อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 2099 การทดลองครั้งแรก

อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆

ตอนที่ 2099 การทดลองครั้งแรก

แม้แต่ฟู่เฉิงสื่อซึ่งเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของหอนิรันดร์ก็ยังลงเอยด้วยการสมรู้ร่วมคิดกับหอเทพเจ้า เรื่องนี้น่าเป็นห่วงมาก

พฤติกรรมของปรมาจารย์ขงที่แสดงออกต่อทวีปแห่งปรมาจารย์บ่งบอกว่าเขาเป็นผู้มีจิตใจเมตตากรุณาและเห็นแก่ประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ ไม่มีทางที่คนอย่างปรมาจารย์ขงจะร่วมมือกับหอเทพเจ้าและสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในทวีปที่ถูกลืม

แต่ไม่อาจพูดแบบเดียวกันนี้กับเหล่าบริวารในสังกัดของปรมาจารย์ขง เพราะถึงอย่างไร หอนิรันดร์ก็ก่อตั้งขึ้นมาหลายพันปีแล้ว

แน่นอนว่าเจตจำนงเบื้องต้นในการก่อตั้งหอนิรันดร์เป็นเจตจำนงที่ดี แต่เมื่อองค์กรขยายตัวและพัฒนาขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านไป ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่มันจะต้องเปลี่ยนแปลง

แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดา เราต้องทดสอบให้รู้ว่าเราคิดถูกหรือไม่ จางเซวียนคิดขณะเปิดใช้งานตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลและเพ่งสมาธิเข้าไป

หอนิรันดร์ของนักรบระดับอมตะขั้นสูงดูจะโหรงเหรงเมื่อเปรียบเทียบกับหอนิรันดร์ที่อื่นๆ แต่ด้วยจำนวนนักรบอมตะขั้นสูงที่มีอยู่ไม่มากนักในโลกใบนี้ ก็พอจะคาดเดาสิ่งนี้ได้

จางเซวียนเดินตรงไปหาเจ้าหน้าที่ต้อนรับ “ไม่ทราบว่าผมจะขอซื้อหยดน้ำสีเงินได้หรือไม่?”

“หยดน้ำสีเงิน?” เจ้าหน้าที่ย้อนถามพร้อมกับขมวดคิ้ว ดูจะงุนงงกับชื่อที่ไม่คุ้นหู “ขอเวลาสักครู่ ผมจะตรวจสอบให้”

เขารีบพลิกดูหนังสือเล่มหนึ่ง ครู่ต่อมาก็ยิ้มออก “คุณลูกค้า แม้หยดน้ำสีเงินจะหายากมาก แต่หอนิรันดร์ของเรามีเก็บไว้จำนวนหนึ่ง แต่ราคาออกจะสูงอยู่สักหน่อยนะ”

“เท่าไหร่?” จางเซวียนถาม

“ราวๆ 5 ล้านเหรียญนิรันดร์” เจ้าหน้าที่ตอบ

นี่มันปล้นกันกลางวันแสกๆ!

“ผมไม่มีเหรียญนิรันดร์อยู่กับตัวมากขนาดนั้นหรอก แต่จะขอแลกเปลี่ยนสิ่งนี้กับหยดน้ำสีเงินได้ไหม?” จางเซวียนนำขวดหยก 3 ใบออกมาวางบนโต๊ะ

เจ้าหน้าที่เปิดจุกขวดหยกใบหนึ่งออกด้วยความสงสัย พลังจิตวิญญาณเข้มข้นพวยพุ่งออกจากขวดนั้น เขามีสีหน้าไม่อยากเชื่อขณะพึมพำ “นี่มัน…หยดเลือดของนักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์?”

“พอไหม?” จางเซวียนถาม

“พะ-พอ พอแน่นอน!” เจ้าหน้าที่ละล่ำละลัก “ผมจะประเมินราคาให้เดี๋ยวนี้”

ในทวีปที่ถูกลืมมีนักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์อยู่ไม่มาก ทำให้หยดเลือดของพวกเขากลายเป็นของล้ำค่าที่ประเมินค่ามิได้ ทุกหยดมีพลังงานมหาศาล

แถมยังเป็นเรื่องยากที่นักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์สักคนจะถ่ายเลือดให้เต็มขวดทั้ง 3 ใบได้โดยไม่ทำให้ร่างกายกระทบกระเทือน ต่อให้ใช้เวลาหลายสิบปีก็ตาม!

ครู่ต่อมา เจ้าหน้าที่ก็กลับมาและยื่นขวดหยก 5 ใบให้จางเซวียน

“คุณลูกค้า นี่คือหยดน้ำสีเงิน 5 ขวด”

“อือ” จางเซวียนพยักหน้าอย่างโล่งอก

เมื่อมีตัวเร่งปฏิกิริยาทั้ง 3 ตัวแล้ว เขาคงไม่มีปัญหาในการฝ่าด่านวรยุทธไปเป็นนักรบอมตะขั้นกึ่งสรวงสวรรค์อีก สิ่งเดียวที่ต้องทำในเวลานี้ก็คือรอดูว่าเขาจะถูกลอบสังหารโดยทีมนักรบจากหอเทพเจ้าอีกหรือไม่

จางเซวียนออกจากหอนิรันดร์ เขารีบติดตั้งค่ายกลป้องกันตัวหลายชั้นเพื่อเตือนให้เขารู้ล่วงหน้า หากมีผู้บุกรุกเข้ามา หลังจากนั้นจึงนำตัวเร่งปฏิกิริยาทั้ง 3 กับหยดเลือดของนักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ออกมาขวดหนึ่ง

จางเซวียนกระดิกนิ้ว แล้วหยดเลือดของนักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ก็แปรสภาพเป็นกระแสพลังจิตวิญญาณอันทรงพลังที่โอบล้อมร่างของเขาไว้ราวกับพายุทอร์นาโด

แม้หยดเลือดของนักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์จะเป็นของล้ำค่าสำหรับนักรบทุกคน แต่ตอนนี้จางเซวียนก็มีใช้ไม่ขาดมือ จะว่าไป เขามีหยดเลือดกว่า 20 ขวดอยู่ในแหวนเก็บสมบัติ เท่านั้นก็เกินพอให้ใช้อย่างสบาย

จางเซวียนได้หยดเลือดเหล่านี้มาด้วยการเค้นร่างของฟู่เฉิงสื่อกับชายวัยกลางคนจากหอเทพเจ้าจนเหือดแห้ง แน่นอนว่า เขาไม่ลืมที่จะกำจัดบรรยากาศของการเสื่อมถอยโดยใช้ซุปไก่

จางเซวียนตั้งต้นขับเคลื่อนเคล็ดวิชาเทียบฟ้า และวรยุทธของเขาก็พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

อมตะขั้นสูงระดับล่าง, อมตะขั้นสูงปฐพี…

เพียงหนึ่งชั่วโมง เขาก็ยกระดับวรยุทธไปเป็นนักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์ได้สำเร็จ!

เพราะยังขาดแคลนเทคนิควรยุทธขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ นี่จึงเป็นวรยุทธขั้นสูงสุดที่จางเซวียนเข้าถึงได้ในเวลานี้

เราคงยังประมวลเคล็ดวิชาเทียบฟ้าของวรยุทธขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ไม่ได้ วิธีเดียวที่จะยกระดับวรยุทธได้ก็คือค้นหาเส้นทางของตัวเองและรังสรรค์เทคนิควรยุทธขึ้นใหม่ จางเซวียนครุ่นคิดด้วยสีหน้าที่บ่งบอกความยุ่งยากใจ

เขารู้ปัญหาของตัวเองดี

เคล็ดวิชาเทียบฟ้าปราศจากข้อบกพร่องก็จริง แต่สิ่งที่ย้อนแย้งกันก็คือลักษณะเฉพาะตัวของมัน นั่นแหละที่เป็นข้อบกพร่องใหญ่หลวงที่สุด

สิ่งนี้เกิดขึ้นกับเขาเมื่อคราวก่อนที่วรยุทธของเขาถูกธาตุไฟเข้าแทรก

โลกนี้ไม่มีความสมบูรณ์แบบที่แท้จริง แม้แต่สวรรค์ยังมีข้อบกพร่อง แล้วจะมีอะไรสมบูรณ์แบบได้? ทุกอย่างเป็นแค่มุมมอง

แต่ก็แน่นอนว่าการฝึกฝนเคล็ดวิชาเทียบฟ้าทำให้เขามีพละกำลังเหนือชั้นกว่าใครๆ มันอาจไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่หวังไว้ แต่ก็ดีที่สุดเท่าที่เขามี

แต่ชุดความคิดแบบนี้เป็นผลเสียอย่างมากกับเขา มันทำให้เขาผูกติดอยู่กับเคล็ดวิชาเทียบฟ้า ความคิดที่ว่าจะต้องฝึกฝนเทคนิควรยุทธที่มีข้อบกพร่องทำให้เขาขยะแขยงเสียจนทำอะไรไม่ได้ ต่อให้เขาคิดค้นบางอย่างขึ้นมาเป็นของตัวเอง ความสงสัยคาใจที่ว่าสิ่งนั้นอาจมีข้อบกพร่องก็จะค้างคาใจต่อไป จนในที่สุดก็กลายเป็นปีศาจใต้สำนึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตัวเขา

ดังนั้น วรยุทธขั้นกึ่งสรวงสวรรค์จึงเป็นปราการใหญ่หลวงที่จางเซวียนต้องก้าวข้ามไปให้ได้ ดูเหมือนเขาต้องคิดค้นเทคนิควรยุทธขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ด้วยภูมิปัญญาของตัวเอง

มันอาจจะยาก แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อคนอื่นทำได้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะทำไม่สำเร็จ

เมื่อเกิดความคิดนั้น จางเซวียนเข้าสู่หอวรยุทธที่อยู่ภายในหอสมุดเทียบฟ้า มันคือมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วงที่หลัวลั่วชิงผนึกเอาไว้กับหอสมุดเทียบฟ้าก่อนเธอจะจากไป

ภายในหอวรยุทธแห่งนี้ กระแสกาลเวลาไหลเร็วกว่าในทวีปแห่งปรมาจารย์ถึง 10 เท่า

จางเซวียนเคยคิดว่ากระแสกาลเวลาภายในหอวรยุทธอาจเปลี่ยนแปลงเมื่อเข้ามาอยู่ในทวีปที่ถูกลืม แต่แล้วก็ต้องประหลาดใจที่พบว่ามันยังคงเหมือนเดิม พูดอีกอย่างก็คือ กระแสกาลเวลาในหอวรยุทธแห่งนี้เร็วกว่าในทวีปแห่งปรมาจารย์ถึง 10 เท่า ซึ่งก็หมายความว่ามันเร็วกว่าทวีปที่ถูกลืมถึงร้อยเท่าเลยทีเดียว!

ต่อให้เขาใช้เวลาอยู่ในหอวรยุทธเป็นร้อยวัน เวลาในทวีปที่ถูกลืมก็จะผ่านไปแค่วันเดียว

จางเซวียนเริ่มด้วยการพิจารณาเคล็ดวิชาเทพดาบเมฆเหินซึ่งเป็นเทคนิควรยุทธขั้นกึ่งสรวงสวรรค์เทคนิคเดียวที่เขารู้จัก ก่อนจะใช้มันเป็นข้อมูลอ้างอิงเพื่อพัฒนาเคล็ดวิชาเทียบฟ้าของเขาต่อไป

จางเซวียนหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหวอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะตั้งต้นขับเคลื่อนพลังปราณ แต่ไม่ช้าก็ไอออกมาเป็นเลือด

การทดลองครั้งแรก, ล้มเหลว!

จางเซวียนไม่ยอมแพ้ เขาพยายามอีกครั้ง…แต่ก็ล้มเหลว

เขาทำต่อไปอีก 100 ครั้ง แต่ก็ไม่คืบหน้าไปไหน

“การฝ่าด่านวรยุทธไปสู่วรยุทธขั้นกึ่งสรวงสวรรค์นั้นไม่ง่ายเลย…” จางเซวียนส่ายหน้าอย่างจนปัญญา

โชคดีที่เขามีซุปไก่ ทำให้ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บได้เร็ว ไม่อย่างนั้น ไม่ช้าไม่นานเขาก็คงต้องบาดเจ็บสาหัสเพราะการทดลองอย่างบ้าระห่ำ

จางเซวียนเหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจจากการใช้ความคิดและการทดลอง ในที่สุดเขาก็ถอนจิตใต้สำนึกออกจากมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วง

รวมแล้ว เวลาในโลกแห่งความเป็นจริงผ่านไปเพียงไม่ถึงหนึ่งก้านธูป

จางเซวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาถอนเจตจำนงเสี้ยวสุดท้ายออกมาแล้วเพ่งสมาธิเข้าสู่หอสมุดเทียบฟ้าเพื่อค้นคว้าหาวิธีการพัฒนาเทคนิควรยุทธขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ต่อไป

จากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องลับ

เมื่อสำเร็จวรยุทธอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์แล้ว พละกำลังของเขาก็เทียบได้กับนักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์โดยทั่วไป จางเซวียนรู้สึกมั่นใจ เขาถอนค่ายกลที่อยู่โดยรอบออกทั้งหมดก่อนจะเดินหน้าต่อไป

พูดกันตามตรง จางเซวียนออกจะประหลาดใจที่ไม่เห็นหอเทพเจ้าเคลื่อนไหวอะไรขณะที่เขากำลังฝึกฝนวรยุทธ หรือเขาจะเดาผิด?

เป็นไปได้ไหมว่าพวกนั้นลังเลที่จะเปิดการโจมตีเพราะตอนนี้เขาอยู่ในตำหนักคว้าดาว? สองครั้งล่าสุดที่เขาถูกลอบทำร้ายนั้น เขาเพิ่งออกจากหอนิรันดร์และก้าวเข้าสู่พื้นที่สาธารณะ

ข้อสันนิษฐานนี้ดูจะไม่เข้าท่านัก เพราะหอเทพเจ้าก็เล่นงานฉู่อิงกับผู้อาวุโสจ้าวเยว่ตอนที่พวกเขาอยู่ในตำหนักคว้าดาวเหมือนกัน แต่ก็น่าทดสอบดูว่าจะเป็นไปตามนั้นหรือเปล่า

จางเซวียนจึงลักลอบออกจากตำหนักคว้าดาวโดยไม่บอกใคร แล้วมุ่งหน้าไปยังดินแดนห่างไกลที่อยู่เหนือทะเลพลัดดาว

เขากระดิกนิ้ว จากนั้นก็ปล่อยหยดน้ำสีเงิน 2-3 หยดลงในมหาสมุทร

แม้ตอนนี้เขาจะมีวิธีการปกป้องตัวเองอยู่มากมาย แต่ก็ไม่กล้าปล่อยให้การ์ดตกเมื่อคู่ต่อสู้ของเขาคือหอเทพเจ้า

จางเซวียนทรุดตัวลงนั่งบนผิวหน้าของมหาสมุทรอีกกว่า 2 ชั่วโมง แต่ทุกอย่างเงียบกริบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

หรือว่าจะเป็นไปตามนั้น? จางเซวียนครุ่นคิดด้วยสีหน้ากังวลใจอย่างหนัก

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นของเขาก็คือมีหนอนบ่อนไส้กลุ่มหนึ่งในหอนิรันดร์ที่บอกตำแหน่งที่อยู่ของเขาให้กับหอเทพเจ้าทันทีที่เขาเข้าสู่หอนิรันดร์ แต่เท่าที่เห็นตอนนี้ ก็ดูจะไม่ใช่

สิ่งนี้ทำให้เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องพิจารณาข้อสันนิษฐานอื่น ถ้าข้อสันนิษฐานข้อนี้เป็นความจริง นั่นก็หมายความว่าเขากำลังเจอสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

คงต้องลอง…

จางเซวียนรีบปลอมแปลงรูปร่างหน้าตา รังสีของจิตวิญญาณ และสายเลือดของเขาอีกครั้งโดยใช้เครื่องรางแห่งการปลอมตัว ก่อนจะเข้าสู่หอนิรันดร์

เขาเดินไปหาเจ้าหน้าที่ต้อนรับ แสดงตราสัญลักษณ์ที่ได้รับจากปรมาจารย์ขงและพูดว่า “ผมอยากได้ยาเม็ดอมตะมหัศจรรย์ ช่วยนำมาให้ผมมากที่สุดเท่าที่จะหาได้”

“ตะ-ตราสัญลักษณ์อันนี้! แขกผู้มีเกียรติ กรุณารอสักครู่…ฉันจะเตรียมยาเม็ดอมตะมหัศจรรย์ของคุณให้เดี๋ยวนี้แหละ!” เจ้าหน้าที่ละล่ำละลักก่อนจะรีบผละไป

1 ชั่วโมงต่อมา เธอก็กลับมาพร้อมกับขวดหยก 2 ใบ “ต้องขออภัยด้วย แต่ตอนนี้เรารวบรวมยาเม็ดอมตะมหัศจรรย์ได้เพียง 20 เม็ดเท่านั้น”

“ไม่เป็นไร” จางเซวียนพูดพร้อมกับโบกมือ

ลำพังแค่ยาเม็ดอมตะมหัศจรรย์ 20 เม็ดก็เพียงพอจะทำให้ผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในทวีปที่ถูกลืมต้องอ้าปากค้างแล้ว ยาเม็ดอมตะขั้นสุดยอดมีราคาเม็ดละ 20,000 เหรียญนิรันดร์ ซึ่งยาเม็ดอมตะมหัศจรรย์มีมูลค่าสูงกว่านั้น 100 เท่า

พูดอีกอย่างก็คือ สิ่งที่เขาเพิ่งได้รับมามีมูลค่ากว่า 40 ล้านเหรียญนิรันดร์…

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

LOHP, Thiên Đạo Đồ Thư Quán, Tian Dao Tu Shu Guan, 天道图书馆
Score 7.4
Status: Completed Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชรจางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset