อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 2065 อรุณรุ่งแห่งร้อยคีรีบูน

อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆

ตอนที่ 2065 อรุณรุ่งแห่งร้อยคีรีบูน

“เขาจะต้องมีศาสตร์ลับบางอย่างที่ช่วยเร่งการเรียนรู้…”

“แต่เขาไม่ได้เปิดดูหนังสือเล่มไหนเลยนะ แล้วจะศึกษาเทคนิคทั้งหมดของพวกเราได้อย่างไร?” ผู้อาวุโสหงอู่งุนงง

ตลอดการส่ายหัวทั้ง 6 ชั่วโมงนั้น ชายหนุ่มไม่ได้แตะต้องหนังสือเล่มไหนเลย แล้วจะศึกษาเทคนิคของพวกเขาด้วยวิธีไหน? แถมยังสำเร็จความเข้าใจในภาพรวมในระยะเวลาอันสั้นอีกด้วย ขณะที่พวกเขาแต่ละคนจมจ่อมอยู่กับเทคนิคการต่อสู้เหล่านั้นหลายสิบปีกว่าจะเชี่ยวชาญถึงขั้นนี้ได้

เจ้าสำนักคุ่ยหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “เป็นไปได้ว่าเขาอาจศึกษาเทคนิคเหล่านี้ตอนที่ต่อสู้กับพวกเรา…มีนักรบผู้ปราดเปรื่องน่าทึ่งอยู่มากมายที่สามารถจดจำทุกรายละเอียดของเทคนิคการต่อสู้ได้ เพียงแค่ได้เห็นการสำแดงมันออกมา…ว่ากันว่าหัวหน้าขงมีความสามารถแบบนั้น”

นี่เป็นวิธีเดียวที่เขาพอจะขบคิดหาเหตุผลได้

ไม่อย่างนั้น ก็ไม่อาจทำความเข้าใจได้เลยว่าเพียงแค่การส่ายหัวไปมา หลิวหยางเรียนรู้เทคนิคการต่อสู้ทั้งหมดของพวกเขาและถึงกับเชี่ยวชาญกว่าพวกเขาได้อย่างไร

ในตอนนั้น ผู้อาวุโสที่ 1 ก็เอ่ยขึ้นอีกครั้งอย่างร้อนใจ “เจ้าสำนักคุ่ย ดูนั่น!”

เจ้าสำนักคุ่ยเงยหน้ามอง จากภาพในบันทึก หลังจากที่สำแดงหมู่เมฆสายฟ้าฟาดแล้ว จางเซวียนก็กำหมัดแน่นและตั้งต้นสำแดงเทคนิคการต่อสู้อีกชุดหนึ่ง

“นั่นคือ…หมื่นลี้ธุลีแดง?”

“แม่น้ำตะวันม่วง?”

“อรุณรุ่งแห่งร้อยคีรีบูน?”

…..

ทั้งสามโพล่งชื่อเทคนิคการต่อสู้ขั้นสุดยอดของสำนักดาวเจ็ดดวงออกมาชื่อแล้วชื่อเล่า ราวกับชายหนุ่มที่อยู่ในบันทึกได้กลายร่างเป็นผู้ก่อตั้งสำนักดาวเจ็ดดวง เทคนิคการต่อสู้และเทคนิควรยุทธทุกรูปแบบดูจะถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขาอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งก็ล้วนแต่เข้าถึงการประสบความสำเร็จในภาพรวมทั้งนั้น

เงียบกริบ

ผ่านไปครู่หนึ่งกว่าที่เสียงแหบพร่าของเจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวจะดังขึ้น “สำนักดาวเจ็ดดวงของเรามีเทคนิคการต่อสู้ชั้นยอดทั้งหมด 23 เทคนิค ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เหล่าผู้อาวุโสและเจ้าสำนักที่ฝึกฝนมันจนเชี่ยวชาญได้แม้แต่เทคนิคเดียวก็สร้างชื่อไว้ในประวัติศาสตร์แล้ว กลายเป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียงที่ได้รับการยกย่องยาวนานแม้หลังจากที่เสียชีวิตไป แต่เขา…เชี่ยวชาญหมดทั้ง 23 เทคนิคเลยหรือ?”

สำนักดาวเจ็ดดวงมีเทคนิคการต่อสู้จำนวนหนึ่งที่อยู่ในระดับเดียวกันกับหมู่เมฆสายฟ้าฟาด แต่ก็ล้วนเป็นเทคนิคที่ฝึกฝนได้ยากมาก แต่ละเทคนิคต้องใช้ระยะเวลาและความพยายามอันยาวนานในการตีความและฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ

เพื่อฝึกฝนหมู่เมฆสายฟ้าฟาดให้เชี่ยวชาญ เจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวต้องลำบากลำบนไม่น้อย เขาตั้งใจไปเยือนยอดเขาที่สูงที่สุดของทวีปที่ถูกลืมเพื่อทดสอบร่างกายกับสายฟ้าและพายุ แถมยังเดินทางไปยังดินแดนทางทิศตะวันตกเพื่อเสาะหาวัตถุที่มีรูปร่างเหมือนก้อนเมฆด้วย เขาทำแม้กระทั่งมุ่งหน้าไปยังเมืองแห่งมิติที่ถูกลืมเพื่อค้นหาคำตอบที่ยังสงสัยในเทคนิคดังกล่าว ซึ่งก็เกือบเอาชีวิตไปทิ้งที่นั่น!

แต่ชายหนุ่มแค่ส่ายหัวเพียง 6 ชั่วโมง จากนั้นก็เชี่ยวชาญทุกอย่าง แถมเทคนิคการต่อสู้ทั้งหมดที่เขาสำแดงออกมายังแข็งแกร่งกว่าที่เจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวจำได้อยู่มาก

พูดอีกอย่างก็คือ…ดูเหมือนชายหนุ่มจะค้นพบข้อบกพร่องของพวกเขาและแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านั้นทั้งหมดแล้ว!

เป็นไปได้หรือที่มนุษย์คนหนึ่งจะมีความสามารถขนาดนี้?

“ถ้าเขาได้เป็นเจ้าสำนักของเรา สำนักดาวเจ็ดดวงจะต้องได้เป็นสำนักเทพดาวเจ็ดดวงในอนาคตอันใกล้นี้แน่…” ผู้อาวุโสหงอู่อ้าปากค้างจนแทบปิดปากไม่ลง

“เป็นเจ้าสำนักของเรา?” เจ้าสำนักคุ่ยมองผู้อาวุโสหงอู่อย่างสงสัย “คุณไม่คัดค้านแล้วหรือ?”

เพิ่งเมื่อครู่นี้เองที่ผู้อาวุโสหงอู่ประกาศว่าจะเล่นงานชายหนุ่มจนกว่าอีกฝ่ายจะยอมเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา

“คือ…” ผู้อาวุโสหงอู่หน้าแดงก่ำ “ถึงผมจะมีวรยุทธสูงกว่าเขาหนึ่งขั้นเต็มๆ แต่ก็ไม่มีทางสู้เขาได้หรอก”

เขาอาจไม่เฉียบแหลมเหมือนเจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยว แต่ก็รู้ที่ทางของตัวเองดี ด้วยสัญชาตญาณการต่อสู้อันเหนือชั้นและเทคนิคการต่อสู้ชั้นยอดของหลิวหยาง ถึงเขาจะมีวรยุทธสูงกว่า แต่ก็ไม่มีทางเทียบชั้นกับอีกฝ่ายได้

หากสู้กัน ก็มีแต่จะลงเอยด้วยการที่เขาพ่ายแพ้ยับเยิน

ในเมื่อเขาไม่มีโอกาส หากยังคิดท้าทายอีกฝ่าย ก็มีแต่จะทำให้ตัวเองเป็นที่หัวเราะเยาะของใครๆ

“เขาเอาชนะคุณได้ทั้งที่มีวรยุทธต่ำกว่า เพราะฉะนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาฝ่าด่านวรยุทธไปเป็นนักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์ได้สำเร็จ พวกเราก็จะมีโอกาสเอาชนะในการต่อสู้ระหว่าง 6 สำนักใหญ่ และได้ครอบครองตำแหน่งที่ดีที่สุดใช่ไหม?” ผู้อาวุโสที่ 1 ตาโต

“เอ่อ…” เจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวครุ่นคิดหนัก

“เจ้าสำนักจางเซวียนแห่งสำนักดาบเมฆเหินทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้สำเร็จแล้ว จึงมีโอกาสสูงที่เขาจะเทียบชั้นกับนักรบอมตะขั้นสูงได้แม้ตัวเองจะเป็นแค่นักรบอมตะตัวจริง ส่วนหัวหน้าเจิ้งหยางที่เป็นหัวหน้าหอนานาอสูรคนใหม่…การที่เขาทำให้มังกรอสรพิษกับพรรคพวกยอมจำนนได้ก็บอกชัดแล้วว่าเขาไม่ได้อ่อนแอ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ถ้าหลิวหยางไม่ใช่คนเหล่านั้นปลอมตัวมา ก็มีโอกาสจะสู้รบกับพวกเขาได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ!”

ผู้อาวุโสที่ 1 ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะโพล่งออกมา “อันที่จริง เรื่องนี้ก็พิสูจน์ไม่ยากนี่? เจ้าสำนักคุ่ย คุณก็แค่เข้าสู่หอนิรันดร์และสอบถามผู้อาวุโสหานเจี้ยนชิวกับผู้อาวุโสฉิงหย่วนให้รู้เรื่อง!”

“อ้อ ผมลืมเรื่องนั้นไปเลย” เจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนพยักหน้ารับ

ก็จริง เขาสามารถตรวจสอบเรื่องนี้กับทั้งคู่ได้ว่าหลิวหยางเป็นหนึ่งในสองเจ้าสำนักปลอมตัวมาหรือไม่

เพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์ของพวกเขา โดยเฉพาะในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ หานเจี้ยนชิวกับฉิงหย่วนคงไม่ปกปิดความจริงแน่

เมื่อคิดได้ เจ้าสำนักคุ่ยนำตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลพิเศษที่มีไว้เฉพาะสำหรับชนชั้นนำของทวีปที่ถูกลืมออกมา จากนั้นก็เพ่งสมาธิเข้าไป

เมื่อมาอยู่ในหอนิรันดร์ เขาสั่นกระดิ่งที่บริเวณใจกลางห้อง ครู่ต่อมา หานเจี้ยนชิวกับฉิงหย่วนก็ปรากฏตัวตรงหน้า

“เจ้าสำนักคุ่ย คุณต้องการอะไรจากพวกเราหรือ?” ฉิงหย่วนตั้งคำถามพร้อมกับโบกมือ

“ไม่ทราบว่าคุณสองคนรู้จักชายผู้นี้หรือไม่?”

เจ้าสำนักคุ่ยกระดิกนิ้ว แล้วภาพหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ มันคือภาพของจางเซวียนในคราบปลอมตัว

“ผมไม่รู้จักเขา”

หานเจี้ยนชิวกับฉิงหย่วนส่ายหน้า

เจ้าสำนักคุ่ยเฉี่ยวถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะหันไปมองหานเจี้ยนชิว “พี่หาน ไม่ทราบว่าตอนนี้เจ้าสำนักจางเซวียนอยู่ที่สำนักดาบเมฆเหินหรือเปล่า?”

“ตอนนี้ท่านเจ้าสำนักของเรากำลังฝึกฝนเคล็ดวิชาเทพดาบเมฆเหินอยู่ และน่าจะฝ่าด่านวรยุทธได้สำเร็จเร็วๆนี้ ก็เป็นธรรมดาที่เขาจะอยู่ในสำนักของเรา จะอยู่ที่อื่นได้อย่างไร?” หานเจี้ยนชิวขมวดคิ้ว “เจ้าสำนักคุ่ย ผมขอทราบได้ไหมว่าทำไมคุณตั้งคำถามแบบนี้?”

แน่นอนว่าเขาไม่อาจย่อหย่อนเรื่องความปลอดภัยของจางเซวียนด้วยการเปิดเผยความจริงที่ว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในสำนัก เพราะจะปล่อยให้ความผิดพลาดเกิดขึ้นไม่ได้ก่อนที่สะพานเบื้องบนจะลงมา

“ก็เป็นคำถามทั่วๆไปเท่านั้นแหละ” เจ้าสำนักคุ่ยตอบหลังจากได้รับคำยืนยันหนักแน่นจากหานเจี้ยนชิว จากนั้นเขาก็หันไปถามฉิงหย่วน “แล้ว…พี่ฉิง ไม่ทราบว่าตอนนี้เจ้าสำนักเจิ้งหยางอยู่ที่หอนานาอสูรหรือเปล่า?”

“แน่นอน!” ฉิงหย่วนเลิกคิ้ว “ท่านหัวหน้าเพิ่งทำให้มังกรอสรพิษกับอสูรอมตะตัวอื่นๆยอมจำนนได้สำเร็จ จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะต้องฝึกฝนไปพร้อมๆกับพวกมันเพื่อเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า คุณสงสัยว่าผมโกหกหรือ, เจ้าสำนักคุ่ย?”

“ไม่ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” เจ้าสำนักคุ่ยส่ายหน้า “ผมแค่ถามเรื่องที่ผมสงสัย แต่คำตอบของพวกคุณก็คลี่คลายข้อสงสัยของผมแล้ว ซึ่งผมขอขอบคุณสำหรับเรื่องนั้น และขออภัยด้วยที่เรียกพวกคุณทั้งสองมาด้วยเรื่องแค่นี้ แต่สิ่งที่ผมอยากรู้ก็มีเพียงเท่านั้นแหละ ผมยังมีธุระอื่นที่ต้องจัดการนะ ขอตัวก่อน”

เมื่อรู้แล้วว่าเจ้าสำนักทั้งสองยังคงฝึกฝนวรยุทธอยู่ในสำนักของตัวเอง เจ้าสำนักคุ่ยออกจากหอนิรันดร์มาด้วยอาการโล่งใจ

เมื่อออกมาถึงห้องโถงกลาง เขาบอกสองผู้อาวุโสที่ตั้งตารอ “เจ้าสำนักจางเซวียนกับหัวหน้าเจิ้งหยางอยู่ที่สำนักของพวกเขา ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่หลิวหยางจะเป็นนักรบพเนจรจริงๆ”

ผู้อาวุโสที่ 1 พยักหน้า “ยากที่จะเชื่อว่าผู้ที่ทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้สำเร็จหรือเก่งกาจด้านการฝึกอสูรจะมีวิธีการที่พิเศษเหนือชั้นในการศึกษาเทคนิคการต่อสู้ของเราเพียงแค่ได้เห็นแวบเดียว”

โลกนี้มีอัจฉริยะมากมาย แต่ไม่มีใครเก่งกาจไปเสียทุกเรื่อง

ยากที่จะทำใจให้เชื่อได้ว่ามีผู้ที่เชี่ยวชาญศาสตร์หลายด้านพร้อมกันในคนๆเดียว

ถ้ามีคนแบบนั้นอยู่จริง ชื่อเสียงของเขาคงลือกระฉ่อนไปทั่วทั้งทวีปที่ถูกลืมแล้ว!

“ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ก็ทุ่มเททรัพยากรในการดูแลหลิวหยางได้เลย ไม่ต้องกั๊ก” เจ้าสำนักคุ่ยประกาศพร้อมกับหัวเราะลั่น

ก่อนหน้านี้ ตอนที่เขาได้ข่าวว่าใครคนหนึ่งในสำนักดาบเมฆเหินทำความเข้าใจเจตจำนงของเพลงดาบของเทพเจ้าได้สำเร็จ เขารู้สึกอิจฉามาก

แต่ดูเหมือนสวรรค์จะปรานีสำนักดาวเจ็ดดวงของพวกเขาเช่นกัน ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ อัจฉริยะผู้หนึ่งที่มีความเก่งกาจอย่างเหนือชั้นก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า

จากการที่ชายหนุ่มสามารถฝึกฝนเทคนิคการต่อสู้ชั้นยอดถึง 23 เทคนิคของสำนักดาวเจ็ดดวงจนเชี่ยวชาญได้ ก็หมายความว่าทันทีที่เขาฝ่าด่านวรยุทธได้สำเร็จ จะไม่มีใครอื่นในโลกนี้ที่ยับยั้งเขาได้อีก!

ต่อให้เจ้าสำนักจางเซวียนผู้โด่งดังที่ทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้สำเร็จก็ไม่น่าจะเทียบชั้นกับเขาได้

…..

จางเซวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนเดินออกจากหอสมุด

แม้การกวาดสายตาผ่านหนังสือในห้องสมุดของสำนักดาวเจ็ดดวงจะไม่ได้ทำให้ระดับวรยุทธของเขาสูงขึ้น แต่ก็ได้รับความเข้าใจในเทคนิคการต่อสู้ที่ล้ำลึกกว่าเดิมมาก ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเขาจึงพัฒนาขึ้นอีก

โดยเฉพาะ 23 เทคนิคการต่อสู้ที่เขาเพิ่งได้เรียนรู้ หากเปรียบเทียบกับเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้า ก็ถือว่ายังอ่อนด้อย แต่ถ้าเขาฝึกฝนทั้งหมดนั้นจนเชี่ยวชาญ ก็น่าจะกลายเป็นอาวุธอันไร้เทียมทานในช่วงเวลาคับขัน

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

LOHP, Thiên Đạo Đồ Thư Quán, Tian Dao Tu Shu Guan, 天道图书馆
Score 7.4
Status: Completed Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชรจางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset