อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 2022 แค่หินก้อนหนึ่งหรือ?

อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆

ตอนที่ 2022 แค่หินก้อนหนึ่งหรือ?

ไม่ช้า ทั้งคู่ก็มาถึงห้องหนึ่งที่ถูกปิดไว้มิดชิด มีค่ายกลติดตั้งไว้มากมายหลายชั้น องครักษ์ที่มีวรยุทธขั้นอมตะตัวจริง 4 คนยืนอารักขาอยู่ด้านนอก

ชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อคลุมขนสัตว์ตัวหนาเห็นผู้อาวุโสเหอเดินเข้ามา เขารี่เข้ามาทักทาย

ผู้อาวุโสเหอแนะนำชายวัยกลางคนให้จางเซวียนรู้จัก “ชายผู้นี้คือผู้จัดการหูแห่งตลาดอู๋ไห่ ผู้จัดการหู, ชายหนุ่มคนนี้เป็นศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดของสำนักดาบเมฆเหิน, จางเซวียน, เขาอาจยังหนุ่ม แต่ความเชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบสมบัติสูงส่งกว่าผมมาก!”

“สูงส่งกว่าคุณมาก?” ผู้จัดการหูประหลาดใจกับคำยกย่องที่ผู้อาวุโสเหอมีให้จางเซวียน ถึงขนาดอดไม่ได้ที่จะประเมินชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง

ผู้อาวุโสเหอคือหัวหน้าฝ่ายตรวจสอบสมบัติของตลาดอู๋ไห่ ตัวเขากับผู้อาวุโสเหอรู้จักกันมาหลายสิบปีแล้ว จึงคุ้นเคยกับบุคลิกและนิสัยของอีกฝ่ายดี

จากการแนะนำอย่างเป็นทางการที่ผู้อาวุโสเหอแนะนำชายหนุ่มผู้นี้กับเขา ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเป็นของจริง!

เพียงแต่เขายังอดสงสัยไม่ได้ การตรวจสอบสมบัติขึ้นอยู่กับขอบเขตความรู้ของนักตรวจสอบสมบัติแต่ละคน ยิ่งอายุมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความรอบรู้มากขึ้นเท่านั้น ออกจะยากสักหน่อยที่จะเชื่อว่าชายหนุ่มอายุเพียง 20 ปีจะเป็นนักตรวจสอบสมบัติที่เก่งกาจเชี่ยวชาญจริงๆ

แม้จะสงสัย แต่ผู้จัดการหูก็ไม่แสดงกิริยาใดๆที่บ่งบอกความไม่สุภาพต่อจางเซวียน เขาหันมาโค้งคำนับให้ “น้องจาง ยินดีที่ได้พบคุณ ผู้อาวุโสเหอยกย่องคนหนุ่มอย่างคุณขนาดนี้ แปลว่าคุณต้องเก่งกาจจริงๆแน่!”

“ผู้จัดการหู คุณก็เยินยอผมเกินไป” จางเซวียนตอบอย่างสุภาพ

ชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ได้มีอะไรที่ดูน่าประทับใจเป็นพิเศษ เขาสกัดกั้นพลังปราณไว้อย่างล้ำลึกเพื่อไม่ให้มองเห็นร่องรอยได้ แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยการใช้ดวงตาหยั่งรู้ จางเซวียนก็ยังดูออกว่าอีกฝ่ายเป็นนักรบกึ่งอมตะขั้นสูง

ด้วยวรยุทธระดับนี้ อีกฝ่ายน่าจะอยู่ในกลุ่มชนชั้นสูงของเมืองอู๋ไห่ “มาสิ ตามผมมา!”

หลังจากพูดคุยสัพเพเหระกันเล็กน้อย ผู้จัดการหูก็พาทั้งคู่เข้าไปในห้อง

เขาชี้นิ้วไปที่วัตถุชิ้นหนึ่งซึ่งอยู่ตรงหน้าโดยไม่รีรอและพูดว่า “น้องจาง นี่คือของล้ำค่าที่ผมอยากให้คุณตรวจสอบ”

บริเวณใจกลางห้องมีวัตถุชิ้นหนึ่งตั้งอยู่ สูงพอๆกับนักรบคนหนึ่งและถูกหุ้มไว้ด้วยผ้าสีดำ

เมื่อดึงผ้าออก หินสีแดงก่ำเป็นประกายก็เผยตัวออกมา ดูเหมือนมันจะได้รับการดูแลอย่างดีก่อนหน้านี้ ประกายที่อยู่บนก้อนหินจึงยังคงเจิดจ้า ดูคล้ายกับหยกสีเลือด แต่เมื่อพิจารณาอีกที ก็ไม่น่าจะใช่

“แค่หินก้อนหนึ่งหรือ?” จางเซวียนขมวดคิ้ว

ด้วยค่าตอบแทนของการปฏิบัติภารกิจที่ตั้งไว้อย่างงาม อีกทั้งข้อเท็จจริงที่ว่านักตรวจสอบสมบัติผู้เก่งกาจอย่างผู้อาวุโสเหอก็ยังไม่อาจระบุเนื้อแท้ของมันได้ จางเซวียนจึงคาดว่าของล้ำค่าที่เป็นเป้าหมายของการปฏิบัติภารกิจน่าจะเป็นสิ่งที่ประเมินค่ามิได้ แต่แล้วก็กลับกลายเป็นเพียงหินก้อนหนึ่ง!

เรื่องนี้ประหลาดมาก

“อย่าประเมินมันต่ำไปเพียงเพราะมันเป็นแค่หินก้อนเดียวนะ มันมีหน้าตาคล้ายคลึงกับหยกสีเลือด แต่หยกสีเลือดไม่มีประกายอบอุ่นแบบนี้ พื้นผิวของมันก็ดูคล้ายกับคริสตัลสีเลือด แต่คริสตัลสีเลือดก็มักมีขนาดเล็กกว่า ผมค้นคว้าจากหนังสือมาแล้วมากมาย แต่ไม่มีอะไรที่บ่งบอกข้อมูลเกี่ยวกับหินก้อนนี้เลย นักตรวจสอบสมบัติอย่างน้อย 100 คนได้เข้ามาตรวจสอบหินก้อนนี้ แต่ไม่มีใครระบุต้นกำเนิดหรือชื่อของมันได้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงเลือกขอความช่วยเหลือจากสำนักดาบเมฆเหิน” ผู้อาวุโสเหอพูด

มีหลายเหตุผลที่เมืองอู๋ไห่เลือกติดต่อขอความช่วยเหลือจากบรรดาศิษย์สายตรงขั้นสูงสุด

ข้อแรก ศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดส่วนใหญ่ในสำนักดาบเมฆเหินมาจากตระกูลที่สูงส่งและมั่งคั่ง จึงมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะเคยเห็นอะไรบางอย่างที่คล้ายคลึงกับสิ่งนี้

ข้อสอง, บรรดาศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดไม่ได้ทรงพลังเท่ากับเหล่าผู้อาวุโส ดังนั้น ต่อให้พวกเขาประเมินหินก้อนนี้ว่าเป็นสิ่งล้ำค่าและพยายามจะฉกฉวยมันไปเป็นของตัวเอง ทางเมืองอู๋ไห่ก็ยังพอจัดการได้

โลกนี้อยู่ได้ด้วยการเอาตัวรอด การตรวจสอบสมบัติจึงเป็นเรื่องจำเป็น เพราะมันจะน่าสะพรึงมากหากมีศัตรูที่แกล้งทำเป็นไม่สนใจในของล้ำค่าชิ้นนี้ แต่พยายามเล่นใต้เข็มขัดทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันไป สิ่งนี้จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่

ดังนั้น การขอความช่วยเหลือจากศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดจึงง่ายกว่ามาก

ได้ยินคำนั้น จางเซวียนพยักหน้ารับ

ขณะที่กำลังพูดคุยกัน เขาก็พยายามใช้ดวงตาหยั่งรู้ประเมินหินก้อนนั้น แต่ก็ต้องประหลาดใจที่ไม่อาจบอกรายละเอียดของมันได้

จางเซวียนได้อ่านหนังสือทั้งหมดที่มีอยู่ในหอสมุดของศิษย์สายตรงฝ่ายใน ศิษย์สายตรงขั้นสูงสุด และผู้อาวุโสแล้ว ในแง่ของความรู้ทั่วไป ต่อให้เหล่าผู้อาวุโสที่อาศัยอยู่ในทวีปที่ถูกลืมมาหลายร้อยปีก็ยังเทียบชั้นกับเขาไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่อาจใช้ดวงตาหยั่งรู้ระบุและแยกแยะก้อนหินที่อยู่ตรงหน้าได้ เรื่องนี้มีบางอย่างผิดปกติจริงๆ

“คุณตรวจสอบองค์ประกอบของหินก้อนนี้หรือยัง?” จางเซวียนตั้งคำถาม

ถ้ามันเป็นแค่หินก้อนหนึ่งที่ระบุตัวตนไม่ได้ ผู้จัดการหูคงไม่ลงทุนถึงขนาดเรียกหานักตรวจสอบสมบัติมากมายและยอมขอความช่วยเหลือจากสำนักดาบเมฆเหิน น่าจะมีสัญญาณบางอย่างที่ทำให้เขาแน่ใจว่าหินก้อนนี้ไม่ใช่ของล้ำค่าธรรมดาสามัญ

“พวกเราตรวจสอบแล้ว เปลวเพลิงที่มีความเข้มข้นสูงสุดซึ่งใช้โดยช่างตีเหล็กที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองอู๋ไห่ก็ไม่อาจทำอันตรายมันได้ อาวุธระดับอมตะขั้นสูงก็สร้างรอยขีดข่วนให้มันไม่ได้เช่นกัน” ผู้อาวุโสเหอพูด

รู้ดีว่าข้อมูลแบบนี้มีความจำเป็นต่อการประเมินของล้ำค่า พวกเขาจึงไม่ปิดบังข้อมูล

“ทนทานต่อเปลวเพลิง และแม้แต่อาวุธระดับอมตะขั้นสูงก็สร้างรอยขีดข่วนให้มันไม่ได้?” จางเซวียนอัศจรรย์ใจ

วรยุทธระดับอมตะขั้นสูงเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดของมิติเบื้องบน แต่ขนาดอาวุธระดับนั้นก็ไม่อาจทำอะไรหินก้อนนี้ได้ หรือว่าหินก้อนนี้มีวรยุทธขั้นกึ่งสรวงสวรรค์…หรือสูงกว่านั้น?

นั่นอธิบายได้ว่าทำไมผู้จัดการหูจึงยอมเสียเงินมากมาย เป็นไปได้ว่าเขากำลังวางแผนจะขายหินก้อนนี้ในราคาสูงลิ่วหลังจากที่แน่ใจแล้วว่ามันคืออะไร

“น้องจาง ผมขอรบกวนคุณให้พิจารณาหินก้อนนี้สักหน่อย และช่วยบอกพวกเราว่ามันคืออะไร!” ผู้อาวุโสเหอประสานมือ

“ได้สิ” จางเซวียนตอบขณะเดินไปที่หินสีแดงก่ำก้อนนั้น

ก้อนหินดูหนักอึ้ง แม้ยังไม่ได้สัมผัสมัน จางเซวียนก็ดูออกว่าด้วยระดับวรยุทธของเขาในตอนนี้ การยกมันขึ้นคงยากลำบากไม่น้อย

จางเซวียนเป็นนักรบเสมือนอมตะสรวงสวรรค์ที่มีพละกำลังเทียบชั้นได้กับนักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์แล้ว แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังยกมันไม่ขึ้น หินก้อนนี้ดูจะน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ

“น้องจาง คุณอยากได้เข็มทิศหรือเครื่องมืออื่นๆเพื่อการตรวจสอบสมบัติไหม?” ผู้อาวุโสเหอตั้งคำถามขณะเฝ้ามองจางเซวียนสำรวจหินก้อนนั้นทั้งที่ไม่มีเครื่องมือใดๆ

โดยทั่วไป เมื่อเป็นการตรวจสอบก้อนหิน นักตรวจสอบสมบัติจะพยายามวัดความหนาแน่น น้ำหนัก และคุณสมบัติอื่นๆโดยใช้เครื่องมือมากมายหลายชนิด เพื่อให้ได้ข้อมูลมากที่สุดสำหรับการระบุตัวตนของหินก้อนนั้น

แต่จางเซวียนยืนมือเปล่า ราวกับว่าคิดว่าเพียงแค่จับจ้องมันแล้วตัวเขาจะบอกได้ว่าหินก้อนนั้นคืออะไร

จางเซวียนโบกมือตอบรับคำถามของผู้อาวุโสเหอ “ตอนนี้ยังไม่ต้องใช้หรอก…”

เขาเดินวนรอบก้อนหินพร้อมกับครุ่นคิดหนัก ก่อนจะยื่นมือออกไปสัมผัสมันเบาๆ

วิ้งงงง!

หนังสือเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในหอสมุดเทียบฟ้า

จางเซวียนรีบแตะหนังสือที่ประมวลขึ้นใหม่ รายละเอียดในนั้นลอยเข้าสู่หัวสมองของเขา ครู่ต่อมา เขาก็หรี่ตาขณะยืนตัวแข็งทื่อ

“ผู้อาวุโสเหอ เจ้าหนุ่มนี่ดูจะไม่ค่อยน่าไว้ใจนะ” ผู้จัดการหูออกความเห็นพร้อมกับขมวดคิ้ว ขณะเฝ้าดูจางเซวียนเดินวนไปมาโดยไม่ใช้เครื่องมือใดๆ

เขาเป็นผู้จัดการตลาดอู๋ไห่ เคยเห็นการทำงานของนักตรวจสอบสมบัติชั้นยอดมาแล้วมากมาย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นนักตรวจสอบสมบัติคนหนึ่งทำงานแบบนี้ แถมอีกฝ่ายยังอายุน้อยจนน่าประหลาดใจ

“วิธีของเขาอาจพิสดารไปสักหน่อย แต่ปฏิเสธไม่ได้นะว่าความสามารถในการหยั่งรู้ของเขาเหนือชั้นกว่าผมมาก!” ผู้อาวุโสเหอตอบ

ประติมากรรมชิ้นก่อนหน้านี้ก็ทำจากหิน และแม้จะมีค่ายกลที่เขียนด้วยหมึกปกปิดอยู่ ชายหนุ่มก็มองทะลุถึงความจริงได้ เท่านั้นก็เกินพอที่จะแน่ใจในความสามารถของเขาแล้ว

อีกฝ่ายน่าจะทำแบบเดียวกันได้กับหินก้อนนี้

ขณะที่ทั้งคู่หารือกัน จางเซวียนก็หันกลับมามองพวกเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “คุณ…ได้หินก้อนนี้มาจากไหน?”

เห็นจางเซวียนดูเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง ผู้จัดการหูตอบตามตรง “ผมซื้อมันมาจากนักรบพเนจรคนหนึ่ง ตามที่เขาบอก ดูเหมือนมันจะมาจากทะเลดาวพลัดถิ่น”

“ทะเลดาวพลัดถิ่น?” จางเซวียนพึมพำ

ทวีปที่ถูกลืมนั้นกว้างใหญ่มาก แต่บรรดาหนังสือในห้องสมุดที่เขาได้อ่านก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับดินแดนที่อยู่โดยรอบสำนักดาบเมฆเหินเท่านั้น เขาจึงไม่เคยได้ยินชื่อทะเลดาวพลัดถิ่นมาก่อน

“ตำหนักคว้าดาว, 1 ใน 6 สำนักใหญ่, ตั้งอยู่บนเกาะหนึ่งที่อยู่ใจกลางมหาสมุทรนั้น ชื่อของมหาสมุทรที่ล้อมรอบเกาะคือทะเลดาวพลัดถิ่น” ผู้อาวุโสเหออธิบาย

“ตำหนักคว้าดาว…ตู้ชิงหย่วน?” จางเซวียนกำหมัดแน่น

ก่อนหน้านี้ เจ้าสำนักหานเจี้ยนชิวเคยบอกไว้ว่าหากเขาอยากรู้รายละเอียดเรื่องเทพเจ้าให้มากกว่านี้ ก็ไม่มีใครที่จะให้คำปรึกษาได้ดีกว่าหัวหน้าตำหนักคว้าดาว, ตู้ชิงหย่วน เพียงแต่อีกฝ่ายอาจไม่เต็มใจคุยด้วย

เพราะการพูดถึงเทพเจ้าอย่างไม่มีที่มาที่ไปอันเหมาะสมอาจหมายถึงชีวิต

และสิ่งนี้ก็เพิ่งปรากฏขึ้นในทะเลดาวพลัดถิ่น

หรือว่าจะมีบางอย่างเชื่อมโยงกัน?

“น้องจาง คุณระบุตัวตนของหินก้อนนี้ได้หรือยัง?” ผู้อาวุโสเหอตั้งคำถาม

นับตั้งแต่วินาทีที่เขาเห็นชายหนุ่มคนนี้เป็นครั้งแรก อีกฝ่ายก็สงบนิ่งและสุขุมเยือกเย็นมาตลอด ราวกับไม่มีสิ่งใดในโลกที่จะทำให้เขาตื่นตระหนกได้ แต่ในเวลานี้ เห็นได้ชัดว่าจิตใจของชายหนุ่มกำลังระส่ำระสาย หรือว่าเขาระบุตัวตนของก้อนหินที่อยู่ตรงหน้าได้แล้ว?

จางเซวียนสูดหายใจลึกเพื่อระงับอารมณ์ เขาพยักหน้า “ใช่”

“แล้วมันคืออะไร?” ผู้อาวุโสเหอถามอย่างร้อนใจ

ผู้จัดการหูก็หูผึ่ง

จางเซวียนหลับตาลงครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “มันคือ…หินโลหิตเทพเจ้า”

“หินโลหิตเทพเจ้า?”

ทั้งผู้อาวุโสเหอกับผู้จัดการหูสบตากัน ทั้งคู่หน้าถอดสีด้วยความอัศจรรย์ใจ

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

LOHP, Thiên Đạo Đồ Thư Quán, Tian Dao Tu Shu Guan, 天道图书馆
Score 7.4
Status: Completed Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชรจางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset