อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 – ตอนที่ 14.2

ตอนที่ 14 พาร์ทสอง เตรียมตัวเคลื่อนย้าย

ฮิคารุได้กลิ่นหอมลอยออกมาทันทีที่เข้าไปในห้อง หญิงสาวนอนอยู่บนเตียงหลังใหญ่ 

(ภรรยาของเคาท์งั้นเหรอ ไม่สิเธอยังดูสาวเกินไป)

มีทั้งสร้อยคอและแหวนอยู่เต็มตู้

เมียน้อยเหรอ หรือว่า ภรรยาคนที่สอง

เขาหยิบแหวนขึ้นมาวงหนึ่ง มันมีอัญมณีประดับอยู่ ในนี้มืดมากเลยยังบอกสีของมันไม่ได้

เราก็ขโมยมันได้ง่ายๆล่ะนะ แต่ว่า เราอาจจะโดนแกะรอยจากไอ้นี่ก็ได้ 

ตอนที่เขาตัดสินใจจะหาเงิน เขาเคยคิดว่าจะทำตัวแบบโรบินฮูดโดยการขโมยของจากคนรวกที่ชั่วร้าย แต่มีสามเหตุผลที่ทำให้เขาปัดมันทิ้งไปคือ

และถ้าจะเอามานิดเดียว ก็ไปทำเควสจากกิลดีกว่า  ไม่เสี่ยงด้วย

ก่อนหน้านี้เขาถามจิลระหว่างที่กำลังวุ่นอยู่กับการกินทวินทอร์นาโดอยู่เกี่ยวกับ ไอเทมบอกซ์ หรือช่องเก็บของต่างมิติ แต่คำตอบคือ

“น่าจะเป็นสมบัติของประเทศอื่นล่ะมั้ง”

ทำให้แน่ชัดว่ามันไม่ใช่อะไรที่สามารถหาซื้อตามตลาดได้ ถ้ามีของแบบนั้นขึ้นมาล่ะก็ อาจจะเกิดการปฏิวัติครั้งใหญ่เหมือนกับการปฏิวัติทาง IT ที่โลกก็ได้ โลกนี้อาจจะสร้างวัฒนธรรมที่เขาเคยเห็นจากในนิยายวิทยาศาสตร์ก็ได้ 

เทคโนโลยีเบื้องหลังระบบโซลการ์ดที่สร้างด้วยคลาส เทพแห่งปัญญา นั้นถือเป็นกรณีพิเศษ มันเป็นอะไรที่อยู่นอกเหนือความมเข้าใจ

ดังนั้น การขโมยไม่ใช่ทางเลือกที่ดี  ฮิคารุวางแหวนไว้ที่เดิมและออกไปที่ทางเดิน ฆลังจากตรวจสอบห้องอื่นแล้ว ก็มีสิ่งหนึ่งเตะตาเขา

หนังสือนี่นา…

ที่ชั้นหนังสือเต็มไปด้วยหนังสือ ส่วนมากจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องของการผจญภัย ดูจากขนาดเตียงและการตกแต่งห้องแล้ว ฮิคารุคิดว่านี่น่าจะเป็นห้องของเด็กวัยรุ่น
บางที นี่อาจจะเป็นห้องของเด็กคนนั้นก็ได้

เขาเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วก็เจอชุดนอนที่คุ้นเคย

ว่าแล้วเชียว…..เชี่ย!!!!…..

ข้างล่างนั้นมีชุดชั้นในอยู่ เขารีบปิดตู้เสื้อผ้าด้วยเสียงดัง

อ๊ะ….เวรแล้ว!

เขารีบหลบเข้าไปในความมืด

“มีใครอยู่มั้ย?”

ประตูเปิดอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มที่เข้ามาพร้อมกับตะเกียงที่ทำหน้าที่คล้ายไฟฉาย เขาส่องไฟไปทั่วห้องอีกนิดเดียวก็จะส่องถึงฮิคารุ

“โอ้….แค่หนังสือตกงั้นเหรอ…”  เขาพูดกับตัวเองแล้วเดินออกไป

อัศวินที่ไม่พอใจเรื่องที่เด็กคนนั้นกลายเป็นแพะนี่นา

“ขยันทำงานจริงน้า”

เขาออกจากห้องนั้น

ไม่มีอะไรที่ชั้นสองนี้ เขาเลยเดินกลับลงไปชั้นแรก แล้วก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน

“นี่ไม่ใช่เวลานะ”

“นายน่ะจริงจังเกินไปแล้วนะ อีส”

เสียงมาจากทางประตูหลัง อัศวินคนที่เข้ามาในห้องเด็กสาวก่อนหน้านี้ได้ไปเจอเข้ากับอัศวินและเมดที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอก

“ภารกิจของเรายังไม่จบนะ”

“พวกเราจะกลับหลังเสร็จงานนะ ฉันแค่มาบอกลาเอง”

“ค่อยทำตอนเราเสร็จงานแล้วสิ”

“เออ ก็ได้ นายเอาเครดิตของงานนี้ไปได้เลย”

“แล้วนั่นมันทำไมล่ะ ที่ฉันจะบอกคือ…”

ฮิคารุเดินสำรวจชั้นแรกโดยไม่ได้สนใจการโต้เถียงนั้น ข้ารับใช้บางคนเริ่มตื่นและออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น เขาซ่อนตัวในห้องๆหนึงรอให้พวกข้ารับใช้เดินผ่านไปและเริ่มสำรวจต่อ

ไม่ใช่นี่สิ นี่น่าจะเป็นห้องของข้ารับใช้มากกว่า…หืม?

ฮิคารุเจอบันไดที่นำไปสู่ชั้นใต้ดินอยู่ที่สุดห้องโถง ที่นั่นมีอัศวินเฝ้าอยู่ หนึ่งในนั้นคือคนที่ไปวิหารกับคนที่ชื่อว่า อีส นั่งหลับอยู่

จังหวะเหมาะเลย

กุญแจห้อยอยู่ที่เอว สายหนังมัดกับห่วงที่มีกุญแจอยู่ห้าดอก ฮิคารุเข้าไปใกล้ๆและพยายามแกะมันออก

อะไรเนี่ย….แน่นชะมัด แกะไม่ได้เลย แล้วไอ้สายนี่มันมัดอยู่กับอะไรเนี่ย

ฮิคารุเช็คสายที่มัดอยู่กับกางเกงของอัศวินแล้ว สิ้นหวังสุดๆ

นี่เราต้องล้วงเข้าไปในนั้นจริงดิ ไม่สิ ประตูนั้นอาจจะไม่ได้ล็อคก็ได้

ด้วยโอกาสเล็กน้อย เขาลงบันไดไปแล้วก็เจอเข้ากับประตูเหล็ก และ มันล็อค ก็แหงล่ะ

ว่าแล้วเชียว

เขาปีนกลับขึ้นไป

แล้วจะเอามันออกยังไงดีเนี่ย ดึงเอาดื้อๆเลยดีมั้ยนะ ไม่สิ เดี๋ยวหมอนี่จะตื่นเอา ตัดสายที่มัดอยู่เหรอ อื้มเป็นความคิดที่ดี และถึงเราจะช่วยเด็กคนนั้นไม่ได้ การป้องกันต้องหนาแน่นขึ้นแน่ๆ เราน่าจะพอใช้ดินเหนียวทำแม่แบบกุญแจก็ได้ล่ะมั้ง แต่ว่า จะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะทำกุญแจเสร็จล่ะ ตั้งห้าอันเลยนะ แล้วถ้าเราของให้ใครทำกุญแจให้เขาจะสงสัยเรารึเปล่านะ 

“เฮ้.. ตื่นสิ ทำอะไรอยู่เนี่ย หลับในเวลางานรึไง”

อัศวินที่เพิ่งจะเถียงกับอีสมาปลุกคนที่หลับอยู่ เขารีบซ่อนตัวหลังบันได ในเงามืด

“ฮืมมม? โอ้ นี่ฉันหลับไปเหรอเนี่ย” 

“ฮี่ฮี่ฮี่ แกโดนอีสเฉ่งแน่”

“อย่าบอกหมอนั่นนะ ขอล่ะ!”

“ก็ได้ ก็ได้ แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นไงบ้าง”

“โอ๊ะ วันนี้ยังไม่ได้ไปตรวจสอบเลยน่ะ”

“เฮ้ย นั่นดูไม่ดีเลยนา เราลองไปเช็คดูเหอะ”

“งั้นก็ไปดูเหอะ”

อัศวินคนนั้นลุกขึ้นอย่างเอื่อยๆ เดินตรงมาทางฮิคารุ

อะไรกัน….

แย่ล่ะ

บันไดนั้นกว้างพอสำหรับแค่คนเพียงคนเดียวเท่านั้น และสุดทางก็มีแค่ประตูนั้นประตูเดียว ไม่มีที่ให้ซ่อนด้วย หรือก็คือ เขากำลังจะถูกจับได้

เวรละ….จะทำยังไงดีเนี่ย

“ฮ่า….พอไม่ได้ทำอะไรแล้วร่างกายมันชักฝืดๆแฮะ”

“ไม่มากับฉันล่ะ ออกกำลังยามค่ำคืนกับพวกเมดนี่สนุกไม่ใช่ย่อยเลยนา รู้มั้ย”

“ไม่เอาน่า ข้ามีลูกกับเมียแล้วนา”

พวกเขาค่อยๆเดินลงบันไดมาอย่างช้าๆ

เวรแล้วๆ เราโดนจับได้แน่ ตอนนี้จนมุมเรียบร้อยแล้วด้วย บ้าเอ้ย……..ไม่สิ ไม่ใช่เวลามาเสียใจที่ตัดสินใจผิดแล้ว เราต้องหาวิธีแล้ว 

แล้วก็มีคำหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของฮิคารุ

[ลอบสังหาร] เมื่อโจมตีเป้าหมายโดยไม่ทันตั้งตัว การโจมตีจะมีอาณุภาพมากขึ้น

คนที่ลงมานี่ไม่เห็นเราอยู่แล้ว แปลว่าเราโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัวได้สินะ

เขากำมีดไว้แน่น

เราต้องฆ่าคนแรกก่อน โชคดีที่พวกนี้ใส่ชุดธรรมดาไม่ใช่ชุดเกราะ น่าจะไม่ทันได้ส่งเสียงมากด้วย แล้วเราก็ซ่อนอยู่หลังศพนี่ อัศวินข้างหลังที่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พอมาเช็คก็….

เราก็จะฆ่าอีกคนไปด้วย

หัวใจเต้นแรง พวกเขาเป็นแค่ผู้บริสุทธิ์ แต่เขาต้องฆ่าพวกเขาเพราะเขาทำพลาดเอง

“เฮ้อ พอคิดว่างานที่จะจบแล้วมันก็….”

“อะไรล่ะ ไม่อยากกลับรึไง”

เขาจะทำได้จริงเหรอ

แล้วมันจะไปได้สวยเหรอ

แล้วเขาจะฆ่าผู้บริสุทธิ์ได้จริงเหรอ

“ไมใช่โว้ย โล่งอกต่างหาก”

“ว่างันก็ได้”

เขากำมีดสั้นไว้ด้วยมีดที่ชุ่มเหงื่อ อีกแค่สามก้าวเท่านั้น

“เอาไว้ไปก๊งด้วยกันที่บาร์ตอนเรากลับไปกันเหอะ”

ตอนนี้ล่ะ!!!

“ท่านอัศวิน!”

ตอนที่ฮิคารุกระโดดออกไปนั่นเอง ก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้น

“หมายความว่ายังไงกันคะ ท่านอีสบอกฉันว่าท่านไปที่บาร์แล้วไปคั่วหญิงทั้งคืนน่ะ จริงมั้ยคะ”

“ห๊า? เอ่อ คือ…..พูดเรื่องอะไรเหรอครับ”

 “เขาโกหกใช่มั้ยคะ หรือท่านกันแน่?”

“เดี๋ยวสิ เดี๋ยว ใจเย็นๆนะ วางมีดลงก่อนนะ โอเคมั้ย”

นั่นคือเมดจากก่อนหน้านี้นี่เอง อัศวินคนหนึ่งกลับขึ้นไปข้างบน

“โว้ว โว้ว โดนจับได้สองครั้งเลยเหรอเนี่ย”

แล้วอีกคนก็ตามขึ้นไป

….ไปแล้วสินะ…..

ขานั่งลงด้วยความรู้สึกอ่อนแรง เหงื่อท่วม และหายใจหอบ

“เรายังพักไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่ปลอดภัย”

เขาเดินกลับขึ้นไปข้างบน

“ไม่อยากจะเชื่อเลย!”

“ฉันรักเธอแค่คนเดียวจริงๆนะ!”

อัศวินและเมดโต้คารมณ์กันอยู่ อีกคนนึงที่มีกุญแจก็ตามไปด้วย และทิ้งกุญแจดอกหนึ่งเอาไว้เขาน่าจะเอามันออกเพื่อเตรีมที่จะเปิดประตู

โอกาสนี้ล่ะ

เขารีบออกไปคว้ากุญแจ ไม่มีใครสนใจเขา เขารีบลงไปที่บันไดและไขประตูว่ามันล็อคจากด้านในได้มั้ยจากนั้นก็ใช้ผ้าขวางประตูไว้เพื่อที่มันจะได้เปิดอยู่จากนั้นเอาก็เอากุญแจไปวางไว้ที่เดิม

“เลิกเหวี่ยงมีดไปมาได้แล้วน่า มันอันตรายนะ”

“เฮ้ย นี่มันชักจะแย่ลงแล้วนะ”

“ว้ากกกกกกกก” 

เหมือนว่าสถานการณ์จะยังไม่จบเร็วๆนี้ ฮิคารุรีบกลับลงไปข้างล่างเละเข้าไปในประตู จากนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เกือบไปแล้วสิ 

เราอาจจะต้องฆ่าผู้บริสุทธิ์ในอนาคตก็ได้…..เราจะทำยังไงดี เราต้องเตรีมใจที่จะฆ่าใช่มั้ย

….ไม่ ถ้าเราฆ่าคนด้วยเหตุผลตื้นๆล่ะก็ เราต้องหยุดไม่ได้แน่ๆ ถ้ามีใครมาทำให้เรารำคาญ เราต้องคิดว่า แค่ฆ่าไปซะก็จบ แน่ๆ เราจะต้องระวังมากกว่านี้ ถ้าเราตั้งใจมากกว่านี้ เราจะพิจารณาทุกความเป็นไปได้ เพื่อที่จะลดความเสี่ยงในงานแต่ละงานของเรา

เอาล่ะ ไปกันเลย

เขารีบสับสวิซท์ในจิตใจทันที

ค่อยคิดเรื่องนั้นทีหลัง ตอนนี้เราอยู่ระหว่างการทำงานนะ

มันคือห้องเก็บของ ทั้งกระสอบและลังไม้วางอยู่ทั่ว จากตรงที่เขายืนอยู่ ฮิคารุเห็แท่งเหล็กอยู่ในส่วนที่ลึกเข้าไป มีอักษรโบราณสลักอยู่ ส่องแสงอ่อนๆ มันคือมนต์ผนึก

คุก เป็นที่ที่แน่นหนาซะด้วย ถูกสั่งการมาอย่างดี ภาพวาดห้อยอยู่บนกำแพง ในกรงมีเก้าอี้และเบาะรองนั่ง และเตียงที่คุณภาพดีกว่าของฮิคารุในโรงแรมซะอีก และมีโต๊ะที่เต็มไปด้วยหนังสือ มันคือนิยายที่เกี่ยวกับการผจญภัย

“….มีใครอยู่ตรงนั้นเหรอ”

ในนั้นมีเด็กสาวที่มีผมสีเงินตาสีฟ้าอยู่

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

Status: Ongoing
อ่านนิยาย อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset