อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 2062 ผมเป็นนักรบพเนจร

อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆

ตอนที่ 2062 ผมเป็นนักรบพเนจร

ชายหนุ่มที่อยู่ในหอนิรันดร์เสมือนจริงอายุยังน้อย ส่วนชายที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาในเวลานี้ดูจะมีอายุมากกว่า แต่โดยรวมก็ไม่น่าจะมากกว่า 30 ปี

เขาเพิ่งอายุ 20 กว่าๆเท่านั้น แต่เป็นนักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ และทรงพลังถึงขนาดที่พวกเขาเทียบชั้นไม่ได้เมื่อมีวรยุทธระดับเดียวกัน

“คุณคือนักรบที่เอาชนะการดวลถึง 16 นัดติดต่อกันในหอนิรันดร์เมื่อครู่นี้ใช่ไหม?” เจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวตั้งคำถาม

เพราะรูปร่างหน้าตาของอีกฝ่ายที่ปรากฏในหอนิรันดร์กับเวลานี้แตกต่างกัน พวกเขาจึงไม่แน่ใจว่าจะเป็นคนเดียวกันหรือไม่

“ใช่” จางเซวียนพยักหน้า “ผมมีเรื่องด่วนที่ทำให้ต้องเดินทางไปทะเลพลัดดาวโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เจ้าสำนักคุ่ย, ไม่ทราบว่าจะสะดวกไหมถ้าผมจะขอเดินทางไปด้วย ผมจะจ่ายค่าโดยสารให้คุณตามราคาท้องตลาด”

ระหว่างทางที่มา ผู้อาวุโสบอกเขาแล้วว่าผู้ที่เขาจะได้พบคือเจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวแห่งสำนักดาวเจ็ดดวง!

ถ้าเป็นเมื่อก่อน จางเซวียนยังพอมีความยำเกรงในตัวผู้เชี่ยวชาญขั้นกึ่งสรวงสวรรค์อยู่บ้าง แต่หลังจากได้พบหานเจี้ยนชิวกับฉิงหย่วน และสังหารนักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์จากหอเทพเจ้าไปถึง 4 คน แถมยังได้เห็นไก่น้อยกลืนกินของล้ำค่าระดับกึ่งสรวงสวรรค์ด้วย ความยำเกรงของเขาก็ค่อยๆลดลง

“คุณจะเดินทางไปทะเลพลัดดาวเหมือนกันหรือ?” เจ้าสำนักคุ่ยขมวดคิ้ว “น้องหลิว ไม่ทราบว่าคุณมาจากสำนักไหน? ต้องขออภัยด้วยในความไม่รู้ของผม แต่ผมไม่เคยได้ยินชื่อของคุณมาก่อนเลย”

เพราะเกรงว่าจะทำให้ประชากรในท้องถิ่นไม่พอใจ เหล่าผู้เชี่ยวชาญในทวีปที่ถูกลืมจึงแทบไม่เคยเดินทางไปยังทะเลพลัดดาว แต่อีกฝ่ายมีความประสงค์ส่วนตัวที่จะเดินทางไปที่นั่น…

เรื่องนี้ทำให้เขาหวนนึกถึงเรื่องราวของสะพานเบื้องบน หรือว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาจะเป็นอัจฉริยะจากสำนักอื่น?

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผู้อาวุโสหงอู่ก็ไม่มีโอกาสเอาชนะได้เลย!

การจะสำเร็จวรยุทธอมตะขั้นสูงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าทางสำนักทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดให้กับการบ่มเพาะนักรบคนหนึ่ง ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป

เป็นธรรมดาที่คนปราดเปรื่องอย่างชายหนุ่มผู้นี้จะคู่ควรกับการที่ทางสำนักจะมอบทรัพยากรทั้งหมดให้

จางเซวียนประสานมือตอบ “ผมเป็นนักรบพเนจร”

หากเขาตอบไปว่ามาจากสำนักดาบเมฆเหิน อีกฝ่ายจะต้องนึกถึงเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าทันที และหากตอบไปว่ามาจากหอนานาอสูร อีกฝ่ายก็จะต้องนึกถึงหัวหน้าหอนานาอสูรที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่

แทนที่จะต้องเจอเรื่องยุ่งยากกับการพยายามอธิบายเรื่องราวของตัวเอง สู้เก็บเนื้อเก็บตัวไว้ดีกว่า

เพียงไม่นานหลังจากที่เขาสร้างความอึกทึกครึกโครมครั้งใหญ่ในสำนักดาบเมฆเหิน ก็เจอกับการลอบสังหารจากหอเทพเจ้า และเหตุการณ์แบบเดิมก็เกิดขึ้นอีกเมื่อเขาทำตัวโดดเด่นเกินไปที่หอนานาอสูร

ดังนั้น สิ่งที่เขาต้องทำในเวลานี้คือปกปิดความโดดเด่นของตัวเองไว้ไม่ให้ผู้อื่นรับรู้มากเกินไป

“นักรบพเนจร?” เจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวตาโต จากนั้นเขาก็ย่นหน้าผากขณะตั้งคำถาม “ไม่ทราบว่าเหตุผลที่คุณอยากไปเยือนทะเลพลัดดาวคืออะไร, น้องหลิว?”

“เพื่อจัดการธุระส่วนตัวของผม” จางเซวียนตอบ

“ธุระส่วนตัว…” ได้ยินคำนั้น เจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวถอนหายใจอย่างโล่งอก

ถ้าเป็นธุระส่วนตัว ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับสะพานเบื้องบน ซึ่งหากเป็นแบบนั้น ชายหนุ่มก็คงจะเป็นนักรบพเนจรที่ไม่ได้สังกัดสำนักอื่นจริงๆ

เจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวมองจางเซวียนด้วยสายตาคมกริบขณะตั้งคำถาม “ในเมื่อคุณเป็นนักรบพเนจร…น้องหลิว ไม่ทราบว่าคุณสนใจจะเข้าร่วมกับสำนักดาวเจ็ดดวงของเราไหม?”

“เข้าร่วมกับสำนักดาวเจ็ดดวง?” จางเซวียนถึงกับผงะ

คำเชิญอย่างกะทันหันแบบนี้คืออะไร?

เขาแน่ใจว่าตั้งแต่มาถึงเมืองปี้หยวน เขาก็เก็บเนื้อเก็บตัวแล้ว!

ทั้งหมดที่เขาทำก็แค่เข้าร่วมการดวล 16 นัดและเอาชนะคู่ต่อสู้ที่ไม่ค่อยจะได้เรื่องได้ราวเท่าไหร่ แน่นอนว่าการต่อสู้เพียงเท่านี้คงไม่เพียงพอจะดึงดูดความสนใจของผู้นำหนึ่งในหกสํานักใหญ่หรอก ใช่ไหม?

“ใช่ ขอแค่คุณมาเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของสำนักดาวเจ็ดดวงของเรา และเป็นตัวแทนของสำนักในการเข้าร่วมการต่อสู้ ผมจะรวบรวมทรัพยากรทั้งหมดของสำนักเพื่อช่วยให้คุณสำเร็จวรยุทธระดับอมตะขั้นสูงได้ภายในเวลา 10 วัน!” เจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวยื่นข้อเสนอด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย

“คุณจะช่วยผมให้สำเร็จวรยุทธระดับอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์?” จางเซวียนหรี่ตา

มีสองเหตุผลที่ทำให้เขารีบร้อนอยากเดินทางไปทะเลพลัดดาว ข้อแรกคือเพื่อค้นหาความลับที่อยู่เบื้องหลังหินโลหิตเทพเจ้า และอีกข้อก็คือเพื่อรวบรวมเทคนิควรยุทธเกี่ยวกับจิตวิญญาณเพื่อนำมายกระดับวรยุทธของจิตวิญญาณของเขา จะได้ฝ่าด่านวรยุทธไปเป็นนักรบระดับอมตะขั้นสูงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้!

หลังจากเผชิญหน้ากับความพยายามลอบสังหารถึง 2 ครั้งจากหอเทพเจ้า ก็คงเป็นเรื่องโกหกหากจะบอกว่าเขาไม่กังวล จางเซวียนรู้สึกได้ถึงความกดดันหนักหน่วงที่ทำให้เขาอยากยกระดับประสิทธิภาพการต่อสู้โดยเร็วที่สุด

เมื่อลองทบทวน เขาอยู่ในมิติเบื้องบนมานานกว่า 20 วันแล้ว แต่ยกระดับวรยุทธจากนักรบขั้นผู้ทำลายล้างมิติขั้นต้นมาเป็นนักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์เท่านั้น ช้าและเฉื่อยอะไรอย่างนี้!

แถมยังมีความแตกต่างระหว่างเวลาในมิติเบื้องบนกับทวีปแห่งปรมาจารย์ด้วย…20 วันที่นี่ยาวนานพอๆกับครึ่งปีในทวีปแห่งปรมาจารย์เลยทีเดียว

“ใช่””เจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวพยักหน้า

ไม่มีนักรบอมตะตัวจริงคนไหนที่ไม่สนใจข้อเสนอของการจะได้ฝ่าด่านวรยุทธไปเป็นนักรบอมตะขั้นสูง!

“เมื่อครู่นี้คุณพูดว่าอยากให้ผมเป็นตัวแทนของสำนักดาวเจ็ดดวงเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ ไม่ทราบว่าการต่อสู้นั้นเกี่ยวข้องกับอะไร? ผมจะเป็นอันตรายไหม?” จางเซวียนถาม

โลกนี้ไม่มีของฟรี

การช่วยใครสักคนให้ยกระดับวรยุทธไปเป็นนักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ในเมื่ออีกฝ่ายเต็มใจยื่นข้อเสนอที่แสนเย้ายวนใจให้แบบนี้ ก็แปลว่าเขาต้องได้อะไรกลับคืนไปไม่น้อย

“วางใจเถอะ มันเป็นแค่การดวลระหว่าง 6 สำนักใหญ่ ทุกคนมีวรยุทธระดับเดียวกัน ไม่มีอันตรายใดๆ ถ้าคุณยอมแพ้ การดวลก็จะจบลงทันที” เจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวพูด “อีกอย่าง ถ้าคุณทำผลงานได้ดี ผมจะเสนอชื่อคุณให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของผม ในอนาคตคุณจะเข้ารับตำแหน่งแทนผม ได้เป็นเจ้าสำนักดาวเจ็ดดวง!”

วัตถุประสงค์ของการดวลก็คือเฟ้นหาตัวผู้นำในการปฏิบัติภารกิจ ดังนั้นพวกเขาจะหยุดเมื่อเห็นว่าเหมาะสม ไม่มีอะไรเป็นอันตราย

ส่วนการเข้าสู่สะพานเบื้องบนและท้าทายเหล่านักรบของหอเทพเจ้า…

นั่นคือโอกาสอันน้อยนิดที่จะได้ฝ่าด่านวรยุทธไปเป็นนักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ อาจเป็นอันตรายก็จริง แต่ผลตอบแทนที่ได้นั้นคุ้มค่ากับการเสี่ยง

ทั้งตัวเขาและหัวหน้าฉิงหย่วนจากหอนานาอสูรสำเร็จวรยุทธระดับนี้ได้ก็เพราะการเดินทางเข้าสู่สะพานเบื้องบน

ขอแค่อีกฝ่ายสำเร็จวรยุทธขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ ก็จะได้เป็นเจ้าสำนักดาวเจ็ดดวงคนต่อไป ไม่มีใครคัดค้าน

“ผมจะได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งและรับตำแหน่งของคุณในอนาคต? ไม่เป็นไร ผมไม่อยากได้” จางเซวียนส่ายหน้า

แต่แล้วความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามา เขามองหน้าเจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวพร้อมกับยิ้มให้ “แต่ในเมื่อคุณบอกว่าการดวลนั้นไม่มีอันตราย ผมก็ไม่รังเกียจที่จะเป็นผู้อาวุโสของสำนักดาวเจ็ดดวง…ซึ่งในฐานะผู้อาวุโส ผมมีสิทธิ์เข้าสู่หอสมุดของสำนักดาวเจ็ดดวงได้ ใช่ไหม?”

“แน่นอน!” เจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวพยักหน้า

มีหนังสือมากมายอยู่ในหอสมุดของสำนักดาวเจ็ดดวง ทั้งหมดเป็นสินค้าที่ขายได้ราคางาม ในฐานะผู้อาวุโสและผู้ที่อาจได้เป็นเจ้าสำนักคนต่อไป แน่นอนว่าอีกฝ่ายมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้เห็นคลังหนังสือของพวกเขา

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหา ผมตกลง” จางเซวียนถอนหายใจอย่างโล่งอก

ขอแค่เขาสำเร็จวรยุทธระดับอมตะขั้นสูง ก็จะอยู่ในสถานภาพที่ปลอดภัยกว่าเดิมมากเมื่อต้องเผชิญหน้ากับหอเทพเจ้า พูดได้เลยว่าปัญหาเกือบทั้งหมดที่เขาต้องเจอจะได้รับการคลี่คลาย

ถ้าอีกฝ่ายสามารถช่วยเขาให้สำเร็จวรยุทธระดับอมตะขั้นสูงได้โดยเร็ว เขาก็ไม่รังเกียจที่จะตอบแทนบุญคุณให้ ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสของสำนักดาบเมฆเหินและหัวหน้าหอนานาอสูรแล้ว จะรับอีกสักตำแหน่งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่

ถึงอย่างไร ในเวลานี้เขาก็ปลอมตัวอยู่ อย่างมากที่สุด ต่อไปก็แค่ให้ตัวโคลนปลอมตัวเป็นเขา

ส่วนเจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นอีกฝ่ายตอบตกลง

เรื่องราวที่พวกเขาจะพูดคุยกันต่อไปเกี่ยวข้องกับความลับสุดยอดของสำนักดาวเจ็ดดวง คงไม่สะดวกนักที่จะให้บุคลากรจากหอนิรันดร์อ้อยอิ่งอยู่ที่นั่น ผู้อาวุโสจากหอนิรันดร์จึงกล่าวอำลาและจากไป

เมื่อผู้อาวุโสจากไปแล้ว เจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวสะบัดข้อมือและนำขวดหยกใบหนึ่งออกมา “นี่คือยาเม็ดสำหรับการฝ่าด่านวรยุทธไปเป็นนักรบอมตะขั้นสูง มันจะช่วยเพิ่มโอกาสในการฝ่าด่านวรยุทธได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ในเมื่อคุณเป็นนักรบอมตะตัวจริงแล้ว ขอแค่เตรียมตัวให้พร้อม การฝ่าด่านวรยุทธก็คงไม่ยากเกินไป!”

แม้จะเพิ่มได้เพียงแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ความแตกต่างนี้ก็อาจส่งผลกระทบอันยิ่งใหญ่

แถมชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขายังมีความเชี่ยวชาญอย่างเหลือเชื่อในเทคนิควรยุทธและเทคนิคการต่อสู้ ด้วยการสนับสนุนของยาเม็ดชนิดนี้ ก็เป็นอันรับประกันได้ว่าอีกฝ่ายจะต้องฝ่าด่านวรยุทธได้สำเร็จ!

“คุณได้รับความสำนึกในบุญคุณจากผม” จางเซวียนรับขวดหยกมาด้วยความยินดี

เขาไม่เคยเห็นของจริงมาก่อน แต่จากหนังสือหลายเล่มที่ได้อ่าน ก็รู้ว่ายาเม็ดสำหรับการฝ่าด่านวรยุทธนี้มีราคาค่างวดมากแค่ไหน

แค่เม็ดเดียวก็มีราคาพอๆกับของล้ำค่าระดับอมตะขั้นสูงชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว!

ถือเป็นโชคดีครั้งใหญ่ที่ได้ยาเม็ดล้ำค่าขนาดนี้จากอีกฝ่าย ดูเหมือนต่อไปเขาจะต้องทำผลงานในการต่อสู้ให้ดีที่สุด

“ไม่จำเป็นต้องเกรงอกเกรงใจหรอก ในสำนักของเรามีห้องส่วนตัวที่หลอมขึ้นเป็นพิเศษจากหินสงบใจ ถ้าคุณฝึกฝนวรยุทธที่นั่น ไม่เพียงแต่คุณจะไม่ได้รับผลกระทบจากปีศาจใต้สำนึก โอกาสในการฝ่าด่านวรยุทธของคุณจะเพิ่มขึ้นอีกมากด้วย ผู้อาวุโสหลิว, บอกผมได้เลยถ้าคุณอยากใช้ห้องนั้น ผมสามารถพาคุณไปได้เดี๋ยวนี้” เจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวพูด

“ไม่จำเป็นหรอก พอดีตอนนี้ผมมีข้อสงสัยบางอย่างเรื่องวรยุทธ จึงอยากค้นคว้าหนังสือเพื่อหาวิธีแก้ไขสักหน่อย ไม่ทราบว่าหอสมุดของสำนักดาวเจ็ดดวงตั้งอยู่ที่ไหน? ผมอยากไปดูหนังสือที่นั่น” จางเซวียนตอบ

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

LOHP, Thiên Đạo Đồ Thư Quán, Tian Dao Tu Shu Guan, 天道图书馆
Score 7.4
Status: Completed Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชรจางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset