อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 2247 รั้งอันดับ

“ไม่ต้องหรอก มัวรวบรวมข้อมูลก็ยุ่งยากเกินไป ไปหาอัศวินอิสระและให้พวกนั้นส่งจดหมายท้าดวลไปยังผู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงก็พอ ผมจะสู้กับคนที่อยู่ใกล้เราที่สุด!” จางเซวียนตอบ

เขาไม่แยแสสักนิดว่าคู่ต่อสู้ของเขาเป็นใคร

ถึงตอนนี้เขาจะยังไม่รู้ระดับประสิทธิภาพการต่อสู้ที่แท้จริงของตัวเอง แต่ก็มั่นใจว่าจะเอาชนะนักรบระดับเทพเจ้าสวรรค์สร้างได้สบาย

หลังจากที่กายเนื้อของเขาได้รับการบ่มเพาะจากทะเลสาบจันทร์กระจ่าง มันก็แข็งแกร่งขึ้นมากจนมีประสิทธิภาพดีพอจะต้านทานการโจมตีของนักรบระดับเทพเจ้าสวรรค์สร้างขั้นสูงคนไหนก็ได้ อีกทั้งเวทนาสวรรค์ของเขาก็เหนือชั้นกว่าเทคนิควรยุทธใดๆในสรวงสวรรค์ เขาไม่มีทางพ่ายแพ้นักรบระดับเทพเจ้าสวรรค์สร้างขั้นสูงคนไหน

แต่นั่นแหละ ต้องยอมรับว่าระดับวรยุทธของจิตวิญญาณของเขายังอ่อนด้อยไปสักหน่อย แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

“คุณจะท้าทายทุกคนที่อยู่แถวนี้?” ฉีหลิงเอ๋ออ้าปากค้าง

สมกับเป็นผู้ครอบครองสายเลือดจอมราชันย์ ช่างบ้าดีเดือดเหลือเกิน!

แต่คำพูดนั้นก็บอกชัดว่าเขามั่นใจว่าจะเอาชนะคู่ต่อสู้ทุกคนที่ยังไม่ได้สำเร็จวรยุทธระดับราชันย์เทพเจ้า ซึ่งหากเป็นอย่างนั้น ความกังวลของเธอก็เปล่าประโยชน์

…..

ตำหนักบาดาลแน่นขนัดกว่าปกติ บรรยากาศของความตึงเครียดอบอวลไปทั่ว

ฉีเยว่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน

“ผมคือนักรบคนหนึ่งใน 30 อันดับแรกของการจัดอันดับศักยภาพราชันย์เทพเจ้าของน่านฟ้ามังกรเมฆ ได้รับคำเชิญจากสมาคมนายแพทย์ของน่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อนให้มาแลกเปลี่ยนภูมิปัญญาเรื่องวิถีทางของการรักษาโรค”

“แต่ในเมื่อสมาคมนายแพทย์ยังไม่พร้อมจะต้อนรับพวกเรา ตอนนี้ผมจึงว่างอยู่ ก็เลยมาที่นี่ด้วยความอยากรู้ว่าผู้ที่อยู่ใน 30 อันดับแรกของน่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อนจะแข็งแกร่งทรงพลังแค่ไหน ผมอยากเปรียบเทียบนักรบของพวกคุณกับนักรบของน่านฟ้ามังกรเมฆ เพราะฉะนั้น ไม่ทราบว่ามีใครเต็มใจจะต่อสู้กับผมหรือเปล่า?”

ชายเสื้อคลุมสีขาวเอาสองมือไพล่หลังขณะกวาดตามองฝูงชนที่อยู่รอบตัว มีเขามังกรคู่หนึ่งงอกออกจากหน้าผากของเขา เปล่งประกายสีทองระยิบระยับ

แม้เขานั้นจะไม่ยาวเท่าไหร่ แต่ก็ดูโดดเด่นมาก

“บังอาจ!”

“ที่ผ่านมา พวกเราจะส่งจดหมายเชิญเพื่อติดต่อกับนักรบจากน่านฟ้าอื่น นายแพทย์อย่างคุณช่างอวดดีเหลือเกินที่กล้าพูดกับพวกเราแบบนี้!”

“ทุกคน ใจเย็นก่อน การที่เขามีเขามังกรสีทองก็บอกชัดว่าตัวเขาคือผู้ครอบครองสายเลือดของจอมราชันย์มังกรเมฆ เป็นผู้สืบเชื้อสายของจอมราชันย์ เรื่องนี้อาจไม่ง่ายอย่างที่พวกเราคิด”

“เขาก็แค่คนที่ดีแต่อาศัยสายเลือดของตัวเอง พวกเราก็ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญ ผมไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะทรงพลังขนาดนั้น!”

คำพูดอวดดีของชายเสื้อคลุมขาวทำให้ฝูงชนพากันโกรธเกรี้ยว

อีกฝ่ายคือนายแพทย์ที่มาที่นี่เพื่อแลกเปลี่ยนภูมิปัญญากับสมาคมนายแพทย์ของพวกเขา ต่อให้ ติด 1 ใน 30 อันดับของการจัดอันดับศักยภาพราชันย์เทพเจ้าของน่านฟ้ามังกรเมฆ ก็ดูไม่เหมาะสมและแสนจะอวดดีที่ยั่วยุพวกเขาแบบนี้

ความไร้มารยาทบ่งบอกถึงการไม่ให้ความเคารพต่อน่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อน

หากไม่ตอบโต้ให้สาสม น่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อนคงเป็นที่หัวเราะเยาะของน่านฟ้าอื่นๆ

“ไม่ทราบว่าผมควรเรียกคุณอย่างไร? และคุณอยู่อันดับไหนในการจัดอันดับศักยภาพราชันย์เทพเจ้าของน่านฟ้ามังกรเมฆ?”

ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาจากฝูงชน เขาโบกมือให้คนอื่นๆเงียบ จากนั้นก็หรี่ตาเพื่อประเมินชายเสื้อคลุมขาว

เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอัจฉริยะอันดับต้นๆของน่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อน, เสิ่นถูเฟิง!

เขาคือนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักรบรุ่นหลังของตระกูลเสิ่นถู และเคยพยายามฝ่าด่านวรยุทธเป็นราชันย์เทพเจ้ามาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ล้มเหลว แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ผ่านการทดสอบมาได้ ทำให้สามารถยกระดับกายเนื้อและวรยุทธของจิตวิญญาณจนเทียบเท่ากับราชันย์เทพเจ้า

เพียงแต่ยังไม่อาจฝ่าด่านวรยุทธของพลังปราณได้สำเร็จก็เท่านั้น

ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเขาในเวลานี้แทบไม่ได้อ่อนด้อยกว่าราชันย์เทพเจ้าโดยทั่วไป ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคือนักรบหมายเลขหนึ่งในบรรดานักรบที่มีวรยุทธต่ำกว่าระดับราชันย์เทพเจ้า และตำแหน่งของเขาก็ไม่มีใครท้าทายมาหลายปีแล้ว

“ผมชื่ออ้าวหัว ได้รับเกียรติให้อยู่ในอันดับ 9 ของการจัดอันดับของน่านฟ้ามังกรเมฆ!” ชายเสื้อคลุมสีขาวตอบอย่างภาคภูมิใจ

“อันดับ 9?”

ฝูงชนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด

ทุกคนรู้อยู่ว่าจอมราชันย์มังกรเมฆคือมังกรสายเลือดบริสุทธิ์ เป็นเจ้าของอสูรทั้งปวง สายเลือดของเขาทรงพลังมากถึงขนาดที่แทบไม่มีใครเทียบชั้นได้ ใครก็ตามที่ได้ครอบครองสายเลือดของเขา, ทันทีที่แปรสภาพไปเป็นมังกรเลือดบริสุทธิ์ ก็จะถือเป็นนักรบผู้ไร้เทียมทานในระดับขั้นของตัวเอง

ก่อนจะเกิดปรากฏการณ์การเสื่อมถอยของพลังจิตวิญญาณ น่านฟ้าทั้ง 9 เคยจัดการประลองของนักรบระดับเทพเจ้าสวรรค์สร้างขึ้นมาครั้งหนึ่ง ซึ่งนอกเสียจากน่านฟ้าเสรีและน่านฟ้าดาบสวรรค์ เหล่านักรบของน่านฟ้ามังกรเมฆก็มีอัตราการได้ชัยชนะสูงสุด

โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาแปรสภาพไปเป็นมังกรสายเลือดบริสุทธิ์ ด้วยร่างกายที่ขยายใหญ่ออกไปหลายร้อยเมตรและเกล็ดที่เป็นเครื่องคุ้มกันชั้นเยี่ยม นักรบที่เป็นมนุษย์ทั่วไปไม่มีโอกาสเอาชนะพวกเขาได้เลย

ด้วยเหตุนี้ การจัดอันดับของน่านฟ้ามังกรเมฆจึงดูจะมีน้ำหนักกว่าน่านฟ้าอื่นๆ

และนี่คือเหตุผลที่ทำให้อ้าวหัวคนนี้กล้าท้าทายพวกเขาด้วยความโอหัง

การรั้งอันดับ 9 แปลว่าพละกำลังของอ้าวหัวจะต้องน่าสะพรึงไม่น้อย

“ในเมื่อคุณเอ่ยปากท้า ก็คงดูไม่ดีหากพวกเราปฏิเสธ ให้ผมเผชิญหน้ากับคุณก็แล้วกัน ผมอยากเห็นว่าผู้เชี่ยวชาญของน่านฟ้ามังกรเมฆเก่งกาจสมกับความอวดดีหรือเปล่า!”

ขณะที่พูดคำนั้น ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีอายุราว 30 ปีก็เดินตรงเข้าหาอ้าวหัว เขาสวมเสื้อคลุมสีดำที่แนบไปกับรูปร่างราวกับชุดเกราะแนบเนื้อ

“คุณชื่ออะไร? ผมไม่สู้กับนักรบนิรนามหรอกนะ” อ้าวหัวตอบอย่างไม่แยแส

เมื่อถูกหยามหน้า ชายหนุ่มกัดฟันกรอดและคำราม “ผมคือผู้รั้งอันดับ 10 ของน่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อน, เฉินมู่ ผมขอรับคำท้า โดยผลของการประลองครั้งนี้ไม่จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับน่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อน!”

เห็นภาพนั้น เสิ่นถูเฟิงกับคนอื่นๆต่างเงียบกริบ ไม่ยับยั้งชายหนุ่ม

ในเมื่ออ้าวหัวรั้งอันดับ 9 ของน่านฟ้ามังกรเมฆ ก็ไม่เสียหายอะไรที่ผู้รั้งอันดับ 10 ของพวกเขาจะท้าทายอีกฝ่าย เพราะหากเอาชนะได้ ชื่อเสียงของน่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อนก็จะขจรขจาย แต่หากแพ้ พวกเขาก็ไม่ได้ดูแย่

นี่คือโอกาสดีที่จะได้ทดสอบความแข็งแกร่งของอ้าวหัว หากเฉินมู่แพ้ ผู้ที่จะเผชิญหน้ากับเขาเป็นคนต่อไปก็จะได้เตรียมตัวล่วงหน้า

“คุณนี่ไร้สติจริงๆ!” อ้าวหัวคำรามขณะก้าวออกไป

มันเป็นแค่ย่างก้าวธรรมดาก้าวหนึ่ง แต่ดูราวกับเขาทะลุมิติเขาไปปรากฏตัวตรงหน้าเฉินมู่อย่างฉับพลัน จากนั้นก็โถมตัวเข้าใส่

“คุณรนหาที่ตายแล้ว!”

คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะไม่ใส่ใจการป้องกันตัว เลือกที่จะใช้ร่างกายล้วนๆเล่นงานเขา เฉินมู่โมโหจนหน้าแดงก่ำ

ดูเหมือนอ้าวหัวจะคิดว่าการโจมตีของเขาไม่อาจทำอันตรายใดๆได้

เฉินมู่เงื้อมือขึ้นและเล่นงานอ้าวหัวที่กำลังพุ่งเข้ามา ฝ่ามือของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ บรรยากาศโดยรอบบิดเบี้ยวเล็กน้อย

ฝ่ามือเปลวเพลิงแผดเผา!

กว่าจะเชี่ยวชาญพลังฝ่ามือนี้ เฉินมู่ต้องใช้ลาวาใต้ดินที่ไหลพล่านอยู่ในเส้นเลือดปฐพีเพื่อบ่มเพาะฝ่ามือของเขา การสำแดงพละกำลังทำให้ฝ่ามือนั้นร้อนผ่าวเป็นไฟ อะไรก็ตามที่สัมผัสกับฝ่ามือจะต้องมอดไหม้

ก็เพราะอานุภาพโดดเด่นของพลังฝ่ามือนี้ที่ทำให้เขาเอาชนะคู่ต่อสู้มากมายและก้าวขึ้นสู่อันดับ 10 ของการจัดอันดับศักยภาพของราชันย์เทพเจ้า

แต่ถึงจะโมโหกับการสบประมาทของอ้าวหัว เฉินมู่ก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายคือคู่ต่อสู้ผู้ไร้เทียมทาน จึงตัดสินใจใช้กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่เริ่ม

ชายเสื้อคลุมสีขาวไม่แม้แต่จะหลบการโจมตีของเฉินมู่ เขาปล่อยให้ฝ่ามือเปลวเพลิงแผดเผาปะทะร่างของเขาอย่างจัง

เห็นภาพนั้น เฉินมู่ตาโตด้วยความยินดีปรีดา

แต่ขณะที่เขาคิดว่าชัยชนะอยู่แค่เอื้อม ก็เห็นสีหน้าสะใจของอีกฝ่าย

เวรแล้ว หรือนี่คือกับดัก?

สีหน้าของอ้าวหัวทำให้เฉินมู่เย็นเยือกไปถึงกระดูกสันหลัง สัญญาณเตือนในหัวของเขาดังไม่หยุด เมื่อรู้แล้วว่าอ้าวหัวมีแผน เฉินมู่รีบถอนฝ่ามือกลับและล่าถอย

ในฐานะผู้รั้งอันดับ 10 ของน่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อน สัญชาตญาณการต่อสู้ของเขาย่อมไม่ธรรมดา

แต่แม้จะถอยอย่างไว อ้าวหัวก็เร็วกว่า เขาเพิ่มความเร็วของการโจมตี ตั้งใจจะเล่นงานเฉินมู่ให้แพ้ราบคาบ

เฉินมู่เงื้อมือขึ้นปกป้องตัวเอง แต่แรงปะทะจากการโจมตีทำให้มันแหลกสลายไป ไม่เพียงเท่านั้น หน้าอกของเขายังถูกแรงปะทะหนักหน่วงจนแม้จะพูดสักคำก็ยังไม่ได้ เสียงครางหลุดรอดออกจากปากขณะที่เขาถูกสอยกระเด็นไป

เลือดสดๆกระจายไปทั่วขณะที่กระดูกหัวไหล่กับกระดูกซี่โครงของเขาแหลกละเอียด

“เรียบร้อย!” อ้าวหัวเอาสองมือไพล่หลังอย่างไม่แยแส

ราวกับผู้ที่สู้กับเขาก่อนหน้านี้ไม่มีความหมายเลย เสื้อผ้าของเขาไม่มีแม้แต่รอยยับย่น น้ำเสียงก็ยังสุขุมและผ่อนคลายเหมือนเดิม

ฝูงชนพากันอ้าปากค้างขณะที่ประเมินพละกำลังของอ้าวหัวอีกครั้ง

ตั้งแต่ต้นจนจบ อ้าวหัวใช้เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น คือการโถมร่างเข้าใส่ แต่กระบวนท่าเดียวนี้ก็เกินพอจะเล่นงานเฉินมู่ ทำให้อีกฝ่ายสูญเสียพละกำลังไปอย่างสิ้นเชิง

“ผมคือฉีเยว่ ผู้รั้งอันดับ 6!” ฉีเยว่เดินออกมาและแนะนำตัว

การปรากฏตัวของจางเซวียนที่ตระกูลฉีทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจครั้งใหม่ ผลักดันให้ฝึกฝนหนักกว่าที่เคย เพียงสองสามวันเขาก็ขัดเกลาวรยุทธจนก้าวหน้าขึ้นมาก รังสีและพลังปราณเข้มข้นกว่าแต่ก่อน สิ่งนี้ทำให้ฉีเยว่มีพละกำลังสูงกว่านักรบรุ่นเดียวกัน

“ได้สิ ยินดีที่ได้พบคุณ เริ่มกันเลย!” อ้าวหัวตอบอย่างสบายใจขณะพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง

แล้วทั้งคู่ก็สู้กันอุตลุด

…..

จางเซวียนตามฉีหลิงเอ๋อเข้าสู่ห้องขนาดใหญ่ของตำหนักบาดาล แต่ไม่เห็นใครสักคน เขาได้แต่ขมวดคิ้ว “นี่คือสถานที่ที่น่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อนใช้คัดเลือกผู้ที่คู่ควรต่อการจัดอันดับศักยภาพราชันย์เทพเจ้าหรือ แล้วทำไมไม่มีใครเลย?”

“มันแปลกนะ ปกติก็น่าจะมีคนอยู่บ้าง เท่าที่ฉันรู้…” ฉีหลิงเอ๋อก็งง

การดวลระหว่างผู้ที่เข้ารับการจัดอันดับจะเกิดขึ้นในห้องนี้ จึงมีผู้คนจำนวนหนึ่งแวะเวียนมาที่นี่ทุกวันเพื่อดูสถิติ หวังว่าจะได้รับแรงบันดาลใจบางอย่าง

ห้องนี้แทบจะไม่เคยว่างเว้นการมีผู้คน จึงออกจะน่าแปลกที่ตอนนี้ไม่มีใครเลย

“ดูเหมือนจะมีคนกลุ่มหนึ่งอยู่ตรงนั้น” จางเซวียนพูด

เขาออกเดินไปที่นั่นโดยไม่รอคำตอบของฉีหลิงเอ๋อ

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

LOHP, Thiên Đạo Đồ Thư Quán, Tian Dao Tu Shu Guan, 天道图书馆
Score 7.4
Status: Completed Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชรจางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset