และทุกอย่างดูจะกระจ่างชัดขึ้นมาตรงหน้า ความคิดหนึ่งเกิดขึ้นในสมองของเขาและค่อยๆแข็งแกร่งหนักแน่นขึ้นทีละน้อย

ในเวลาเดียวกัน ปรากฏการณ์แบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นที่หอบรรพบุรุษของตระกูลหลัวก็กำลังเกิดขึ้นที่หอบรรพบุรุษของตระกูลจาง โชคร้ายที่สมาชิกทุกคนของตระกูลจางมารอชมการดวลระหว่างจางจิ่วเซี่ยวกับ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์กันหมด จึงไม่มีใครได้เห็นปรากฏการณ์นั้น

วิ้ง!

เมื่อจางเซวียนลืมตาขึ้นอีกครั้ง ก็มีลำแสงเป็นประกายฉายออกจากนัยน์ตาของเขา

ในที่สุดเราก็ทำความเข้าใจแก่นสารของเวลาได้แล้ว…ดูเหมือนว่าแก่นสารของเวลาของตระกูลจางจะมีศูนย์กลางอยู่ที่แนวคิดเรื่องการเร่งเวลา

หลังจากทำความเข้าใจแก่นสารของเวลาของตระกูลจางได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว จางเซวียนก็เข้าถึงหลักการของมรดกตกทอดของตระกูลจาง

โดยพื้นฐาน แก่นสารเรื่องเวลาของตระกูลจางจะทำให้ผู้นั้นเร่งกาลเวลาได้ ส่งผลให้สามารถเคลื่อนไหวได้เร็วกว่าที่ใครจะตอบโต้ทัน

เป็นทำนองเดียวกันกับหอฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงของสภาปรมาจารย์ ซึ่ง 1 ปีในนั้นเทียบเท่ากับ 1 เดือนของโลกภายนอก

แม้จะยังมีประสิทธิภาพไม่เท่า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นความสามารถที่ไร้เทียมทานมาก

เพราะอย่างน้อยที่สุด มันก็ทำให้ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเขาก้าวขึ้นสู่ระดับใหม่

ก่อนหน้านี้ หยดเลือดหยดหนึ่งของตระกูลจางจะสูญสลายไปหลังจากใช้การเร่งเวลา 2 ครั้ง แต่ด้วยความเข้าใจเรื่องกฎเกณฑ์ของเวลาที่เราเข้าใจอย่างลึกซึ้งกว่าเดิม ทำให้ตอนนี้เราสามารถเก็บหยุดเลือดไว้ในร่างกายและใช้มันได้ตามใจโดยไม่สิ้นเปลืองพลังงาน! เลือดหยดหนึ่งสามารถปล่อยพลังให้เราใช้งานได้อย่างน้อยก็หลายสิบครั้ง! จางเซวียนคิดอย่างลิงโลด

ในจำนวนหยดเลือดของตระกูลจาง 3 หยดที่เซียนดาบชิงมอบให้ เขาได้ใช้ไปแล้วหนึ่งหยดในการรับมือกับหอกสวรรค์กระดูกมังกร และอีกหนึ่งหยดเพื่อเร่งกาลเวลาให้จางจิ่วเซี่ยว ดังนั้นจึงเหลือเพียงหยดเดียว แต่ด้วยความเข้าใจเรื่องแก่นสารของเวลาที่ได้มาใหม่ จางเซวียนก็สามารถใช้มันได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิม

เมื่อย้อนคิดดู ก็รู้สึกว่าตัวเองสูญเสียเลือดหยดแรกไปโดยเปล่าประโยชน์ที่ใช้มันไปกับหอกสวรรค์กระดูกมังกร

พูดได้ว่าพลังงาน 99% ของมันสูญเปล่าโดยไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย!

แต่ตอนนี้ เขามีความสามารถในการควบคุมกฎเกณฑ์ของเวลาแล้ว นับจากนี้ไป เขาจะใช้พลังงาน ทุกเศษเสี้ยวจากหยดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้น ต่อให้ตอนนี้เขาเหลือเลือดอยู่เพียงหยดเดียว แต่ก็เกินพอที่จะให้ใช้ประโยชน์ได้อีกหลายสิบครั้ง!

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

LOHP, Thiên Đạo Đồ Thư Quán, Tian Dao Tu Shu Guan, 天道图书馆
Score 7.4
Status: Completed Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชรจางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset